บทที่ 312
ไป๋ยี่เฟยก็ส่งเสียงอืมออกมาเช่นกัน กล่าวอีกว่า “เสว่เอ๋อ คุณจำอะไรไม่ได้ คุณไม่จำเป็นต้องตอบรับความรู้สึกของผม รอคุณนึกออกแล้ว ค่อยตอบรับผมก็ได้ ผมรอได้”
“หากนึกไม่ออก พวกเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่ ได้ไหม?”
หลี่เสว่เงยหน้า มองไป๋ยี่เฟย อาการสิ้นหวังที่อยู่ในถ้อยคำของไป๋ยี่เฟยค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความแปลกใจ ประทับใจและความกระดากอายอย่างที่ยากจะพบเห็นแทน
เขินอายอยู่นาน และไม่รู้ว่าควรจะตอบเช่นไร สุดท้ายจึงได้แต่คงความเงียบเอาไว้
ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ต้องการคำตอบจากหลี่เสว่ในตอนนี้เช่นกัน ขอเพียงเธอไม่ปฏิเสธเขาก็ดีมากแล้ว
……
“พี่ เฉินอ้าวเจียวไปแล้วครับ”
ไป๋ยี่เฟยสับสนเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างเสียดาย
เขาเก็บเฉินอ้าวเจียวไว้ เพราะเดิมทีคิดจะให้เขาสร้างอิทธิพลที่เป็นของเขาเพียงคนเดียว อีกทั้งพรุ่งนี้ยังคิดจะไปหาเพื่อเจรจากับเขา ผลคือคนได้จากไปเสียแล้ว
ถ้าอย่างนั้นอิทธิพลของเขาต้องหาใครอีกคนมาแทนดี?
แต่คนแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ต้องเป็นคนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ขณะเดียวกันก็ต้องซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ ทั้งยังมีอำนาจ และยังโหดเหี้ยม
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้วขึ้นมา หนนี้กระทั่งจะจัดการราชาแห่งหลิงหนานแค่คนเดียวยังสิ้นเปลืองกำลังไปมากขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นหากเขาจะจัดการไป๋เซี่ยว กระทั่งโอกาสสักนิดก็คงจะไม่มีแล้ว
เฉินห้าวไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยคิดอะไรอยู่ จึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “พี่ เจ็บแผลใช่หรือเปล่า? ให้ผมไปตามหมอไหม”
“ไม่ต้อง” ไป๋ยี่เฟยคืนสติ “ฉันกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่”
เฉินห้าวพยักหน้า จากนั้นจึงไม่รบกวนอีก
ผ่านไปไม่นาน โจวฉวี่เอ๋อกับหลี่เสว่ก็ถืออาหารเข้ามา
พอกินข้าวเสร็จ ไป๋ยี่เฟยไม่อยากให้หลี่เสว่เหนื่อย จึงให้โจวฉวี่เอ๋อพาหลี่เสว่กลับไปส่งที่วิลล่า เฉินห้าวเองก็มีธุระจึงจากไปเช่นกัน
ตอนเย็น ประตูห้องผู้ป่วยของไป๋ยี่เฟยก็ถูกเคาะ ถึงกับเป็นหวังไห่
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชน ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ อีกทั้งตอนนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติใดๆ ออกมา หรือว่ารถพยาบาลจะไปกระตุ้นเขาเข้า?
น่าจะไม่ใช่ หลังเขาประคองตัวไปถึงวิลล่าถึงค่อยสลบไป อีกทั้งเขาเองก็รู้สึกได้รางเลือนว่า ผ่านไปสักระยะ รถพยาบาลถึงจะมา
หากคำนวณจากเวลา คนเหล่านั้นน่าจะถอนตัวจากวิลล่าแล้ว ไม่รู้เรื่องที่เขาถูกรถพยาบาลพาตัวไป
หลังหวังไห่เข้ามาก็หัวเราะฮ่าๆ “ดูท่าบาดแผลจะหนักหนาเอาการ”
พูดจบ ก็ถือวิสาสะไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง
คนผู้นี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกันเองอยู่บ้าง
ไป๋ยี่เฟยตอบเสียงราบเรียบ “ยังสบายดี ขอบคุณที่เป็นห่วง”
หวังไห่หัวเราะ “ที่จริงวันนี้ที่ผมมาไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอาการของคุณ คุณน่าจะรู้ฐานะของผมสินะ?”
“ประธานของเป่ยไห่” ในดวงตาของไป๋ยี่เฟยเจือแววสำรวจ
หวังไห่ไม่สนใจ “ถูกต้อง อย่างนั้นคุณเองก็น่าจะรู้ว่า อิทธิพลของผมกว้างขวางมาก ต่อให้เป็นโหวจวี๋ ผมเองก็ทำลายได้อย่างง่ายดายเช่นกัน”
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าขรึมลง “คุณหมายความว่ายังไง? จะจัดการโหวจวี๋?”
“วันนี้คุณไม่ไว้หน้าผม”
คำพูดของหวังไห่ ทำให้ใจของไป๋ยี่เฟยดิ่งลงในพริบตา เวลานั้นเขาเองก็โกรธจนร้อนใจถึงได้ไม่ไว้หน้าหวังไห่
ฐานะของหวังไห่ ทำให้เขาหวาดกลัวจริงๆ ท่าทีของเขาควรจะอ่อนลงบ้าง
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หวังไห่ก็พูดอีกว่า “พักนี้ มีบริษัทประมาณยี่สิบห้าแห่ง มาฟ้องผมเรื่องโหวจวี๋ ขอให้ผมสืบโหวจวี๋ให้ถึงที่สุด”
ไป๋ยี่เฟสได้ยินก็เย้ยหยันว่า “พูดแบบนี้คุณคงมาสืบโหวจวี๋สินะ อย่างนั้นคุณคงมาผิดที่แล้วล่ะ ที่นี่เป็นโรงพยาบาล ไม่ใช่โหวจวี๋”
“คุณไม่กังวลเลยหรือ?” หวังไห่ถาม
“หากผมกังวล คุณก็จะไม่สืบโหวจวี๋แล้วเหรอ?”
หวังไห่สำลัก ไม่คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะตอบเช่นนี้
“แค่ก……” หวังไห่ไอเบาๆ ตั้งตัวอยู่ชั่วครู่ ก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ไม่ทำหรอก แค่ฟ้องเท่านั้น ผมไม่ได้เก็บมาใส่ใจ”
“ความหมายของคุณคือ……” ไป๋ยี่เฟยจึงยิ่งสงสัยมากขึ้น นี่เป็นการช่วยเขาหรือ? เพราะอะไร? เขาเพิ่งจะไม่ไว้หน้าเขาไปไม่ใช่เหรอ?”
หวังไห่กล่าวอีกว่า “ขอเพียงคุณรับปากเงื่อนไขผมข้อหนึ่ง ผมก็รับประกันได้ว่า โหวจวี๋จะไม่มีทางเกิดปัญหาใดๆ หรือแม้กระทั่งมีที่ยืนในเป่ยไห่อย่างมั่นคง”
ไป๋ยี่เฟยทำหน้าตาตกตะลึง ในเมื่อรู้ว่ามีบริษัทมากมายจ้องเล่นงานโหวจวี๋ ประกอบกับยังไม่รู้ว่าใครที่เล่นงานเขาอยู่เบื้องหลัง หวังไห่กลับกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา คิดดูก็น่าจะรู้ว่า เมื่อรับปากไปแล้วจะเป็นยังไง