บทที่ 250
วันต่อมา ในช่วงเช้า มีคนมาพบไป๋ยี่เฟยไม่ได้ขาด ล้วนแต่มาขอความเมตตาให้ซุนเหว่ย
ไป๋ยี่เฟยตอบปฏิเสธทั้งหมด
หลังซุนเหว่ยที่กำลังหลบอยู่ในบ้านทราบ ก็โกรธจนด่าเป็นชุด “ไป๋ยี่เฟย! แกจะบีบให้ฉันตายให้ได้ใช่ไหม ดี! ฉันจะสู้กับแกแล้วกัน!”
……
วิลล่าหลันโปกั่ง
มีบทเรียนเมื่อครั้งก่อนแล้ว หลิวเสี่ยวอิงจึงไม่กล้าพาหลี่เสว่ออกไปไหนอีก
ทว่าอยู่แต่ในวิลล่า ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเช่นกัน
หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่พูดคุยกับดูทีวีกันอยู่ในห้องรับแขก ต่างไม่รู้เลยว่าที่ด้านนอกวิลล่ามีคนมา
ที่ด้านนอกวิลล่าเวลานี้ ถูกชายสวมชุดยูนิฟอร์มหลายคนล้อมไว้ หนึ่งในนั้นเดินไปที่หน้าประตู จากนั้นก็กดกริ่ง ส่วนคนที่เหลือต่างเอาตัวชิดติดกำแพง เพื่อหลบสายตาคนที่อยู่ด้านใน
ทั้งสองได้ยินเสียงกริ่ง หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่จึงหันไปมองพร้อมกัน
“ใครน่ะ?” หลิวเสี่ยวอิงลุกขึ้น น้ำเสียงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่อันที่จริงเริ่มจะระวังตัวแล้ว
ทว่าหลังหลิวเสี่ยวอิงถาม กลับไม่ได้รับคำตอบจากคนข้างนอก
เห็นเช่นนี้ หลิวเสี่ยวอิงก็รู้ว่าคนที่อยู่ด้านนอกต้องไม่ใช่คนที่มาดีแน่ คิดว่าจะโทรหาไป๋ยี่เฟยดีหรือไม่
และขณะที่กำลังลังเลอยู่นี้เอง คนที่อยู่ด้านนอกก็หมดความอดทน พังประตูเพื่อจะเข้ามาทันที
เกิดเสียง “ปัง” ประตูถูกถีบเปิดออก
“กรี๊ด!”
หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ตกใจจนกรีดร้องเสียงดัง
ว่ากันตามเหตุผลมาตรการรักษาความปลอดภัยของวิลล่าหลันโปกั่งนั้นดีมาก แต่ต่อให้ดีแค่ไหนก็ขวางคนที่ฝืนจะบุกเข้ามาไม่ได้ ผู้ชายรูปร่างกำยำสองคนยกเท้าถีบพร้อมกัน แรงจึงนี้มหาศาลอย่างไม่ธรรมดา
หลังประตูถูกเปิด คนทั้งหมดที่แนบกับกำแพงอยู่ก็พุ่งเข้ามา จับตัวหลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ไว้อย่างรวดเร็ว
หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ยังไม่ทันขัดขืน ก็ถูกคนตีจนสลบไป
ชายสองสามคนแบกหลี่เสว่กับหลิวเสี่ยวอิงไปยังรถตู้ ขับรถออกไปจากเขตวิลล่าหลันโปกั่งโดยไม่ให้ใครเห็น
สิบกว่านาทีให้หลัง ไป๋ยี่เฟยก็ได้รับโทรศัพท์จากเย่ขุย
“ประธานไป๋ แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว!”
หลันโปกั่งมีกล้องวงจรปิดทั่วทุกที่ เรื่องคนที่แต่งชุดยูนิฟอร์มบุกเข้ามาในวิลล่าพาตัวหลี่เสว่กับหลิวเสี่ยวอิงไปก่อนหน้านี้ ได้ถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้แล้ว แต่คนที่คอยเฝ้ากล้องวงจรปิดไปเข้าห้องน้ำพอดี จึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เห็นเพียงแค่มีคนถูกพาตัวไป ดังนั้นจึงรีบย้อนภาพกลับไปดูใหม่
พอเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้การ รีบแจ้งไปยังเย่ขุยทันที
พอไป๋ยี่เฟยฟังมาถึงตรงนี้ก็ลุกพรวด ขณะเดียวกัน ด้วยความที่ตื่นตระหนกจนเกินไป จึงทำให้หน้ามืด ล้มลงไปอีกครั้ง
หลังฝืนแรงพยุงไว้ ไป๋ยี่เฟยก็รีบแจ้งไป๋หู่อย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ไป๋หู่ถูกเขาส่งไปทำเรื่องลับบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ข้างกายหลี่เสว่ และในเวลานี้ ดันเกิดเรื่องพอดีอีก!
“รอฉันอยู่ที่ด้านล่างโหวจวี๋”
ไป๋ยี่เฟยออกจากประตูอย่างรีบร้อน เพิ่งจะนั่งรถ ก็มีสายโทรเข้ามาอีกครั้ง เป็นสายของซุนเหว่ย
“ไป๋ยี่เฟย! ฉันว่าแกคงรู้แล้ว เมียแกกับหลิวเสี่ยวอิงถูกคนจับตัวไปแล้ว!”
“ฉันยอมรับว่าเป็นฝีมือฉัน!”
ซุนเหว่ยปล่อยมือจากหม้อแตก*แล้ว
“ฉันจะบอกแกให้ หากแกอยากให้พวกหล่อนมีชีวิตอยู่ต่อไป ตอนนี้ก็รีบทำตามที่ฉันบอกซะ!”
มือของไป๋ยี่เฟยบีบโทรศัพท์แน่น “พวกเธออยู่ไหน?”
“กูไม่โง่หรอกนะ ตอนนี้มึงรีบไปทำ ไม่อย่างนั้น หึหึ……” ซุนเหว่ยหัวเราะอย่างหยาบคาย “กูก็จะปล้ำนังผู้หญิงสองคนนี้พร้อมกัน จะว่าไปกูอิจฉามึงมาก ไม่คิดเลยว่าเมียมึงจะสวยขนาดนี้!”
“แกกล้า!” ไป๋ยี่เฟยสะกดกลั้นความโกรธของตัวเองไว้
ซุนเหว่ยส่งเสียงถุยออกมา “คนอยู่ในมือฉันหมดแล้ว แกก็ดูว่าฉันจะกล้าไหม!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็หายใจเข้าลึก เพื่อให้ตัวเองรักษาความเยือกเย็นไว้ได้มากที่สุด “ฉันต้องทำยังไง?”
——————————-
*ปล่อยมือจากหม้อแตก หมายถึง ยอมรับชะตากรรม
“รีบแจ้งออกไป ให้บริษัทเหล่านั้นมาเก็บเงินไว้ที่ฉันทั้งหมด” ห้ามสร้างความยุ่งยากให้จู้ติ่งอีก! และฉันต้องได้ยินแกพูดเองกับหู” ซุนเหว่ยตอบ
“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็กลับไปที่โหวจวี๋อีกครั้ง เรียกหลงหลิงหลิงให้มาหา จากนั้นก็เปิดสปีกเกอร์โฟน
ทางหนึ่งใช้ปากกาเขียนลงบนกระดาษ ทางหนึ่งกล่าวกับหลงหลิงหลิงว่า “แจ้งลงไป ให้บริษัทเหล่านั้นเอาเงินฝากกลับไปใหม่”
หลงหลิงหลิงมองไป๋ยี่เฟยอย่างแปลกใจ ขณะเดียวกันก็อ่านตัวอักษรที่อยู่บนกระดาษไปด้วย รีบตอบทันทีว่า “ค่ะ ประธาน”
รอจนหลงหลิงหลิงออกไป ไป๋ยี่เฟยก็กล่าวว่า “ฉันทำตามที่แกบอกแล้ว”
ซุนเหว่ยรู้ว่าหลงหลิงหลิงเป็นผู้ช่วยของไป๋ยี่เฟย ในเมื่อออกคำสั่งไปแล้ว เขาก็วางใจลงเช่นกัน “นับว่าแกยังรู้จักอ่านสถานการณ์ แต่ฉันต้องเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ก่อน ไม่อย่างนั้นแกก็อย่ารู้เลยว่าพวกหล่อนอยู่มีไหน!”
พูดจบ ซุนเหว่ยก็วางสายทันที
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นเดินออกไปจากโหวจวี๋
เวลานี้ไป๋หู่เดินเข้ามาพอดี เขาหาตำแหน่งของอีกฝ่ายพบแล้ว
ไป๋หู่ไม่พูดอะไร ขับรถพุ่งฉิวออกไปทันที
หลังเกิดเรื่องครั้งนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ให้ไป๋หู่ติดเครื่องติดตามไว้ที่ตัวหลี่เสว่ไว้เครื่องหนึ่ง ดังนั้นอันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องถามซุนเหว่ยเลยว่าเธออยู่ที่ไหน เขาแค่กำลังถ่วงเวลาอยู่เท่านั้น ขณะเดียวกันก็จะดูว่าซุนเหว่ยต้องการจะทำอะไร
……
ณ ซาวน่าแห่งหนึ่ง ซุนเหว่ยกำลังเสพสุขกับซาวน่าอย่างสบายใจ ข้างตัวยังมีไวน์แดงแก้วหนึ่งวางไว้ด้วย
ที่นี่เป็นห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง ตอนนี้ซุนเหว่ยยังอยู่ด้านนอก ส่วนด้านใน ก็คือหลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ที่ถูกตีจนสลบไป
เพิ่งจะวางสายเสร็จ ซุนเหว่ยก็ลำพองใจอย่างมาก “มาสู้กับฉัน แกยังอ่อนไป!”
แต่พอคิดถึงหลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ขึ้นมา ในใจซุนเหว่ยก็คันยุบยิบ ถึงอย่างไรคนก็มาอยู่ในมือแล้ว เล่นสนุกสักหน่อยจะเป็นไรไป?
ซุนเหว่ยลุกขึ้น จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง
หลิวเสี่ยวอิงกับหลี่เสว่ฟื้นขึ้นมาพอดี สายตาจึงมองเห็นซุนเหว่ย
“ซุนเหว่ย! แกจะทำอะไร?” หลิวเสี่ยวอิงถลึงตามองเขาอย่างโกรธจัด
ซุนเหว่ยสวมชุดคลุมอาบนี้สีขาว หัวเราะฮ่าฮ่าพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าปล้ำเธอไง! อ้อ จริงสิ ยังมีสาวสวยคนนี้อีกคน!”
สิ้นคำ ซุนเหว่ยก็เดินไปที่คนทั้งสอง จากนั้นก็โผเข้าไปหา
หลิวเสี่ยวอิงเห็นดังนี้ก็ผลักหลี่เสว่ให้ไปอยู่ด้านข้างตัวเอง จากนั้นก็คว้าหมอนอิงที่อยู่บนโซฟา ออกแรงปาออกไป
มีเสียงดังตุบเกิดขึ้น เพราะปาโดนศีรษะของซุนเหว่ย “ระยำ!” ซุนเหว่ยร้องเสียงดัง “แกกล้าตีฉันเหรอ!”
หมอนอิงตีคนย่อมไม่เจ็บ แต่ตีถูกศีรษะเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้มึนงงอยู่บ้าง
หลิวเสี่ยวอิงถือหมอนอิงขวางไว้ข้างหน้าตัว “แกไอ้เฒ่าลามก! หากแกกล้าทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันจะตีแกให้ตาย!”