บทที่32
ทั้งสองคนชนแก้วกัน แล้วดื่มลงไปหนึ่งคำ”มีความสุขหรือเกิน!”
“ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว”หวังโหลวพูดอย่างทอดถอนใจ
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า”ฉันก็เช่นกัน”
ทั้งสองคนล้วนคิดถึงชีวิตช่วงมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือมันล้วนผ่านไปแล้ว
พอเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยก็ได้เห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา สีหน้าหยิ่งกำเริบมาก
ไป๋ยี่เฟยอึ้งทันที”นี่เป็นพี่เตาในวันนั้นหรือเปล่า?”
หวังโหลวมองไปตามสายตาของเขา”พวกเขามาหาคุณหรือเปล่า?ไม่นั้นเราไปก่อนไหม?”
ไอ้หน้าแผลมีดคนนั้นถูกไป๋หู่สั่งสอนไปสักครั้งหนึ่งอย่างแรง มือยังถูกไป๋หู่บีบจนเสีย เขาอยู่ในกลุ่มมาเฟียมานาน ยังไม่มีคนที่กล้าปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้เลย ดังนั้นเขาจะไม่ยอมปล่อยไป๋ยี่เฟยไปง่ายๆแน่นอน
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับส่ายหัว แถมยังลุกขึ้นเดินไปหาเขา
หวังโหลวกลัวจนรีบเอื้อมมือออกไป แต่ก็จับเขาไม่ได้
ตั้งแต่ไอ้หน้าแผลมีดถูกไป๋หู่ตบตีในครั้งก่อน ทำให้เขาจะต้องพาลูกน้องให้มากขึ้นในทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก จนชิงเป็นนิสัย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีเรื่องที่ถูกเอาเปรียบในครั้งก่อนเกิดขึ้นอีก
เขาหาไป๋หู่อยู่ตลอด แต่เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ยังหาไม่เจอ แถมยังไม่มีใครรู้จักคนนี้ด้วยซ้ำ!
ไอ้หน้าแผลมีดกับพวกคนที่ตามหลังเพิ่งคิดจะนั่งลง ก็เห็นไป๋ยี่เฟยเดินมาทางนี้
ไป๋ยี่เฟยยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า”ไม่ได้เจอกันมานานเลยนะ!”
ไอ้หน้าแผลมีดนิ่งอึ้งทันที จากนั้นก็ทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น”ไอ่เหี้ยเอ๊ย ฉันกำลังหาแกอยู่เนี่ย!”
พวกคนที่ตามหลังเขาก็ล้อมรอบไป๋ยี่เฟยและหวังโหลวเอาไว้
คนที่อยู่รอบข้างพอเห็นสถานการณ์เช่นนี้ต่างกระจายตัวออกไป ส่วนเจ้าของร้านบาร์บีคิวเหมือนจะอยากไป แต่กลัวว่าจะถูกตบตี จึงยืนดูอยู่ตรงนั้น
หวังโหลวก็มีความหวาดกลัวเช่นกัน คนพวกนี้ล้วนเป็นนักเลง พวกเขาสองคนสู้ไม่ไหวแน่ๆ
ไป๋ยี่เฟยแสดงออกอย่างราบเรียบมาก แถมยังพูดกับไอ้หน้าแผลมีดว่า”ฉันจะทำข้อตกลงกับคุณ”
“ข้อตกลงอะไรฉันล้วนไม่สน ไปตบมันให้จำเร็ว!”ไอ้หน้าแผลมีดสั่งให้ลูกน้องลงมือทันที
ไป๋ยี่เฟยยกมือขึ้น”หนึ่งล้านบาท!”
“รอก่อน!”
ไอ้หน้าแผลมีดรีบสั่งให้คนหยุดมือ เขาออกมาสร้างกลุ่มมาเฟียก็เพื่อหวังเงินไง เงินตั้งล้านหนึ่งโว้ย!มากกว่าที่หลี่ฝานออกตั้งหนึ่งเท่า
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมา”หนึ่งล้านบาท ช่วยไปตบคนหนึ่งให้ฉันหน่อย”
“ใคร?”ไอ้หน้าแผลมีดถาม
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ”ใครออกเงินให้แกมาตบฉัน แกก็ไปตบคนนั้น”
ไอ้หน้าแผลมีดเข้าใจความหมายของเขา แล้วค่อนข้างจะสะสม ไป๋ยี่เฟยเลยพูดว่า”มีเงินยังไม่ทำหรือ?ฉันออกตั้งหนึ่งล้านบาทนะ!แต่คุณไม่ทำก็ไม่เป็นไร ฉันมีเงินอยู่มากมาย สามารถไปจ้างคนอื่นทำ”
พอได้ยินคำพูดนี้ ไอ้หน้าแผลมีดก็ไม่ลังเลอีกแล้ว เพราะยังไงก็ทำเพื่อหวังเงิน ตบใครล้วนเหมือนกันหมดแหละ”โอเค ตกลงกันนะ!”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า”ให้คุณห้าแสนก่อน ที่เหลืออีกห้าแสน รอคุณไปตบเสร็จแล้วค่อยให้คุณ”
“คุณเป็นคนตรงไปตรงมาดี!”ไอ้หน้าแผลมีดก็เป็นคนที่ไม่อ้อมค้อมเช่นกัน หลังจากสองคนแลกเปลี่ยนเบอร์ติดต่อเสร็จ ไอ้หน้าแผลมีดก็พาลูกน้องจากไปแล้ว
หลังจากหวังโหลวดูเสร็จสมบูรณ์ ก็กลืนน้ำลายเข้าไป จากนั้นยกนิ้วโป้งขึ้นมา”คุณนี่สุดยอดจริงๆ!”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะพร้อมส่ายหน้า”ตามจริงฉันก็กลัวเช่นกัน ถ้าไม่ใช่ว่าคนนี้อยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่กล้าเหมือนกัน”
“อะไร?”หวังโหลวมองไปตามทิศทางที่เขาบอก จากนั้นก็กรีดออกมา”เย็ดแม่ง!”
มีชายร่างใหญ่ที่ใส่แจ็กเก็ตคนนี้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นไป๋หู่นี่เอง
ระดับการต่อสู้ของไป๋หู่ครั้งก่อนก็ได้เห็นแล้ว ไม่น่าทำไมไป๋ยี่เฟยยังคงราบเรียบขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่ว่าไป๋ยี่เฟยได้เห็นไป๋หู่ ก็คงไม่กล้าไปหาไอ้หน้าแผลมีดด้วยตนเองหรอก
ไป๋หู่มองไปดูที่ไป๋ยี่เฟย”คุณชายสั่งไว้ว่าต้องปกป้องคุณ แต่คำพูดที่คุณตกลงกับคนอื่นนั้น ฉันจะไม่ไปยุ่ง”
ไป๋ยี่เฟย“……”
ในที่สุดทั้งสามคนนั่งกินบาร์บีคิวและดื่มเหล้าด้วยกัน มีความสุขมาก
ผ่านไปอีกหลายวัน ไป๋ยี่เฟยได้รับบัตรเชิญชวนที่หลงหลิงหลิงเอามาให้
“งานฉลองครบรอบ 20 ปีของหลิ่วซื่อกรุ๊ป?”ไป๋ยี่เฟยหงายคิ้วขึ้นมา
หลงหลิงหลิงพยักหน้า”หลิ่วซื่อกรุ๊ปได้เชิญชวนองค์กรที่มีชื่อเสียงมามากมาย”
ไป๋ยี่เฟยไม่ขอบหลิ่วจาวเฟิง ดังนั้นจึงไม่ชอบหลิ่วซื่อกรุ๊ปไปด้วย เขาทิ้งบัตรเชิญไปข้างๆ”ไม่ไป!”
หลงหลิงหลิงตอบว่าอืม จากนั้นก็ถอยออกไปจากห้องทำงาน
ส่วนฝั่งนี้ คนภายในกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปล้วนเริ่มซุบซิบกัน
“ได้ข่าวว่าประธานหลี่จะไปเป็นคู่ในงานเลี้ยงของคุณชายหลิ่ว?”
“ใช่ไง! เธอเองมีสามีแล้วมิใช่หรือ?ทำไมยังไปเป็นคู่ของผู้ชายคนอื่นอีกล่ะ?”
“นี่ถือว่าเป็นการเหยียบเรือสองแคม!”
“……”
หลี่เสว่เดินเข้าใกล้ห้องทำงานทีละก้าว แต่ทุกก้าวที่เดินล้วนสามารถได้ยินเสียงซุบซิบของคนพวกนั้น ทำให้เธอเหมือนเดินอยู่บนทางที่เต็มไปด้วยมีด
พอกลับมาถึงห้องทำงาน หลี่เสว่ถึงรู้สึกโล่งใจลงมาหน่อย แต่กลับรู้สึกว่าได้รับความอธรรมมาก
เธอยอมรับว่าจะไปเป็นคู่ในงานเลี้ยงของหลิ่วจาวเฟิง แต่เป็นการคืนนํ้าใจเขา ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นคนเหยียบเรือสองแคม
ส่วนเรื่องนี้ ไป๋ยี่เฟยยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เขายังพูดคุยกับคนอื่นอย่างสนุกอีก ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเสียใจขึ้นมา
หรือว่าเธอจะไปบอกไป๋ยี่เฟยตอนนี้เลยว่า ตนเองยอมไปเป็นคู่ของหลิ่วจาวเฟิงเพื่อแลกกับความอิสระของเขาหรือ?แต่นี่มันสามารถแก้ไขอะไรได้ล่ะ?คนพวกนั้นก็ยังคงตำหนิเธออยู่ละหลัง ส่วนเธอก็ได้รับปากไว้แล้ว จะไปปฏิเสธได้ยังไงล่ะ?
พอดีในเวลานี้ หลี่ฝานเดินเข้ามาแล้วโยงเอกสารฉบับหนึ่งให้เธอ”เซ็นชื่อ”
หลี่เสว่ฟื้นตัวกลับมา ไม่ได้ตั้งใจอ่านดูแค่ตาเดียวแล้วก็เซ็นชื่อเลย
หลี่ฝานถือเอกสารไว้ไม่ยอมไป”ฉันได้ข่าวว่าคุณจะเป็นคู่ในงานเลี้ยงของหลิ่วจาวเฟิง?คุณนี่ถือว่าตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม?แบบนี้ก็ดีนะ คนขยะอย่างไป๋ยี่เฟยเทียบกับหลิ่วจาวเฟิงได้ที่ไหนล่ะ”
“หลิ่วจาวเฟิงถือเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณนี่ถึงจะถือว่าประเมินตัวเองได้ถูกต้อง”
หลี่เสว่มองไปที่เขาอย่างเย็นชา”ถ้าไม่มีอะไรคุณก็สามารถออกไปได้แล้ว”
หลี่ฝานเอ่ยเสียงเฮ่อออกมาอย่างหยิ่ง แล้วสะบัดหน้าจากไป
หลังจากกลับมาถึงห้องทำงานของตนเอง หลี่ฝานก็โยนเอกสารใส่โต๊ะ แล้วถอดเน็คไทให้หลวมออกมาสักนิด
เฮ่อ!เขาสามารถออกมาได้ล้วนต้องอาศัยหลิ่วจาวเฟิง หลิ่วจาวเฟิงช่วยเขาออกมาก็มีข้อแม้เช่นกัน ก็คือให้เขาปล่อยเขาไปทุกที่ว่าหลี่เสว่จะไปเป็นคู่ในงานเลี้ยงของเขา
หลี่ฝานรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการทำร้ายชื่อเสียงของหลี่เสว่ ดังนั้นเลยยอมรับโดยไม่ลังเลใดๆ รอให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จะดูสิว่าหลี่เสว่จะสามารถอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการนี้ได้อีกนานเท่าไหร่!”
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง หลี่เสว่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฝาน เธอยิ่งไม่สบายใจมากกว่าเดิมอีก แต่ก็รู้สึกแปลกมาก ทำให้เรื่องที่เธอยอมรับว่าจะเป็นคู่ในงานเลี้ยงของหลิ่วจาวเฟิงจึงเผยแพร่ไปทั่วอย่างรวดเร็วขนาดนี้ล่ะ?
มีคนวางแผนอยู่ละหลังแน่นอน!
ส่วนคนนี้นอกจากเป็นหลี่ฝานแล้ว เธอไม่ทราบว่าจะเป็นใครได้อีก!
พอถึงเวลาเลิกงาน หลี่เสว่ก็ออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากได้ยินคำซุบซิบเหล่านั้นแล้ว แต่แม้ว่าทำแบบนี้แล้ว ก็ยังคงได้ยินส่วนหนึ่งอีก
พอกลับไปถึงวิลล่า สังเกตเห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่อยู่ ในใจยิ่งไม่สบายใจจนสุดๆ จึงโทรให้โจวฉวี่เอ๋อ”ฉวี่เอ๋อเราไปดื่มเหล้ากัน!”
โจวฉวี่เอ๋อตกใจมาก”เป็นไรหรือ?เกิดอะไรขึ้น?”
“เดี๋ยวเจอกันค่อยว่ากันอีกที”
……
ไป๋ยี่เฟยกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นว่าหลี่เสว่ไม่อยู่ จึงสงสัยว่า”วันนี้ยุ่งงานขนาดนี้เลยหรือ?”
แต่เพิ่งพักผ่อนได้ไม่นาน ก็ได้รับสายของโจวฉวี่เอ๋อ
“หวัดดี ไป๋ยี่เฟย! รีบมารับเสว่เอ๋อ! เสว่เอ๋อเมาเหล้าแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วโดยจิตสำนึก”จะเมาได้ยังไง?พวกคุณอยู่ที่ไหน?”
“คุณมาก่อนค่อยว่ากันอีกที”โจวฉวี่เอ๋อบอกตำแหน่งของบาร์แห่งหนึ่งให้ จากนั้นก็วางสาย
ไป๋ยี่เฟยรีบหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปข้างนอก พอเพิ่งออกจากบ้านก็สังเกตเห็นว่าตนเองไม่มีรถ
ช่วงหลายวันนี้ยุ่งอยู่แต่การรับซื้อบริษัทอื่น จนลืมเรื่องการซื้อรถไปแล้ว ดูท่าทางแล้วพรุ่งนี้ต้องไปซื้อรถแล้วแน่นอน!
ไป๋ยี่เฟยเรียกรถมาถึงบาร์ เพิ่งลงรถก็เห็นว่าโจวฉวี่เอ๋อประคองหลี่เสว่ที่เมาจนไม่มีสติยืนอยู่บนข้างถนน
“เสว่เอ๋อ”ไป๋ยี่เฟยรีบเดินไป ประคองหลี่เสว่ไว้
โจวฉวี่เอ๋อกว่าจะได้เบาตัวลงมา เธอจึงถอนหายใจออกมา”กว่าคุณจะมาถึง”
“ขอบคุณครับ ขอโทษที่เป็นภาวะแก่คุณ”ไป๋ยี่เฟยกอดหลี่เสว่ไว้แล้วกล่าวขอบคุณเธอ จากนั้นก็รีบถามอย่างใจร้อน”วันนี้เธอเป็นไรหรือ?ทำไมถึงเมาจนขนาดนี้?”