บทที่ 33
โจวฉวี่เอ๋อจ้องมองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความโกรธ”คุณยังกล้ามาถามอีก ก็เพราะคุณนั่นแหละ!”
“เพราะฉัน?”ไป๋ยี่เฟยมองไปที่เธออย่างสงสัย
โจวฉวี่เอ๋อเห็นสีหน้าของไป๋ยี่เฟยก็โมโหขึ้นมา”คุณอย่ามาแกล้งทำตัวเป็นไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่ใช่ว่าคุณถูกจับตัวเข้าไป เสว่เอ๋อจะไปขอร้องหลิ่วจาวเฟิงได้ยังไง ถ้าไม่ใช่แบบนั้นเธอก็จะไม่ต้องเป็นคู่ในงานเลี้ยงให้หลิ่วจาวเฟิงเพื่อคืนนํ้าใจของเขา!”
“ทีนี้ดีแล้ว หลายๆคนล้วนทราบเรื่องนี้ คุณรู้หรือเปล่าว่าคนพวกนั้นว่าเสว่เอ๋อยังไงอยู่ละหลัง?คุณรู้ว่าคำพูดพวกนั้นมันร้ายแรงขนาดไหนหรือเปล่า?คุณไม่รู้ทุกอย่าง!ฉันอยากจะตบหน้าคุณสักสองครั้งจริงๆ!”
ไป๋ยี่เฟยเหล่ตาขึ้นมาเล็กน้อน”หลิ่วจาวเฟิง?”
ดีมาก!เตือนเขาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่เขายังกล้ามามีความโลภต่อเสว่เอ๋ออีก นั้นก็อย่ามาโทษเขาแล้วนะ!
หลี่ฝานด้วยอีกคน หลิ่วจาวเฟิงช่วยเขาออกมาจากเรือนจำได้ด้วย ตัวเองนี่ดูถูกหลิ่วจาวเฟิงเกินไป!
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะให้เขาได้รับโทษจากเรื่องนี้แน่ๆ!”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ
โจวฉวี่เอ๋อไม่เชื่อ”คุณนี่หรือ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่อธิบายเพิ่มเติม แค่ประคองหลี่เสว่เข้าไปในรถ”ฉันพูดจริงทำจริง เรื่องวันนี้ขอบคุณมากด้วย”
พอพูดเสร็จ ก็ขับรถของหลี่เสว่จากไป
โจวฉวี่เอ๋อมองไปดูไป๋ยี่เฟยที่ไกลไปเรื่อยๆ สีหน้าปรากฏความสับสนขึ้นมา ถ้าพูดตามตรงเธอก็ดูถูกไป๋ยี่เฟยเช่นกัน แต่เริ่มตั้งแต่เขาซื้อรถให้เสว่เอ๋อ เธอก็มีความรู้สึกว่าเขาแตกต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว
เมื่อกี้ที่เขาพูดประโยคนั้นออกมาก็ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะไปเชื่อเขา ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะอุปนิสัยตลอดสองปีที่ผ่านมา เธอคงไม่ถามประโยคสุดท้ายออกมาหรอก
ไป๋ยี่เฟยพาหลี่เสว่กลับไปถึงวิลล่า แล้วอุ้มเธอเป็นไว้บนเตียง จากนั้นก็มองไปที่เธออย่างน่าสงสาร
แต่มองไปมองมา สายตาก็เปลี่ยนแปลงไป
หลี่เสว่เป็นคนสวยอยู่แล้ว สัดส่วนรูปทรงยิ่งดีมากทีเดียว แถมเนื่องด้วยสาเหตุที่ดื่มเหล้าไป ทำให้ใบหน้าของเธอแดงกํ่า ริมฝีปากเปิดเล็กน้อยและเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่ประณีตของเธอด้วย……
แถมไป๋ยี่เฟยก็ชอบหลี่เสว่อยู่มาตลอด เมื่อได้เห็นภาพพจน์ที่งดงามต่อหน้านี้ จึงทำให้ไป๋ยี่เฟยเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา แล้วก้มตัวลงไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกในการสัมผัสกันระหว่างริมฝีปากนั้นยอดเยี่ยมมาก จนทำให้ไป๋ยี่เฟยควบคุมตัวไม่ได้
การจูบกันที่เรียบง่ายมันไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้แล้ว เขาอ้าปากออกอย่างกล้าหาญ อยากจะได้อะไรที่มากกว่านี้
แต่ในเวลานี้ หลี่เสว่เอ่ยเสียงหนึ่งออกมาอย่างไม่สบายใจ ทำให้ไป๋ยี่เฟยตกใจมาก จึงรีบลุกขึ้นมามองไปที่หลี่เสว่
เมื่อได้สังเกตว่าหลี่เสว่เป็นแค่ไม่ค่อยสบาย แต่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยก็โล่งใจลงมา
ถ้าหากว่าเขาฉวยโอกาสที่หลี่เสว่เมาแล้วทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ ไม่ทราบว่าเธอจะโทษเขาหรือเปล่า?
แต่พวกเขาเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรือ?เรื่องแบบนี้มันก็ธรรมดาปกติอยู่ไม่ใช่หรือ?
ไป๋ยี่เฟยดิ้นรนไปนานมาก ในที่สุดก็ยอมแพ้ เขายังคงหวังว่าหลี่เสว่จะสามารถรักเขาจริงจัง จนกว่าวันที่เธอยอมรับเขาแล้วค่อยมาทำเรื่องที่ควรทำ อย่างนั้น ถึงจะมีความหมาย
ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็ช่วยหลี่เสว่เช็คหน้า แล้วห่มผ้าห่มให้เธอ พร้อมจูบลงไปบนหน้าผากของเธอ กระซิบว่า”เสว่เอ๋อ คุณไม่ต้องห่วง ทุกคนที่รังแกคุณ ฉันล้วนจะเอามันให้น่าดูเพื่อชิงความเป็นธรรมกลับมาให้คุณ”
พอพูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยถึงจะลุกขึ้นแล้วออกไปที่ห้อง
เมื่อกลับมาถึงห้องของตนเอง ไป๋ยี่เฟยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วใส่ข้อความให้หลงหลิงหลิง”งานเฉลิมครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ปฉันจะไปร่วมงานเอง”
หนึ่งคืนที่ไม่มีฝันผ่านไป
หลังจากหลี่เสว่ตื่นมาก็นวดศีรษะที่ปวดของตนเอง เธอจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่นึกว่าเป็นโจวฉวี่เอ๋อที่ส่งตนเองกลับมาถึงบ้าน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หลี่เสว่ก็เปิดโทรทัศน์ ปล่อยให้มันฉายข่าวรอบเช้า ส่วนตนเองก็ไปเตรียมอาหารเช้าที่ห้องครัว
“จากการสำรวจ พบว่าพายุที่มีรหัสชื่อว่ามาซาจะมาขึ้นฝั่งที่ชายฝั่งทางใต้ของประเทศเรา รัฐบาลส่วนท้องถิ่นกำลังอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วน สถานที่บันเทิงทุกแห่งล้วนปิดให้บริการ……”
“ดิงดอง……”
ไป๋ยี่เฟยถูกปลุกเพราะเสียงการแจ้งเตือนของโทรศัพท์ เขาเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู จากนั้นรีบพลิกร่างนั่งขึ้นมา”พายุเข้า!”
เมื่อได้เห็นข้อความแจ้งเตือน ไป๋ยี่เฟยรีบขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว พอมาถึงชั้นล่างก็สังเกตเห็นว่าหลี่เสว่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในห้องครัว”เสว่เอ๋อ คุณยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า?ต้องการกินยาแก้เมาไหม?”
ยาแก้เมาได้ซื้อที่ระหว่างทางกลับบ้านของเมื่อคืน เมื่อคืนเขาได้ให้หลี่เสว่กินไปแล้วเม็ดหนึ่ง
พอได้ยินคำพูดนี้หลี่เสว่ก็มองไปทางไป๋ยี่เฟย แล้วเม้นปากพูดว่า”ไม่ต้องแล้ว”
เมื่อเห็นเช่นนี้ไป๋ยี่เฟยยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่หลี่เสว่เหมือนไม่อยากคุยกับเขา ดังนั้นเขาเลยหุบปาก แต่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อดูเงาหลังของหลี่เสว่ที่ยุ่งอยู่
หลี่เสว่มองไปที่ไป๋ยี่เฟย”ยังยืนอยู่ตรงนั้นทำอะไร รีบไปยุ่งงานของแกสิ”
ไป๋ยี่เฟยเห็นว่าหลี่เสว่อาย เลยยิ้มแล้วตอบว่า”ครับ”
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็บอกว่าบริษัทมีงานด่วน ต้องไปจัดการเดี๋ยวนี้
พอมาถึงบริษัท ก็ได้เห็นหลงหลิงหลิงจ้องมองแต่เขาตลอดอย่างไม่กระพริบตา
ไป๋ยี่เฟยนิ่งอึ้งทันที”เป็นไรเปล่า?”
หลงหลิงหลิงหยิบรายงานเดินบัญชีกองหนึ่งไปให้ไป๋ยี่เฟย”ยอดขายของสินค้าที่เคลื่อนไหวช้าได้ขายดีมากอย่างกะทันหัน……”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะพร้อมพยักหน้า”อย่างที่คาดเดาไว้”
“อย่างที่คาดเดาไว้หรือ?”หลงหลิงหลิงรู้สึกตกใจมาก
ถ้าพูดแบบนี้นั้นก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยและหวังโหลวก็รู้ก่อนแล้วว่าจะเป็นเช่นนั้น ดังนั้นถึงกองของไว้ก่อน?มันเป็นเรื่องปลอมเปล่าวะ?
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดเยอะ เพียงแต่สั่งว่า”ไป แจ้งลงไปให้ทราบว่า สินค้าที่ซื้อก่อนหน้านี้ล้วนเพิ่งราคาขึ้นร้อยละสิบเฉพาะวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ค่อยขึ้นราคาอีกร้อยละห้า”
“อะไรนะ?”หลงหลิงหลิงนิ่งอึ้งทันที”ท่านประธานคะ ท่านแน่ใจไหมคะ?”
ตอนนี้สินค้าที่ขายไม่ออกเริ่มมียอดขายแล้ว เราก็ต้องรีบขายออกไปสิ ยังจะมาขึ้นราคาอีก ถ้าคนเขาไม่ซื้อต้องทำยังไงล่ะ!
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า”ฉันแน่ใจ พอแล้ว คุณรีบไปแจ้งให้ทุกคนทราบ”
หลงหลิงหลิงจนปัญญา สุดท้ายก็เพียงแต่ต้องไปแจ้งให้โรงงานทราบ
หลังจากได้แจ้งลงไปแล้ว พอถึงตอนเย็น หลงหลิงหลิงติดตามดูสถานการณ์ แล้วก็มึนงงทันทีเลย
คนข้างล่างล้วนรายงานว่าอุปกรณ์น้อยเกินไป สินค้าผลิตไม่ทัน เลยยื่นคำร้องว่าให้ซื้ออุปกรณ์อีกหลายเครื่อง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?จำนวนสินค้าไม่เพียงพอ?มันเป็นสินค้าที่ยอดขายไม่ดีไม่ใช่หรือ?
ในขณะเดียวกัน ในวิลล่าแห่งหนึ่งของเมืองหลวง ไป๋หยุนเผิงมองไปดูรายงานสถิติบนมืออย่างตกใจ”นี่ฉันทำผิดไปไหม?
ช่วงเวลาก่อนคนที่ใช้ราคาสูงไปขัดขวางไป๋ยี่เฟยก็เป็นเขานี่เอง
เดิมทีนึกว่าเป็นการห้ามพฤติกรรมการใช้เงินอย่างมั่วซั่วของไป๋ยี่เฟย แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ต้องโทษเขาที่ไปขวางทางการแสวงหากำไรของลูกชาย
เมื่อมองจากอีกด้านหนึ่งแล้ว ลูกชายเหมือนจะมีสมองทางการค้าที่น่าทึ่งมาก!
ไม่พอ ยังต้องสังเกตลึกซึ้งอีก ครั้งเดียวเองยังบ่งบอกอะไรไม่ได้
ห่างจากงานเฉลิมครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ปเหลือแค่วันเดียว หลงหลิงหลิงมารายงานว่า”เหอหยวนหยวนอยากเชิญชวนคุณไปทานข้าวด้วยกันค่ะ”
“อืมม์?”ไป๋ยี่เฟยสงสัย”เธอเชิญฉันไปทานข้าวเพื่ออะไร?”
“เรื่องที่ลงทุนครั้งก่อนทำให้บริษัทของพวกเราฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ดังนั้นเลยอยากจะเชิญคุณไปทานข้าวเพื่อเป็นการขอบพระคุณค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วถามว่า”เธอน่าจะไม่ทราบตำแหน่งของฉันหรือเปล่า?”
“ไม่ทราบค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยเสียงอืมออกมา”ดีมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณให้พวกเขาไปเข้าร่วมงานเฉลิมครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ปเพื่อเป็นตัวแทนของโหวจวี๋กรุ๊ป ส่วนฉันจะไปเข้าร่วมในฐานะที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ป”
……
ณ งานเลี้ยงเฉลิมครบรอบยี่สิบปีของหลิ่วซื่อกรุ๊ป คนชนชั้นสูงในวงการธุรกิจของเมืองเทียนเป่ยเกือบจะมากันหมด
ตอนเช้า หลี่เสว่กับไป๋ยี่เฟยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้องพร้อมกัน
แม้ว่าไป๋ยี่เฟยรู้ดีแล้วแต่ยังคงถามว่า”เสว่เอ๋อ วันนี้แต่งกายอย่างหรูหราจะไปที่ไหน?”
วันนี้ หลี่เสว่ได้ใส่ชุดราตรีเดรสยาวสีขาว แพร่ความสะอาดสะอ้านของเธอออกมาจนราวกับนางฟ้าที่บริสุทธิ์มาก
หลี่เสว่ค่อนข้างจะเก้อเขิน”ไปร่วมงานๆหนึ่ง”
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยเสียงอ๋อออกมา”ฉันก็จะไปร่างงามเช่นกัน พอดีว่าต้องการคู่ด้วย ไม่ทราบว่าคุณมีเวลาหรือเปล่า?”