บทที่221
ภาพจำที่หลี่เสว่มีต่อหลิ่วจาวเฟิงเมื่อคืนนี้มันไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงถามเขาไปอย่างไม่ชอบใจว่า “คุณมาที่นี่ทำไม? ฉันไม่รู้จักคุณสักหน่อย”
แต่หลิ่วจาวเฟิงกลับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสว่เอ๋อ ผมรู้ว่าตอนนี้คุณจำผมไม่ได้แล้ว แต่ไม่เป็นไร เรามาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้งก็ได้ครับ ผมชื่อหลิ่วจาวเฟิง เป็นเรียนรุ่นเดียวกับคุณ และยังเป็นแฟนของคุณอีกด้วยครับ”
อะไรคือเรียนรุ่นเดียวกัน อะไรคือเป็นแฟนกัน ฟังไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย
แต่หลี่เสว่ก็ร้องอ๋อไปทีหนึ่ง “สรุปคือคุณมาหาหนูใช่ไหมค่ะ?”
“ใช่ครับ” หลิ่วจาวเฟิงรู้สึกพอใจกับการตอบสนองของหลี่เสว่มาก ว่าแล้วก็ยื่นช่อกุหลาบในมือให้เธอ “กุหลาบช่อนี้สำหรับคุณครับ”
หลี่เสว่จ้องกุหลาบช่อใหญ่ช่อนั้นตาปริบๆ ต่อให้เป็นแค่เด็กห้าหกขวบก็ตาม แต่เมื่อได้เห็นกุหลาบที่สวยงามช่อโตขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้า เป็นใครก็ต้องชอบกันทั้งนั้น
แต่หลี่เสว่ก็ไม่ได้รับมันมา เพราะเธอไม่ได้รู้จักเขา ที่สำคัญคือเธอมั่นใจว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
“คุณอาเคยบอกเอาไว้ว่าห้ามหนูรับของจากคนแปลกหน้าค่ะ” หลี่เสว่ตอบไปด้วยความหนักแน่น ซึ่งไป๋ยี่เฟยก็เคยกำชับกับเธอแบบนี้จริงๆ เพราะไป๋ยี่เฟยต้องการหลีกเลี่ยงเวลามีใครเอาของมาหลอกล่อเธอแบบนี้
หลิ่วจาวเฟิงถึงกับหน้าชา “คุณอา? คุณอาคนไหนเหรอครับ?”
หลี่เสว่ไม่ได้ตอบและเธอก็กำลังจะปิดประตู “เดี๋ยวคุณอาก็จะกลับมาถึงแล้ว หนูขอปิดประตูก่อนนะคะ”
หลิ่วจาวเฟิงเอามือรั้งประตูของหลี่เสว่เอาไว้ “เดี๋ยวครับ คุณอาที่คุณพูดถึงคือไป๋ยี่เฟยใช่ไหมครับ?”
หลี่เสว่เห็นมือของหลิ่วจาวเฟิงขวางอยู่อย่างนั้น เธอจึงปิดประตูไม่ลง และได้ตอบไปว่า “ใช่ค่ะ คุณรู้จักคุณอาของหนูด้วยเหรอคะ?”
แววตาของหลิ่วจาวเฟิงเป็นประกาย “รู้จักสิครับ ต้องรู้จักอยู่แล้ว ก็คุณอาของคุณนั่นแหละครับที่ให้ผมมาหาคุณ ส่วนกุหลาบช่อนี้ก็เป็นของขวัญสำหรับการพบหน้าครับ”
หลี่เสว่ลังเล “จริงเหรอคะ?”
“จริงครับ”
หลิ่วจาวเฟิงแอบดีใจ ดอกกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ถึงตอนนี้หลี่เสว่จะยังไม่รู้อะไร แต่ถ้าเธอรับกุหลาบช่อนี้ไป เขาก็จะมีเหตุผลมากพอที่จะอยู่กับหลี่เสว่แล้ว
“นี่ครับ ดอกไม้สำหรับคุณ” หลิ่วจาวเฟิงยังคงหลอกล่อต่อไป
เมื่อกลุ่มคนที่อยู่ข้างนอกเห็นอย่างนั้น พวกเขาก็ช่วยกันพูดจาหว่านล้อมเธอ โดยที่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้หลี่เสว่เป็นแค่เด็กห้าหกขวบเท่านั้น
“รับเลยครับ!”
“รับเลยครับ!”
“……”
หลี่เสว่มองตาปริบๆ ไปที่คนกลุ่มนั้น โดยที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าคนพวกนี้ต้องการจะสื่ออะไร แต่สุดท้ายเธอก็ยังปฏิเสธไปว่า “ไม่ค่ะ หนูต้องเชื่อฟังคำพูดของคุณอา”
หลิ่วจาวเฟิงต้องรู้สึกหน้าชาอีกครั้ง เขาอยากจะสับไป๋ยี่เฟยให้เป็นพันเป็นหมื่นชิ้น หลี่เสว่เป็นแบบนี้แล้ว แต่เธอก็ยังเชื่อฟังไป๋ยี่เฟยถึงขนาดนี้อยู่!
ในตอนนั้นหลิ่วจาวเฟิงก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ และเหมือนกำลังจะพูดอะไรออกมาอยู่นั้นเอง ก็ได้มีเสียงที่สดใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
“พวกคุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่คะ?”
ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง เธอเป็นผู้หญิงที่สวมเสื้อฮู้ดกับกางเกงยีน มัดผมทรงหางม้า สะพายกระเป๋า สายตาที่เป็นกันเองกำลังจ้องมองมาที่พวกเขา
พอหลิ่วจาวเฟิงได้เห็นสายตาของเขาก็เป็นประกาย ผู้หญิงคนนี้สวยไม่แพ้หลี่เสว่เลย จัดว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง แถมยังมีความเป็นกันเองมากกว่า แต่เขาก็แค่มองเท่านั้น เพราะในใจของเขาก็ยังรักหลี่เสว่มากที่สุดอยู่ดี
หลิวเสี่ยวอิงเดินเข้าไป มองไปที่หลิ่วจาวเฟิงกับกุหลาบในมือของเขา ก็พอจะเดาได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “นี่คุณมาขอแต่งงานเหรอคะ?”
ส่วนหลี่เสว่ที่เห็นการมาของหลิวเสี่ยวอิง เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “พี่สาว พี่มาแล้วเหรอคะ?”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม และเอาหลี่เส่วไปหลบอยู่ที่ข้างหลัง จากนั้นก็ส่งสายตาตักเตือนให้หลิ่วจาวเฟิง
หลิ่วจาวเฟิงมองมาที่ทั้งคู่ ในใจก็รู้สึกสงสัย หลี่เสว่ไปรู้จักคนสวยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เท่าที่เขาจำได้ รอบตัวของหลี่เสว่ไม่เคยมีคนแบบนี้อยู่เลย
“ไม่ทราบว่าคนสวยคนนี้คือ……”
หลิวเสี่ยวอิงสะบัดผมของตัวเอง “ฉันชื่อหลิวเสี่ยวอิง เป็นเพื่อนรักของหลี่เสว่ค่ะ”
หลิ่วจาวเฟิงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างสุภาพ “ที่แท้ก็เพื่อนรักของหลี่เสว่นี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักครับ ส่วนผมชื่อหลิ่วจาวเฟิง เป็นเพื่อนมหาลัยของหลี่เสว่ครับ”
ที่ครั้งนี้เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นแฟนของหลี่เสว่ เพราะเธอคนนี้เป็นคนปกติ ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนของหลี่เสว่เธอก็ต้องรู้เรื่องของหลี่เสว่เป็นอย่างดี
หลิวเสี่ยวอิงมองหลิ่วจาวเฟิงจากหัวจรดเท้า ถึงชายคนนี้จะแต่งตัวได้ดูสุภาพเรียบร้อย แต่แววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ เห็นแล้วทำให้รู้สึกขนลุก
“เพื่อนมหาลัยเอาดอกไม้มาให้เนี่ยนะ?” หลิวเสี่ยวิงถามไปพร้อมกับขมวดคิ้ว
หลิ่วจาวเฟิงยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ “คุณหลิวคงยังไม่รู้ ตั้งแต่สมัยเรียนผมก็ตามจีบหลี่เสว่มาโดยตลอด จนตอนนี้ผมก็ยังชอบเธอเหมือนเดิม ซึ่งวันนี้ผมก็แค่มาแสดงความรู้สึกที่มีต่อเธอเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยครับ”
หลิวเสี่ยวอิงทำเสียงฮึดฮัด “ไม่มีเจตนาอื่นเหรอคะ? แล้วคนพวกนี้หล่ะคะมาทำไม?”
แววตาของหลิ่วจาวเฟิงกระตุกเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ฉลาดไม่เบาเลย “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ พวกเขาเองก็พักอยู่ที่นี่เหมือนกัน สงสัยเห็นผมถือช่อกุหลาบมาด้วย เลยอยากตามมาดูล่ะมั้งครับ!”
หลิวเสี่ยวอิงไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ก็ไม่ได้พูดไปตามตรง เธอแค่ตอบไปเฉยๆ ว่า เสี่ยวเสว่เธอมีสามีแล้ว การที่คุณยังเอากุหลาบมาให้ถึงบ้านแบบนี้ มันไม่ดูแปลกไปหน่อยเหรอคะ?”
หลิ่วจาวเฟิงตอบกลับ “ผมแค่เอาดอกไม้มาให้ มันมีอะไรไม่เหมาะสมเหรอคะ?”
หลิวเสี่ยวอิงเบะปาก คนๆ นี้ช่างหน้าด้านจริงๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็ตัดสินใจหยิบมือถือออกมาโทรหาไป๋ยี่เฟย จากนั้นก็ส่งมือถือให้หลี่เสว่ แล้วแอบกระซิบไปว่า “บอกคุณอาของเธอนะว่ามีคนมาวุ่นวายเธอ”
หลี่เสว่พยักหน้าแบบงงๆ จากนั้นก็เข้าไปคุยโทรศัพท์ข้างใน
พอหลิ่วจาวเฟิงเห็นว่าเบอร์ที่โทรไปเป็นเบอร์ของไป๋ยี่เฟย เขาก็ได้ขำออกมา ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยกำลังถูกต้าส้งจับตัวอยู่โทรไปก็ไม่มีคนรับหรอก หรือต่อให้รับคนๆ นั้นก็ต้องเป็นต้าส้งอยู่ดี
แต่ที่เขาไม่รู้คือผู้หญิงที่ถูกจับไปพร้อมกับไป๋ยี่เฟยก็คือหลิ่วเสี่ยวอิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี่แหละ ถ้าเขารู้ ตอนที่เขาเห็นหลิวเสี่ยวอิงเขาก็ต้องรู้ในทันทีว่าไป๋บี่เฟยจะต้องหนีออกมาได้แล้วอย่างแน่นอน