ตอนที่28 จนมุม
อู๋ซินลังเลอย่างมากไม่รู้ว่าจะรับสายอีกฝ่ายดีหรือไม่ แต่จ้าวเฉียนก็แนะให้เธอรับไปและรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวขึ้นมาก่อน
อู๋ซินพยักหน้ารับสายโทรศัพท์และเอ่ยถามอย่างไม่แยแสว่า
“นี่แกคิดจะทำอะไร?”
หยางหมิงหัวเราะอย่างสุดแสนพึงพอใจ เขาตอบกลับทันทีว่า
“ไม่มีอะไรหนิ ว่าไง? ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?”
“หน้าด้าน!”
“ฮิฮิ…ฉันก็เป็นคนแบบนี้แต่ไหนแต่ไรแล้ว เอาแบบนี้ดีกว่า ตราบใดที่เธอยอมนอนกับฉันสักคืน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฉันสามารถเคลียร์ทุกอย่างได้ในพริบตา”
“เหอะ! แกโทรมาเพื่อพล่ามแค่นี้เหรอ?”
“ไม่แน่นอน ฉันยังมีอีกอย่างที่สำคัญมากจะบอกเธอ ฉันแอบส่งคนไปวางของบางอย่างในอู๋ซ่อมรถพี่ชายเธอ ทันทีที่ฉันโทรเรียกตำรวจให้ไปค้น โทษที่พี่เธอได้รับไม่ประหารชีวิตก็จำคุกหัวโตแน่นอน เอาล่ะ ฉันจะนอนรอที่โรงแรมเชอราตัน เขาปลอดภัยหายห่วงแน่นอนถ้าเธอมาหาฉัน แต่ถ้าไม่ฉันจะโทรเรียกตำรวจทันที!”
อู๋ซินรู้สึกกังวลอย่างยิ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรีบถามหยางหมิงทันทีว่า เขาใช้คนให้ไปวางอะไรในอู๋ซ่อมรถพี่ชายเธอ แต่คำตอบที่ได้มีเพียงเสียงหัวเราะ และบอกแค่ว่าเธอมีเวลาครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ก็ต้องโทรกลับมาให้คำตอบ ไม่ว่าเขาจะโทรแจ้งตำรวจทันที
หยางหมิงวางสายทันทีหลังพูดจบ อู๋ซินที่รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากก็รีบโทรกลับไปหาเขาอีกครั้ง แต่ก็ถูกตัดสายทิ้งไป
เมื่อจ้าวเฉียนเห็นทีท่าของเธอก็รีบเอ่ยถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ไอ้หยางหมิงมันบอกว่า เขาเอาของบางอย่างไปไว้ในอู๋ซ่อมรถพี่ชายฉัน ตราบใดที่เขาโทรเรียกตำรวจ พี่ฉันต้องรับโทษไม่ประหารก็ติดคุกหัวโต นายคิดว่ามันวางอะไรในอู๋พี่ฉัน?”
“มันต้องเป็นยาเสพติดแน่นอน! รีบโทรหาพี่ชายเดี๋ยวนี้และเรียกทุกคนในอู๋มารวมตัวกันก่อน!”
ทันทีที่พูดจบจ้าวเฉียนก็สตาร์ทรถขับออกไปโดยเร็ว เร่งไปยังอู๋ซ่อมรถของอู๋เลอ ส่วนอู๋ซินก็ทำตามคำสั่งของเขา คว้ามือถือโทรห่าพี่ชายเธอในบัดดล
“พี่! รีบเรียกคนในอู๋ทั้งหมดมารวมตัวกันเร็ว! มีบางอย่างซ่อนอยู่ในอู๋ ฉันกำลังรีบไปหา อย่าเพิ่งทำอะไรจนกว่าฉันจะไปถึง!”
อู๋เลอที่ได้ยินแบบนั้นพลันทราบทันทีว่า เกิดเรื่องร้าย จึงรีบตะโกนเรียกทุกคนให้มารวมตัว
อู๋ซินตอนนี้ร้อนรนใจเป็นอย่างยิ่ง เธอเอ่ยถามจ้าวเฉียนว่า ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี เธอไม่ยอมปล่อยให้พี่ชายของเธอต้องมาเป็นแพะรับบาปแน่นอน
“ไม่ต้องกังลไป หยางหมิงมันเสนอเงื่อนไขอะไรให้เธอ?”
“เขาบอกว่า…ให้ฉันไปที่โรงแรมเชอราตัน…”
จ้าวเฉียนไม่ปริปากเอ่ยตอบ แต่ภายในใจกำลังโกรธจัด หยางหมิงมันจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว คนแบบนี้ต้องรีบกำจัดทิ้งโดยเร็วที่สุด ในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็มาถึงอู๋ซ่อมรถของอู๋เลอ
อู๋เลอที่เห็นรถพวกเขาบึ่งเข้ามา ก็รีบวิ่งไปทักทายและถามทันทีว่าเกิดอะไรกันขึ้น
จ้าวเฉียนรีบลงจากรถและกล่าวกับอู๋เลอทันทีว่า
“ตอนนี้หยางหมิง มันใช้ให้คนลอบวางบางสิ่งภายในอู๋แห่งนี้ มันโทรมาขู่อู๋ซิน ทั้งยังบอกอีกว่า ถ้ามันโทรเรียกตำรวจ นายต้องโดนโทษประหารไม่ก็ติดคุกหัวโตแน่นอน และหากไม่อยากให้พี่ชายต้องโดนจับต้องไปนอนกับเขาที่โรงแรมเชอราตัน รีบไล่ถามพนักงานอู๋ทุกคนเลยว่า เร็วๆ นี้มีบุคคลแปลกหน้าเข้าออกในอู๋หรือไม่? บางทรอาจเป็นจคนใกล้ตัว นายต้องระวังอย่ามองข้าม เพื่อนนายอาจถูกซื้อด้วยเงินของไอ้เจ้าหยางหมิง ตอนนี้มันจงใจเอาอู๋ซินให้ไม่เหลือทางรอด เราต้องเร่งตรวจสอบจริงจัง”
อู๋เลอใจหายตกไปยังตาตุ๋ม จากนั้นก็รีบวิ่งไปถามพนักงานทุกคนรวมไปถึงเพื่อนเขาโดยไวว่า วันนี้มีใครเข้าออกบริเวณข้างในอู๋บ้าง รวมไปถึงลูกค้าที่มาใช้บริการ ทุกคนต่างมองหน้าด้วยความงุนงง และตอบไปว่า ลูกค้าที่เข้ามาซ่อมรถในแต่ละวันมันไม่น้อยเลย คนที่ว่ามีลักษณะเด่นยังไงบ้าง?
อู๋เลอเองก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่า คนร้ายมีลักษณะเด่นยังไง ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่กระจายกันตรวจสอบทั่วอู่ แต่เนื่องจากมีเวลากันแค่ครึ่งชั่วโมงซึ่งไม่เพียงพอที่จะใช้ค้นหา แต่ละคนรีบวิ่งกันอลมาน
ทว่าสุดท้ายนี้ก็ไม่มีใครพบอะไรเลย อู๋เลอถามจ้าวเฉียนกลับไปว่า หยางหมิงจงใจขู่ให้ทุกคนตื่นตูมเฉยๆ หรือไม่?
เช่นเดียวกันกับตอนที่จ้าวเฉียนกำลังจะปริปากตอบ เสียงมือถือของอู๋ซินก็ดังขึ้นอีกครั้ง ปรากฏว่าเป็นหยางหมิงโทรเข้ามา
“ฮ่าฮ่าๆๆ …นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ยังไม่มาหาอีกเหรอ? เอ…ไม่สิ…ยังหาของที่ว่านั้นไม่เจออีกเหรอ? ไม่ว่ายังไงพวกเธอก็ไม่มีหาเจอกันอยู่แล้ว ทางที่ดีรีบมาที่โรงแรมดีกว่า ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ พี่ชายของเธอมีเฮโรอีกปริมาณยี่สิบกรัมอยู่ในครอบครอง คดีใหญ่แบบนี้ไม่ตายก็นอนคุกจนตายแน่นอน!”
“ทำไมแกถึงเลวได้ขนาดนี้? ฉันกับพี่ชายไปทำอะไรให้แกถึงได้แค้นนักแค้นหนา?”
“ทีแรกมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ระหว่างฉันกับเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ไอ้บัดซบสกุลจ้าวมันเล่นกับฉันไว้เจ็บแสบมาก แถมพ่อของเธอยังเอาเงินฉันไปอีก แล้วนี่จะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไง? เห็นเธอมีช่วงเวลาที่เลวร้ายแบบนี้ ฉันก็มีความสภสุข ฮ่าฮ่าๆ ….”
อู๋เลอโมโหอย่างมาก ตรงไปคว้ามือถือจากมืออู๋ซินและด่าสาปแช่งไม่หยุดหย่อน และหยางหมิงกลับไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย เตือนแค่ว่าให้อู๋เลอรีบโน้มน้าวใจน้องสาวตัวเอง ตราบใดที่อู๋ซินยอมพลีกายให้เขาที่โรงแรม เขาก็จะไม่ติดคุกแน่นอน
อู๋เลอยังคงอยากตามไปด่าต่อ ทว่าจ้าวเฉียนก็เดินเข้าไปคว้ามือถือจากมือของเขามาโดยตรง และเอ่ยขึ้นว่า
“หยางหมิง ครั้งนี้ไม่ไร้ยางอายไปหน่อยเหรอ? หรือโดนกระทืบที่เขาฟีนิกซ์ยังไม่พอ? สงสัยอยากให้หยางหู่ถอนฟันออกสักซี่?”
ทันทีที่รู้ว่าคู่สายเป็นจ้าวเฉียน หยางหมิงก็ระเบิดแทบลงในทันใด เขาตอบกลับเสียงเดือดดุว่า
“มึงอีกแล้วเหรอ! อย่าคิดว่าหยางหู่จะปกป้องมึงได้ตลอด ตราบใดที่เงินเก็บอันน้อยนิดของมึงหมด หยางหู่มันก็ไม่แยแสแกเช่นกัน ถึงตอนนี้ก็จะตามไล่ลามยังโคตรตระกูลมึงคอยดู!”
“ฮ่าฮ่า…เอาล่ะ ฉันและโคตรตระกูลของฉันจะรอนายละกัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความคับข้องใจระหว่างเรา แล้วทำไมต้องลากอู๋เลอมาเกี่ยวข้อง? โดนต้อนจนมุมแล้วรึไง ถึงได้แว้งกัดคนอื่น?”
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่า ถ้าพี่ชายของเธอโดนขนาดนี้แล้ว เธอยังจะกล้าทิ้งฉันได้ยังไง? รีบไปบอกอู๋ซินซะว่าให้ตัดสินใจโดยเร็ว ถ้าเธอยังไม่ให้คำตอบภายในห้านาที รอตำรวจไปถึงได้เลย!”
อู๋เลออยากตามไปด่ามันต่อ ทว่าจ้าวเฉียนกดวางสายไปแล้วเรียบร้อย ในตอนนี้อู๋เลอวิตกหนัก รีบถามจ้าวเฉียนทันทีว่า
“บอส ผมจะทำยังไงดีในตอนนี้? ไม่ใช่ว่ารอตำรวจมาจับอย่างเดียวใช่ไหม?”
จ้าวเฉียนปลอบใจไปว่า
“ไม่ต้องกังวลไป ฉันได้บันทึกเสียงของมันไว้แล้ว อย่างน้อยที่สุดนายก็ยังสามารถพิสูจน์ได้ว่า นายถูกใส่ร้าย ตราบใดที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ฉันจะใช้เส้นสายที่มีเคลียร์ให้เอง เท่านี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา”
อู๋เลอกับอู๋ซินที่ได้ยินแบบนั้น ความคิดแรกคือไม่เชื่อ พูดอย่างกับว่าเขาเป็นทายาทมหาเศรษฐี กับแค่ถูกล็อตเตอรี่เขาจะมีเส้นสายขนาดไหนกัน?
อู๋ซินพูดทั้งน้ำตาว่า
“หรือ…หรือฉันจะไปที่โรงแรมเอง ถ้าตำรวจมาถึงที่นี่ ชีวิตของพี่จบสิ้นแน่นอน”
อู๋เลอรีบหยุดน้องสาวไม่ให้ทำอะไรบ้าๆ พร้อมกล่าวว่า
“หยุดความคิดไร้สาระพวกนั้นไปเลย! แม้ว่าพี่คนนี้ต้องเข้าคุก แต่ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอไปนอนกับมันเด็ดขาด ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่ามันจะใช้กฎหมายเล่นงานฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำได้!”
เมื่อพูดจบอู๋เลอก็คว้ามือถือของน้องสาวตัวเอง โทรกลับไปด่าหยางหมิงอีกชุดใหญ่ และทิ้งท้ายไว้ว่า อย่าฝันว่าจะได้นอนกับอู๋ซิน
หยางหมิงยิ่งเดือดดาลหนักข้อเข้าไกปใหญ่ และรีบโทรแจ้งตำรวจพร้อมรายงานว่า อู๋เลอมียาเสพติดไว้ในครอบครอง
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ตำรวจมาค้นอู๋ยังห้องส่วนตัวของอู๋เลออยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่พบอะไร
ขณะที่ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นเอง เพื่อนคนสนิทของอู๋เลอชื่อว่า เฉินซงก็ตรงขึ้นมารายงานกับตำรวจว่า
“ขอโทษนะครับคุณตำรวจ ผมรู้ว่าของที่ว่าอยู่ตรงไหน ตอนเช้าผมเห็นเขากำลังซ่อนอะไรบางอย่างตรงราวม่านครับ”
ทันทีที่เฉินซงพูดออกไปแบบนี้ ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างตกตะลึงอย่างมาก อู๋เลอไม่เคยคิดเลยว่า เพื่อนที่สนิทสนมราวกับพี่น้องจะมาทรยศซึ่งๆ หน้ากันแบบนี้ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าไอ้สิ่งของที่ว่าถูกซ่อนอยู่ที่ไหน แม้แต่ตำรวจยังหาไม่พบ ทว่ามีเพียงเฉินซงเท่านั้นที่รู้ นี่ยังหมายความถึงอะไรได้อีก? ที่แท้จริงกลับเป็นเพื่อนสนิทเขาเองที่แอบเอายาเสพติดมาซ่อนในห้อง!