ไป๋ยี่เฟยกลับทำหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดด้วยความเกรี้ยวกราด“ผู้ชายคนหนึ่ง แถมยังเป็นผู้ชายของแดนเทพยุทธ์ กลับลงมือกับผู้หญิงที่ไม่มีทางต่อสู้”
“และผู้หญิงคนนั้นยังเป็นผู้หญิงของฉันอีกด้วย เธอถูกรังแก พวกนายจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง?”
ทุกคนถึงกับเงียบไปในทันที
ไป๋ยี่เฟยหันกลับไป“ไม่มีอะไรให้ต้องใจเย็น!”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็เดินตรงไปที่รถที่เขาเดินจากมา
ทุกคนอยากจะหยุดเขาไว้ แต่ความเร็วของไป๋ยี่เฟยนั้นเร็วเกินไป เขารีบมุดเข้าไปในรถ และสตาร์ทรถ เสียงรถดัง“ฮึม” แล้วพุ่งออกไปทันที
ไป๋ยี่เฟยขับรถไปด้วยโทรศัพท์หาจางหัวปินไปด้วย“พี่จาง ช่วยผมหาขบวนรถของตระกูลหวังหน่อยครับว่าพวกเขาไปถนนเส้นไหน?”
……
ในขณะเดียวกัน บนทางหลวงเส้นหนึ่ง ขบวนรถแต่งงานของตระกูลหวังจู่ๆก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
รถคันที่อยู่ด้านหน้าสุด มีหวังสือชิ่ง กับชายวัยกลางคนและอาหยาง
ชายวัยกลางคนกุมที่คอของอาหยางไว้ มือของเขาเต็มไปด้วยเลือดของอาหยาง แต่วินาทีนี้ เขาวางมือลงมา
เขาพูดว่า“อาหยาง……ตายแล้ว”
พอได้ยินคำนี้ ใบหน้าของหวังสือชิ่งขรึมลงทันที
มือของชายวัยกลางคนร่วงลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรง เลือดที่อยู่ในมือของเขาไหลหยดลงมาจากนิ้วมือสู่เบาะรถ
คนที่อยู่ในรถด้านหลังลงมากันทั้งหมด พวกเขาล้อมรอบรถคันนั้นไว้ ทุกคนก้มหน้าลง ดูเคร่งขรึมมาก
“อาหยาง!”
หวังเจียจุ้นอยู่รถคันที่สอง หลังจากที่เขาลงมาจากรถก็ทรุดลงกับประตูรถ ร้องไห้ไปด้วยและตะโกนโหวกเหวกโวยวายไปด้วย
ในพื้นที่นี้ ใบหน้าของทุกคนต่างปกคลุมไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
หวังสือชิ่งพูดอย่างเคร่งขรึมว่า“อาหยางทำงานหนักให้กับตระกูลหวังมาตลอดชีวิต และมีคนรุ่นหลังจำนวนมากที่อาหยางเป็นคนเลี้ยงดูฟูมฟักมา”
ชายวัยกลางคนที่ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เขาอดที่จะสะอื้นออกมาไม่ได้
หลังจากนั้น หวังสือชิ่งก็พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“วันนี้คนที่มาสร้างความวุ่นวายทั้งหมด ไปสืบมาให้ฉัน ฉันจะให้พวกมันทั้งหมดลงหลุมไปกับอาหยาง!”
พึ่งพูดจบคำนี้ หวังเจียจุ้นที่ฟุบอยู่ตรงกระจกรถจู่ๆก็ลุกขึ้นยืน พุ่งตรงไปยังรถที่เขาอยู่ แล้วลากหลงหลิงหลิงที่อยู่บนรถลงมา
“เพี๊ยะ!”
“เพราะแกคนเดียว!เพราะแกอาหยางถึงต้องตาย!”
เขาพูดไปด้วย เตะต่อยหลงหลิงหลิงไปด้วย
หลงหลิงหลิงเซล้มลงกับพื้น เธอถูกหวังเจียจุ้นทั้งเตะและตี เธอไม่สามารถต้านทานได้ด้วยซ้ำ
แต่ถึงความเจ็บปวดมันทำให้เธอล้มลง เธอก็ไม่แม้แต่จะปริปาก
เห็นได้ชัดว่า หวังเจียจุ้นไม่ชอบหลงหลิงหลิงด้วยซ้ำ หลงหลิงหลิงเป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น ขอแค่ทำตามเป้าหมายสำเร็จ หลงหลิงหลิงก็เป็นของเล่นที่ระบายอารมณ์เท่านั้น
อาหยางตายแล้ว เขาจะเอาความผิดทั้งหมดมาลงกับหลงหลิงหลิง
ถ้าหากคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาและหลงหลิงหลิง ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้หรอก
หลังจากที่หวังสือชิ่งยืนมองดูอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงสั่งลูกน้องไปว่า“อย่าให้คุณชายทำร้ายคนจนตาย”
ลูกน้องจึงรีบเข้าไปอยู่ตรงหน้าของหวังเจียจุ้น แล้วพูดสิ่งที่หวังสือชิ่งกล่าวมา
หวังเจียจุ้นจึงหยุดลง
แต่หวังสือชิ่งก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ตอนนี้ รีบหันรถกลับไปเดี๋ยวนี้!”
คนขับรถรีบหันรถกลับไปทันที
แต่พวกเขาพึ่งจะหันรถกลับ ด้านหน้าก็มีรถคันหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็ว
ในตอนเริ่มแรกพวกเขาไม่ได้สนใจรถคันนี้เท่าไรนัก แต่พอรอรถเข้ามาใกล้ๆ พวกเขาจึงรู้ว่ารถคันนี้กำลังมายังทิศทางถอยหลังเข้าคลอง อีกทั้งยังพุ่งตรงมาทางพวกเขาอีกด้วย
“เย็ดเข้!”
ตนขับรถรีบบีบแตร ในขณะเดียวกันก็หักพวงมาลัยไปด้วย ยากจะหักหลบรถคันนั้น“แม่งเอ่ยคนขับรถคันนั้นหลับในรึเปล่า?”
ถึงจะเป็นแบบนั้น การตอบสนองของคนขับรถก็ช้าเกินไปแล้ว
ระหว่างพวกเขาห่างกันไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร สำหรับรถที่เร่งความเร็วมาถึงสุดขีด เป็นเพียงเรื่องชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
“ปึ้ง!”
ชั่วพริบตาเดียว รถสองคันนั้นก็ได้พุ่งชนกันเรียบร้อย
รถของหวังสือชิ่งถูกชนโดยตรงและไถลลงกับพื้นไปหลายรอบ ก่อนที่จะหยุดลงมาได้
และรถยนต์ฉางอันที่เลี้ยวอย่างรวดเร็วชนเข้ากับข้างทาง ก็ชำรุดเสียหายเช่นกัน
ถุงลมนิรภัยในรถถูกกระแทกแล้วกระเด็นออกมาด้วย
ทุกคนถึงกับงุนงงไปเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
และในเวลานี้เอง คนที่อยู่ในรถยนต์ฉางอันจู่ๆก็ผลักประตูรถแล้วเดินออกมา
คนขับรถอดที่จะลงจากรถหลังจากที่เห็นคนคนนั้นไม่ได้ เขาชี้ไปที่คนผู้นั้นพลางก่นด่า“มึงอยากตายใช่ไหม?”
“ปึ้ง!”
เมื่อเขาพูดจบ ก็มีคนต่อยเข้ามาที่ศีรษะของเขาอย่างจัง คนขับรถกระเด็นออกไปในทันที และยังชนกับรถคันหนึ่ง จนทำให้กระโปรงหน้ารถถึงกับเปลี่ยนรูปทรง
“ปึ้ง!”
หลังจากนั้นคนขับรถก็ตกลงพื้น ไม่ขยับเขยื้อน ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
พอเห็นฉากนี้แล้ว ทุกคนถึงกับตกตะลึง
ถึงแม้เขาจะเป็นคนขับรถของตระกูลหวัง แต่คนขับรถคนนี้ก็เป็นยอดฝีมือระดับต่ำคนหนึ่ง
แต่กลับถูกคนอื่นต่อยจนกระเด็นออกไป!
หวังสือชิ่งที่นั่งอยู่ในรถถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม เขาถามชายวัยกลางคนไปว่า“เขาเป็นใคร?”
ชายวัยกลางคนเบิกตากว้าง“ไป๋ยี่เฟย!”
ใช่แล้ว คนที่ขับรถชนคนคือไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยถูกชนไม่เบาเหมือนกัน เศษกระจกบาดหน้าของเขาจนเป็นแผล ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ซึ่งดูไปแล้วน่ากลัวมากๆ
ความสามารถในทุกวันนี้ของไป๋ยี่เฟย ทำให้เขามองเห็นหวังเจียจุ้นลงมือทำร้ายหลงหลิงหลิงจากไกลๆ จึงทำให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวมาก
“กูจะฆ่ามึง!”
ไป๋ยี่เฟยเหยียบพื้นด้วยเท้าที่อยู่ด้านหลัง ได้ยินเพียงเสียง“ปึ้ง” ไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้าหาหวังเจียจุ้นด้วยความเร็วสูง และเท้าที่ถูกเขาเหยียบก็แตกเป็นรู
พวกยอดฝีมือระดับหนึ่งที่เห็นแบบนั้นอยากจะเขาไปขวางไว้ จึงชักดาบออกมาเตรียมจะเข้าไปฟัน
ไป๋ยี่เฟยกลับใช้มือคว้าดาบเอาไว้อย่างไม่สนใจ เสียงดัง“แคร้ง” ดาบแตกในทันที
คนผู้นั้นคิดไม่ถึงว่าจะแตกได้ จึงตกตะลึงงัน
และในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยก็กรีดผ่านตัวเขาไป ลำคอของคนผู้นั้นถูกไป๋ยี่เฟยใบมีดครึ่งหนึ่งกรีดผ่านไป
ทั้งสองประชันกัน ไม่ได้ใช้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ก็ถูกไป๋ยี่เฟยปลิดชีพในทันที
คราวนี้ทุกคนต่างพากันตื่นตระหนก
พวกเขาจึงพากันพุ่งเข้าไปหาไป๋ยี่เฟย
และตำแหน่งที่พวกเขาทุกคนโจมตีก็ไม่เหมือนกัน มีคนต่อยศีรษะของไป๋ยี่เฟย มีคนตบไหล่ของเขา และมีคนจำนวนไม่น้อย
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ใส่ใจ หลังจากที่พุ่งเข้าไปก็โบกมือให้คนสองคนหลีกไป หลังจากนั้นก็ตบอีกคนให้กระเด็นออกไป สุดท้ายก็ใช้ศอก จู่โจมให้คนผู้นั้นล้มลงกับพื้น
พอเห็นเพียงชั่วพริบตา คนสี่ห้าคนก็ถูกไป๋ยี่เฟยทำร้ายจนล้มลง คนที่เหลืออยู่จึงถูกทำให้ตกใจจนไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้เสียเวลากับพวกเขาต่อ แต่พุ่งไปหาหวังเจียจุ้นอีกครั้ง
รถคันนั้นที่หันกลับมานั้น หวังเจียจุ้นกับหลงหลิงหลิงไม่ได้อยู่ในรถ
เดิมทีเขาไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว และอยากทำร้ายหลงหลิงหลิงเพื่อระบายความโกรธ แต่เขาพึ่งจะเงื้อมือขึ้นมา ก็เห็นเข้ากับฉากนั้นพอดี เขาถึงกับตกตะลึง
ในขณะเดียวกัน เขาพึ่งรู้ตัว ไป๋ยี่เฟยพุ่งมายังทิศทางของเขา
ไม่เพียงแต่เท่านี้ เขายังจำไป๋ยี่เฟยได้ เพราะตอนนั้นพวกเขาเคยเจอกันในร้านอาหารมาก่อน
“ไป๋ยี่เฟย!”
หวังเจียจุ้นเบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว เขาตกใจจนปล่อยหลงหลิงหลิงไป หันกลับไปวิ่งไปยังหวังสือชิ่ง“พ่อครับ ช่วยผมด้วย!”
พอพูดจบ ชายวัยกลางคนที่อยู่บนรถก็ลงจากรถ แล้วไปอยู่ตรงหน้าของหวังเจียจุ้น ขวางไป๋ยี่เฟยไว้พลางพูดขึ้นมาว่า“อย่าคิดที่จะทำร้ายคุณชายของตระกูลฉันนะ!”