บทที่ 108
เมื่อหลี่เสว่และโจวฉวี่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น รีบตั้งสติขึ้นทันที พวกหล่อนตกใจเกินไปจนลืมโทรหาโรงพยาบาล
ไป๋ยี่เฟยบ่นด่าอยู่ภายในใจ วันนี้ออกจากบ้านก้าวเท้าผิดข้างแน่ๆ!
ชายคนนั้นถูกไป๋ยี่เฟยปิดปากไว้ ยิ่งโมโหมากขึ้น “บ้าเอ้ย!”
พูดพลาง ชายไร้สติคนนั้นหยิบขวดน้ำกรดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนั้นตกใจจนดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที นี่มันคนบ้าอะไรกัน พกน้ำกรดไว้ในเสื้อด้วย!
“ไอ้พวกชู้หญิงโฉดชายชั่ว ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องตาย! พวกเจ้าไปรักกันในนรกเสียเถิด!”
ฝ่ายชายโกรธโมโหจนพูดตะโกนออกมา ทำท่าทางจะเปิดขวดน้ำกรดออกมาสาดไปที่หลี่เสว่
เมื่อหลี่เสว่และโจวฉวี่เอ๋อเห็นเช่นนั้นจึงตกใจกลัวมาก
ถ้าโดนน้ำกรดสาดใส่แค่หยดเดียว ผิวหนังก็จะหลุดลอกออกหมด ไม่ต้องพูดถึงสภาพหากโดนทั้งขวด
ไป๋ยี่เฟยเห็นสถานการณ์ตอนนี้ จึงรีบคว้ามือที่เขากำลังจะสาดน้ำกรด เพื่อจะแย่งขวดน้ำกรดออกมา
แรงของชายคนนั้นเยอะมาก ทั้งสองยื้อแย่งกันอยู่นาน ไป๋ยี่เฟยไม่มีท่าทีจะแย่งมาได้ ทั้งยังถูกชายคนนั้นต่อยอีกหลายครั้ง
โจวฉวี่เอ๋อพยุงหลี่เสว่ขึ้นมา “ฉันแบกเธอไหม?”
หลี่เสว่มองโจวฉวี่เอ๋อ รู้สึกซาบซึ้งใจ แต่กลับส่ายหน้า : “ฉันเกาะเธอกระโดดไปแล้วกัน!”
“โอเค!” โจวฉวี่เอ๋อจับหลี่เสว่ไว้แน่น
หลี่เสว่ค่อยๆกระโดดออกไปจนทิ้งห่างไป๋ยี่เฟยและคนบ้าไร้สติ
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนั้นจึงรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยตอนนี้หลี่เสว่ก็ปลอดภัยแล้ว
แต่เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยทำท่าทีสบายใจ ชายไร้สติจึงได้โอกาส “บังอาจแย่งผู้หญิงของข้า บังอาจแย่งผู้หญิงของข้า!”
ระหว่างที่ชายผู้นั้นพูด มืออีกข้างหนึ่งก็เปิดขวดน้ำกรดไว้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี เห็นมือของชายบ้าคนนั้นถือขวดน้ำกรดจะสาดเข้ามา ไป๋ยี่เฟยกัดฟันแน่น พุ่งเข้าหาทันที
ในเมื่อเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง หนักประมาณห้าสิบกว่ากิโลกรัม ไป๋ยี่เฟยจึงพุ่งตัวไปอย่างเต็มแรง จนชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น
ขณะเดียวกัน ขวดน้ำกรดในมือก็แตกกระจายออกไปบนพื้น “ฟู่ๆ” ควันคละคลุ้งขึ้นมาจากพื้น
ทุกคนรอบข้างที่เห็นต่างพากันตื่นตกใจด้วยความหวาดกลัว
หลี่เสว่และโจวฉวี่เอ๋อก็มองไป๋ยี่เฟยด้วยความตื่นเต้นมากเช่นกัน
โดยเฉพาะโจวฉวี่เอ๋อ เมื่อก่อนเธอเคยรู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยเป็นผู้ชายไม่เอาไหน ไม่คู่ควรกับหลี่เสว่ แต่ตอนนี้ ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือสักคน แต่เขากลับกล้าที่จะเสี่ยงและต่อสู้กับชายไร้สติผู้นั้น จนได้รับบาดเจ็บเพื่อไม่ให้หลี่เสว่ต้องโดนน้ำกรด และยังพุ่งตัวเข้าไปแย่งขวดน้ำกรดทั้งที่เป็นเรื่องอันตรายเป็นอย่างมาก
ถ้าหากเกิดพลาดขึ้นมา ขวดน้ำกรดแตก หรือถูกเปิดออก ไม่อยากจะคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา
ตอนนั้นเอง โจวฉวี่เอ๋อเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อไป๋ยี่เฟยไปทันที เขาไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหนเหมือนที่ตัวเองคิด เขาเป็นคนที่ทุ่มเทพยายามสุดชีวิตเพื่อภรรยาของตัวเอง
จากนั้นหันไปมองหลี่เสว่ ในที่สุดหล่อนก็เข้าใจว่าทำไมหลี่เสว่จึงไม่อยากหย่ากับไป๋ยี่เฟย
ผู้ชายที่ทุ่มเทเพื่อตัวเองขนาดนี้ ผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้บ้างล่ะ?
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมา แต่สุดท้ายยังไงก็คือเพื่อนรักของตัวเอง มีผู้ชายคอยปกป้องเช่นนี้ หล่อนยังรู้สึกดีใจมาก
โชคดีที่ขวดน้ำกรดหล่นแตกห่างออกไปไกล จึงไม่โดนชายเสียสติกับไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจโล่งอก ถ้าถูกน้ำกรดกระเด็นโดน คงเสียโฉมแน่นอน
ชายไร้สติไม่ได้ดั่งใจ จึงโมโหขึ้นมาทันที เขาพลิกตัวไปทับไป๋ยี่เฟย จากนั้นชกเขาไปเต็มแรง
ไป๋ยี่เฟยไม่ทันได้ตั้งตัว จึงโดนต่อยไปสองหมัด เจ็บจนร้องซูดปาก ขณะเดียวกันในใจก็คิดถึงวิชาที่เรียนมาจากไป๋หู่
ทันใดนั้น ชายผู้นั้นกำลังล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เมื่อมองดู นั่นคือมีดปอกผลไม้
ทันทีที่ไป๋ยี่เฟยเห็นมีดปอกผลไม้ เขาสูดหายใจเข้าลึกทันที ให้ตายสิ เขามีปมแค้นกับมีดปอกผลไม้หรือไง?
“ไป๋ยี่เฟย!” เมื่อหลี่เสว่เห็นมีดปอกผลไม้หล่อนตกใจเป็นอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป แต่โชคร้ายที่ข้อเท้าพลิกเสียก่อน หล่อนเพิ่งจะก้าวเดินออกไปหนึ่งก้าว ก็รู้สึกปวดจนต้องนั่งยองลงไป
ไป๋ยี่เฟยเห็นชายตรงหน้ากำมีดไว้ในมือ และกำลังยกขึ้นมา เตรียมจะแทงไปที่หน้าอกของเขา ไป๋ยี่เฟยตกใจจนรีบยกมือขึ้นมาจับ
เกือบคร่าชีวิตเขาไปแล้ว แต่เขาใช้มือขวาจับไปที่ใบมีดอันแหลมคมกันไว้ บาดแผลที่เพิ่งจะหายได้ไม่นาน กลับถูกคมมีดแทงเข้าไปอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่ตอนนี้เขาจะปล่อยตัวตามสบายไม่ได้ เพราะถ้าเผลอเมื่อไหร่ ชีวิตก็จบสิ้นทันที
ชายไร้สติออกแรงดันมีดสุดกำลัง สีหน้าดุร้าย ราวกับจะกดใบมีดอันแหลมคมลงไปในตัวของไป๋ยี่เฟย
“อย่า!” หลี่เสว่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ น้ำตาของหล่อนค่อยๆไหลรินลงมา
ถือเป็นครั้งแรกที่โจวฉวี่เอ๋อเห็นหลี่เสว่เป็นห่วงไป๋ยี่เฟยมากขนาดนี้ อารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้ลึกซึ้งกว่าที่หล่อนคิดไว้มาก ดังนั้นจึงทำให้หล่อนสะเทือนใจพอสมควร
ทันใดนั้น มีชายตัวสูงใหญ่เดินพุ่งออกมาจากฝูงชน เดินเร็วจนเห็นเขาได้ไม่ชัด เขาเดินตรงไปที่ด้านหลังของชายคนนั้น และคว้ามือของชายไร้สติไว้แน่น ยกขึ้น และถีบจนตัวลอยออกไป
ผู้คนต่างพากันมองด้วยความตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
เขาโหดไปรึเปล่าเนี่ย?
หลี่เสว่กับโจวฉวี่เอ๋อยืนตกใจตะลึงอยู่ที่เดิม สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจโล่งอก พยายามลุกขึ้นยืน “ฉันว่า นายมาช้าเกินไปรึเปล่า?”
ไป๋หู่เหลือบมองไป๋ยี่เฟยอย่างไม่สะทกสะท้าน “เรื่องเยอะจริงๆ”
ทันใดนั้น คนของโรงพยาบาลก็มาถึง พวกเขาล้อมตัวเข้ามาจับชายเสียสติคนนั้นขึ้นรถไป
ไป๋หู่ไม่รู้กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ไป๋ยี่เฟยเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างหลี่เสว่อย่างอ่อนแรง พยายามฝืนยิ้ม พูดขึ้น : “ไม่เป็นไรแล้วนะ”
ผู้คนรอบข้างต่างพากันปรบมือให้ ชื่นชมไป๋ยี่เฟยว่าเป็นคนกล้าหาญ
หลี่เสว่กลับตาแดง ยังมีคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้า มองไป๋ยี่เฟยด้วยท่าทีทั้งสุขและเศร้า ความกังวลภายในจิตใจปะทุออกมาทันใด : “ไป๋ยี่เฟย! นายไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง? นายเก่งมากนักเหรอ? ! ฉันข้อเท้าพลิก นายแบกฉันเดี๋ยวนี้!”
เป็นเพราะองศาการมอง หลี่เสว่กับโจวฉวี่เอ๋อจึงไม่เห็นรอยแผลที่ไป๋ยี่เฟยถูกคมมีดบาดที่มือ จึงคิดว่านอกจากที่เขาโดนต่อยแล้ว เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างอื่นอีก
ไป๋นี่เฟยฝืนยิ้ม จากนั้นหันหลังกลับ แบกหลี่เสว่ขึ้นมา
จากนั้น ขณะที่มือของเขาจับขาของหลี่เสว่ เขารู้สึกเจ็บปวดจนสั่น แต่กลับอดทนกัดฟันไว้
หลี่เสว่รู้สึกได้ว่าเขาตัวสั่น คิดว่าเป็นเพราะเขาถูกต่อย จึงไม่ได้สนใจอะไร
อีกอย่างหลี่เสว่ยังคงโมโหมาก โมโหที่ไป๋ยี่เฟยไม่รักชีวิตของตัวเองขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำกรด หรือมีด ตอนนั้นหล่อนกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ หล่อนไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร
เมื่อขึ้นไปบนรถ ไป๋ยี่เฟยยังคงทนขับรถด้วยความเจ็บปวด หลี่เสว่ไม่พูดอะไรกับเขาตลอดทาง
เมื่อกลับถึงบ้าน ไป๋ยี่เฟยก็แบกหลี่เสว่กลับไปที่ห้องต่อ จากนั้นจึงลงมาที่ห้องรับแขก
เลือดบนมือทำให้ผ้าพันแผลกลายเป็นสีแดงสด ไม่ต้องคิดก็สามารถเดาได้ว่าสภาพเป็นอย่างไร
ไป๋ยี่เฟยถอดผ้าพันแผลออก บาดแผลฉีกขาดเหวอะหวะ มีดเล่มใหญ่และคม กับมือที่เข้าไปจับไว้ อีกทั้งแผลจากครั้งที่แล้วที่ยังไม่หายดี ครั้งนี้ถูกมีดบาดซ้ำ ทำให้แผลลึกขึ้นกว่าเดิมมาก
ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้อ่อนแรงมาก เมื่อถึงบ้านที่รู้สึกว่าปลอดภัยมาก ไป๋ยี่เฟยจึงทนไม่ไหว ล้มตัวลงบนโซฟา และสลบไป
หลี่เสว่ที่กลับไปถึงห้อง บ่นด้วยความไม่พอใจ “ไม่รู้จักขึ้นมาอ้อนฉันบ้าง!”
เมื่อก้มมองดูเท้าที่บวมแดงของตัวเอง จึงบ่นขึ้นต่อ “โอกาสทองแบบนี้ไม่ขึ้นมา ไอ้ซื่อบื้อ!”
นั่งอยู่ลำพังสักพัก หลี่เสว่กำลังคิดจะเข้าไปอาบน้ำ
แต่เมื่อถอดเสื้อออก กลับเห็นว่าขาของตัวเองเต็มไปด้วยคราบเลือด
หลี่เสว่ตกใจตะลึง ที่ตรงนี้ เป็นที่ที่มือของไป๋ยี่เฟยจับไว้ตอนแบกหล่อน
ไป๋ยี่เฟยได้รับบาดเจ็บ!
หลี่เสว่ไม่สนใจความเจ็บปวดที่ขาของตัวเองอีกต่อไป รีบสวมชุดนอน พยุงตัวเกาะตามกำแพง ค่อยๆกระโดดไปหาไป๋ยี่เฟย
เมื่อเปิดประตูห้องออกมา กลับพบว่าไป๋ยี่เฟยไม่อยู่ในห้องของตัวเอง หลี่เสว่รีบลงไปด้านล่าง ในที่สุดก็เห็นไป๋ยี่เฟยนอนสลบอยู่ที่บนโซฟาในห้องรับแขกชั้นหนึ่ง