ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 72 ตำแหน่งสลับเปลี่ยน

ตอนที่72 ตำแหน่งสลับเปลี่ยน
จ้าวเฉียนตรงมาถึงประตูห้องทำงานของฟางนี่และเคาะเสียงดังสองสามคราติด ในเวลาเดียวกัน สุ้มเสียงของฟางนี่ก็ดังขึ้นจากด้านในว่า
“เข้ามา!”
จ้าวเฉียนเปิดประตูเข้าไปโดยตรงเข้าไปหาฟางนี่ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งของเธอ อีกฝ่ายกล่าวทักทายจ้าวเฉียนด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณจ้าว กรุณานั่งลงก่อน”
หากเป็นแต่ก่อน ตอนที่จ้าวเฉียนเข้ามา ฟางนี่มักจะลุกให้เขานั่งแทนตำแหน่งของเธอ แต่คราวนี้กลับนั่งนิ่ง เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
“ประธานฟาง คุณมีอะไรจะบอกผมไหม?”
จ้าวเฉียนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่คิดอ้อมค้อม ซึ่งนั้นทำให้ฟางนี่รู้สึกละอายใจจริงๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าจ้าวเฉียนเป็นคนฉลาดหัวไว อีกฝ่ายต้องคาดเดาอะไรบางอย่างแน่นอนจากบรรยากาศออฟฟิศที่เปลี่ยนไป
แต่ในขณะเดียวกัน จางหยางเองก็ทำงานหนักตลอดทั้งคืนวันเพื่อโน้มน้าวฟางนี่ เพื่อให้เขาได้รับความไว้วางใจจากเธอ ในเมื่อจ้าวเฉียนเปิดฉากถามาขนาดนี้ เธอก็รีบเข้าประเด็นทันทีว่า
“จ้าวเฉียน นั่งลงแล้วมาคุยกันก่อน”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและนั่งลงตรงหน้าเธอทันที
ฟางนี่หยิบเอกสารสัญญาการโอนหุ้นคืนมาให้จ้าวเฉียนเซ็น พร้อมกล่าวอธิบายว่า
“จ้าวเฉียน ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆสำหรับความช่วยเหลือที่ผ่านมาของนาย บริษัทของฉันสามารถผ่านวิกฤตครั้งใหญ่มาได้ก็เพราะนาย ทางเราได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย แต่สามีของฉันรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่กับราคาหุ้นที่นายซื้อไปในตอนแรก ดังนั้นพวกเราขอซื้อหุ้นกลับคืนในราคา10ล้านหยวน ในอนาคตนายยังเป็นพนักงานของเราต่อไปได้ถ้าต้องการ แต่จะไม่มีส่วนเข้ามาควบคุมบริหารอีกต่อไป ว่าไง?”
ฟางนี่ได้แต่ขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ภายในใจ หากไม่ใช่เพราะคำยุยงของจางหยวง เธอคงไม่มีทางปฏิบัติแบบนี้ต่อจ้าวเฉียนแน่นอน เพราะมันขัดกับหลักการและอุดมคติของเธออย่างมาก
อย่างไรก็ตามแต่ สถานการณ์ในตอนนี้กลับแตกต่างออกไป จางหยางเป็นสามีของเธอ ดังนั้นจำต้องรับฟังความคิดเห็นของเขาโดยธรรมชาติ เธอคิดไว้แล้วว่าจ้าวเฉียนจะต้องโมโหอย่างมากกับการกระทำของเธอในครั้งนี้ แต่เธอไม่อยากทำให้เขาโมโหเลยสักนิด
ทว่าใครจะไปคิด จ้าวเฉียนกลับระเบิดเสียงหัวเราะลั่นและฉีกสัญญาโอนหุ้นต่อหน้าต่อตาเธอ อันที่จริงข้อตกลงก่อนนหน้าระหว่างทั้งคู่ ไม่มีเอกสารยืนยันที่ชัดเจน ทั้งยังไม่มีพยานใดๆ หากฟางนี่คิดจะเล่นไม่ซื่อจริงๆ จ้าวเฉียนเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน
แต่ไม่เป็นไร จ้าวเฉียนไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ต้องทำงานไปทั้งชาติ เขาก็อยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต แต่เขาอยากเห็นแค่ว่า จางหยางจะมีความสามารถในการเข้ามาบริหารจัดการแค่ไหนกันเชียว
“ประธานฟางไม่ต้องเกรงใจ แค่10ล้านเอง ผมไม่เอาหรอก เอาหุ้นคืนไปตามสะดวกเลยครับ”
ฟางนี่ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรู้สึกผ่อนคลายลงมาจริงๆ
“ขอบคุณมากจ้าวเฉียนที่เข้าใจ ฉันทราบดีว่านายเป็นคนใจกว้างแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ติดแค่เรื่องสามีฉันนี่แหละ ไม่งั้นฉันคงไม่ทำอะไรแบบนี้แน่นอน แต่มั่นใจได้เลย จะไม่มีใครกล้ารังแกนายอย่างแน่นอนในอนาคต”
จ้าวเฉียนคลี่ยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า
“ผมเชื่อครับว่าประธานฟางจะไม่กลับคำแน่นอน และผมจะไม่เรียกร้องความดีความชอบใดๆจากที่ผ่านมา ผมขอทำงานต่อในแผนกวางแผนดังเดิมนะครับ”
“ไม่มีปัญหา นายขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกวางแผนเลย ฉันจะออกไปประกาศกับทุกคนเดี๋ยวนี้แหละ”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและเดินออกไปพร้อมกับฟางนี่
เจวียงหยวนที่เห็นฟางนี่และจ้าวเฉียนเดินออกมาพร้อมกับสีหน้าจริงจัง เขาก็รู้สึกสุขใจอย่างยิ่ง จ้าวเฉียวมันทำตัวหยิ่งผยองมานานกว่าเดือนเศษแล้ว ตอนนี้คงไม่เหลือหน้าอยู่บริษัทนี้ต่อแล้วใช่ไหม? จ้าวเฉียนที่กำลังไปได้ดีกับตำแหน่งผู้จัดการ ทว่าตอนนี้กลับถูกจางหยางแย่งทุกสิ่งอย่างไปไม่เหลือ หากเป็นเขาเองคงไม่เหลือหน้าอยู่ต่อเช่นกัน
“ทุกคนวางงานในมือลงก่อนและฟังฉันให้ดี ฉันตัดสินใจแต่งตั้งจ้าวเฉียนเป็นหัวหน้าแผนกวางแผน เขาจะเข้ามารับผิดชอบในส่วนนี้ในอนาคต ทุกคนที่อยู่ในแผนกวางแผนจะต้องเชื่อฟังเขาเข้าใจไหม? ถ้าฉันรู้ว่ามีใครขัดคำสั่งเขา เตรียมรับโทษหนักได้เลย!”
เจวียงหยวนสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน เขาตกตะลึงจนแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความปรารถนาตลอดมาของเขาคือ การขึ้นกลายเป็นหัวหน้าแผนกวางแผน เขายังไม่มีโอกาสถูกโปรโมตขึ้นไปเลยสักครั้ง คิดแค่ว่าจ้าวเฉียนที่ไม่เหลือหน้าเงยมองใครได้อีกแล้วจะต้องลาออก จากนั้นตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนก็จะตกเป็นของเขา แต่ใครจะไปคิด ตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันกลับตกอยู่ในมือจ้าวเฉียนเฉยเลย?
บรรดาเพื่อนร่วมงานแผนกวางแผนต่างแห่เข้ามาแสดงความยินดีกับจ้าวเฉียนทันที แม้ว่าเขาจะไม่สามารถขึ้นเป็นผู้จัดการได้ แต่ตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนก็ต่ำกว่าตำแหน่งผู้จัดการแค่ระดับเดียวเท่านั้น แค่นี้จ้าวเฉียนคงไม่คิดมาก
และสิ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมงานในแผนกวางแผนดีใจที่สุดคือ พวกเขาชัดเจนในความสามารถของจ้าวเฉียนดี การได้เขามาเป็นกำลังหลักในแผนกวางแผน พวกเขาจะได้ค่าคอมมิตชั่นพิเศษจากผลงานโดดเด่นอีกมากมายของจ้าวเฉียนในอนาคต ดีไม่ดีหากจ้าวเฉียนดิลกับบริษัทยักษ์ใหญ่แบบคราวก่อนมาได้อีก งานนี้มีหวังฐานเงินเดือนของทุกคนในแผนกวางแผนต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน มีสะพานทองคำทอดยาวมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาขนาดนี้ ใครจะไปโง่ทำลายจริงไหม?
โชคดีจริงๆที่จ้าวเฉียนเป็นคนไม่คิดอะไรมาก พอไม่ได้ตำแหน่งผู้จัดการเขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียหน้า จนทนอยู่บริษัทนี้ต่อไม่ไหว
สำหรับจ้าวเฉียนเอง มันไม่ได้สำคัญเลยว่าตนจะอยู่ในตำแหน่งอะไร หรือต้องอยู่ใต้คำสั่งใครบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนอย่างยิ่งคือ ไม่มีใครสามารถแย่งสิ่งที่เป็นของเขาไปได้ บริษัทเกมฟางนี่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรธุรกิจอันยิ่งใหญ่ที่เขาวาดฝันเอาไว้ และไม่มีใครสามารถแย่งชิ้นส่วนนี้จากเขาไปได้
จางหยางเพิ่งกลับมาที่ประเทศจีน ย่อมไฟแรงเป็นธรรมดา ปล่อยให้อีกฝ่ายทรมานกับสิ่งที่เรียกว่าธุรกิจที่แท้จริงไปอีกสักหน่อย จนวันที่อีกฝ่ายหมดสิ้นความหวัง เวลานั้นจ้าวเฉียนค่อยเอาของๆเขากลับคืนมา
จ้าวเฉียนยิ้มทักทายทุกคนโดยกล่าวว่า
“ขอบคุณอย่างมากสำหรับคำอวยพรของทุกคน ผมจะตั้งใจทำงานและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทุกคนในแผนก”
ทันทีที่สิ้นเสียงจ้าวเฉียน จางหยางก็นำหวังเฉียงและเจียงเสี่ยวปิงออกมาจากห้องทำงานบ้างเช่นกัน
“ประธานฟาง ผมขอเสนอให้หวังเฉียงรับตำแหน่งรองผู้จัดการ เพราะเขาเป็นผู้จัดการของที่นี่มาหลายปี รู้จักแผนการทำงานรวมไปถึงทรัพยากรบุคคลจากทุกแผนก ดังนั้นผมจะให้เขากลับมาทำงานใหม่ ประธานฟาง ทั้งผมและคุณไม่มีเวลาว่างพอมานั่งจัดการดูแลทุกอย่างในบริษัท ดังนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหวังเฉียงจะดีกว่า ทุกคนมีความเห็นยังไงกันข้างครับ?”
จางหยางพยายามบีบให้จ้าวเฉียนออกจากบริษัทแห่งนี้ให้ได้ และต้องการนำหวังเฉียงกลับมาใช้งานใหม่
เจวียงหยวนและหวันชวนที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบกระโจนเสนอหน้าออกไปทันที พร้อมเอ่ยปากสนับสนุนความคิดของจางหยาง ถ้าหากหวังเฉียงกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ในอนาคตพวกเขาจะสามารถแก้แค้นจ้าวเฉียนได้แน่นอนในสักวัน และที่สำคัญที่สุด จางหยางเป็นถึงสามีของหัวหน้าทุกคน ดังคำว่า‘พระราชฎีกาของราชาเหนือทุกสิ่ง’ แม้กระทั่งฟางนี่เองยังต้องไว้หน้าจางหยาง อย่างน้อยที่สุดนี่ก็เป็นหลักประกันให้แก่พวกเขาได้ว่า งานในบริษัทที่ทำอยู่มั่นคงไปอีกยาวนาน เพื่อประโยชน์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงทำให้พวกเขาทุกคนที่เกลียดหน้าจ้าวเฉียนแห่กันสนับสนุนความคิดของจางหยางโดยตรง
“ผมคิดว่าผู้จัดการจางพูดถูกต้องแล้ว รองผู้จัดการหวังเคยมีประสบการณ์มามากมาย เขาต้องช่วยประธานฟางได้อีกแรงแน่นอน ผมสขอนับสนุนครับ”
“ถูกต้องแล้ว น่าเสียดายที่มีใครบางคนดูถูกความสามารถเขา แถมยังส่งเขาไปยังแผนกทำความสะอาดอีก นี่มันกลั่นแกล้งกันชัดๆ!”
พวกเขาส่งเสียงเชียร์ให้ความสนับสนุนหวังเฉียงกันใหญ่ แต่บนผิวเผินแบบนี้ หวังเฉียงแสร้งทำเป็นเกรงอกเกรงใจไป
“ขอบคุณทุกคนที่ยังให้การสนับสนุนกัน ผมสัญญาว่าจะต้องใจทำงานให้หนัก! จะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของทุกคน!”
ฝีไม้ลายมือการแสดงของหวังเฉียงค่อนข้างเยี่ยมยอด เขากล่าวออกมาต่อหน้าทุกคน พร้อมน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
จางหยวงยิ้มและตบไหล่หวังเฉียง และเอ่ยขึ้นว่า
“เห็นว่ารองผู้จัดการหวังจริงใจกับบริษัทเราขนาดนี้ ผมก็มีความสุข เลือกไม่ผิดคนจริงๆ เจียงเสี่ยวปิง ส่วนเธอก็เป็นผู้ช่วยของเขามันนานแล้ว ตอนนี้ก็มาเป็นผู้ช่วยให้กับรองผู้จัดการหวังต่อไปนะ”
ทุกคนรีบยิ้มประจบประแจงตอบ และกล่าวเสริมไปว่า เธอเท่านั้นที่รู้จักหวังเฉียงที่สุดแล้ว จับคู่ให้เขากับเธออยู่ด้วยกันนับว่าเหมาะสมกันที่สุด
จ้าวเฉียนยังคงปรบมือชมเชยการแสดงละครฉากใหญ่ของพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset