บทที่ 103
ห้องทำงานไป๋ยี่เฟย
“ท่านประธาน หลี่ต้าไห่มาแล้วค่ะ” หลงหลิงหลิงเข้ามารายงาน
ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้ว “เขามาทำอะไร?”
“เขามาหาพวกเราเพื่อซื้อกิจการของหลี่ซื่อกรุ๊ป”
“หืม?” ไป๋ยี่เฟยคิดหลังจากได้ยิน แล้วพูด “เธอพาเขาไปที่ห้องประชุม เธอคุยกับเขาในส่วนที่สำคัญก็พอ”
“เขาบอกว่าจะคุยกับท่านประธานเท่านั้นค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจ “เรื่องมาก”
แล้วพูดต่อ “เธอบอกเขาว่าวิดีโอคอลเอา”
“ได้ค่ะ ท่านประธาน” หลิงหลงหลงตอบและออกไป
ผ่านไปไม่นาน หลิงหลงหลงหยิบโทรศัพท์มาเปิดแล้ววิดีโอคอล
ส่วนไป๋ยี่เฟยก็ปลอมตัวตัวเองในเวลานี้ ติดหนวดปลอม ให้คนหาแว่นสีดำมาให้ สุดท้ายแล้วกดเครื่องเปลี่ยนเสียง เพอร์เฟกต์!
ในวิดีโอ หลี่ต้าไห่มองภาพในจอ แล้วถาม “ท่านคือประธานของโหวจวี๋?”
“ใช่ฉันเอง” ไป๋ยี่เฟยพูด
“สวัสดีครับท่านประธาน ผมคือหลี่ต้าไห่จากกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป”
“คิดว่าท่านประธานก็พอทราบสถานการณ์ตอนนี้ของหลี่ซื่อกรุ๊ป นิวซีกรุ๊ปและคริสตัลกรุ๊ปร่วมมือกันทำให้หลี่ซื่อกรุ๊ปแย่ลง หลี่ซื่อกรุ๊ปแทบจะรั้งไม่อยู่แล้ว”
“แล้วยังไง?” ไป๋ยี่เฟยถามอย่างไม่ใส่ใจนัก
หลี่ต้าไห่ได้ยินจึงตอบว่า “ดังนั้นพวกเราจึงอยากให้โหวจวี๋กรุ๊ปซื้อกิจการของหลี่ซื่อกรุ๊ป
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมากนัก แต่ถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ “เงื่อนไขของพวกคุณคืออะไร?”
หลี่ต้าไห่อยากบอกว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร แต่พอคิดถึงที่นายท่านหลี่กำชับไว้ จึงพูดว่า “มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวครับ ก็คือนายท่านหลี่หวังว่าอยากพบท่านประธานครับ”
ไป๋ยี่เฟยตกใจ แต่ไม่แสดงสีหน้า
ทำไมนายท่านหลี่ถึงอยากเจอเขา?
แต่พอคิดแล้ว เรื่องที่เขาเป็นประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ป ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังนายท่านหลี่แล้ว สำหรับเขา ปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์
ไป๋ยี่เฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอบกลับว่า “รู้แล้ว มะรืน ฉันจะไปบ้านตระกูลหลี่”
“ขอบคุณท่านประธานมากครับ” หลี่ต้าไห่ได้คำตอบที่เขาอยากได้ ในใจดีใจมาก
หลังจากหลี่ต้าไห่กลับไป ไป๋ยี่เฟยให้หลงหลิงหลิงไปจัดการเรื่องที่จะไปบ้านตระกูลหลี่
หลังสั่งการเสร็จ หลงหลิงหลิงไม่ตอบสนองอะไร
“ผู้ช่วยหลง?” ไป๋ยี่เฟยเตือนอีกครั้ง
หลงหลิงหลิงได้สติหลังได้ยินเสียง “คะ? ท่านประธาน”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “ผู้ช่วยหลงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า? เหม่อลอยบ่อย”
หลงหลิงหลิงรู้สึกผิดเล็กน้อย ช่วงนี้เพราะว่าเรื่องที่บ้านของเธอ ทำให้คิดมากหลายเรื่อง จึงละเลยการทำงานไปมาก
ไป๋ยี่เฟยเห็นก็พอจะเดาได้ “เฝิงสือตงเป็นยังไงบ้าง?”
“คุณแม่ฉันบอกว่าส่งไปที่โรงพยาบาลจิตเวชแล้วค่ะ”
“อ่อ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
หลงหลิงหลิงตอบจบแล้วออกไป
ไป๋ยี่เฟยมองด้านหลังของเธอ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
ช่วงนี้สภาพของหลงหลิงหลิงไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เขาก็ดูออก แต่ว่าเฝิงสือตงไปโรงพยาบาลจิตเวช หลงหลิงหลิงไม่ใส่ใจหรอก พูดตามตรงก็น่าจะไม่มีแล้วมั้ง?
เว้นแต่ที่บ้าน…..
ไป๋ยี่เฟยเคาะโต๊ะเบาๆ แล้วตัดสินใจทันที
เวลาอาหารกลางวัน หลงหลิงหลิงได้รับโทรศัพท์จากไป๋ยี่เฟย
“มาที่จอดรถ”
ไป๋ยี่เฟยพูดจบก็วางสายทันที ทำให้หลงหลิงหลิงกังวล เธอคิดว่าไป๋ยี่เฟยจะจัดการกับงานสำคัญบางอย่าง จึงรีบไปที่จอดรอด
ถึงที่จอดรถ ไป๋ยี่เฟยพูดว่า “ขึ้นรถ”
หลงหลิงหลิงเชื่อฟังแล้วขึ้นรถ ถามว่าจะไปไหน
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างมีเลิศนัย “ถึงก็รู้แล้ว”
หลงหลิงหลิงสงสัย “แล้วพวกเราไปคุยงาน หรือว่า….”
ไป๋ยี่เฟยขับรถแล้วตอบกลับ “พูดถึง ควรถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว”
“คะ?” หลงหลิงหลิงตกตะลึง
เรื่องส่วนตัว?
เรื่องส่วนตัวแล้วทำไมต้องเรียกเธอด้วย?
หลงหลิงหลิงเห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไรมากกว่านี้ ในใจสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง หลงหลิงหลิง มองไปรอบๆ ทิวทัศน์ริมถนนที่คุ้นเคย….
“ท่านประธานคะ นี่….”
ไป๋ยี่เฟยจอดรถไว้หน้าทางเข้าของลู่ผิงเซียง แล้วถามว่า “บ้านเธอไปทางไหน? บอกทางสิ”
หลงหลิงหลิงบอกทางอย่างงงๆ หากไม่ใช่เพราะเธอมีความทรงจำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับทางกลับบ้าน เธอคงไม่รู้ว่าตัวเองเดินอยู่ที่ไหน
เดินตามทางที่หลงหลิงหลิงบอกตลอด ไม่นานก็เห็นบ้านของหลงหลิงหลิง
บ้านของหลงหลิงหลิงเป็นสวนเล็กๆ รอบๆ ยังมีรั้วและสวนดอกไม้ แต่ไม่มาก ดูสวยดีเหมือนกัน
แต่ว่าตอนนี้สวนของบ้านเธอมีผู้คนมากมาย
ทั้งสองถึงบ้านประตู หลงหลิงหลิงเห็นสถานการณ์ข้างใน ใบหน้าขาวซีดทันที
ไป๋ยี่เฟยมองหลงหลิงหลิง พูดเบาๆ “เข้าไปเถอะ! อีกไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเผชิญหน้าอยู่ดี”
หลงหลิงหลิงกัดริมฝีปากไม่พูดอะไร
ขณะนั้น ข้างในสุดของสวน มีชายวัยกลางคนยืนอยู่ ข้างกายมีหญิงวัยกลางคน ด้านหลังพวกเขา คือเฉินเสี่ยวเทียน
ตรงข้ามของพวกเขา มีกลุ่มอันธพาลยืนอยู่ ตรงกลางคือชายวัยกลางคน ดูเหลวไหล
พ่อของหลงหลิงหลิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ขอเวลาอีกสักสองสามวันได้ไหม? พวกเราคืนเงินแน่นอน”
“ถุ๊ย!” เฝิงก่งพ่อของเฝิงสือตงจ้องตา ใบหน้าดุร้าย “ฉันไม่รู้ว่าให้เวลามากี่วันแล้ว? ไม่ถูก กี่ปีแล้ว!”
“แกคืนตอนไหนเหรอ? ห๊ะ?”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่บอกทางให้แก ให้ลูกสาวแกแต่งงานกับลูกชายฉัน สุดท้ายล่ะ เกือบจะดีแล้ว ลูกสาวแกกลับทำเรื่องขัดต่อประเพณี แล้วยังส่งลูกชายฉันเข้าโรงพยาบาลจิตเวช!”
“ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกแกเลย! วันนี้ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องคืนเงิน”
ตอนนี้พวกเราไม่มีเงินจริงๆ …”
“คำพูดดีๆ ใครจะพูดไม่ได้? ฉันไม่เชื่อหรอก!” เฝิงก่งตะคอก
ต่งหยุนเห็นจึงพูด “พวกเราไม่มีเงินจริงๆ คุณให้เวลาอีกสักสองสามวันเถอะ?”
เฝิงก่งได้ยินแล้วมองทั้งสอง หัวเราะเฮอะๆ “พูดตามตรง ครอบครัวของพวกเราก็มีไมตรีจิตความรักใคร่ต่อกัน เกือบจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่ติดหนี้ก็ต้องคืน เป็นหลักการที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
เฉินซวงพยักหน้าอย่าแรงเมื่อได้ยิน “ใช่ๆๆ เงินพวกเราคืนแน่นอน เพียงแค่รออีกไม่กี่วันได้ไหม?”
ต่งหยุนพยักหน้า ถ้าสามารถคืนเงินได้ พวกเขาจะลีลามาถึงตอนนี้เหรอ?
เฝิงก่งไม่สนใจคำพูดของพวกเขา แต่พูดว่า “ฉันรู้ งั้นเอาอย่างนี้ไหม! ทำตามวิธีเดิม ให้ลูกสาวนายแต่งงานกับลูกชายฉัน หนี้บ้านพวกแกก็จะหายหมด เป็นไง?”