เวลาตีสองครึ่ง ตอนที่เหล่าผู้คนกำลังหลับใหล
แต่สำหรับไป๋ยี่เฟยแล้ว ก็คือเวลาบ่ายสองของตอนกลางวัน เป็นเวลาที่แสงของดวงอาทิตย์แผดกล้าที่สุด
หากเป็นกลางวัน ในเมืองควรจะมีรถรากับผู้คนสัญจรไปมา ร้านรวงสองข้างถนนก็กำลังเปิดอยู่เช่นกัน
แต่ตอนนี้ ร้านรวงล้วนปิดหมดแล้ว บนถนนก็ไร้รถรากับผู้คน ดูไปแล้วก็เหมือนเมืองร้างเมืองหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยเดินอยู่บนถนนใหญ่ตามลำพัง และไม่รู้ว่าเดินอยู่นานเท่าไหร่ เขาเพิ่งจะเห็นร้านค้าร้านหนึ่งเปิดประตูอยู่ ดังนั้นจึงเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล
ตอนที่เดินไปถึงหน้าประตูถึงพบว่า นี่ถึงกับเป็นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ร้านหนึ่ง
บอกตามตรง ไป๋ยี่เฟยโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมาสถานที่เช่นนี้เลย
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ สาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่คนหนึ่งที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็รีบโปรยรอยยิ้มบางอย่างมืออาชีพทันที “คุณคะสวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าเหมาทั้งคืนหรือจับเวลาคะ?”
ไป๋ยี่เฟยเห็นว่าที่ด้านข้างมีเคาน์เตอร์บาร์อยู่ที่หนึ่ง จึงพูดว่า “มาดื่มกาแฟ”
“ได้ค่ะ เชิญนั่งทางนี้ค่ะ”
มาที่เขตกาแฟ ไป๋ยี่เฟยนั่งลงบนโซฟา หน้าโซฟามีโต๊ะกลางเล็กๆ หนึ่งตัว ด้านบนมีเมนูอาหารอยู่เล็กน้อย เขามองดู ถึงกับสั่งกาแฟแค่แก้วเดียว
หลังเขาสั่งกาแฟแล้ว ก็นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเอ้อระเหย
สาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กับพนักงานสองสามคนนั่งนินทาอยู่ด้วยก้น
“ดึกดื่นมาตีสองกว่าก็ดื่มแค่กาแฟ ไม่ยอมเล่นคอมพิวเตอร์”
“เฮ้อ สงสัยจะมานั่งแช่โซฟาอีกคน”
กลางดึกมีคนส่วนมากที่อยู่โรงแรมไม่ไหว ก็มาอยู่ที่ร้านเน็ตเพื่อให้ผ่านกลางคืนไป เพราะอย่างไรสั่งเครื่องดื่มแก้วหนึ่งสิบกว่าหยวนก็สามารถอยู่ได้ทั้งคืน คุ้มกว่าอยู่ในโรงแรมมาก
ไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน เขาเพียงรู้สึกว่ากลางวัน อยู่ที่นี่มีกลิ่นอายคนเท่านั้น
เขาทางหนึ่งรอกาแฟ ทางหนึ่งกวาดตามองร้านแห่งนี้
ทันใดนั้น เขาก็มองเห็นเงาร่างหนึ่งที่คุ้นตา
ในที่นั่งที่ห่างจากเขาไม่ไกลนัก มีสาวน้อยสวมกางเกงยีนขาด มัดผมหางม้าสองข้างคนหนึ่ง กำลังสวมหูฟังตะโกนเสียงดังว่า “แกก็บอกพิกัดมาสิ? บอกพิกัดเป็นไหม? ไม่เป็นมาเล่นPUBGทำไม!”
ไป๋ยี่เฟยพลันชะงักไป เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
หญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือหญิงสาวที่ควรนั่งเครื่องบินกลับไปเมืองเทียนเป่ยแล้ว
ซึ่งในเวลานี้ คนที่อยู่ตรงข้ามกับหญิงสาวตบที่แผ่นกั้น “นี่ สาวสวย เบาเสียงหน่อย คุณชายของเราดูถ่ายทอดสดอยู่นะ!”
หญิงสาวไม่สนใจเขา แต่ตะโกนต่อว่า “ระเบิดมาแล้ว แกมัวทำอะไรอยู่วะ? ยังไม่รีบหนีอีก!”
“แกบ้าหรือเปล่า? ปล่อมลมยางทำอะไร”
“แม่ง! ไอ้พวกงี่เง่า! ฉัน……”
ชายที่อยู่ตรงข้ามเหมือนจะทนไม่ไหว เขาลุกพรวดขึ้นมา แล้วมาหยุดตรงหน้าหญิงสาว ใช้มือดึงหูฟังของหญิงสาวออก “ยัยบ้า เธอหูหนวกหรือไง? เธอ……หืม?”
หญิงสาวมองเขาอย่างเย็นชา “เอาหูฟังคืนมาให้ฉัน!”
ชายคนนั้นไม่ได้พูดกับเธอ แต่เรียกคนข้างๆ แทน “คุณชายมานี่เร็ว สาวน้อยคนนี้หน้าตาไม่เลวเลย”
ไม่นานนักชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีสี่ห้าคนที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามา พวกเขาล้อมหญิงสาวไว้ตรงกลาง
“หน้าตาไม่เลวเลย!”
“ใช้ได้ๆ!”
หญิงสาวมองคนเหล่านี้ ก็รู้ตัวว่าตนเองกำลังเสียเปรียบ จึงรีบลุกขึ้นมา “พวกนายทำอะไร?”
“โธ่เอ๊ย เธอว่าสาวน้อยคนสวยอย่างเธอ เล่นคนเดียวมันจะสนุกแค่ไหนเชียว ถ้าไม่อย่างนั้นให้พวกเราพี่น้องเล่นเป็นเพื่อนเธอดีไหม?”
“จริงสิ เธอชอบเล่นเกมPUBGสินะ? คุณชายของเราก็ชอบเหมือนกัน พาเธอไปเล่นด้วยกันดีไหมล่ะ?”
ที่ผู้ชายเหล่านี้สวมใส่ล้วนแต่งตามอำเภอใจอย่างมาก อีกทั้งผมยังย้อมเป็นสีสันต่างๆ นิสัยก็ดูอันธพาลอย่างนั้น มองแวบเดียวก็รู้ว่าพวกเขาเป็นพวกกุ๊ยข้างถนน
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือคุณชายที่พวกเขาพูดถึง เขาถึงกับสวมใส่สูทลำลองราคาแพง
สองมือคุณชายสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พูดอย่างคิดว่าตนเองนั้นหล่อเหลามาก “สาวสวย พี่ชายชอบเผ็ดๆ แบบเธอที่สุด มาเล่นกับพี่ชาย พี่ชายรับรองว่าจะให้เธอพอใจ แถมยังมอบสิ่งดีๆ ให้เธอไม่น้อยเลย!”
“ใช่แล้วๆ!”
“คุณชายของเรามีเงินมากมาย!”
กุ๊ยสองสามคนรีบกล่าวสำทับ
หญิงสาวพูดหน้าขรึมว่า “ไสหัวออกไปให้หมด ไม่อย่างนั้นล่ะก็……”
“เธอจะทำอะไรได้?” มีคนยิ้มถาม “ใช้หมัดเล็กๆ ของเธอทุบตีที่หน้าอกของคุณชายเราใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า…..”
เวลานี้ พนักงานก็ยกกาแฟที่ไป๋ยี่เฟยสั่งมา พูดอย่างสุภาพเป็นอย่างยิ่งว่า “กาแฟของคุณค่ะ ค่อยๆ ดื่มนะคะ”
ไป๋ยี่เฟยมองพนักงาน พนักงานทำเป็นไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นทางด้านนั้น จึงอดที่จะชี้ไม่ได้ แล้วถามอีกว่า “พวกคุณไม่สนใจเหรอ?”
พนักงานชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างจนปัญญาว่า “คุณคะ เรื่องบางเรื่องยุ่งไม่ได้ อีกทั้งคุณชายท่านนั้นก็คือลูกเจ้าของร้านของร้านเรา”
ไป๋ยี่เฟยพลันเข้าใจขึ้นมา ที่แท้นั่นเป็นลูกชายของเจ้าของร้านพวกเขา มิน่าพวกเขาถึงไม่เข้าไปยุ่ง
พนักงานกลับไปยังบาร์เครื่องดื่ม กล่าวกับสาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ว่า “น่าเสียดาย หญิงสาวต้องถูกทำลายอีกคนหนึ่งแล้ว”
สาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่พยักหน้อย่างถอนหายใจกล่าวว่า “คุณชายทำแบบนี้บ่อยๆ ต่อไปกิจการร้านเราจะเป็นยังไง?”
“เบาเสียงหน่อย เดี๋ยวคุณชายจะได้ยินเข้า ไม่อย่างนั้นเธอจะถูกไล่ออกได้!” พนักงานรีบเอ่ยเตือนสาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ “ยิ่งไปกว่านั้น บ้านคุณชายมีเงิน ร้านเน็ตเป็นแค่ร้านหนึ่งเท่านั้น เป็นแค่สถานที่ที่ให้คุณชายไว้เล่นสนุกกับเพื่อนเขา จะได้กำไรหรือไม่ก็ไม่สนใจ”
“เฮ้อ……” เสียงของสาวอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เบามาก “หากมีคนมาสนใจบ้างก็ดีสิ”
พนักงานส่ายหน้ากล่าวว่า “จะมีคนสนใจเรื่องเช่นนี้ที่ไหนกัน? คนมีเงินไม่มีทางมาที่นี่อย่างแน่นอน ที่นี่มีแต่คนธรรมดา ล่วงเกินคุณชายไม่ไหวหรอก ย่อมไม่มีใครสนใจ”
ไป๋ยี่เฟยฟังคำพูดของพวกเขาจบ พลันเข้าใจขึ้นมาทันที
แถมยังฟังออกได้ว่า คุณชายร้านนี้เคยก่อความเสื่อมเสียให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่หยุด
ซึ่งตอนนี้ทางฝั่งวัยรุ่นสองสามคนที่ล้อมหญิงสาว ก็เริ่มยื้อยุดกันแล้ว
“หลีกไป! อย่าแตะต้องตัวฉัน!”
หญิงสาวปัดป้องพวกเขา กลับทำให้พวกเขายิ่งลวนลามอย่างกำเริบเสิบสานขึ้นกว่าเดิม
“สาวสวย เราไปเล่นกันในห้องเถอะ!”
“มาๆๆ พี่ชายรับรองว่าเธอจะชอบ!”
วัยรุ่นเหล่านั้นลากแขนหญิงสาวพาไปยังห้องของเขา
ไป๋ยี่เฟยเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ยืนขึ้นทันที “หยุดมือให้ฉันให้หมด!”
ได้ยินว่ามีคนตำหนิ ทุกคนก็ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็มองมาที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้ามา พูดเสียงเย็นว่า “ปล่อยเธอ!”
วัยรุ่นเหล่านั้นกลับเชื่อฟัง แต่เชื่อฟังอย่างแท้จริง โดยการปล่อยหญิงสาว แล้วเปลี่ยนมาล้อมไป๋ยี่เฟยแทน
“ใครที่ไหนมันมายุ่งเรื่องชาวบ้าน?”
“อยากเป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงามเหรอ?”
“ไอ้กระจอกอย่างแกก็กล้ามามาแหยมกับคุณชายของเรา แกเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม?”
คุณชายมาหยุดตรงหน้าไป๋ยี่เฟย หลังเขามองไป๋ยี่เฟย ก็ทำสีหน้าท่าทางเหยียดหยามเป็นอย่างมาก “พี่น้องท่านนี้ ทำตัวกระจอกอย่างว่าง่ายไม่ได้เหรอ ทำไมจะต้องมารนหาที่ตายด้วย?”
ซึ่งหลังหญิงสาวถูกปล่อยก็มองเห็นว่าที่อยู่ตรงหน้าถึงกับเป็นไป๋ยี่เฟย จึงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจทันที
ไป๋ยี่เฟยกล่าวกับคุณชายคนนั้นนิ่งๆ ว่า “รนหาที่ตาย?”
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็เยาะหยันออกมา “คนบางคนทั้งๆ ที่มีจิตใจดีงาม เธอควรมีชีวิตอยู่ กลับต้องมาตาย”
“คนบางคนทั้งๆ ที่มีจิตใจชั่วร้าย สมควรตาย กลับยังมีชีวิตอยู่”
คำกล่าวเหล่านี้ทำให้พวกเขาชะงักไป อย่างหนึ่งเป็นเพราะเข้าใจความหมายของเขาเป็นอย่างดี อีกอย่างหนึ่งเป็นเพราะท่าทีของเขา
คนทั่วไปเห็นเหตุการณ์นี้คงจะหวาดกลัว แต่ไป๋ยี่เฟยกลับสงบนิ่งมาก
ความสงบนิ่งนี้ยั่วโมโหคุณชายผู้นี้ “แม่ง! ลุย! เล่นงานมัน!”
ด้วยเหตุนี้กุ้ยเหล่านั้นจึงพุ่งเข้าไปทันที
แต่ว่า……
“พลั่ก!”
ภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขามองไม่ชัดโดยสิ้นเชิง พริบตาก็มีคนหนึ่งล้มกระเด็นออกไป แถมยังกระเด็นออกไปไกลมาก จากตรงนี้ไปถึงตรงนั้นของช่องทางเดิน
คนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าต่างมองอย่างโง่งม