บทที่ 304
เฉินห้าวทำอะไรไม่ถูก เขาจึงเดินตามหลังหลี่เสว่ไปอย่างเงียบๆ
ต้องบอกว่า หลังจากที่เฉินห้าวจากไป ไป๋ยี่เฟยก็เริ่มรู้สึกกังวล เขาจึงโทรหาหลิวเสี่ยวอิง และขอให้เธอไปดูเฉินห้าวสักหน่อย
เฉินห้าวอยู่ในห้องของตัวเองในเวลานั้น และคนที่เฝ้าดูคือหลิวเสี่ยวอิงและป้าคนที่สองของเธอ
ในตอนนั้น เขาคิดว่าเป็นคนที่มาจากฝั่งนุ้นที่มาเอาชีวิตเขา แต่เมื่อเขาเห็นว่าเป็นหลิวเสี่ยวอิง ถึงรู้สึกว่าโล่งใจไป
ทั้งสองคนช่วยเหลือเฉินห้าวจัดการกับตัวแมลงด้วยกัน และเฉินห้าวก็เป็นอิสระ
ทันทีที่ไป๋ยี่เฟยกลับมา เฉินห้าวก็มาหาเขา และจากนั้นไป๋ยี่เฟยก็จัดให้เฉินห้าวอยู่ในบ้านพัก โดยคอยดูแลหลี่เสว่ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น
……….
หลังจากที่หลี่เสว่ออกไปแล้ว ก็ได้พบกับโจวฉวี่เอ๋ออย่างรวดเร็ว
และจางเหลยก็อยู่ในหลันโปกั่งวิลล่า ใกล้กับวิลล่าที่หลี่เสว่อยู่มาก และสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่อยู่ทางเข้าของลานบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมาก
………..
ในสถานบันเทิงของเมืองเทียนเป่ย ซูต้าหลิวและจางหรงกำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อนด้วยกัน
“โอ้ย ฮ่าฮ่า…….” ซูต้าหลิวอารมณ์ดีมาก การใช้ชีวิตในช่วงเวลาสองสามวันที่ผ่านมา แทบจะทำให้เขาลืมตัวไปแล้ว ท่านประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ปนั้นช่างมีความสุขเหลือเกิน
จางหรงหัวเราะ และดูถูกเขาอยู่ในใจว่า ถ้าคุณเป็นท่านประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ปจริงๆแล้วก็ โหวจวี๋กรุ๊ปก็จะจบในไม่ช้าก็เร็ว เขาก็จะถอนหุ้นและออกไปทันที
ซูต้าหลิวยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “เฮ้ เหล่าจาง ที่นี่มีผู้หญิงหรือไม่?”
จางหรงไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงต้องลุกขึ้นและขึ้นฝั่ง ไปเรียกบริการพิเศษให้ซูต้าหลิว
เมื่อจางหรงออกไป ซูต้าหลิวก็เอนตัวไปที่ฝั่ง พลางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อคืน บอกว่ามีการเลี้ยงอาหารค่ำตอนเมื่อวาน คุยกันแล้วว่าหลงหลิงหลิงจะไปด้วยกัน แต่โทรศัพท์ไปคือปิดเครื่องอยู่ เลยทำให้เขาต้องไปคนเดียว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ไปถึงที่นั่นแล้ว ถึงพบว่าแม่งมีมื้ออาหารเย็นสักที่ไหน มันเป็นเรื่องโกหกเขาชัดๆ!
ซูต้าหลิวโกรธมาก โทรหาหลงหลิงหลิงแต่ก็ยังคงไม่สามารถโทรติดได้ เขาจึงต้องมาหาจางหรง จางหรงก็พาเขามาสนุกสนานที่นี่ตั้งแต่เช้า ถือเป็นการชดเชยเรื่องเมื่อคืน
“ดาดาดา………”
เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกกับพื้นทำให้ซูต้าหลิวหันศีรษะไป เมื่อมองไป ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที “คนสวย……..”
เย่อ้ายเดินเข้ามาในชุดสูทตัวเล็ก และมองไปที่ซูต้าหลิว ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของเธอ “คุณก็คือท่านประธานกรรมการคนใหม่ของโหวจวี๋กรุ๊ปที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่หรือ?”
น้ำลายของซูต้าหลิวแทบจะไหลออกมาหลังจากที่ได้เห็นคนสวย เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยิ้มและพยักหน้า “ใช่ ใช่ ผมเป็นท่านประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ป”
“เร็วเข้า ลงมาเร็วเข้า เรามาเล่นด้วยกันเถอะ!” จางหรงพึ่งออกไปได้สักพักพอดี เขาคิดว่าเย่อ้ายเป็นผู้หญิงที่จางหรงเรียกมา
สีหน้าของเย่อ้ายมืดลงทันที เมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “สวัสดี ฉันชื่อเย่อ้าย ฉันคือเย่ซื่อกรุ๊ป…………”
“อะไรคือเย่ซื่อกรุ๊ป ไม่ต้องพูดมาก รีบลงมาเร็วเข้า” ซูต้าหลิวอดใจรอไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นคนสวยที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ซูต้าหลิวเดินไปที่ข้างๆเย่อ้าย และจับข้อเท้าของเย่อ้าย และดึงคนลงไปในสระน้ำโดยตรง
“อ๊ะ!”
เมื่อมีเสียงดัง “บูม” เย่อ้ายก็ตกลงไปในสระน้ำ และยังกลืนน้ำในสระน้ำพุร้อนเข้าไปหนึ่งคำขนาดใหญ่ เปียกโชกไปหมดทั้งทั่วร่างกาย
เมื่อเริ่มดิ้นรนขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าที่ยิ้มอย่างน่าเกลียจของซูต้าหลิวเข้ามาใกล้กับตัวเอง และทันใดนั้นก็ตกใจมาก และก็ตบเขาไปอย่างแรง “พัฟ”
“เชี่ย!”
ซูต้าหลิวถูกตบที่ใบหน้า ทันใดนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที “แม่งมึงหมายความว่าไง? ออกมาขายบริการยังจะแสร้งทำเป็นเหมือนดอกบัวขาวไปเพื่ออะไร?”
“พัฟ!”
เย่อ้ายตบไปอีกหนึ่งที “มึงพูดเหี้ยอะไร?”
เขากล้าพูดว่าเธอเป็นคนออกมาขายงั้นเหรอ!
ซูต้าหลิวถูกตบอีกครั้ง และตอนนี้ความโกรธก็เพิ่มมากขึ้น และก็ตบกลับไปหนึ่งที
“แม่งเอ้ย! ที่กูชอบมึง นั่นเป็นบุญของมึง มึงยังจะกล้าขัดขืนกูอีกเหรอ? ลองขัดขืนดูอีกครั้งสิ?”
“กูจะเอากับมึงตอนนี้เลย ดูว่ามึงยังจะเก่งกล้าได้อีกไหม!”
หลังจากพูดจบ ซูต้าหลิวก็ใช้ร่างกายที่อ้วนและใหญ่ของเขา ทำให้ร่างกายของเย่อ้ายขยับตัวไม่ได้ จากนั้นก็กดทับเย่อ้ายด้วยขาข้างเดียว เพื่อไม่ให้เธอหนีไป และดึงเสื้อผ้าของเย่อ้ายด้วยมือทั้งสองข้าง
หุ่นที่ดูดีของเย่อ้าย เข้ากับชุดรัดรูปที่เธอใส่ เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ดูๆแล้วก็เต็มไปด้วยความเย้ายวน
“บังอาจ! มึงรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร?” เย่อ้ายพยายามดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง
“กูไม่สนใจว่ามึงแม่งจะเป็นใคร? เป็นคนออกมาขายทั้งนั้น และยังจะคิดว่ามีระดับอีกงั้นเหรอ?” ซูต้าหลิวเสียสติไปกับความปรารถนา
ในเวลานี้ จางหรงก็กลับมาแล้ว
“ไอ้โง่นี่!”
เย่อ้ายเป็นคุณหนูคนโตของเย่ซื่อกรุ๊ป หากทำให้เธอขุ่นเคือง ถึงจะเอาโหวจวี๋กรุ๊ปมาพูดก็เปล่าประโยชน์
อย่างไรก็ตาม เย่อ้ายคนนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก ก่อนหน้านี้ยังอยากจะฉวยโอกาสซื้อกิจการของโหวจวี๋กรุ๊ป และตอนนี้ก็ร่วมมือกับบริษัทอื่นๆเพื่อต่อสู้กับโหวจวี๋กรุ๊ป ถูกซูต้าหลิวรังแกสักหน่อยมันก็สะใจอยู่เล็กน้อย
แน่นอนว่า จางหรงไม่สามารถเพิกเฉยได้ เพราะเขาชอบทิ้งหนทางให้ตัวเองในทุกสิ่ง
“ท่านประธานกรรมการ ๆ” จางหรงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และจับมือของซูต้าหลิวไว้
ซูต้าหลิวขัดจังหวะ อารมณ์เสียมาก “ทำอะไร?”
“ท่านประธานกรรมการ เธอไม่ใช่หญิงสาวที่ออกมาขายบริการ เธอเป็นสมาชิกของเย่ซื่อกรุ๊ป” จางหรงอธิบาย
ซูต้าหลิวขมวดคิ้ว “เย่ซื่อกรุ๊ปอะไร ไม่เคยได้ยิน! มันเกี่ยวอะไรกัน? ยังไงก็คือคนที่ออกมาขายทั้งนั้น!”
“ไม่ใช่ เธอไม่ใช่หญิงสาวที่ออกมาขายบริการ!” จางหรงกล่าวอย่างกังวล
เมื่อเห็นจางหรงคุยกับซูต้าหลิว เย่อ้ายก็ถอยออกทันที และขึ้นฝั่ง หันหลังแล้วพูดกับซูต้าหลิวว่า “มึง! คอยดูไว้เถอะ! กูจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มันจบไปง่ายๆ!”
หลังจากพูดจบ เย่อ้ายก็หันหลังและเดินจากไป
ที่เย่อ้ายมาในวันนี้เพื่อมาสำรวจความจริงเป็นหลัก เธอได้รับข่าวว่า โหวจวี๋กรุ๊ปมีท่านประธานกรรมการคนใหม่มาคนหนึ่ง และอยากจะมาลองดูว่าท่านประธานกรรมการคนใหม่คนนี้เป็นอย่างไร
เมื่อสองวันก่อนเธอได้ร่วมมือกับนักธุรกิจในเมืองเทียนเป่ยก่อเรื่องให้กับโหวจวี๋กรุ๊ป จนทำให้สินค้าจำนวนมากของโหวจวี๋กรุ๊ปไม่สามารถหมุนเวียนได้ แต่โหวจวี๋กรุ๊ปก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เธอเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย และคิดว่าท่านประธานกรรมการคนใหม่ที่พึ่งมาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม!
“พรุ่งนี้ฉันจะให้ท่านประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ปที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่นั้นชดใช้กับสิ่งที่เขาทำไว้ ต่อหน้าทุกคนในพันธมิตรทางธุรกิจทั้งหมด!”
………
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยกลับไปที่วิลล่า เขาก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในวิลล่าเลย จึงโทรหาเฉินห้าวทันที
เฉินห้าวทำได้เพียงต้องสารภาพเรื่องทั้งหมดออกมา และไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกกังวลอยู่ในใจ หลี่เสว่จะออกไปโดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร หรือว่ามีใครชวนเธอออกไปหรือ? ถ้าอีกฝ่ายจงใจมุ่งเป้าไปที่คนของไป๋ยี่เฟย งั้นหลี่เสว่ก็เป็นอันตรายมากไม่ใช่หรือ?