บทที่ 331
มีคนช่วยอย่างเฉินอ้าวเจียวที่มีความสามารถพอๆกับสวีลั่ง งั้นอำนาจของเขาก็จะทรงพลังยิ่งกว่าเดิม!
หลังตื่นเต้นพอแล้ว ไป๋ยี่เฟยถามอีก”แล้วคุณหาเจอฉันได้ยังไงล่ะ?”
เฉินอ้าวเจียวอธิบายว่า”ที่อยู่อาศัยของฉันในตอนนี้ก็คือชุมชนที่คุณไปในเมื่อกี้นี้ ตอนที่ฉันออกมาเห็นคุณพอดีเลย ใครจะไปรู้ล่ะว่าเคาะหน้าต่างรถของคุณ แต่คุณไม่เปิดหน้าต่างเลย”
จากนั้นพบว่ามีคนติดตามคุณอยู่ เพิ่งคิดจะบอกกับคุณ แต่ในที่สุดคุณกลับทิ้งฉันไป”
จนถึงเวลานั้น ไป๋ยี่เฟยเพิ่งได้การแจ้งเตือนว่ามีคนจะมาฆ่าเขา และอีกอย่างสวีลั่งก็พบว่ามีคนคอยติดตามอยู่ และการแต่งกายของเขาก็เหมือนว่าจะมาก่อการร้าย ดังนั้นเลยให้สวีลั่งขับรถไปโดยตรง ใครจะไปรู้ว่าเป็นเฉินอ้าวเจียวล่ะ!
ว่าแต่”รถที่คุณขับทำไมเป็นรถแท็กซี่ล่ะ?อย่าบอกว่าคุณแย่งรถของคนอื่นมานะ”
ตามความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นแหละ
ไป๋ยี่เฟยส่ายมือ”มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเถอะ”
เฉินอ้าวเจียวพยักหน้า ทั้งสามคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว และเดินออกไป
เมื่อออกไปแล้ว พวกเขาจึงพบว่า เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่นั้นไม่ใช่ของพ่อครัว เป็นเสื้อของบริกร
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตัวขึ้นมาทันอย่างรวดเร็ว”ไป รีบๆสิ”
พอดีในเวลานี้ หญิงอ้วนคนนั้นมาอีกแล้ว”เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วอย่าเพิ่งออกไป ฝั่งของพวกเรายังต้องการสองคนมาช่วย พวกคุณสองคนละกัน คุณ ตอนนี้คุณตามออกไปเสิร์ฟอาหารก่อนเลย”
สวีลั่งมองไปดูไป๋ยี่เฟยและเฉินอ้าวเจียวสองคน พยักหน้าแล้วตามออกไป
ไป๋ยี่เฟยและเฉินอ้าวเจียวถูกสั่งไว้ให้ช่วยงานที่นี่ แต่ว่า นับบัดนี้พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร และอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาควรรอสักครู่หนึ่งก็ไปหรือเปล่า?
แต่ผู้หญิงอ้วนไม่ให้โอกาสพวกเขาเลย นำกระเทียมตะกร้าใหญ่มาโดยตรง”ปอกเปลือกให้เสร็จทั้งตะกร้านี้ ปอกเปลือกเสร็จแล้วมาช่วยเสิร์ฟอาหาร”
ไป๋ยี่เฟยและเฉินอ้าวเจียวมองไปดูกระเทียมที่อยู่ในตะกร้าใหญ่ มึนงงไปหมด
ปอกเปลือกให้เสร็จทั้งหมด แม่ง ต้องปอกเปลือกถึงเมื่อไหร่วะ?
“รีบปอกเปลือกสิ!รอทำอะไรอยู่?”ผู้หญิงอ้วนตวาดออกมา
ไป๋ยี่เฟยและเฉินอ้าวเจียวเพิ่งคิดจะลุกตัวขึ้นมา ก็เห็นจากหน้าต่างทางครั้งหลังว่ามีคนใส่ชุดดำหลายคนกำลังค้นหาอยู่ในโรงอาหาร ทั้งสองคนเลยรีบก้มหน้าลง และมองเข้าหากันตาหนึ่ง จากนั้นปอกเปลือกกระเทียมอย่างเชื่อฟัง
ปอกเปลือกเรื่องนี้สำหรับไป๋ยี่เฟยมันไม่ยาก เขาดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก การทำกับข้าวยังไม่ใช่ปัญหาเลย แค่ปอกเปลือกกระเทียมเฉยๆ
แต่ว่า สำหรับเฉินอ้าวเจียวมันก็เป็นเรื่องยากหน่อยแล้ว
เห็นแต่ว่าเขาหยิบกระเทียมขึ้นมาทั้งตัว จากนั้นคิดจะใช้มือแยกมันออก ต่อมา……แตกหักหมด
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้เลยหัวเราะออกมาเพื่อเยาะเขา
เฉินอ้าวเจียวจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟยตาหนึ่ง”ฉันไม่ได้ควบคุมแรงให้ดี”
พอพูดเสร็จ เขาหยิบขึ้นมาลูกหนึ่ง ครั้งนี้ลดแรงลง ไม่ได้ทำให้กระเทียมแตก เมื่อเห็นเช่นนี้เฉินอ้าวเจียวก็โล่งใจลง และเริ่มปอกเปลือกกระเทียม
พอดีในเวลานี้ ผู้หญิงอ้วนคนนั้นเห็นถึงเฉินอ้าวเจียว ไม่สบายใจทันที”แกนี่เป็นไรวะ?ปอกเปลือกกระเทียมยังทำไม่ดีอีก?แกจะทำอะไรได้วะ?”
มองมาสักพักหนึ่งด้วยความโกรธ จากนั้นผู้หญิงอ้วนถึงไปสั่งคนอื่น
ไป๋ยี่เฟยสองคนก้มหน้าปอกเปลือกกระเทียม และพูดคุยไปด้วย และคอยสังเกตสถานการณ์ข้างนอกไปด้วย ถ้ามีสิ่งผิดปกติใดๆ พวกเขาจะได้รีบหนีทันที
แต่ว่าพวกเขาล้วนโชคดีอยู่ พวกชายชุดดำมองไปรอบหนึ่งก็หาคนไม่เจอ เหมือนใกล้จะไปแล้ว
แต่พอดีในเวลานี้ ประตูของครัวหลังถูกเปิดออก ผู้ชายที่ใส่ชุดผู้จัดการเดินเข้ามา และก็เนื่องจากประตูถูกเปิดออก ส่งผลให้สภาพของครัวหลังถูกเห็นหมด
ส่วนคนใส่ชุดดำหลายคนนั้นได้เห็นคนในครัวหลัง เพียงแค่เห็นไม่ชัดว่ามีเป้าหมายของพวกเขาหรือเปล่า ดังนั้นพวกเขาเลยเดินมาฝั่งนี้
“แม่ง!”ในช่วงที่ประตูถูกปิดลง ไป๋ยี่เฟยได้เห็นคนใส่ชุดดำหลายคนนั้นที่กำลังเดินมา กำลังคิดวิธีอยู่อย่างรีบร้อน
เฉินอ้าวเจียวก็เห็น ใช้สายตาเหลือบมามอง พอดีเห็นว่าข้างๆมีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ ก็เลยตั้งใจยกระดับเสียงขึ้นมา”เอ๊ะ เอาถุงมือมาให้ฉันชุดหนึ่งสิ กระเทียมนี้มันแสบมือจริงๆเลย”
ไป๋ยี่เฟยรับรู้ความหมายของเขาทันที ลุกตัวขึ้นมา เดินเข้าไปในห้องเก็บของข้างๆ
พอดีในเวลานี้ ประตูของครัวหลังถูกเปิดออก
ผู้จัดการกำลังด่าว่าอยู่”รีบๆหน่อยสิ ใกล้ถึงเวลารับประทานอาหารแล้ว!”
“เครื่องปรุงเตรียมเรียบร้อยยัง?ผักล้าง……”
เพิ่งพูดถึงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากประตูครัวหลังถูกเปิดออก คำพูดของผู้จัดการจึงหยุดทันที และมองมาทางนี้
“พวกคุณเป็นใคร?ที่นี่เป็นครัวหลัง คนไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า”ผู้จัดการพูดพร้อมขมวดคิ้ว
มีคนใส่ชุดดำที่ร่างตัวใหญ่ทำหน้าเย็นชาและพูดว่า”อย่ามายุ่ง!”
“คุณครับ ที่นี่เป็นครัวหลังของภัตตาคาร รบกวนพวกคุณออกจากที่นี่ครับ ไม่อย่างงั้น ผมจะสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามานะครับ”ที่นี่เป็นพื้นที่ของเขา จะให้คนพวกนี้ที่มาจากไหนไม่รู้มาก่อความวุ่นวายได้ยังไงล่ะ?
คนใส่ชุดดำหลายคนนั้นไม่ได้สนใจผู้จัดการ แต่กวาดไปมองทุกคนในห้องครัวอย่างละเอียด หลังจากยืนยันว่าไม่มีเป้าหมาย จึงจากไปโดยไม่หันหัวอีกเลย
คนในครัวหลังล้วนรู้สึกว่าคนพวกนี้แปลกประหลาด มาอย่างกะทันหัน ไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งสถานการณ์เฉินอ้าวเจียวล้วนแสดงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ สีหน้าและปฏิกิริยาล้วนพอๆกับคนอื่นๆ และรวมไปถึงเขาปรากฏตัวในภายหลัง เลยไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนติดตามไป๋ยี่เฟย
แต่ผู้จัดการกลับรู้สึกว่ามันไม่เหมาะ สถานที่สำคัญอย่างห้องครัว จะให้คนอื่นเข้ามาได้ยังไงล่ะ?ดังนั้นผู้จัดการจึงออกไปด้วยความไม่เต็มใจ เตรียมจะไปสั่งสอนพวกยามสักรอบหนึ่ง
เวลานี้ ผู้หญิงอ้วนเห็นว่าผู้จัดการไปแล้ว เลยเริ่มตะโกนว่า”อย่าดูแล้วอย่าดูแล้ว รีบทำงาน!อย่ามาขี้เกียจนะ!”
เมื่อโดนพูดแบบนี้ ทุกคนจึงก้มหน้าทันที ต่างคนต่างทำเรื่องของตัวเอง
กำลังดีเลย ไป๋ยี่เฟยเดินออกมา ในมือถือถุงมือคู่หนึ่ง ยื่นให้เฉินอ้าวเจียว
“รออีกสักครู่หนึ่งพวกเราค่อยไป”เฉินอ้าวเจียวกระซิบพูด
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
ผ่านไปอีกหลายนาที ผู้จัดการกลับมาอีกแล้ว ด่าว่าต่อ จากนั้นเห็นสองคนที่ใส่ชุดบริกร”พวกแกสองคน ไม่ต้องมาปอกเปลือกกระเทียมแล้ว รีบลุกขึ้นมา ไปช่วยส่วนหน้า”
ผู้หญิงอ้วนมองไปดูสองคน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ไป๋ยี่เฟยและเฉินอ้าวเจียวมองเข้าหากันตาหนึ่ง นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการจากไปสำหรับพวกเขา ดังนั้นเลยลุกขึ้นมา และเดินออกไปอย่างเชื่อฟัง
เพิ่งออกไป ก็ได้เห็นสวีลั่งที่ถือจานอยู่ในมือ กำลังเสิร์ฟอาหารอยู่
ถ้าพูดตามจริง ไป๋ยี่เฟยคาดไม่ถึงว่า ฆาตกรอันดับที่1ของเมืองหลวง ท่าทางที่เสิร์ฟอาหารมองขึ้นไปแล้ว มันก็เหมือนทำจนคุ้นเคยแล้ว ไม่มีความขัดข้องแม้แต่น้อย
แต่ว่า ไอ้เจ้านี่มันมัวแต่เสิร์ฟอาหารอยู่ตลอดหรือ?ไม่ได้หาโอกาสหนีออกไปบ้างเลยหรอ?
สวีลั่งเอ่ยเสียงเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง”คนเพิ่งไป”
ไป๋ยี่เฟยฟังแล้วเข้าใจทันที ดังนั้นเลยเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับเฉินอ้าวเจียว หยิบจานอาหาร แล้วนำมาเสิร์ฟยังแต่ละโต๊ะที่กำหนด
ทำแบบนี้จนกว่าสิบกว่านาทีผ่านไป ไป๋ยี่เฟยสามคนเห็นว่าข้างนอกไม่มีคนแล้ว เพิ่งเตรียมจากไป
แต่ว่า หลายคนนั้นกลับมาอีกแล้ว
ไป๋ยี่เฟยสามคนหันหน้าไปทันที คนที่ถือจานก็ยังถืออยู่ปกติ คนที่เสิร์ฟก็ยังคงเสิร์ฟอยู่ มองขึ้นไปแล้วไม่มีความแตกต่างกับบริกรทั่วไป