❖❖❖❖❖
วูม!!!!———
พอแสงสว่างที่จ้าเสียจนแสบตาได้จางหายไป ทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้าของลินดาก็คือ บริเวณป่าแบบเดียวกับก่อนที่จะถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นสมาชิกปาร์ตี้ที่ลดลงจนเหลือแค่สามคน อันได้แก่ตัวเธอ เชษฐ์และเสือนั่นเอง ลินดาในตอนนี้ยังอยู่ในอาการสะเทือนใจอยู่พอสมควร ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ทั้ง 2 คนตายเพียงเพื่อให้ตัวเองหนีรอดไปได้ เชษฐ์ก็ยังคงนั่งคุกเข่าเอามือกุมศีรษะ ทั้งยังสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกต่างหาก ต่างจากเสือที่แม้จะเพิ่งผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมาก็ยังคงทำตัวเรียบเฉยอยู่เช่นเคย
〝นี่นาย!!! ตอนที่อยู่ในดันเจี้ยนเป็นบ้าอะไรหา!!!!!!〞
ทั้งที่เพิ่งออกมาจากดันเจี้ยนได้ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลยซักนิด เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำช้าแบบนั้นของเสือ ลินดาจึงได้ตะคอกใส่เสือออกไปอย่างรุนแรง
〝………………〞
〝ตอบฉันมาสิ!!! ทำไม… ทำไมถึงทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นได้ลงคอ!!!〞
เพราะเสือไม่ได้ตอบเธอกลับมา เธอถึงได้ตะคอกถามเสือต่อไปทั้งอย่างงั้น การตะคอกนั่นดังพอที่จะดึงสติของเชษฐ์กลับมาได้ แล้วทำให้เขาพยุงตัวขึ้นมาร่วมสนทนากับลินดาได้ในไม่นาน
〝คะ คุณเสือ ทำแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันเหรอครับ…. คุณหน่ะรู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป?〞
〝………………〞
〝มะ ไม่คิดจะตอบเลยงั้นเหรอ!!!? นี่ผมกำลังถามคุณอยู่นะครับ!!!!〞
〝แล้วมันยังไงกันหล่ะ?〞
〝〝!!!!!!!〞〞
〝ที่ฉันทำมันเป็นเรื่องผิดงั้นรึไง!!!?〞
แล้วเสือก็ตอบคำถามกลับมาด้วยคำถาม รวมกับท่าทางทำเป็นทองไม่รู้ร้อนของเสือเข้าไป นั่นยิ่งทำให้ลินดาโกรธจัดมากเข้าไปอีก
〝นะ นี่นายจะบ้ารึไงกัน! มันก็ต้องผิดอยู่แล้วสิ!!! นายหน่ะทิ้งคนทั้งคนไว้ในที่อันตรายแบบนั้นคนเดียวเลยนะ!!! เห็นไม่ใช่รึไงกัน ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนั่น ป่านนี้เขาคนนั้นก็คง..!!!!!〞
〝ชะ ใช่แล้วหล่ะครับ ที่คุณทำอยู่มันเป็นการฆ่าคนโดยเจตนาเลยนะครับ!!! มะ ไม่คิดจะสำนึกผิดบ้างเลยรึไงกันครับ!!!!〞
〝………〞
เพราะเห็นฮาวลี่ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา ทั้งสองคนเลยคิดว่ากร ที่เป็นผู้กล้าที่อ่อนแอที่สุดคงไม่มีทางมีชีวิตรอดจากที่นั่นแน่ๆ ถึงได้ด่าทอเสือไปแบบนั้น
〝อย่ามาทำเป็นพูดดีไปเจ้าตัวเล็ก… แกเองก็ดีใจไม่ใช่รึไงที่ตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยหน่ะ?〞
〝!!!!!!!!!!〞
〝จริงๆก็คิดอยู่ไม่ใช่รึไง….ว่าโชคดีจริงๆ ที่คนที่ต้องเป็นเหยื่อล่อไม่ใช่ตัวเองหน่ะ〞
〝มะ ไม่ใช่นะ ผม…〞
แล้วพอเสือพูดออกไปแบบนั้นก็ทำให้เชษฐ์หงอยลงไปนิดหน่อย เรื่องที่ดีใจตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมานั่นจึงทำให้จิตใจของเชษฐ์ยังคงหวั่นไหวได้ง่ายอยู่ ผลก็คือด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเสือก็ทำให้เขานิ่งเงียบไปได้เลย
〝พอได้แล้วไอ้เดนมนุษย์!!! นี่แกยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่นอีกงั้นเหรอ! คนตายไปตั้งสองคนแท้ๆยังไม่รู้สึกอะไรอีกงั้นเหรอ!!!!〞
〝…………………〞
ในที่สุดลินดาก็ฟิวส์ขาดจนได้ เลยทำให้ต่อว่าเสือออกไปอย่างรุนแรงแบบนั้น แต่เสือก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
〝บ้าเอ้ย!!! ก็ได้…ถ้าคุยด้วยไม่ได้ละก็ฉันจะ!!!〞
〝โฮ่….จะทำอะไรฉันงั้นเหรอ?〞
พอลินดาพูดออกไปแบบนั้น เสือก็กลับมีปฏิกิริยาทันที มันดูเหมือนเขากำลังยั่วโมโหเธออยู่ยังไงอย่างงั้นเลย แล้วพอลินดาพูดจบเธอก็หันหน้าไปทิศตรงข้ามกับที่เสือยืนอยู่ แล้วก็เดินหนีไปทันที
〝ฉัน….จะไปบอกคุณฮันซี่!!! จะบอกให้หมดเลย!!! เรื่องเลวๆที่นายทำไว้ในดันเจี้ยนนั่นหน่ะ!!!!〞
ซู่ม!!!!———
แล้วพอลินดาพูดจบ รอบๆบริเวณที่เสือ เชษฐ์และลินดายืนอยู่ก็มีบรรยากาศน่าขนลุกเกิดขึ้น มีเงาที่มีลักษะคล้ายเปลวเพลิงสีดำโผล่ขึ้นมาจากพื้นมากมายอย่างไร้รูปร่าง เข้าโอบล้อมบริเวณที่ทั้ง 3 คนอยู่อย่างหนาแน่นจนรู้สึกแย่เลยทีเดียว
〝หืม….ถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็ซวยหน่ะสิ!!!〞
〝นะ นี่มัน เวทย์อะไรกัน!〞
พอลินดารู้สึกตัวอีกที เธอก็ดันเกิดอาการหายใจติดๆขัดและหมดแรงจนแทบจะยืนไม่ไหวเสียแล้ว แน่นอนว่าเชษฐ์เองก็เป็นแบบเดียวกัน
〝นี่นาย…..คิดจะทำ….อะไร….กับพวกเรา!!!!〞
เพราะการหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก จึงทำให้เธอพูดติดๆขัดๆ
〝ก็… ทำให้พวกเธอติดคำสาปยังไงหล่ะ…〞
〝คะ คำสาป!!!〞
〝ใจจริง… ฉันก็อยากเก็บพวกเธอไปเลยหรอกน่ะ แต่ถ้าทั้งปาร์ตี้เหลือฉันคนเดียวแบบนี้มันก็จะน่าสงสัยหน่ะสิ ว่าไหม!?〞
〝!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
พอเธอได้ยินเสือพูดว่าจะฆ่าพวกเธอตรงๆ นั่นทำให้เธอเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว
〝นะ นี่แก สติดีอยู่รึเปล่า!!! ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย!!!〞
〝เห็นที่ฉันทำลงไปในดันเจี้ยนแล้ว คิดว่าล้อเล่นรึเปล่าหล่ะ!〞
สายตาของเสือนั้นยังคงเย็ชาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น
〝ไม่ต้องเป็นห่วงไป…คำสาปนี่หน่ะ จะเกิดผลในเหตุการณ์เฉพาะเท่านั้น เงื่อนไข……แน่นอนว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องรู้ อ๊ะ! แล้วก็….〞
ซู่ม!!!!
ทันทีที่เขาพูดจบแล้วแผ่มือด้านขวาไปยังที่ต้นไม้ใกล้ๆอยู่ ต้นไม้นั่นก็ถูกเปลวเพลิงล้อมรอบ ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว แล้วก็กลายเป็นตอตะโกในเวลาไม่ถึง 30 วินาที แล้วเขาก็ยื่นหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ลินดาที่กำลังนั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บปวดทรมานอยู่
〝ถ้าเกิดคิดที่จะเล่าเรื่องของฉันออกไปหล่ะก็… พวกเธอก็จะได้รับความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หลายพันเท่า ….แล้วสุดท้าย คำสาปที่ว่าก็จะทำให้พวกเธอเป็นแบบต้นไม้ต้นเมื่อกี้นี้นี่แหล่ะ〞
〝!!!!!!!!〞
ซู่ม———
แล้วเสือก็ปลดเวทย์ปริศนาของตัวเองออกไป ยกเว้นต้นไม้ที่เหลือเพียงผงสีดำสนิท ทุกอย่างก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือเพียงแต่เชษฐ์กับลินดาที่ยังคงนั่งหายใจหอบกันอยู่
〝ไอ้……สัตว์นรกเอ้ย〞
〝เฮอะ!!! ใครสนกันหล่ะ!!! แล้วก็อย่าลืมเรื่องที่ฉันขู่ไปเมื่อกี้ซะหล่ะ… แล้วจะหาว่าไม่เตือน!!!〞
พอพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วก็หันหน้าหนีไปชมนกชมไม้อย่างสบายอารมณ์ราวกับเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่พวกลินดาที่กำลังกำหมัดและกัดริมฝีปากแน่นอยู่ก็เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของเสือไปเสียแล้ว ทำให้บ่นอะไรไม่ได้มากอีกนัก แล้วบรรยากาศรอบตัวของเสือก็หนักอึ้งขึ้นมากเสียยิ่งกว่าเดิม…
❖❖❖❖❖
———ในขณะเดียวกัน ทางด้านของกร…
เฮ้ยๆ!!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!! เดี๋ยวก่อน…เดี๋ยวสิ!!! ตามไม่ทันแล้วโว้ย!!! นี่มันเกิดห่าเหวอะไรขึ้นกันวะ!!!!!!
นี่ฉันถูกทิ้งเหรอ? ไม่ตลกนะเฮ้ย!!!
ในขณะที่กรกำลังมีความคิดสับสนปนเปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถูกเหล่ามอนสเตอร์ทั้ง 5 ตัวกดดันโจมตีให้ถอยร่นมาทางที่เคยมีวงเวทย์นั่นเรื่อยๆ
ละ แล้วจะทำยังไงต่อไปดี หนีงั้นเหรอ…เป็นไปไม่ได้เลย!!! แค่หลบอยู่นี่ก็เต็มกลืนแล้ว ช่องว่างของเจ้าพวกนี้ก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย…
วงเวทย์นั่นตอนแรกที่มาเจอยังเปล่งแสงอยู่เลย แต่ตอนนี้… ไม่มีทาง!!! ดูยังไงพลังเวทย์มันก็หมดแล้วชัดๆ!
ฉั๊ว!!!!!!!
〝อึ๊กกกกก!!!!!!!!!!!〞
ขณะที่กรกำลังเพ้ออยู่นั้น ก็ถูกมีดสั้นของก๊อบลินฟันเฉียดไปทีหลัง แต่ความเจ็บปวดนั่นเองก็ทำให้กรได้สติแล้วสังเกตเห็นบางอย่างกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มมอนสเตอร์
นะ นั่นมัน!? ทางขวาลิซาร์ดแมนตัวนั้นเปิดช่องว่างนิดหน่อย เป็นโอกาสแล้ว!!! ไม่สิโอกาสสุดท้ายเลยต่างหาก!!!
ด้านหลังฉันเป็นทางตัน ถ้าจะหาทางหนีละก็ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว!!!!
แล้วกรก็รอจังหวะที่เหมาะสม จนกว่าช่องโหว่ของการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์จะกว้างพอให้หลบหนีไปได้พอได้จังหวะเข้าก็รีบพุ่งไปทันที แต่ว่า…
ชึบ———
〝!!!!!!!!!?〞
พอกรผ่านตัวของเจ้าลิซาร์ดแมนไปได้กลับมีมอนสเตอร์ตัวที่ 6 ซึ่งเป็นมนุษย์โครงกระดูกดักรออยู่ นั่นทำให้กรตกใจจนหัวใจแทบวายเลยทีเดียว เหมือนกับอีก 5 ตัวที่เหลือ กรสัมผัสตัวตนของมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งมันปรากฏตัวขึ้นมา เพราะตกใจสุดขีดอยู่นั่น จึงทำให้กรเสียสมาธิไปพริบตานึง แล้วหลังจากนั้น
ฉั๊ว!!!!!!!
เสียงฟันนั่นดังขึ้นมาและก้องอยู่ในจิตสำนึกของกรชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ตุ๊บ!!!!!!! แผล่ะ!!!!!!!
หลังเสียงนั้นผ่านไปกร ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีของหนักๆตกลงใกล้กับบริเวณที่ตัวเองยืนอยู่และมีเสียงที่เหมือนกับทำของเหลวหกกระจายไปทั่ว หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายข้างซ้ายรู้สึกเบาโหวงแปลกๆ ก็เลยมองไปดูเสี้ยวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็พบว่าแขนของเขาได้หายไปแล้ว และวัตถุปริศนาที่หล่นลงใกล้ๆกับกรก็คือ แขนของเขาที่ถูกมนุษย์โครงกระดูกฟันด้วยดาบยาวมือเดียวจนขาดสะบั้นนั่นเอง
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
โชคร้ายที่กรดันมีประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยม ความเจ็บปวดเลยถูกเพิ่มเป็นทวีคูณ ในเวลาแบบนี้ความสามารถที่แสนภูมิใจดันกลับมาทำร้ายตัวเองซะได้
แขน!!! ขะ แขน!!!!!!!
โกหก!!! โกหกชัดๆ!!!!
สวบ!!!!!!!
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!〞
และไม่ทันได้หยุดพัก เพราะสติสะตังของกรในตอนนี้นั้นแทบจะกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว นั่นทำให้ก็อบลิบที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดเข้าโจมตีกรได้อย่างง่ายดาย แล้วมีดสั้นของมันก็เสียบเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายของกรเสียจนมิดด้าม และการโจมตีนั่นก็ทำให้กรเซไปข้างหลังจากการโจมตีของก็อบลินไปทางวงเวทย์ที่เป็นทางตัน จนหลังไปพึงกับกำแพงที่อยู่ในสุด และกำลังเหยียบที่ๆเคยมีวงเวทย์อยู่นั่นเอง
เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!
เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!
เจ็บชะมัดยาด!!!! มีดมันเสียบเข้ามาในตัวฉันแล้ว
ไอ้พวกมอนสเตอร์เวรตะไลพวกนี้!!! ฉันไปทำอะไรให้กันวะ!!!
สวบ!!!!!!!
สวบ!!!!!!!
〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
พอถูกการโจมตีจนหลังไปกระแทกกับกำแพงได้ไม่นาน ลิซาร์ดแมนอีกสองตัวก็เอาดาบยาวที่มีรูปร่างแปลกๆเสียบเข้ามาที่ท้องน้อยและต้นขาของเขาเสียจนทะลุไปข้างหลังเลยทีเดียว เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนที่แสดงถึงความเจ็บปวดอันมหาศาลที่กรได้รับอย่างต่อเนื่องนั้น ช่างดูน่าเวทนาเสียนี่กระไร
อึ๊ก! กะ โกหกกันใช่ไหม!!!
เกินจะรับได้แล้วเฟ้ย!!!!! ทรมาน!!! เจ็บโว้ย!!!
รู้สึกเหมือนเครื่องในกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ!!! นี่มันบ้าอะไรกัน!!!
บ้าเอ๊ย!!! ที่ขานี่ก็อีก ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ขยับไม่ได้ซักนิด เรี่ยวแรงเองก็———
เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้ว… ตาเองก็เริ่มรู้พร่ามัวแปลกๆยังไงไม่รู้
กลัว… หนาว…
มันอะไรกันนักกันหนาวะ
ขณะที่กรกำลังคิดอยู่นั้น ขาทั้งสองข้างที่อ่อนแรงจากการหลบการโจมตีมาอย่างต่อเนื่องบวกกับโดนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าไปทำให้ร่างของเขาสไลด์ลงมาตามแนวกำแพง จนตอนนี้อยู่ในท่านั่งขาเหยียดจนเกือบตรง เอาหลังพิงกำแพงแล้วมือขวาที่อ่อนแรงก็วางพาดอยู่ข้างลำตัวตามแรงโน้มถ่วง
นี่ฉัน… กำลังจะตายงั้นเหรอ!?
เฮ้ยๆ ไม่ตลกนะแบบนี้…. ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่รึไง
ทำไม… ทำไมชีวิตฉันมันถึงมีแต่เรื่องผิดพลาดกัน…
ความฝันในตอนเด็กก็ทิ้งไปแล้ว
จิตใจที่น่าจะแหลกสลายไปแล้วนั่นก็ได้เจ้าพวกนั้นช่วยไว้แล้วแท้ๆ
อุตส่าห์ได้รู้ว่าพี่สาวอาจจะยังมีชีวิตอยู่แล้วแท้ๆ
คิดว่าจะตอบแทนเจ้าพวกนั้นแท้ๆ
คิดว่าจะคอยให้กำลังใจรินแล้วแท้ๆ
คิดว่าจะช่วยอลิซตามหาศรแล้วแท้ๆ
แล้วนี่มันบ้าอะไรกัน!
ถูกไอ้พระเจ้าบ้านั่นส่งมาต่างโลกแบบไร้เหตุผล!
ถูกพระราชาขอร้องแบบงงๆ!
ถูกให้ไปล่ามอนสเตอร์แบบงงๆ!
ถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยนแบบงงๆ!
ถูกทิ้งแบบงงๆ
แล้วก็… ถูกฆ่าทิ้งแบบงงๆอีกงั้นเหรอ?
ยอมรับไม่ได้!!! ไร้เหตุผลสิ้นดี!!!
ยังไงก็ยอมรับเรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ลง! ยังไงฉันก็ยอมรับเรื่องไร้เหตุผลแบบนั้นไม่ลงหรอก!!!!!
〝ไร้เหตุผลชะมัด ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว…… 〞
ในขณะที่ความคิดมากมายพรั่งพรูออกมาราวกับสายธารไหล กรก็กระซิบแบบนั้นออกเบาๆ ทั้งที่เหนื่อยอ่อนอย่างที่สุดเพราะกำลังจะใกล้ตายเต็มที….
❖❖❖❖❖
———ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย-มุมมองของริน
〝ริน!!! ใช้เวทย์ใส่เจ้าหมีนั่นเลย อีกทีเดียวก็จบแล้ว!!!!〞
〝ค่ะ คุณเจสัน ……..เอาหล่ะนะค่ะ【เฟลม บลาสต์เตอร์ 】!!!〞
ในขณะเดียวกันกับที่กรและปาร์ตี้กำลังล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』อยู่นั้น ปาร์ตี้ของรินเองก็กำลังล่าหมีตัวที่ว่าอยู่เช่นกัน ปาร์ตี้ของรินมีหัวหน้าเป็นชายสูงอายุราวๆ 50 ปี แต่ทักษะนั้นไม่เรียกว่าชราภาพตามอายุเลยแม้แต่น้อย ในการล่าของรินเองก็สามารถล่าหมีเนตรเพลิงป่าไปได้ 8 ตัว แต่ถึงเทียบกับปาร์ตี้ของกรแล้วจะน้อยกว่าเกือบเท่าตัวก็ตามแต่ก็ยังเป็นจำนวนที่เยอะมากอยู่ดี รวมกับตัวที่กำลังล่าอยู่นี่ก็เป็นตัวที่ 9 พอดี
〝โอ้ว สำเร็จแล้วทุกคน!!! ประสานงานกันได้ยอดเยี่ยมมาก!!!〞
〝〝〝〝ครับ/ค่ะ!!!!〞〞〞〞
หลังจากที่ล้มหมีเนตรเพลิงป่าลงได้เจสันก็กล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนอย่างสุภาพสมเป็นผู้อาวุโส แล้วทุกคนก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพและแข็งขันเช่นกัน แล้วหลังจากนั้น ก็มีแสงสว่างสีทองเป็นจุดเล็กๆตรงบริเวณดวงตาของหมีที่ถูกโค่นแล้วจากนั้น….
〝คะ คุณเจสัน นั่นมันอะไรเหรอครับนั่น!〞
〝หืม…..ห๋า!!! นั่นมัน!!!〞
พอมีนักเรียนชายสังเกตเห็นแสงสีทองตรงดวงตานั่น จึงได้บอกกับเจสันไป แต่เขากลับแสดงอาการตกใจปนดีใจออกมา ทำให้ทุกคนแปลกใจกันมาก
〝ละ เหลือเชื่อ!!! นี่มันแรร์ดรอปของหมีเนตรเพลิงป่า『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นี่นา!!!〞
〝〝โอ้ว!!!!!!!!〞〞
ที่หล่นออกมาจากดวงตาของหมีนั่นก็คือ『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นั่นเอง มันเป็นอัญมณีสีแดงเพลิงไร้รูปร่างที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน แต่ก็ยังส่องประกายอย่างงดงาม และพอได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เลยทำแววตาเป็นประกาย เพราะตั้งแต่ล่ามายังไม่มีไอเทมดรอปเลยซักครั้ง แต่พอดรอปออกมาครั้งแรกมันดันเป็นไอเทมแรร์ซะด้วย นั่นทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก จากคำอธิบายของเจสันบอกว่าปกติแล้วอัญมณีเนตรเพลิงป่านั้นแม้แต่หมีเนตรเพลิงที่พบในดันเจี้ยนที่มีโอกาสดรอปมากกว่าเองยังแทบไม่มีโอกาสดรอปออกมาเลย แต่การที่มาเจอมันดรอปอยู่นอกดันเจี้ยนเนี่ยต้องเรียกว่ามีโชคสุดๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาแปลกใจมากนั่นเอง
〝อืม…. ว่าแต่พอมันเป็นแบบนี้แล้วจะให้ใครเก็บไว้ดีหล่ะครับ!〞
นักเรียนชายคนเดิมในตอนแรกได้ถามออกมาอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นขัดจังหวะเจสันที่กำลังจะพูดอยู่นั่น
〝นี่ๆ ทำไม ไม่ให้รินเก็บไว้หล่ะ!!!!?〞
〝นะ เนย!?〞
เด็กผู้หญิงที่พูดขัดคอเจสันอยู่นี้ ชื่อ『เนย』 เป็นเด็กผู้หญิงที่มีส่วนสูงพอๆกับริน มีผมสีดำสลวยไว้ทรงทวินเทลแต่จุดที่ผูกนั้นอยู่ต่ำจนถึงบ่าเลยทีเดียว จากที่ดูภายนอกคงเป็นมีนิสัยร่าเริง พอผูกทวินเทลเข้าไปด้วยเลยทำให้เธอดูเด่นมากเลยทีเดียว เธอคนนี้รู้จักกับรินตอนเรียนชั้น ม.1 แม้จะไม่สนิทเท่ากับเพื่อนสมัยเด็กเช่นพวกกร แต่ก็เป็นคนที่สนิทด้วยที่สุดรองจากอลิซเลยทีเดียว
〝นั่นสินะ…. ตามปกติเวลามีไอเทมดรอปออกมา คนที่จะได้ไป คือ คนทำลาสแอทแท็คซะด้วย…. งั้นก็เอาตามนั้นแหละ…..ทุกคนไม่มีปัญหาอะไรนะ!!! 〞
〝〝ครับผม/ค่ะ!!!! 〞〞
ทั้งสองคนที่เหลือยังคงตอบอย่างขยันขันแข็งโดยที่ไม่มีท่าทางกังขาการตัดสินใจของเจสัน
〝ดะ เดี๋ยวก่อนสิ แบบนั้นมันจะดีเหรอทุกคน!!!〞
〝อืม ดีสิ!!! นี่เป็นมารยาทปกติในเวลาของตกเลยนะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก!!〞
〝งะ งั้นเหรอ!?〞
เด็กหนุ่มอีกคนก็พูดอธิบายโดยใช้หลักการเดียวกับในเกมออนไลน์ให้รินฟัง เพราะรินคิดว่าการทำแบบนี้มันเหมือนกับเอาเปรียบทุกคนที่ร่วมกันล้มหมีนั่นจึงได้เกรงใจทุกคน ถึงแม้ตัวเองจะอยากได้นิดๆก็เถอะ แต่พอทุกคนบอกว่าไม่เป็นไรเธอถึงทำสีหน้าโล่งอก
〝จะ จะว่าไป คุณเจสันคะ เจ้านี่มันเอาไว้ทำอะไรงั้นเหรอคะ!!!〞
〝หืม!!! อ๋อ…พวกอัญมณีส่วนใหญ่ก็เอาไปทำเป็นเครื่องประดับไม่ใช่เหรอ?〞
〝เครื่องประดับงั้นเหรอคะ?〞
เอ… เป็นเครื่องประดับงั้นเหรอเนี่ย ถ้างั้นเอาไปทำเป็นสร้อยคอดีไหมนะ….
จริงสิ… พอไปถึงเมืองก็ให้ช่างทำให้เลยดีกว่า
แต่ฉันก็ใส่สร้อยอยู่แล้ว ฮึๆ งั้นเอาไปให้กรดีกว่า———
พอถามและได้คำตอบแบบนั้น เธอจึงได้คิดต่อไปอีกอย่างร่าเริง แต่แล้ว…
〝ว๊าย!!!! เนย! ทำอะไรกันเนี่ย!〞
〝อุ๊ยตาย! ปฏิกิริยาน่ารักจังเลยนะ ว่าแต่จะไอ้นั่นเอาไปทำอะไรงั้น?〞
แล้วเนยที่เป็นคนเสนอให้รินได้อัญมณีไปก็เข้ามากอดรินจากด้านหลัง เพราะมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยพอโดนแบบนี้เข้าอย่างกะทันหัน เลยทำให้รินตกใจ
〝อืม… ถ้าเอาไปทำสร้อยคอก็คงจะดีหล่ะนะ แล้วก็คิดว่า…〞
〝หุ หุ หุ… รึว่าคิดจะเอาไปให้เค้าคนนั้นงั้นเหรอ?〞
〝!!!!!!!!!!?〞
ระ รู้ได้ยังไงกันเนี่ย
〝พะ พูดเรื่องอะไรกันหน่ะเนย… ก็กรหน่ะ〞
〝อ้าวๆ! ฉันยังไม่ได้พูดชื่อเค้าเลยนะ〞
〝เอ๋ๆๆ!!! หวาๆๆ!!!〞
พอเนยแกล้งถามรินด้วยสายตาและรอยยิ้มขี้เล่น ก็ทำให้รินเขินจนหน้าแดงไปถึงหูเลยทีเดียว นั่นก็เพราะที่เนยพูดนั้นเป็นความจริงนั่นเอง ใช่แล้วคนที่รินชอบอยู่ก็คือกรนั่นแหละ แน่นอนว่าในฐานะผู้ชายคนนึง ในสมัยเด็กนั้นกรเป็นเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในกลุ่มนั่นก็เพราะเขามีความเป็นผู้นำและมีนิสัยทำตัวเด่น ชอบหาเรื่องสนุกๆมาให้ทุกคนทำอยู่เสมอ นั่นทำให้อีกทั้ง 3 คนเองก็แอบชื่นชมและปลาบปลื้มอยู่ในใจเช่นเดียวกับริน รินเองนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างขี้อายเลยไม่ค่อยกล้าเล่นกับผู้ชาย กรที่เป็นเพื่อนข้างบ้านจึงเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาชวนคุยและพาเธอเข้ากลุ่มไปเล่นด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มสนใจในตัวกร หลังเวลาผ่านไปเป็น 10 ปีความรู้สึกดีๆของเธอที่มีต่อกรก็พอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นความรักในที่สุด
ที่ทำให้เธอรู้สึกตัวก็คงเป็นตอนที่กรสูญเสียพ่อและแม่จากอุบัติเหตุตอน ม.2 อย่างกะทันหัน หลังจากงานศพจบลง กรก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่ไปโรงเรียนและตีตัวออกห่างจากทุกๆคน ในตอนแรกๆที่ทุกคนพยายามพาเขาออกมาจากห้องก็ได้ยินแต่คำพูดขับไสไล่ส่งออกมาด้วยสีหน้าและเสียงที่เย็นชาในทำนองว่า〝นี่มันชีวิตของฉัน… ฉันจะใช้ยังไงมันก็เรื่องของฉัน ….พวกเธอหน่ะครอบครัวก็ไม่ใช่ แล้วจะมายุ่งทำไมไม่ทราบ….〞คำพูดที่เสียดแทงใจนั่นทำให้รินถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะความเจ็บปวดเลยทีเดียว สาเหตุนั้นก็เพราะคำพูดของกรมันสื่อได้ว่า【พวกนายไม่ใช่เพื่อนฉันอีกต่อไป อย่ามายุ่งกับฉัน…..】 พอเธอคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะจบแค่นี้ ก็ทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจเลยทีเดียว นั่นคงเป็นตอนที่รินรู้สึกได้ว่าความห่วงหานั่นเกิดจากความรักนั่นเอง
แต่แน่นอนว่าทุกคนไม่มีใครยอมแพ้ ทุกๆวันทุกคนจะบุกเข้ามาในบ้านของกรแล้วก็บังคับลากตัวกรออกมาเที่ยวเล่นจนเขาเริ่มจะเปิดใจกลับมาหาทุกคนเหมือนเดิมได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้นรินก็ยังคงทำตัวตามปกติต่อหน้ากรเสมอ เพราะเธอรู้ว่ากรไม่มีทางมองพวกเราไม่ว่าจะเป็นเธอหรืออลิซที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญเป็นเป้าหมายของความรักได้ นั่นทำให้เธอทำได้แค่รักเขาข้างเดียวมาตลอดตั้งแต่สมัยเด็กจนกระทั่งตอนนี้นั่นเอง
〝อะไรกันเนี่ย!!! ฉันนึกว่าเธอจะเป็นพวกเงียบๆซะอีก ที่จริงก็รุกเขาอยู่ไม่ใช่รึไง!!!〞
〝นะ เนย! มะ ไม่ใช่นะ!!!〞
〝เธอหลอกฉันไม่ได้หรอกน่า… คิดว่าฉันจะดูไม่ออกรึไงกัน!〞
〝งือ〜 ใจร้ายที่สุดเลยอะเนย〞
〝ฮะฮ่ะฮ่ะ… ใจเย็นน่า ฉันไม่บอกใครหรอก ขืนบอกไปล่ะก็หมอนั่นโดนคนทั้งโรงเรียนฆ่าแหงมๆ〞
ทั้งสองคนก็ยังคงกระซิบกันอย่างร่าเริงตามประสาเด็กหญิงวัยรุ่นทั่วไปที่คุยเรื่องความรัก
〝เอาเถอะนะ! ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่นะ แต่ก็พยายามเข้าละ! ฉันคนนี้จะเป็นแบ็คอัพให้จนกว่าจะสมหวังเลยนา… เพราะงั้นอย่ายอมแพ้เชียวหล่ะ!!!〞
〝ขะ ขอบคุณนะ เนย!〞
แล้วเธอก็ผละตัวออกจากตัวรินที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่เมื่อครู่ แล้วก็วิ่งไปคุยกับคนอื่นอย่างร่าเริง เพื่อปล่อยให้รินคิดเรื่องของตัวเองตามลำพังบ้าง
ให้ตายสิ…. เนยเนี่ยรู้ไปซะหมดจริงๆนะ…
ฮึๆ แต่ก็จริงนะ เราเองก็คงต้องพยายามให้มากขึ้นซะแล้วสิ…. เอาหล่ะ! ต่อไปคงต้องพยายามทำแต้มบ้างแล้วหล่ะนะ… แต่ตอนนี้ก็คงต้องพยายามเรื่องที่ทำได้ตรงหน้าซะก่อน…
…..ก็สัญญากับกรไว้แล้วนี่นะ ว่าจะกลับบ้านไปด้วยกันกับทุกคน….
แต่รินที่กำลังครุ่นคิดอย่างร่าเริงอยู่นั้นก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลย ว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้ เธอจะต้องได้รับรู้ถึงความเป็นจริงอันแสนจะโหดร้ายจนแทบจะทำให้จิตใจของเธอแหลกสลายได้ในเวลาต่อมา…..
❖❖❖❖❖
Facebook Page : https://www.facebook.com/HatthAnant