ฉุงลี่ซือได้ยินแล้วก็เข้าใจความหมายของชายอ้วนทันที ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้า
ท่านดยุกกลับหรี่ตายิ้ม “พูดความจริงกับคุณละกัน จากเดิมแล้ว ลูกน้องผมเห็นว่าคุณหน้าตาสวยขนาดนี้ ก็อยากเอาคุณมาให้ผม แต่ว่า หลังจากนั้นรู้ว่าคุณแซ่ฉุง ผมก็คิด ภรรยาของคุณชายใหญ่ไม่ใช่แซ่ฉุงเหรอ?”
“ในเมื่อคุณเป็นภรรยาคุณชายใหญ่ คุณก็ไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่าคุณชายใหญ่จะไม่อยู่แล้ว คุณเป็นภรรยาของเขา ก็ถือว่าเป็นคนของสหพันธ์วรยุทธ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”
“ผมจะส่งคุณให้กับสหพันธ์วรยุทธอย่างดีทุกอย่าง”
“แต่ว่า ผมยังต้องรออีกคนหนึ่ง นั่นก็คือไป๋ยี่เฟยที่อยู่ร่วมกับคุณ”
“ส่งคุณและไป๋ยี่เฟยให้สหพันธ์วรยุทธพร้อมกัน ผมคิดว่าไม่ว่าสำหรับใครแล้ว ล้วนเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง”
ได้ยินคำพูดนี้ ฉุงลี่ซือก็กระวนกระวาย เธอพูดอย่างร้อนใจและกังวล “ไม่ได้ ขอร้องคุณเถิด ปล่อยฉันไปเถอะนำ ฉันขอร้อง”
ท่านดยุกหรี่ตายิ้มอีก เนื้อบนใบหน้าบี้เข้าหากัน “นายหญิง คุณพูดล้อเล่นอะไรกัน? นี่ผมกำลังรอร้องคุณเป็นแขกที่นี่ มิได้ทำอะไรคุณ นายหญิงทำไมถึงพูดว่าให้ผมปล่อยคุณไปคำพูดแบบนี้?”
ฉุงลี่ซือได้ยินก็อึ้งไป จากนั้นก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “งั้น…….ตอนนี้ฉันไปได้ไหม?”
ท่านดยุกยิ้มและพูดว่า “ได้แน่นอน”
ฉุงลี่ซือดีใจทันที ลุกขึ้นยืนก็คิดจะไป
แต่ทว่า ท่านดยุกพูดขึ้นกะทันหันด้วยเสียงเคร่งขรึม “นายหญิง เดินออกจากสำนักยี่เหมิง ผมก็ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของนายหญิงได้แล้วนะ”
เวลาเดียวกัน ลูกน้องหลายคนตรงหน้าประตูโชว์อาวุธตัวเองออกมา เป็นมีดอันคมเงา
ฉุงลี่ซือรีบหยุดฝีเท้าทันที สีหน้าก็ซีดแล้ว
ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองไร้เดียงสาขนาดไหน
ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนก “ท่านดยุก สถานการณ์ไม่ค่อยปกติ”
พูดไปเขาก็ยื่นมือถือในมือให้ท่านดยุก
ท่านดยุกรับไปดู ไม่รู้ว่าเห็นอะไร เบิกตากว้างทันที “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ยีหยุนเห็นแล้วก็ชิดเข้าไปใกล้ มองมือถือไปทีหนึ่ง เธอก็ตกใจเช่นกัน “นี่……ยังมีคนแย่งกันเป็นแพะรับบาป?”
ท่านดยุกกลับหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที พูดอย่างเย็นชา “สำนักหลิ่วเหมินที่ชุบมือเปิบ อยากเอาความดีของฉันไปเข้าตัวพวกมัน”
สิ่งที่พวกเขาเห็นคือข่าวเรื่องหนึ่ง ข่าวการถูกจู่โจมของหมู่บ้านสือหลู่เมื่อคืน ถูกฆ่าทั้งหมู่บ้าน เผาจนวายวอด และในข่าวคาดเดาว่าเป็นการกระทำของสำนักหลิ่วเหมิน
“สำนักหยางเหมิน พวกสารเลว พวกเขาคิดอยากล่อไป๋ยี่เฟยเข้าไป พวกเขาจะได้จับตัวไป๋ยี่เฟย ส่งตัวให้สหพันธ์วรยุทธ ผลงานทั้งหมดเป็นของพวกมันไปหมด”
ยีหยุนมองดูท่านดยุกที่โมโหร้าย จึงถามว่า “ถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไง?”
ท่านดยุกกัดฟันพูด “ไป ไปหาคนมาให้ฉัน ส่งข่าวออกไป บอกว่าเรื่องนี้สำนักยี่เหมิงของเราเป็นคนทำ ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักหลิ่วเหมิน”
“ฉันไม่เชื่อ ว่าพวกมันจะแย่งผลงานของฉันไปได้”
ยีหยุนได้ยินก็รีบตอบรับ “ค่ะ”
แต่ทว่ายังไม่รอยีหยุนไปสั่ง ลูกน้องคนที่วิ่งเข้ามาคนนั้นก็พูดอย่างระมัดระวัง “ท่านดยุก ตอนนี้……สายไปแล้ว”
“หมายความว่ายังไง?” ท่านดยุกและยีหยุนอึ้งไปตามกัน
ลูกน้องคนนั้นพูดอย่างลำบากใจ “เช้าวันนี้มีคนไปทุบเมืองบันเทิงหมิงจิน บอดี้การ์ดในเมืองบันเทิงพวกนั้นขวางไม่อยู่ ยังถูกคนต่อยคนละหมัดจนกระเด็น”
“หลังจากนั้นพวกเขาจับตัวคนขับแท็กซี่ที่รับคนทุบเมืองบันเทิง คนขับรถบอกว่า เขาเป็นคนบนหมายจับ”
“เหี้ย”
ท่านดยุกด่าอย่างโมโห “ไอ้เหี้ยสำนักหลิ่วเหมิน”
……
เวลาเดียวกัน ตำแหน่งศูนย์กลางของหนานเหมิน มีเฮลิคอปเตอร์นับไม่ถ้วนกำลังมุ่งหน้าไปทางเมืองหมังเฉิง
และที่นี่ ก็คือสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์วรยุทธ
บนเฮลิคอปเตอร์ ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งคนหนึ่งพูดกับผู้พิทักษ์สำนักโย่ว “ท่านใหญ่โย่ว ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ”
“ผิดปกติตรงไหน?” ผู้พิทักษ์สำนักโย่วขมวดคิ้วถาม
ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งคนนั้นพูดพึมพำ “ถ้าเป็นไป๋ยี่เฟยจริง เรื่องนี้มีหลายแห่งที่ไม่ตรงกับเขา”
“พูดมา”
“ท่านใหญ่โย่ว ก่อนหน้านี้ผมศึกษาไป๋ยี่เฟยคนนี้โดยเฉพาะ เห็นในข้อมูลบอกว่า เขาฆ่าฉุงโยวเวยลูกชายของฉุงเฉ่าเจว๋”
ผู้พิทักษ์สำนักโย่วขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณอยากบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ไป๋ยี่เฟยกับฉุงลี่ซือจะกลายเป็นคู่รักกัน? ถ้าอย่างนั้นเขาไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าคุณชายใหญ่ ใช่ไหม?”
“ซ่านโหยว” ในสายตาของผู้พิทักษ์สำนักโย่วมีแววตักเตือนเล็กน้อย “เรื่องบางอย่างคุณไม่ต้องไปคิด คุณแค่ทำคำสั่งของประมุขให้สำเร็จก็พอ”
ซ่านโหยวได้ยินแล้วก็รีบส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ใช่ ท่านใหญ่โยว่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมอยากบอกว่า ตอนที่ไป๋ยี่เฟยฆ่าฉุงโยวเวย วิธีที่เขาใช้”
ผู้พิทักษ์สำนักโย่วอึ้งเล็กน้อย “พูดให้มันเป็นรูปธรรมหน่อย”
ซ่านโหยวก็พูดต่อว่า “เรื่องฆ่าล้างหมู่บ้านท่านดยุกเป็นคนทำ แต่ว่าไม่นาน บนอินเทอร์เน็ตประเทศฉีต่างบอกว่าสำนักหลิ่วเหมินเป็นคนทำ จากนั้นก็มีคนบอกอีกว่าท่านดยุกเป็นคนทำ”
“ผมว่า เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเพราะท่านดยุกอยากให้ไป๋ยี่เฟยเข้าไปติดกับเองถึงทำเช่นนี้ แต่ทำไมถึงมีคนมากมายบอกว่าสำนักหลิ่วเหมินเป็นคนทำ?”
“แม้กระทั่ง สำนักหลิ่วเหมินเองก็ไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นคำต่อว่าในอินเทอร์เน็ตก็ท่วมท้นไปในทันที มากกว่าแอคหลุมของทั้งสองฝ่ายอีก”
“ดูจากลักษณะภายนอกก็อยากจะบอกพวกเราว่า เรื่องฆ่าล้างหมู่บ้านทำโดยสำนักหลิ่วเหมินจริง อีกอย่าง ไป๋ยี่เฟยได้ไปแก้แค้นกับสำนักหลิ่วเหมินแล้ว”
ผู้พิทักษ์สำนักโย่วฟังแล้วก็เงียบไปเลย
เขาก็เคยดูข้อมูลของไป๋ยี่เฟย และรู้ว่าไป๋ยี่เฟยฆ่าฉุงโยวเวยยังไง ถึงหนีเอาตัวรอดได้
ดังนั้น เรื่องที่ไป๋ยี่เฟยทำในตอนนี้ กับขั้นตอนการฆ่าฉุงโยวเวยในครั้นนั้นคล้ายคลึงกันมาก
ผู้พิทักษ์สำนักโย่วพูดอย่างเย็นชา “ไป๋ยี่เฟยคนนี้เจ้าเล่ห์เกินไป สิ่งที่เขาทำตอนนี้อาจจะเป็นการปล่อยข้อมูลเท็จเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามติดกับ”
“ก่อนหน้านี้พวกเราได้รับข่าวสาร ไป๋ยี่เฟยทุบทำลายเมืองบันเทิงหมิงจินของเมืองหมังเฉิง ตอนนี้เขาอยู่เมืองหมังเฉิง”
แต่ซ่านโหยวกลับพูดว่า “แต่เขาแค่ทุบเมืองบันเทิงเท่านั้น กลับไม่ได้ไปสำนักหลิ่วเหมิน นี่ก็เป็นจุดที่ผิดปกติ”
ผู้พิทักษ์สำนักโย่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพูดว่า “เขาอยากสร้างความกดดันให้กับสำนักหลิ่วเหมินใช่ไหม?”
“ท่านใหญ่โย่ว ผมก็ยังรู้สึกว่ามันผิดปกติ” ซ่านโหยวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าหากเขาไปที่เมืองหมิงเฉิงตอนนี้ พวกเราก็เท่ากับจับอะไรไม่ได้เลย?”
“หรือไม่ล่ะก็ ตอนนี้เขาได้ไปที่ยี่เหมิงแล้ว พวกเราควรทำยังไงดี?”
“เพราะว่า โดยนิสัยของท่านดยุกแล้ว เขาต้องดูหมิ่นศัตรูอย่างแน่นอน”
คำพูดเพิ่งจบลง มือถือของผู้พิทักษ์สำนักโย่วดังขึ้น
“ผู้พิทักษ์สำนักโย่ว สำนักหลิ่วเหมินถูกคนระเบิดแล้ว”
ได้ยินคำนี้แล้ว ผู้พิทักษ์สำนักโย่วดีใจทันที จากนั้นก็หันไปพูดกับซ่านโหยวว่า “ไป๋ยี่เฟยยังอยู่เมืองหมังเฉิง”
“เร็ว พวกเรารีบไปที่เมืองหมังเฉิง ต้องจับตัวไป๋ยี่เฟยให้ได้”
สำนักหลิ่วเหมินถูกโจมตี ผู้พิทักษ์สำนักโย่วมั่นใจว่าไป๋ยี่เฟยต้องอยู่เมืองหมังเฉิง
แต่ทว่าซ่านโหยวยังคงรู้สึกว่าผิดปกติ “ผู้พิทักษ์สำนักโย่ว ผมรู้สึกว่า ส่งคนไปที่เมืองหมิงเฉิงสักรอบจะปลอดภัยกว่า”
…….
เป็นอย่างข่าวที่พวกเขาได้รับ สำนักงานใหญ่สำนักหลิ่วเหมินถูกคนระเบิดจริง
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้อยู่เมืองหมังเฉิง เขานั่งรถเมล์ไปที่เมืองหมิงเฉิง แต่ให้หมีฉาอยู่ที่เมืองหมังเฉิง
เขาพูดกับหมีฉาว่า “คุณไม่อยากตาย และไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นคนทรยศ ก็อยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง ผมจากไปหนึ่งชั่วโมง ค่อยจุดระเบิด”
ชีวิตของหมีฉาและภรรยาของเขาอยู่ในกำมือเขา หมีฉาไม่กล้าไม่เชื่อฟัง
เพราะฉะนั้น หลังจากระเบิดแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็มาถึงสำนักยี่เหมิงแล้ว
เป้าหมายครั้งนี้ของไป๋ยี่เฟยชัดเจนมาก เขาจะแก้แค้นแทนคนทั้งหมู่บ้าน
เวลาเดียวกัน เขายังจะปล้นเครื่องบิน
แต่ว่าเขาขับเครื่องบินไม่เป็น เขาต้องการแค่ปล้นเครื่องบินหนึ่งลำ แล้วข่มขู่นักบินของท่านดยุกให้เขาขับ ส่งตัวเองกลับไป
ตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือเวลา
หลังจากที่สำนักหลิ่วเหมินถูกระเบิดแล้ว คนสหพันธ์วรยุทธที่ได้ข่าวนี้จะรีบไปที่เมืองหมังเฉิง
ส่วนท่านดยุกจะเป็นเพราะสำนักหลิ่วเหมินแย่งผลงานของเขาแล้วรีบหาวิธี
ถ้าเช่นนั้น เวลานี้ไป๋ยี่เฟยปรากฏตัวที่สำนักยี่เหมิง ท่านดยุกก็ต้องดีใจอย่างบ้าคลั่ง อีกอย่างเขาไม่มีวันปล่อยข่าวนี้ออกไปอย่างรีบร้อน เพราะว่าเขาเอากวาดผลงานทั้งหมดเอง
แต่ว่ามีเวลาจำกัด เขาต้องเอาชนะยอดฝีมือระดับที่หนึ่งคนเดียวเท่านั้นในนี้ให้ได้อย่างรวดเร็ว และฉวยโอกาสจับตัวท่านดยุกไว้ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ออกไป