บทที่ 127
สองวันต่อมา
ในวิลล่าแห่งหนึ่งในเมืองเมืองหลวง
อู๋กุ้ยเซียง หญิงที่อายุราวๆห้าสิบปี ยังคงมีเสน่ห์และความสง่างามของเธอ เธอดูเหมือนผู้หญิงอายุสามสิบสี่ปี ในขณะนี้เธอกำลังเดินไปพร้อมกับถือชาหลงจิ่งที่ชงแล้ว
คนนี้เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของไป๋ยี่เฟย
อู๋กุ้ยเซียงวางชาบนโต๊ะไม้ที่ระเบียง จากนั้นก็นอนลงบนเก้าอี้หวายใกล้ๆ เพื่ออาบแดด เธอรินชาให้ตัวเองและชายวัยกลางคนข้างๆ จิบเบาๆหนึ่งคำแล้วพูดอย่างมีความสุขว่า “คราวนี้เขาทำได้ดีมาก” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆเธอคือไป๋หยุนเผิง พ่อผู้ให้กำเนิดของไป๋ยี่เฟย หลังจากได้ยินคำพูดของอู๋กุ้ยเซียง เขาก็พูดอย่างเฉยเมย “ก็ไม่เลว เขาแค่ล้มหลิ่วซื่อกรุ๊ปได้ ไม่ได้เก่งมากมาย แต่อัตราการเติบโตของเขาค่อนข้างดี”
อู๋กุ้ยเซียงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน ลูกชายของเราไม่ด้อยอยู่แล้ว!”
“ แต่เมื่อเทียบกับน้องชายของเขา เขาถือว่าด้อยกว่ามาก” ไป๋หยุนเผิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและจิบชา
เมื่อไป๋หยุนเผิงพูดถึงน้องชายของไป๋ยี่เฟย อู๋กุ้ยเซียงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและใบหน้าของเธอก็ซีดลง
ไป่หยุนเผิงกล่าวต่อ “ที่จริง ครั้งนี้เขาทำผิดพลาดไปอย่างหนึ่ง”
“พลาดอะไรหรือ?” อู๋กุ้ยเซียงถามช้าๆ
ไป๋หยุนเผิงกล่าวเบา ๆ “ใช้อารมณ์มากเกินไป”
“ห๊ะ?เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นเหรอ?”
ไป๋หยุนเผิงตอบอืมและพูดเบา ๆ “คนที่ชื่อว่าหวังโหลวคนนั้น ความรู้สึกที่ให้ผมคือแปลกๆ อีกอย่าง ผมก็รู้สึกว่ามีคนช่วยไป๋ยี่เฟยอยู่ข้างหลังด้วย”
“พ่อตาแม่ยายของลูกเหรอ ?”
ไป๋หยุนเผิงยิ้มให้อู๋กุ้ยเซียง“ ผมไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ แต่ว่า พ่อตาแม่ยายของลูกไม่ธรรมดมาจริงๆ!”
อู๋กุ้ยเซียงหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนี้”ก็แหงละสิ?”
พวกเขาทุกคนรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องของหลี่เฉียงตงในเมืองเทียนเป่ย
……
ห้องทำงานของท่านประธานโหวจวี๋กร๊ป
หลงหลิงหลิงรู้สึกประหลาดใจมาก“ซุนเฉิงจงใจให้คนใช้ฉนวนกันความร้อนแบบเหล่านั้นหรือ?” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า“ ดูจากตอนนี้เหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
ไป๋ยี่เฟยพาหลงหลิงหลิงไปที่สถานที่ก่อสร้างหลันโปกั่ง ตอนนั้นเขาถามว่าทำไมทั้งสองข้างถึงไม่ใช้ร่วมกัน แต่ข้างหนึ่งมีมากกว่าและอีกข้างน้อยกว่า ในเวลานั้นซุนเฉิงตอบว่าคนงานเอามาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สายตาของเขาหลบอย่างเห็นได้ชัด ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ. “ฉนวนกันความร้อนที่หลิ่วเซียวเหยาและหวังโหลวร่วมกันผลิต อันที่จริงหวังโหลวกำลังวางแผนใส่ร้ายหลิ่วเซียวเหยา ดังนั้นหวังโหลวจึงผลิตฉนวนกันความร้อนแบบที่มีคุณสมบัติถูกกฎหมาย แต่ถึงอย่างนั้น ฉนวนกันความร้อนแบบของพวกเขาก็ส่งรวมเข้าด้วยกัน เมื่อถูกขนส่งไปยังสถานที่ก่อสร้าง เหตุใดคนงานของเราจึงใช้ที่หวังโหลวผลิตเท่านั้น?”
หลงหลิงหลิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย“หวังโหลวเป็นคนสั่งให้ซุนเฉิงนำฉนวนกันความร้อนแบบที่ได้มาตรฐาน?”
“มันเป็นเช่นนี้”
“ แต่มันคงเป็นเพราะซุนเฉิงได้รับประโยชน์จากหวังโหลว ไม่เช่นนั้นใครจะไปทำเรื่องเหล่านี้?
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับการวางแผนอย่างละเอียด ทีละขั้นตอน เชื่อมโยงทีละอย่าง ไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเดียว
จากจุดเริ่มต้นคือหวังโหลวได้ซื้อใจเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก เปิดเผยข้อมูลเท็จแก่ หลิ่วเซียวเหยา ต่อมาก็ซื้อใจซุนเฉิง ให้โหวจวี๋ใช้ฉนวนกันความร้อนแบบที่ได้มาตรฐานในท้ายที่สุด สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ไป๋ยี่เฟยเดาแผนของพวกเขาได้ แผนซ้อนแผน จึงวางแผนให้ตัวเองถูกขังเข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อสร้างโอกาสให้หลิ่วเซียวเหยาให้เขาออกหน้า
สิ่งเหล่านี้ หากผิดพลาดแม้แต่ก้าวเดียว พวกเขาจะสูญเสียทั้งหมด!
“ แล้วซุนเฉิงต้องจัดการอย่างไร?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว“ ไม่ต้อง มีคนอย่างซุนเฉิงเยอะแยะ คุณจัดการได้หนึ่งคน แต่ไม่สามารถจัดการกับคนนับหมื่นได้หรอก แทนที่จะมองหาคนใหม่เราก็ใช้ซุนเฉิงเลย เก็บไว้ภายใต้การดูแลเราเองแบบนี้จึงจะวางใจกว่า”
“ตอนที่คุณมีเวลาไปเตือนเขาหน่อยก็พอแล้ว”
ในขณะนี้จางหรงรีบเข้ามา “ท่านประธาน แย่แล้ว!ท่านประธาน!”
“ท่านประธาน ท่านให้ผมไปตรวจทรัพยากรของตระกูลหลิ่วไม่ใช่เหรอ?” จางหรงพูดอย่างเคร่งขรึม “แต่เมื่อผมไปถึง ตระกูลหลิ่วก็ถูกคนอื่นเก็บไปแล้ว!”
หลิ่วซื่อกรุ๊ปล่มสลายอย่างสมบูรณ์ในครั้งนี้ หลิ่วเซียวเหยาถูกจับกุม ตระกูลหลิ่วเกือบทุกคนก็มีส่วนผิดไม่มากก็น้อย ส่วนผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดก็เกือบจะหายไป
ในทางตรงกันข้าม หลิ่วจาวเฟิงซึ่งถูกหลิ่วหลงขับออกไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้
ในฐานะกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองเทียนเป่ยของหลิ่วซื่อกรุ๊ป หลังจากการล่มสลายแน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก กับทรัพยากรที่อยู่ในนั้น พวกเขาต้องการส่วนแบ่งอยู่แล้ว แต่ใครกันที่กล้าไปแย่งเนื้อของโหวจวี๋ละ
“หือ?” ไป๋ยี่เฟยยกคิ้ว “นี่เป็นครั้งที่สามแล้วใช่ไหม?”
จางหรงพยักหน้า“ ใช่ครับ เป็นคริสตัลกรุ๊ปอีกแล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนั้น จากนั้นก็พยักหน้าและพูดเบา ๆ “ผมรู้แล้ว”
จางหรงงงเล็กน้อย “ท่านประธาน ท่านไม่โกรธเหรอ?นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คริสตัลกรุ๊ปขัดขวางการซื้อกรุ๊ปของเราแล้วนะ!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างไม่รู้อะไร
คริสตัลกรุ๊ปของหวังโหลวเขาเป็นคนให้หวังโหลไปทำเอง ทรัพยากรในนั้นถูกรวมเข้าด้วยกันโดยพวกเขาใช้ประโยชน์จากพายุไต้ฝุ่นในครั้งนั้น ดังนั้น คริสตัลกรุ๊ปจึงถือว่าเป็นของเขา
ในเวลาเดียวกัน บนดาดฟ้าของคริสตัลกรุ๊ป หวังโหลวยืนอยู่ที่นั่นเงียบๆ มองลงมาจากด้านบน
หลังจากนั้นไม่นาน ชายในชุดแขนสั้นสีดำและหมวกแก๊ปก็เข้ามา
“มันไม่เลวเลยที่ได้ชมทิวทัศน์ที่นี่” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
หวังโหลวไม่ได้มองย้อนกลับไป แต่แค่ตอบอืมเบาๆ
หลังจากนั้น ชายคนนั้นก็ถอดหมวกที่แหลมออกและยิ้มให้หวังโหลว “ครั้งนี้ไป๋ยี่เฟยคงจะเชื่อใจคุณจริงๆแล้วมั้ง?”
หวังโหลวหันหน้ากลับมา เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ นี่เป็นใบหน้าที่คุ้นเคย ถ้าไป๋ยี่เฟยอยู่ที่นี่ คิดว่าเขาคงจะประหลาดใจและโกรธมาก
เพราะคนๆนี้คือหลิ่วจาวเฟิงที่หลบหนีจากตระกูลหลิ่ว หลิ่วจาวเฟิงนั่นเอง
“ ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลย?แม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี?”
หลิ่วจาวเฟิงทำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมต้องรู้สึกด้วย?”