บทที่ 134
หลี่ฝานไม่ได้เกรงกลัวหลี่ต้าไห่ “ตอนนี้ที่นี่คือบริษัท ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะทำอะไรก็ได้”
“คุณ!” หลี่ต้าไห่ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าหลี่ฝานจะกลายเป็นเช่นนี้ปฏิบัติต่อเขาด้วยความไม่เคารพแบบนี้ก็แล้ว แต่กับนายท่านหลี่ยังทำแบบนี้
เมื่อก่อนนายท่านหลี่เอ็นดูหลี่ฝานแค่ไหน แต่ตอนนี้ สิ่งที่หลี่ฝานปฏิบัติต่อนายท่านหลี่ มีความเคารพบ้างไหม?
หลี่ฝานพูดอย่างเย็นชา“ พ่อ ผมจัดการประชุมนี้เพื่อที่เราจะได้อยู่รอดต่อไป โปรดอย่ามาเสียเวลา!”
นายท่านหลี่ประหลาดใจเล็กน้อย“ คุณสามารถทำให้หลี่ซื่อฟื้นตัวกลับมาได้หรือ?”
“แน่นอน ผมได้ไปคุยโครงการ 100 ล้านเมื่อเช้านี้” หลี่ฝานกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“อะไร?”
ทุกคนตกตะลึง
“ โครงการ 100 ล้าน?
“จริงหรือ?”
“ผมไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”
หลี่ฝานเหลือบมองทุกคนและพูดว่า “พวกคุณได้ยินไม่ผิด มันเป็นโครงการ 100 ล้านจริงๆกองทุน 100 ล้านและจะเข้าบัญชีของบริษัทเราเร็วๆนี้ “
ทุกคนต่างตื่นเต้นและมองตากันไปมา หลังจากที่เขาพูดจบ
“โอเค โอเค บริษัทมอบให้คุณดูแล ผมวางใจ” นายท่านหลี่มีความสุขมาก สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ความจริงแล้วต้องโทษเขาเอง ตอนนี้มีโอกาสแล้ว เขาจะไม่ไปสนใจอะไรมาก
หลี่ต้าไห่ไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่แล้วหลี่ฝานยังคงพูดกับทั้งสองคนว่า “ตอนนี้พวกเรากำลังจะคุยเรื่องโปรเจ็กต์ เชิญพวกคุณออกไป”
หลังจากเสียหน้าก็ยังรู้สึกไม่พอใจ แต่จะทำอย่างไรได้ละ? พวกเขาอายุมากแล้วและไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งสิ่งเหล่านี้ได้
หลังจากนั้น นายท่านหลี่ก็เป็นคนออกไปก่อน หลี่ต้าไห่ที่อยู่ข้างหลังก็น้ำตาคลอและเขาก็เดินตามไป
หลี่ฝานพอใจกับสิ่งนี้มาก “โครงการนี้เป็นโอกาสของตระกูลหลี่ อีกอย่างเขาบอกเราว่าพวกเขาจะจัดหาตลาดและช่องทางการขายให้เรา เราแค่ต้องทำในส่วนแรกของโครงการให้มันดีก็พอแล้ว …… ”
……
หลังจากนั่งเฝ้าเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน ก็ยังไม่เห็นคนที่วางยา ไป๋ยี่เฟยรู้สึกรีบร้อน เรื่องทางนี้ไม่มีความคืบหน้า แต่โหวจวี๋กลับเกิดปัญหาเล็กน้อย
ตอนที่อยู่บริษัทในระหว่างวัน หลงหลิงหลิงรายงานว่า ในช่วงสองวันที่ผ่านมาอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรคิดเป็นผลกำไรส่วนใหญ่มีปัญหาไม่มากก็น้อย
เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ ต้องมีใครบางคนจงใจสร้างเรื่อง เพื่อจัดการกับ โหวจวี๋กรุ๊ป
แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่มีอารมณ์ไปจัดการสิ่งเหล่านี้
อาการของหลี่เสว่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่ล้างพิษได้ เขาก็ไม่สามารถอุ่นใจได้
วันนี้เช่นเดียวกับเมื่อสองวันก่อน ไป๋ยี่เฟยกับไป๋หู่และสวีลั่ง ยังคงเฝ้าดูที่ขายบาร์บีคิวตรงข้าม KTV ฮุยหวง อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
ไป๋ยี่เฟยจึงจำต้องขับรถกลับไปพร้อมกับไป๋หู่ แต่เมื่อเขากำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อดูเวลา จู่ๆก็พบว่าโทรศัพท์หายไป
“เชี่ย! โทรศัพท์ผมอยู่ไหน?”
ในโทรศัพท์ของเขามีความลับทางการค้ามากมายของโหวจวี๋กรุ๊ปและเอกสารมากมาย หากสิ่งนี้ถูกคนจงใจเอาไป จะเป็นไงละ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋หู่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างใจเย็นและตรวจสอบตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือของไป๋ยี่เฟย
“ห่างจากเราสามกิโลเมตร กำลังมุ่งหน้าสู่ตลาดเก่า”
ไป๋ยี่เฟยผงะไปครู่หนึ่ง“ ตลาดเก่า?คงไม่ใช่คนที่ขโมยแล้วตั้งใจจะไปขายมั้ง?”
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่า ไป๋ยี่เฟยเดาถูก
พวกเขาเดินตามผู้คนไปยังตลาดเก่า แต่เนื่องจากถึงตีหนึ่งแล้ว จึงไม่มีใครอยู่ในตลาดเมื่อมองไป มืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย
ทั้งสองเดินตามชายคนนั้นมาที่บ้านหลังเล็กๆ ชายคนนั้นเคาะประตูและประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว
“เข้าไปไหม?” ไป๋ยี่เฟยถาม “แก๊งนี้ 80% ก่ออาชญากรรมร่วมกัน”
ไป๋หู่พยักหน้าและเดินไป
ในห้อง.
ชายผมเหลืองเหลือบมองห้าวจื่อ “ห้าวจื่อคืนนี้เป็นไงบ้าง?”
ห้าวจื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาสามเครื่อง “ผลของคืนนี้”
“ไอ้หนุ่มไม่เลวนิ!” หวงเหมาพูดด้วยรอยยิ้ม “หนึ่งคืนสามเครื่อง ไม่เลว!”
“แน่นอน คุณไม่รู้เหรอว่าผทเป็นใคร?ผมเป็นลูกหลานของสือเชียน นักขโมยยอดฝีมือ” หวงเหมามองบน จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือทั้งสามเครื่องและพูดว่า “ไม่เลว มีไอโฟนอีกสองเครื่อง”
“ ไอโฟนสองเครื่องนี้สามารถขายได้เงินเป็นจำนวนมาก แต่แบรนด์ห่วยๆนี้ น่าจะขายได้ไม่กี่ร้อยเท่านั้น ก็ถือว่าเยอะแล้ว” ห้าวจื่อประมาณราคา
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ยังคงดังขึ้น
หวงเหมาถามด้วยความสงสัย”ใครเหรอ? ห้าวจื่อ วันนี้คุณไม่ได้ให้คนอื่นๆมาใช่ไหม?”
ห้าวจื่อส่ายหัว “ไม่ วันนี้มีแค่ผมคนเดียว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทั้งสองมองไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง มือของหวงเหมาที่กำลังจะเปิดประตูก็หยุดลง สายตาของเขาจับจ้องไปที่ห้าวจื่อ
ห้าวจื่อคิดว่า หวงเหมาสงสัยเขาและรีบพูดว่า “ไม่ใช่ผม ผมไม่รู้ … “
“ ตูม!”
ไป๋หู่เตะประตูเปิด
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีหวงเหมาก็รีบวิ่งออกไปในทันที แต่ก็โดนไป๋หู่จับเบาๆ ดึงกลับมา
รูปร่างหน้าตาของไป๋หู่มีผลกระทบอย่างมากต่อผู้คน แค่เห็นก็ไม่กล้าไปยั่วยุเขา
“พวกคุณ พวกคุณเป็นใคร?” ห้าวจื่อตกใจมากเมื่อเห็นไป๋หู่ที่รูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟย เขาก็ยิ่งกลัวว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจถ้าเป็นตำรวจเขาจะถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง
หวงเหมาดิ้นรนไม่ได้ผลและตะโกนอย่างกล้าหาญ “ปล่อยผม! ปล่อยผม! ถ้าคุณไม่ปล่อยผมผมจะฟ้องคุณทะเลาะวิวาท!”
ไป๋ยี่เฟยเดินออกมาจากด้านหลังไป๋หู่ “ทะเลาะวิวาท? งั้นผมสามารถฟ้องคุณได้ไหมว่าคุณขโมยโทรศัพท์”
“ขี้โม้! พวกเราไม่ได้ทำ!” หวงเหมาปฏิเสธ
ห้าวจื่อสั่นเล็กน้อยและไม่กล้าพูด
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองไปที่หวงเหมาจากนั้นก็มองไปที่ห้าวจื่อและพูดช้าๆ “โทรศัพท์ของผมมีอุปกรณ์ระบุตำแหน่งติดตั้งอยู่ ดังนั้นถ้าพวกคุณไม่ยอมรับมาดีๆ ผมจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ
“อย่า!” ห้าวจื่อตะโกนด้วยความตกใจ หดตัวหลบอยู่ในมุม เหลือบมองไปที่หวงเหมา “โทร … โทรศัพท์มือถือ … อยู่ที่ผม …”