บทที่ 124
มีผู้ผลิตแผงฉนวนกันความร้อนทั้งหมดสามสิบห้าราย หลิ่วซื่อกรุ๊ปและคริสตัลกรุ๊ปต่างก็ผลิตแผงฉนวนกันความร้อนแบบไม่ลามไฟ ซึ่งจะส่งให้โหวจวี๋กรุ๊ป หากหลันโปกั่งสองไม่มีปัญหาอะไร แสดงว่าฉนวนกันความร้อนที่พวกเขาใช้ ทั้งหมดนี้ผลิตโดยคริสตัลกรุ๊ป คริสตัลกรุ๊ปไม่ได้ผลิตแผงที่ไม่ทนต่อไฟ แต่เป็นแผงที่ทนต่อไฟ
แผงที่ไม่ทนไฟทั้งหมดที่ผลิตโดยหลิ่วซื่อกรุ๊ป ทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำหนดของหวังโหลว และส่งไปยันหลิ่วซื่อเจียหยวน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลิ่วเซียวเหยาด่า “เย็ดแมร่ง!”
หวังโหลวไม่ได้โกรธ แต่ตอบกลับเบา ๆ : “หลิ่วซื่อกรุ๊ปและโหวจวี๋กรุ๊ปนั้นหาที่เปรียบไม่ได้ และแทนที่จะทำลายโหวจวี๋ ทำลายหลิ่วซื่อกรุ๊ป ไม่ง่ายกว่าเหรอ และคุณจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าทำลายโหวจวี๋ ผลประโยชน์ทั้งหมดก็ตกไปเป็นของหลิ่วซื่อกรุ๊ปหมด ฉันทำแบบนั้นจะได้อะไร? นายคิดว่าแบบนี้มีเหตุผลมั้ย?”
ยังไงซะฉันก็ไม่อยากทำอะไรไปเปล่าประโยชน์ ไม่มีชิ้นดี
หวังโหลวพูดจบก็ตัดสายทิ้ง
หลิ่วเซียวเหยานั่งทรุดตัวลงบนที่นั่งคนขับ สมองของเขาว่างเปล่า
คุณชายหลิ่วลูกคนที่สองของตระกูล ซึ่งถือหุ้น80%ของหลิ่วซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ได้กลายเป็นอาชญากรที่ทางการต้องการตัว เหมือนตกจากสวรรค์ลงนรก
เมื่อไม่นานมานี้ฉันคุยโอ้อวดในงานเลี้ยง เพื่อให้คนในเมืองเทียนเป่ยรู้ชะตากรรมของการที่มีปัญหากับหลิ่วซื่อกรุ๊ป เฮ้อ แล้วตอนนี้ละ? กลายเป็นว่าโหวจวี๋กรุ๊ปจะบอกให้คนอื่นรู้ว่า ถ้ามีปัญหากับโหวจวี๋ผลจะเป็นอย่างไร
โรงแรมเทียนเป่ย
หลังจากหลิ่วเซียวเหยาจากไป ทุกคนก็ตื่นตนะหนก และเลี้ยงฉลองต่อไป มันเป็นเพียงแค่ หัวข้อการสนทนา ทุกคนก็ประจบไป๋ยี่เฟย และเหยียบซ้ำเติมหลิ่วซื่อกรุ๊ป
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเพื่อจัดการกับมัน จากนั้นก็ประกาศฉลองงานเลี้ยงต่อ
ในที่สุดก็ไม่มีคนอยู่ตรงหน้าไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยเดินไปที่มุมห้องโถง และพบโจวฉวี่เอ๋อ“ ของในงานเลี้ยงโอเคไหม?”
โจวฉวี๋เอ๋อชะงักเมื่อได้ยินเสียง และกลั้นความลำบากใจไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ก็ดี ไม่สิ ดีมากเลย”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
เมื่อโจวฉวี่เอ๋อเห็นท่าทีของไป๋ยี่เฟย ทันใดนั้นในใจของเธอก็โกรธมาก ทุกคนก็ถูกลวงหลอกหมด ถ้าวันนี้เธอไม่มางานเลี้ยง เธอคงคิดว่าไป๋ยี่เฟยเป็นแค่คนที่ไม่คู่ควรกับหลี่เสว่
แต่วันนี้เธอไม่เพียงได้รับรู้ว่าไป๋ยี่เฟยเป็นประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป แต่ยังเป็นประธานที่ช่วยเธอ และทำให้เธอมีใจประธานอย่างลับๆด้วย!
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยก็ยังเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยิ้มแย้ม
โจวฉวี๋เอ๋อตะคอก และพูดอย่างดุ: “ทำไมนายถึงเป็นประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป ทำไมถึงเป็นนาย?”
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่ “ก่อนหน้านี้ฉันช่วยเธอมากแล้ว คราวนี้เธอช่วยฉันด้วยได้หรือเปล่า?”
“นายเป็นประธานโหวจวี๋กรุ๊ป ยังต้องการความช่วยเหลืออะไรจากฉันอีกเหรอ?” โจวฉวี่เอ๋อเบะปากและกล่าว
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เธอช่วยปิดบังตัวตนของฉันได้ไหม? โดยเฉพาะกับเสว่เอ๋อ ฉันไม่ต้องการให้เธอรู้จักตัวตนของฉันในขณะนี้”
“ทำไมล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่มีทางเลือกจริงๆ อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องปิดบังเสว่เอ๋อแล้ว แต่ตอนนี้เสว่เอ๋อถูกพิษ อารมณ์ของเธอไม่สามารถพลุ่งพล่านได้มากนัก ดังนั้นจึงปิดบังเธอ
“เสว่เอ๋อไม่สบาย”
“ทำไมไม่สบาย? เป็นโรคอะไร? หนักมั้ย?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้บอกโดนสารพิษ แต่พูดเบาๆว่า: “มันไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ไม่ควรมีอารมณ์พลุ่งพล่านมากเกินไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวฉวี่เอ๋อก็เชื่อ และตกลง
……
หลังจากงานเลี้ยง ไป๋ยี่เฟยกลับไปที่โหวจวี๋
ในเวลานี้ ฉินหัวก็กลับมาพร้อมกับใครบางคน
“จับคนไม่ได้หรอ?”ไป๋ยี่เฟยถาม
ฉินหัวมองไปที่ตาไป๋ยี่เฟย พูด: “คนของหลิ่วซื่อกรุ๊ปหนีไปหมด และเมื่อไม่นานมานี้มีเงินสดจำนวนมากและเงินโอนจาก ประเทศที่แตกต่างกัน”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “มีเงินทุนมากหมุนเวียนเข้าในคืนเดียว เป็นไปได้เหรอ?”
“ธนาคารเมืองหลวงซูเปอร์วีไอพี” ฉินหัวกล่าวอย่างอุดอู้
ไป๋ยี่เฟยเงียบ และพูดว่า: “พวกเขามีเส้นสายที่เมืองหลวง?”
“ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน”ฉินหัวส่ายหัว
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว ลักษณะของเรื่องในครั้งนี้อาจจะแตกต่างจากเรื่องของการต่อสู้ระหว่างทั้งสองกรุ๊ป ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของคนจำนวนมาก ถ้าประเทศจะเอาจริงเอาจังอย่างแน่นอน หากรู้จะโกงได้ยาก
แล้วคนในหลิ่วซื่อ กรุ๊ปนี้พัฒนาได้ดีขนาดนี้ มือใครยังจะสะอาดอยู่?
เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ไม่มีใครอยากติดคุก ดังนั้นจึงหนีไปพร้อมกับเงิน
“รู้ไหมว่าพวกเขาหนีไปที่ไหน”
ฉินหัวกล่าวว่า: “ไปต่างประเทศ มีโอกาสที่จะเป็นประเทศไทย”
“หือ?” ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้ว
“จากการตรวจสอบของเรา หลิ่วซื่อมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และเพิ่งยื่นใบสมัครไปที่กรมควบคุมจราจรทางอากาศเมื่อสองวันก่อน กรรมการคนหนึ่งบอกเดินทางไปประเทศไทย ดังนั้นเราจึงสงสัยว่าพวกเขาทั้งหมดหลบหนีไปที่ประเทศไทย”
ไป๋ยี่เฟยมองลงไปและคิดอย่างลึกซึ้ง
เมื่อไม่นานมานี้หลี่เฉียงตงได้ส่งข้อความถึงเขา โดยบอกว่าอย่าทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลัง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อตัวเองและครอบครัวในอนาคต ไป๋ยี่เฟยยังเข้าใจหลักการตัดหญ้าถอนโคน
เพียงแต่ว่าหลี่เฉียงตงสุดยอดเกินไปแล้ว สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นที่นี่ เขาก็ส่งข้อความมาจากที่นั่น ราวกับว่าเขารู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ตลอดเวลา
ช่างเถอะ ไม่ต้องการคิดสิ่งนี้ในตอนนี้ หลี่เฉียงตงพูดถูก ถ้าพวกเขาทำร้ายคนในครอบครัว แม้แต่หลี่เสว่ ก็…..
ไม่ได้อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ โทรศัพท์ของไป๋ยี่เฟยดังขึ้น
ฉินหัวกลายเป็นคนจริงจังทันทีที่ได้ยินเสียง
ไป๋ยี่เฟยรับโทรศัพท์ และเปิดลำโพง
“ไป๋ยี่เฟย ฉันคิดผิดครั้งนี้ฉันยอมรับ แต่ฉันขอแนะนำให้ นายไม่ต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมด” เสียงของหลิ่วเซียวเหยาดังมาจากโทรศัพท์ “อย่าทำอะไรที่รุนแรงเกินไป เพื่อให้ตัวเองเหลือทางเลือกสุดท้าย”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูด “ ฉันจะไม่ทำ แล้วนายจะกลับมาฆ่าฉันเหรอ?”
หลิ่วเซียวเหยาหัวเราะเยาะ “หึ! ตราบใดที่นายบอกเพื่อนตำรวจว่า อย่าจับเราในครั้งนี้ หลังนี้จะไม่ทำให้คุณลำบากใจในอนาคต แต่ถ้า หากว่านายกระตือรือร้นที่จะฆ่า ฉันจะทำให้นายเสียใจ”
ขณะที่ไป๋ยี่เฟยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาทางโทรศัพท์ “หลิ่วเซียวเหยาปล่อยฉันนะ!”
ไป๋ยี่เฟยตะลึง เสียงนี้ เหอหยวนหยวน?
“หลิ่วเซียวเหยา นายจะลงมือกับเหอหยวนหยวน เธอเป็นแฟนของนายนะ!” ไป๋ยี่เฟยคิดไม่ถึงว่าหลิ่วเซียวเหยาจะเลวได้ขนาดนี้
หลิ่วเซียวเหยาไม่สนใจ และพูดอย่างร้ายกาจ: “แมร่งเอ้ย หล่อนยังจะกล้าบอกว่าเป็นแฟนของฉัน ลับหลังฉันเธอแอบส่งข้อความถึงนายเพื่อบอกแผนการของเรา กูควรจับเธอมั้ยละ?”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ตกใจ
เหอหยวนหยวนถูกจับหลิ่วเซียวเหยาเพราะส่งข้อความบอกเขา?