บทที่ 276
“ไปหาหมอแล้วยัง? สวีลั่งล่ะ? ให้เขาไปเป็นเพื่อนคุณที่โรงพยาบาล”ไป๋ยี่เฟยน้ำเสียงเป็นห่วงไม่น้อย
“ไม่ต้อง แค่นอนเดี๋ยวก็หายแล้ว”เนื่องจากเป็นหวัด ทำให้น้ำเสียงของหลี่เสว่ดูอ่อนแรงลงไปมาก
“ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนนะ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว”พูดจบก็ไม่ให้โอกาสหลี่เสว่ได้พูดอะไร ไป๋ยี่เฟยวางสายลงทันที
ในสาย หลี่เสว่รู้สึกว่าร่างกายไม่ได้แค่ร้อน หัวใจก็รู้สึกร้อนผ่าวๆขึ้นมาด้วย ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่า มุมปากของเธอยกขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยวางสายลงก็โทรไปหาไป๋หู่“มาขับรถ พวกเราจะไปเมืองหลวง”
ไม่นาน ไป๋หู่ก็ขับรถพาไป๋ยี่เฟยมุ่งไปยังเมืองหลวง
หลี่เสว่ป่วย ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกเป็นห่วงมาก
หลังจากขึ้นมาบนรถเขาก็โทรไปหาสวีลั่ง ให้สวีลั่งไปซื้อยาให้กับหลี่เสว่
ไป๋ยี่เฟยไม่กล้าทำให้หลี่เฉียงตงและหลิวจื่อหยุนตกใจ ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่อยากโทรศัพท์ไปรบกวน
แม้ว่าจะสั่งกำชับสวีลั่งไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่วางใจ เขาไม่รู้ว่าทำไม พอได้ยินว่าหลี่เสว่ป่วย ก็เก็บความรู้สึกที่หวนคิดถึงแบบนั้นเอาไว้ไม่อยู่
บวกเข้ากับความเป็นห่วงเธอ ไป๋ยี่เฟยจึงรีบให้ไป๋หู่ขับรถไปส่งเขาที่เมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
ที่นี่อยู่ห่างจากเมืองหลวงไม่น้อย พวกเขาขับรถกันทั้งคืน เพิ่งจะมาถึงเมืองหลวงในช่วงห้าโมงเช้า
พวกคนในครอบครัวของหลี่เสว่มาที่นี่ก็เพื่อมาท่องเที่ยว จึงพักอยู่ที่โรงแรม
หลังจากที่ถึงแล้ว ก็เห็นสวีลั่งที่ตรงประตูทางเข้า
“กินยาแล้วยัง?”ไป๋ยี่เฟยถามขึ้น
สวีลั่งพยักหน้า“กินยาแล้วก็นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว”
หลังจากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตู ค่อยเดินเข้าไปข้างในอย่างเบาๆ
สวีลั่งกับไป๋หู่ทั้งสองมองตากันอย่างเงียบๆ จากนั้นต่างก็ยืนอยู่ข้างๆประตูอย่างนิ่งสงบ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยเข้าไปข้างใน ในห้องไม่ได้เปิดไฟ เขาเห็นคนหนึ่งคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสลัวๆ
หลังจากที่เดินไปใกล้ๆ อาศัยไฟบนท้องถนน มองใบหน้าของหลี่เสว่ให้ชัดๆ
สีหน้าของหลี่เสว่อยู่ภายใต้แสงไฟแล้วยิ่งดูขาวมากขึ้น ถ้าเพิกเฉยต่อริมฝีปากที่กำลังสั่นอยู่ของเธอล่ะก็ นี่ก็เป็นเจ้าหญิงนิทราที่ทำให้คนอยากมองไม่ละสายตาไปที่ไหนคนหนึ่งเลย
ไป๋ยี่เฟยพอเห็นว่าหลี่เสว่กำลังสั่น จึงยื่นมือออกไปลูบๆที่หน้าผากของเธอทันที“หนาวเหรอ?”
ในขณะนี้เอง เสียงเบาๆของหลี่เสว่ดังออกมา“หนาว……”
ไป๋ยี่เฟยพอเห็นแบบนี้ก็รีบหารีโมทแอร์ทันที เพิ่มอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะย่องไปหาว่ามีผ้าห่มอีกไหม แต่กลับไม่พบอะไร
อุณหภูมิเพิ่มสูงแล้ว แต่หลี่เสว่ก็ยังรู้สึกว่าหนาวอยู่
ไป๋ยี่เฟยไม่มีทางอื่น กัดฟัน ถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออก เข้าไปใกล้เตียง แล้วเอาหลี่เสว่มากอดไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง
ว่ากันว่าอุณหภูมิร่างกายของคนเราสามารถแผ่ถึงกันและกันได้ เขากอดเธออยู่แบบนี้ เธอก็น่าจะไม่รู้สึกหนาวแล้วสินะ?
ขณะนี้เองไป๋ยี่เฟยก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว……
ในช่วงเช้า หลี่เสว่ก็ฝัน ในฝันเธออยู่ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ หนาวจนเดินไม่ไหว ตอนที่เธอไม่รับรู้อะไรแล้ว จู่ๆก็รู้สึกถึงความอบอุ่น
เธอพยายามตะเกียกตะกายไปหาความอบอุ่นนั้นอย่างสุดชีวิต สุดท้าย เธอก็มาถึงที่ที่แสนอบอุ่น
หลังจากที่หลี่เสว่ตื่นขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองดีขึ้นมาเยอะ ขณะที่กำลังจะบิดขี้เกียจ จู่ๆก็พบว่ามือของตัวเองยื่นออกไปไม่ได้
“หือ?”
“อา!”
หลี่เสว่เห็นใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆของไป๋ยี่เฟย ก็ตกใจร้องออกมาเสียงดัง
ไป๋ยี่เฟยถูกเสียงร้องปลุกตื่นขึ้นมา แต่ท่าทางยังคงมึนงงสะลึมสะลือ“เป็นอะไรๆ?”
หลี่เสว่กอดผ้าห่มเอาไว้ ถีบไป๋ยี่เฟยออกไป
ไป๋ยี่เฟยไม่ทันได้เตรียมตัวป้องกัน ถูกหลี่เสว่ถีบตกเตียงลงไปทันที
หลี่เสว่นั่งกอดผ้าห่มอยู่บนเตียง จู่ๆขอบตาก็แดง“คุณ……คุณ……”
ไป๋ยี่เฟยรีบลุกขึ้นมาทันที“เสว่เอ๋อ……คุณอย่างร้องสิ!ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย จริงๆนะ!”
“ก็เมื่อวานคุณเป็นไข้ไม่ใช่หรือไง? ผมเป็นห่วง ก็เลยมา เห็นว่าคุณหนาวมาก ก็เลย……ก็เลย……เป็นแบบที่เห็น……ไม่เชื่อคุณก็ดูสิ เสื้อผ้าของพวกเรายังอยู่ดีอยู่เลย”
หลี่เสว่มองๆไป๋ยี่เฟย แล้วก็มองตัวเอง ยังอยู่ครบดีจริงๆด้วย จึงถอยหายใจออกมาหนึ่งเฮือก
ไป๋ยี่เฟยพอเห็นว่าหลี่เสว่ไม่ได้เข้าใจผิดแล้ว อารมณ์ความรู้สึกที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง“เสว่เอ๋อ ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
หลี่เสว่ส่ายหัวด้วยความรู้สึกอึดอัดไม่น้อย“ดีขึ้นเยอะแล้ว”
“ก็ดีแล้วล่ะ……ถ้าอย่างนั้น ผมไปสั่งอาหารเช้าให้นะ”
ไป๋ยี่เฟยพูดพลางสวมเสื้อ ก่อนจะออกจากห้องไป
หลี่เสว่มองไป๋ยี่เฟย จู่ๆก็ยิ้มออกมา“รู้สึกโง่จริงๆเลย!”
เธอก็รู้สึกสะเทือนใจ แค่เพราะว่าเป็นหวัดนิดหน่อย ไป๋ยี่เฟยกลับรีบมาจากเมืองเทียนเป่ยที่อยู่ห่างไกลเพื่อมาหาเธอในทันที!
หลี่เสว่คิดพลาง สวมเสื้อไปพลาง ก่อนจะไปล้างหน้าอย่างช้าๆ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยออกไปแล้ว เห็นสวีลั่งที่อยู่ตรงประตู
“ไป๋หู่ล่ะ?”ไป๋ยี่เฟยถามขึ้น
สวีลั่งตอบ“ไปซื้ออาหารเช้าแล้ว”
จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็คิดขึ้นมาได้ เมื่อคืนเขาตัดสินใจมาอย่างกะทันหัน หลี่เฉียงตงกับหลิวจื่อหยุนยังไม่รู้ เดี๋ยวตอนที่พวกเขามาหาหลี่เสว่ ก็จะเข้าใจเอง
“พวกพ่อแม่ตื่นกันแล้วยัง?”ไป๋ยี่เฟยถามขึ้น
สวีลั่งตอบ“ตื่นแล้ว บอกให้คุณพาเธอไปเที่ยวเล่นในเมืองหลวงสักหน่อยน่ะ พวกเขาสองคนต้องไปที่อื่นในตอนกลางวัน ตอนค่ำถึงจะกลับ”
“หือ?”ไป๋ยี่เฟยไม่อยากที่จะเชื่อหูตัวเอง
สวีลั่งมองบนใส่เขาไปหนึ่งที“ไม่มีแววจริงๆ”
จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีแววจริงๆ เมื่อก่อนหลิวจื่อหยุนปฏิบัติกับตนเองยังไง ไม่ต้องพูดเยอะ ตนเองเจอมาเองทั้งนั้น ตอนนี้ดีขึ้นเยอะมาก แต่คิดไม่ถึงว่าในครั้งนี้จะให้ตนเองพาหลี่เสว่ไปเที่ยวเล่น นี่ถือกำลังหาโอกาสให้กับพวกเขาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนี่นา!
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าวันเวลาที่ดีๆของตัวเองกำลังจะมาแล้ว
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยยิ้มๆอย่างไม่มีเหตุผลอยู่นั้น หลี่เสว่ก็ออกมาพอดี
“คุณ……ยิ้มอะไรอยู่?”
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่แล้วในใจก็รู้สึกอิ่มเอิบขึ้นมา“พอเห็นคุณก็เลยรู้สึกดีใจน่ะสิ ใช่แล้ว คุณอยากไปที่ไหนบ้างไหม ให้ผมพาคุณไปไหม? พวกพ่อแม่ออกไปแล้ว กว่าจะกลับก็ตอนค่ำนู้นแหละ”