บทที่222
ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้เพิ่งคุยกับไอ้หัวล้านหลิวเสร็จ และเตรียมจะส่งหลิวเสียไปหาไอ้หัวล้านหลิวที่ ผับเทียนถัง
แต่หลิวเสี่ยงอิงก็ดันโทรมาก่อน
“มีธุระอะไรตั้งแต่เช้าครับ?”
หลี่เสวยชะงักไป จากนั้นก็พูดไปอย่างระมัดระวังว่า “คุณอารึเปล่าคะ?”
“เสว่เอ๋อเหรอ?”
หลี่เสว่ตอบ อืม จากนั้นก็พูดไปตามที่หลิวเสี่ยวอิงบอกมา “พี่สาวให้หนูมาบอกว่า มีคนกำลังมาวุ่นวายกับหนูอยู่ค่ะ”
พอได้ยินอย่างนั้น แววตาของไป๋ยี่เฟยก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว จนหลิวเสียที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องหลับไปชิดประตูเลย
“อาจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลยครับ?”
ไป๋ยี่เฟยรู้ดีว่าการจะถามหลี่เสว่ว่าใครที่กำลังมาวุ่นวายกับเธออยู่ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นให้เขากลับไปดูเองน่าจะง่ายกว่า ส่วนหลิวเสี่ยวอิงนั้น การที่เธอให้หลี่เสว่มาโทรหาเขาแบบนี้ แสดงว่าเธอต้องกำลังรับมือกับคนๆ นั้นอยู่แน่
ไป๋ยี่เฟยขับรถออกไป และหันไปพูดกับ หลิวเสียว่า “ผมขอกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวค่อยไปส่งคุณทีหลัง”
เดิมทีหลิวเสียก็ไม่อยากจะเจอหน้าพี่ชายอยู่แล้ว เธอจึงรีบพยักหน้าไปอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ ฉันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ณ วิลล่าหลันโปกั่ง หลี่เสว่ที่เพิ่งวางสายก็ไปกลับออกมาอีกครั้ง เธอหันไปบอกกับหลิวเสี่ยวอิงว่า “เดี๋ยวคุณอาก็จะกลับมาถึงแล้วค่ะ”
หลิวเสี่ยวอิงรับมือถือมา แล้วพยักหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับหลิ่วจาวเฟิงว่า “อีกเดี๋ยวไป๋ยี่เฟยก็จะกลับมาถึงแล้ว ฉันขอเตือนให้คุณรีบกลับไปจะดีกว่านะคะ”
หลิ่วจาวเฟิงเข้าใจว่าไป๋ยี่เฟยยังถูกต้าส้งจัดตัวอยู่ เขาจึงไม่เชื่อคำพูดที่หลิวเสี่ยวอิงพูดมา เขาคิดว่าเธอตั้งใจจะขู่เขาเท่านั้น เขาจึงหัวเราะออกมา “ไป๋ยี่เฟยกำลังกลับอย่างนั้นเหรอครับ? คุณมั่นใจเหรอ?”
แล้วหลิ่วจาวเฟิงก็หันไปมองที่หลี่เสว่ “เสว่เอ๋อ นี่คุณโทรหาไป๋ยี่เฟยแล้วจริงๆ เหรอครับ? เขาเป็นคนบอกคุณเหรอครับว่าเขากำลังมา?”
หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในตัวของหลิ่วจาวเฟิง ทำไมเขาต้องถามอะไรพวกนี้ด้วย?
หลี่เสว่ตอบไปอย่างน่าเอ็นดูว่า “ใช่ค่ะ คุณอาเขาบอกว่าเขากำลังกลับมาค่ะ”
พอหลิ่วจาวเฟิงได้ยินอย่างนั้น เขาก็ต้องขมวดคิ้ว เป็นไปไม่ได้ ไป๋ยี่เฟยน่าจะกำลังถูกต้าส้งจับตัวไว้อยู่ เขาไม่มีทางมาที่นี่ได้อย่างแน่นอน หรือว่าต้าส้งจะยอมให้ไป๋ยี่เฟยรับสาย เพราะไป๋ยี่เฟยอยากให้หลี่เสว่สบายใจ เลยบอกไปว่าเขากำลังมา
อืม อันนี้ก็พอเป็นไปได้ ถึงจะไม่อยากจะยอมรับมันมากก็ตาม แต่ไป๋ยี่เฟยก็ค่อนข้างเอาใจใส่หลี่เสว่มากเหมือนกันและการที่เขาจะไม่ยอมบอกสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ให้หลี่เสว่รู้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร
หลิ่วจาวเฟิงได้สรุปทุกอย่างด้วยตัวเอง จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “โอเค ถ้าอย่างนั้นผมจะอยู่รอเป็นเพื่อนพวกคุณแล้วกันครับ เรามาดูกันว่าเขาจะกลับมาถึงตอนไหน”
หลิวเสี่ยวอิงจ้องเขม็งไปที่หลิ่วจาวเฟิง “ทำไมคุณถึงได้หน้าด้านอย่างนี้คะ? สามีของเขาจะกลับมาอยู่แล้ว ยังจะเสนอหน้าอยู่ตรงนี้อีก กลัวว่าเขาจะไม่รู้เหรอคะว่าคุณจะมาแย่งภรรยาของคนอื่น?”
“นี่คุณ!” หลิ่วจาวเฟิงกัดฟันแน่น “คุณหลิว คุณนี่พูดจาดูจะถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเลยนะครับ”
หลิวเสี่ยวอิงไม่อยากสนใจสิ่งที่เขาพูดนัก “ฉันก็ถูกสั่งสอนมาอย่างดีตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ คุณไม่ต้องอิจฉาหรอกนะคะเพราะฉันคิดว่าคนที่หน้าด้านอย่างคุณคงไม่เคยถูกใครอบรมสั่งสอนมาสินะคะ”
ตอนนี้พวกคนที่มากับหลิ่วจาวเฟิงต่างก็ดูหงอยๆ ไป พวกเขาเป็นคนที่หลิ่วจาวเฟิงหามา เพื่อช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับรักจากเขา
แต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ หลิวเสี่ยงอิงดันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แถมยังมาต่อปากต่อคำกับหลิ่วจาวเฟิงไม่หยุดอีก พวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย หลิ่วจาวเฟิงก็ไม่ได้บอกว่าต้องทำยังไงต่อ จะไปกลับก็ไม่ได้
ความจริงหลิวเสี่ยวอิงก็ไม่อยากมาเปลืองน้ำลายกับคนอย่างหลิ่วจาวเฟิงเลย แต่มันก็ไม่มีทางเลือก ในเมื่อหลิ่วจาวเฟิงนั้นหน้าด้านขนาดนี้ เธอจึงทำได้แค่รอให้ไป๋ยี่เฟยกลับมาจัดการเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ดวงตาของหลี่เสว่ก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “คุณอากลับมาแล้ว”
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็ได้มีบีเอ็มขับเข้าวิลล่ามา ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างแหวกออกเป็นทาง
ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสียก้าวลงจากรถมาพร้อมกัน
“หลิ่วจาวเฟิง!” อีกคนที่ไป๋ยี่เฟยเห็นก็คือหลิ่วจาวเฟิงกับช่อกุหลาบที่อยู่ในมือเขา
ตลอดทางเขาก็พยายามนึกมาตลอดว่าใครกันที่มาวุ่นวายกับหลี่เสว่ สรุปก็คือคนที่สาบสูญไปนานแล้วอย่างหลิ่วจาวเฟิงนั่นเอง!
แวบแรกที่หลิ่วจาวเฟิงเห็นหน้าไป๋ยี่เฟย เขาถึงกับตะลึงจนตาค้าง
“เป็นไปได้ยังไง?”
เขาถูกต้าส้งจับตัวไว้ไม่ใช่เหรอ แล้วเขาโผล่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?
หรือไป๋หู่ไปช่วยเขาออกมาได้?
หลิ่วจาวเฟิงเอาแต่กลืนน้ำลาย รู้สึกกลัว เขาในตอนนี้ยังไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับไป๋ยี่เฟย ถ้าไม่ใช่ว่าไป๋ยี่เฟยกำลังถูกจับตัวไว้ละก็ เขาก็ไม่กล้าพอที่จะมาหาหลี่เสว่แบบนี้หรอก
หลี่เสว่วิ่งผ่านหลิวเสี่ยวอิงแล้วตรงไปหาไป๋ยี่เฟยทันที “คุณอากลับมาแล้ว!”
“ใช่ อากลับมาแล้วครับ”
จากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็จับมือของหลี่เสว่แล้วจ้องมาที่หลิ่วจาวเฟิง “หลิ่วจาวเฟิง ผมว่าผมเคยบอกคุณไปแล้วนะว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับเสว่เอ๋ออีก ทำไม? ยังโดนสั่งสอนไม่พอเหรอ?”
หลิ่วจาวเฟินพยายามทำตัวให้สงบที่สุด “ผมรู้ว่าสภาพของเสว่เอ๋อตอนนี้ไม่สู้ดีนัก ผมที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนก็ต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา มันไม่ได้เหรอครับ?”
“เป็นห่วงเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เป็นห่วงจนถึงขั้นต้องมอบกุหลาบแดงเลยเหรอ? แถมยังพาไอ้โง่พวกนี้มาเป็นสักขีพยานด้วยเนี่ยนะ?”
“นี่คุณหาว่าใครโง่กัน?” คนพวกนั้นเริ่มไม่พอใจ
“เราแค่อยากมาดูก็เท่านั้น เขาไม่ได้พาเรามาสักหน่อย”
“……”
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอีกครั้ง “ถ้าพวกคุณไม่โง่แล้วจะให้เรียกว่าอะไรครับ? แค่จ่ายเงินให้นิดหน่อยก็เดินตามต้อยๆ เพื่อมาเป็นพยาน เป็นพยานในการแย่งเมียชาวบ้านเนี่ยนะ?”
“อะไรนะ?”
“เธอมีสามีแล้วเหรอ?”
“ก็เราไม่รู้หนิครับ……”
คนพวกนี้รู้แค่หลิ่วจาวเฟิงต้องการมาจีบสาวเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าหลี่เสว่นั้นได้แต่งงานแล้ว