สองมือของป๋อจิ่งชวนสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่วงท่าทรงพลัง สายตาติดเย็นชานิดๆ จ้องมองไปยังใบหน้างัวเงียของคนเพิ่งตื่น
เฉินฝานซิงคิดว่าไม่ควรยืนขวางประตูคุยกันเช่นนี้
ในเมื่อการเชิญคนเข้ามานั่งเป็นเรื่องที่สมควร
เธอจึงเปิดประตูให้กว้างขึ้นตามความคิด
แววตาของป๋อจิ่งชวนขุ่นข้น หว่างคิ้วเลิกขึ้นอย่างเยือกเย็นยิ่งกว่าเก่า
เฉินฝานซิงรู้สึกสับสน
อยู่ๆ เขาก็มาปรากฏตัวที่นี่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พอมาถึงก็เอาแต่ยืนจ้องเธอ
ป๋อจิ่งชวนไม่ได้ตอบโต้ ทำเอาเฉินฝานซิงต้องเบนสายตากลับไปมองอวี๋ซงที่ยืนอยู่ข้างๆ อีกครั้ง
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยวนาที
อวี๋ซงเองก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อเห็นเฉินฝานซิงขยับปาก เขาก็จึงรีบรุดออกมาด้านหน้าแล้วยกสองถุงใหญ่ในมือขึ้น
“คุณหนูเฉินคือพวกเรา…”
อวี๋ซงยังพูดไม่ทันจบจู่ๆ ป๋อจิ่งชวนที่เก้ๆ กังๆ อยู่เมื่อครู่ ก็ได้แทรกตัวขึ้นมาข้างหน้าดวงตาดุจพญาเหยี่ยวจับจ้องเธออย่างไม่ลดล่ะ
เฉินฝานซิงถึงกับตกใจจนต้องร่นถอยหลังหลบไปด้วยสัญชาตญาณ
ผลคือป๋อจิ่งชวนย่างเข้าประตูมาในสองก้าว คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเธอจากนั้นฝ่ามือหนาก็รั้งเอวของเธอเข้ามาแนบในอ้อมกอด กลิ่นหอมสดชื่นจางๆ เข้าปกคลุมเธอไว้ในเสี้ยวนาที
เธอดิ้นรนตามสัญชาตญาณ กลับได้ยินเสียงของอวี๋ซงที่ยืนอยู่หน้าประตูแว่วขึ้นมา “คุณผู้ชาย…” หลังจากนั้น ปั้ง ตามมาด้วยเสียงประตูที่ปิดลง
ร่างของเธอแข็งทื่อไปและหยุดเคลื่อนไหวลงทันที
อวี๋ซงกุมจมูกตัวเอง เจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด
จู่ๆ คุณผู้ชายก็เป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย
สองร่างในห้องตกอยู่ในความเงียบ ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดเข้าอย่างว่าง่าย ในหน้าแนบอยู่บนอกของเขา มองไม่เห็นสีหน้า มีเพียงก็แต่กลิ่นหอมจางๆ จากเส้นไหมสีดำขลับที่สยายอยู่บนศีรษะที่ลอยเข้ามาเตะจมูก
ท่าทางน่าเอ็นดูเช่นนี้ช่างไม่ต่างอะไรกับลูกแมวที่กำลังเสียขวัญ ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัว
ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ลดสายตาเย็นชาเมื่อครู่ลง ประกายแสงเปล่งขึ้นในดวงตา
ผู้หญิงคนนี้พอได้กอดแล้วรู้สึกดีสุดๆ ไปเลย แม้จะผอมไปหน่อยก็ตาม
กลุ่มผมของคนในอ้อมกอดขยับเขยื้อนเล็กน้อย ป๋อจิ่งชวนก้มหน้าลงมอง
เธอลองหยั่งเชิงดูก่อนจะพบว่าไม่มีอะไรแล้วจึงได้ผละออกมาจากอ้อมกอดของเขา
แม้ในใจจะรู้สึกเสียดาย แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนออกจากเธอ
เธอถอยออกมาสองก้าวเพื่อออกห่างเขาเล็กน้อย
ความสับสนเกิดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวที่เงียบอยู่นาน เรียวนิ้วขาวนุ่มยกขึ้นเกี่ยวเส้นผมที่กระจัดกระจายไปทัดไว้ที่ใบหู
แสงในห้องนี้สว่างไม่น้อย ทำให้ป๋อจิ้งชวนเห็นไปจนถึงขนอ่อนเส้นบางๆ ตรงใบหู
“…คุณจะทำอะไร” ดูเหมือนจะปรับตัวเรียบร้อยแล้วเฉินฝานซิงจึงได้เงยหน้าขึ้นถามเขา
เขาก้มหน้าลงจ้องเธอพร้อมทั้งขยับปาก
“มาทานข้าวกับคุณ”
เธอชะงักเล็กน้อย พลางนึกถึงบทสนทนาในโทรศัพท์เมื่อครู่
“คุณบอกว่าคุณยุ่งมากไม่ใช่เหรอ”
“อืม ผมยุ่งมาแต่ผมก็ยังมา”
น้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย
ป๋อจิ่งชวนยังคงมองเธออยู่เช่นนั้น แววตาติดยึดพื้นที่เล็กน้อย
คอชุดนอนหลุดลุ่ยเปิดออกกว้าง ไหปลาร้าขาวเรียบเนียนน่ามอง ยามที่หันหน้ามา เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าอันงดงามตั้งแต่คางมนจนถึงลำคอ
คลื่นใต้น้ำได้ผุดขึ้นในดวงตาสีนิล
ตกลงว่าเธอมีเสน่ห์เย้ายวน มากแค่ไหน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้อวี๋ซงได้เห็นเธอในสภาพแบบนี้ไปแล้ว
ความร้อนระอุถูกสุมอยู่ในอก เขากำลังคิดอยู่ว่าควรจะควักเอาลูกตาของอวี๋ซงออกมาดีไหม