ตอนที่ 199 ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนัก
สวี่ชิงจือเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ พุ่งเข้าไปข้างๆ เฉินฝานซิงด้วยท่าทางลิงโลด พลันกอดคอเธอเอาไว้แล้วจูบลงไปบนใบหน้าของเธออย่างเต็มแรงสองที
“ฝานซิง เท่สุดๆ ไปเลย ฉันรักเธอเข้าแล้ว”
เฉินฝานซิงหลับตาลงข้างหนึ่ง มองเธอพลางหัวเราะอย่างระอา “นี่หมายความว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรักฉันเลยอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ ฉันยังคงรักเธอเหมือนวันแรกไม่เสื่อมคลาย”
“ปากหวานก้นเปรี้ยว”
“ฉันพูดจริงนะ” สวี่ชิงจือขึ้นไปนั่งบนที่วางแขนเก้าอี้ที่เฉินฝานซิงกำลังนั่งอยู่ ก่อนจะเท้าแขนไว้บนไหล่เฉินฝานซิงแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น
“ตอนนี้ คู่แข่งรายใหญ่ของเราก็คือซูซื่อ ตอนแรกฉันคิดว่าหลังจากข่าวฉาวก่อนเช้านี้จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของพวกเขาลดลงไปได้เยอะ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาไม้นี้…”
สวี่ชิงจือหยุดนิ่งไป ก่อนจะมองเฉินฝานซิงด้วยสีหน้ากังวลปนรู้สึกผิด “แต่ว่า จะปล่อยให้พวกเขาด่าเธอต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จริงเหรอ”
เฉินฝานซิงตีมือสวี่ชิงจือเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ชื่อเสียงพวกนี้ เสียไปยังไง ฉันก็จะเอามันคืนกลับมาแบบนั้นเป็นเท่าตัว”
สวี่ชิงจือก้มหน้ามองเฉินฝานซิง พลางส่ายหน้าไปมา “ฝานซิง เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงด้วย…”
เฉินฝานซิงยิ้มรับ ไม่ได้ตอบโต้อะไร
เปลี่ยนไปแล้ว?
เธอไม่ใช่คนที่จะยอมทนโดนโขกสับโดยไม่ทำอะไรเลยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว…
“แต่จะว่าไป เธอมั่นใจว่าจะดึงผู้ร่วมทุนของซูซื่อมาได้แน่เหรอ ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงในรูปก็คือเธอ ดีไม่ดีภรรยาของเขาอาจจะโกรธแค้นเธอก็ได้…”
แววตาของเฉินฝานซิงฉายประกายรอยยิ้มออกมา น้ำเสียงนิ่งเรียบแต่ทว่ากลับฟังดูมั่นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไม่หรอก”
เมื่อเห็นเฉินฝานซิงดูพึ่งพาได้แบบนี้ สวี่ชิงจือจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เธอเชื่อมั่นในตัวฝานซิงเสมอ!
บางครั้ง เมื่อเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นยังทำให้รู้สึกปลอดภัยกว่าเห็นผู้ชายบึกบึนสูงกำยำเสียอีก ดูเหมือนว่ามีเพียงแค่ตอนที่มีเธออยู่ด้วยเท่านั้น ปัญหาทุกอย่างถึงจะสามารถคลี่คลายไปได้อย่างราบรื่น
ผู้หญิงที่ทำให้คนรอบข้างอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจได้ขนาดนี้ ซูเหิงเนี่ย ตาถั่วจริงๆ
“ไป ฉันเลี้ยงกาแฟเธอเอง”
โล่งอกไปที ทั้งหมดนี้ ต้องยกให้เป็นความดีความชอบของฝานซิงสุดที่รักไปเลย ต้องรีบตบรางวัลซะหน่อยแล้ว
เฉินฝานซิงดูเวลา เพิ่งมาถึงบริษัทได้ยังไม่ทันได้ครึ่งชั่วโมงเลย นี่จะออกไปอีกแล้วเหรอ
“ได้เวลาเข้างานแล้ว…”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันให้เธอแอบโดดงานได้”
“…”
ชั้นล่างของบริษัท ในขณะที่เฉินฝานซิงและสวี่ชิงจือเดินลงมา อวี๋ซงก็กำลังรับโทรศัพท์อยู่ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งในอาคาร
เดิมที เขาตั้งใจจะเอารถมาคืนคุณหนูเฉินเฉยๆ แต่คุณผู้ชายกลับโทรเข้ามากะทันหัน
“ครับ รับทราบ ผมจะระวัง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว คุณชายวาง…”
“นายอย่าเพิ่งพูดอะไรก่อน”
อวี๋ซงยังไม่ทันพูดจบ ป๋อจิ่งชวนก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ให้เขาเงียบปากไปก่อน
เขาคิดว่าคุณชายมีอะไรจะกำชับกับเขาอีก แต่เขารอจนเหงือกแห้งแล้วคุณชายกลับไม่พูดอะไรเลยสักคำ
นี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่
ในระหว่างที่เขากำลังขุ่นข้องใจอยู่นั้นเองก็เหลือบไปเห็นเฉินฝานซิงกับผู้หญิงใส่เสื้อปกขาวดูทันสมัยคนหนึ่งเดินเข้ามา
บนใบหน้าของทั้งสองคนไม่ได้มีอารมณ์ปรากฏชัด ทั้งสองคนเดินไปคุยไปอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าท่าทางมีความสุขกันมากแค่ไหน
จู่ๆ อวี๋ซงก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงขึ้นมาเฉียบพลัน
อะไรจะเซนส์แรงขนาดนั้นเลยเหรอ
อยู่ในระยะห่างที่ไกลขนาดนี้ ก็ยังได้ยินเสียงคุณหนูเฉินผ่านทางโทรศัพท์ได้ด้วยเหรอ
เขาเริ่มรู้สึกไม่อยากจะอยู่รับใช้คุณผู้ชายขึ้นมาแล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาคงไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมความโสดไปชั่วชีวิตแน่
คุณชายเป็นแบบนี้ เขาไม่มีหน้าจะไปจีบผู้หญิงอีกแล้ว
เฉินฝานซิงและสวี่ชิงจือค่อยๆ ใกล้เข้ามา และเสียงของทั้งสองคนก็ดังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนที่ 200 ศัตรูหัวใจของคุณป๋อ
เฉินฝานซิงและสวี่ชิงจือค่อยๆ ใกล้เข้ามา และเสียงของทั้งสองคนก็ดังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฝานซิง ยังไงเธอก็เพิ่งเลิกกับแฟน ตอนนี้หัวใจก็ยังว่างรอคนมาดามใจ ไม่งั้น เธอลองเก็บฉันไปพิจารณาดูสิ พวกเรามาคบกันดีไหม เธอน่ะเป็นเหมือนดาวนำโชคของฉันเลยนะ แต่งงานกับเธอ ฉันจะต้องมีความสุขมากๆ แน่”
อวี๋ซงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จ้องมองไปยังหญิงสาวสองคนด้วยใบหน้าที่มีอารมณ์แปรปรวนขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
เฉินฝานซิงอมยิ้ม “เธอมีลูกให้ฉันได้ไหมล่ะ”
“ถ้าเธออยากได้ล่ะก็ ก็ได้นะ ผสมเทียมไง ถ้าเธออยากเป็นคนคลอดเองก็ได้ ผู้หญิงอย่างพวกเรา ยังไงก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้อยู่แล้ว ถูกไหมล่ะ ไม่เหมือนผู้ชาย ไปไข่ทิ้งเอาไว้แล้วยังต้องมาคอยกังวลอีกว่าใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเองหรือเปล่า พวกผู้ชายน่ะ เรื่องเยอะจะตาย!”
อวี๋ซงยกมุมปาก
ผู้ชาย…
เรื่องเยอะ…
อวี๋ซงกระตุกมุมปากที่ค้างเติ่งอยู่อีกครั้ง…
พอได้ยินแบบนี้ ประโยคนี้ก็ฟังดูมีเหตุผลเหมือนกันนะ…
ทว่า ตอนนี้เขากลับรู้สึกร่างกายหนาวเหน็บไปทั่วทั้งตัว
เขายังรู้สึกได้อีกว่า ไอเย็นที่แผ่ซ่านมาจากปลายสายนั้นมากพอที่จะทำให้โทรศัพท์ในมือเขาแข็งตัวเป็นก้อนน้ำแข็งได้เลย
ส่วนเฉินฝานซิงก็หลุดขำพรวดออกมาเพราะคำพูดของสวี่ชิงจือ
พลางพยักหน้าเห็นด้วย “ก็จริงนะ”
กึก อวี๋ซงร่างกายสั่นสะท้าน เขาฟังออกทันทีว่านั่นคือเสียงด้ามปากกาถูกหักจนเป็นท่อน
อวี๋ซงยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนใบหน้า
จบกัน ทำยังไงดีล่ะทีนี้
อันที่จริงแล้ว เขาเองก็รู้สึกเห็นใจคุณผู้ชายอยู่เหมือนกัน ความรักครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มได้ไม่กี่วัน ก็มีศัตรูหัวใจโผล่ออกมาแล้ว
แล้วศัตรูหัวใจนี้กลับเป็นผู้หญิงเสียได้
คุณผู้ชายนี่แตกต่างไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วย แม้แต่ศัตรูหัวใจก็ยังพิเศษกว่าคนอื่นเลย
“ผู้ช่วยอวี๋?”
จนกระทั่งเฉินฝานซิงเริ่มรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่ เธอจึงหันหน้าไปมองและได้เห็นอวี๋ซงยืนอยู่ตรงนั้น
อวี๋ซงยิ้มแหยๆ ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ที่อยู่ในมือควรจะยกค้างไว้แบบนั้นหรืจะวางลงดี
ชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าโดยที่ยังไม่วางสาย
จากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้เฉินฝานซิง แล้วเดินตรงเข้าไปยื่นกุญแจรถส่งให้กับเธอ
“เกรงว่าคุณอาจจะต้องใช้มันตอนทำงาน ผมก็เลยเอามาให้”
“อ๋อ ขอบใจ”
“ไม่เป็นไรครับ” อวี๋ซงตอบสั้นๆ หนึ่งประโยคแล้วชำเลืองสายตาไปทางสวี่ชิงจือปราดหนึ่ง เห็นเธอส่งสายตาเฉยชาใส่ จึงรีบพยักหน้าให้เธออย่างมีมารยาท ก่อนจะหันไปพูดกับเฉินฝานซิง
“ถ้าย่างนั้นผมไม่รบกวนคุณหนูเฉินแล้ว ขอให้ทำงานให้สนุกนะครับ”
“ค่ะ”
อวี๋ซงรีบย่างขาเรียวยาวเดินจ้ำอ้าวออกไปจากอาคารอย่างรวดเร็ว เมื่อพ้นรัศมีหลายสิบเมตรออกมาแล้วจึงล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา
“คุณผู้ชาย?”
“…”
รออยู่นานก็ไม่มีการตอบรับ
อวี๋ซงมองดูที่มือถือ โอเค วางสายไปแล้ว
จากนั้น อวี๋ซงก็ส่งคนไปสืบประวัติและข้อมูลทั้งหมดของผู้หญิงที่อยู่กับเฉินฝานซิงมาโดยไม่ต้องรอให้ใครสั่ง
–
หลังจากที่อวี๋ซงเดินออกไปแล้ว สวี่ชิงจือจึงเอ่ยถาม “หมอนั่นใครกัน”
“อ๋อ ผู้ช่วยของเพื่อนคนหนึ่งน่ะ…เมื่อคืนดื่มเหล้าไปนิดหน่อย เลยไม่ได้ขับรถกลับมา วันนี้เขาก็เลยเอารถมาคืนให้…”
“เพื่อน?” ใบหน้าของสวี่ชิงจือเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง
“…อื้ม”
เฉินฝานซิงพยักหน้าด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจ
ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะแนะนำป๋อจิ่งชวนให้รู้จักอย่างเป็นทางการจริงๆ
ในร้านกาแฟ แน่นอนว่าเฉินฝานซิงต้องได้รับสายตาแปลกๆ จากผู้คนจำนวนไม่น้อย
เรื่องคราวนี้ หากดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน เฉินเชียนโหรวคือผู้ถือไพ่เหนือกว่าอยู่ เพราะฉะนั้น แฟนคลับพวกนั้นของเธอส่วนใหญ่ต่างก็กำลังมองดูความโชคร้ายของคนอื่นด้วยความปรีดาราวกับกำลังดูเรื่องตลก
เฉินฝานซิงจึงหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจจะจะถูกโจมตีจากคนเหล่านั้นไปได้โดยปริยาย
ส่วนสายตาเหล่านี้ เธอรู้สึกชินชาไปตั้งแต่หกปีก่อนหน้านี้แล้ว
ทันใดนั้นเอง จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น