บทที่ 343
ไป๋ยี่เฟยในวันนี้ ตั้งใจใส่สูทแบรนด์เนมทั้งตัว ใส่นาฬิกาแบรนด์เนม เสริมอำนาจบารมีให้ดูสูงส่งไปทั้งตัว ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะเคารพยำเกรง
แต่ทว่า ก่อนหน้าที่จะเข้าไปนั้น ไป๋ยี่เฟยต้องการไปพบใครสักคนหนึ่งก่อน
“ไปเอาตัวซูต้าหลิวมา”
ไม่นาน หลงหลิงหลิงก็พาซูต้าหลิวมา
ซูต้าหลิวเดินตามหลงหลิงหลิงมา เหตุผลหลัก ๆ ก็เพราะความสวยของหลงหลิงหลิง เดิมทีเขาโกรธเป็นอย่างมากต้องการที่จะจากไป แต่หลังจากที่ได้เห็นหลงหลิงหลิงนั้น ก็เปลี่ยนความคิด
พอดีกับที่ หลงหลิงหลิงให้เขาตามเธอไปที่ที่หนึ่ง เขาคิด ก็สะดุ้งตกใจทันที จากนั้นก็เดินตามมา
หลังจากนั้นอีก ก็พบกับไป๋ยี่เฟยแล้ว
“นี่……ใครกัน?”ผ่านชีวิตที่หลงใหลมัวเมาในความฟุ้งเฟ้อหลายเดือนมาซูต้าหลิวก็ไม่เหลือความทรงจำใด ๆ เกี่ยวกับไป๋ยี่เฟยเลย
หลงหลิงหลิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น เคารพนอบน้อมไป๋ยี่เฟยเป็นอย่างมาก: “ท่านประธาน คนมาแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้น มองที่ซูต้าหลิว ซูต้าหลิวก็มองไปที่เขา ยังมีความประหลาดใจ “ท่านประธาน?”
“เอ๋ พวกเราเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?”ในสมองของซูต้าหลิวตอนนี้มีภาพความทรงจำที่เลือนราง เคยพบกันที่ไหนมาก่อนแต่กลับจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว
ในตอนนั้นเอง หลงหลิงหลิงจำใจที่จะเอ่ยปากเตือน: “นี่คือท่านประธานคณะกรรมการบริหารโหวจวี๋กรุ๊ป”
“หะ?”ซูต้าหลิวสงสัยว่าตัวเองจะหูฝาดไป “เขาเป็นประธานคณะกรรมการบริหารโหวจวี๋กรุ๊ป แล้วฉันล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองซูต้าหลิว “ใช่หรือไม่คุณไม่รู้?”
เวลานี้ ซูต้าหลิวรู้สึกหนาวสะท้านที่ด้านหลัง ทันใดนั้น เขาก็คิดออกแล้ว ในที่สุดเขาก็นึกออกว่าเคยเจอไป๋ยี่เฟยที่ไหนแล้ว!
บนรถไฟความเร็วสูง จากนั้นก็ในรถหรู
“คุณคุณคุณ……”ในตอนนี้ซูต้าหลิวราวกับว่าเข้าใจแล้ว ท่านนี้ต่างหากถึงจะเป็นประธานคณะกรรมการบริหารตัวจริง และเวลาหลายเดือนมานี้ เขาเป็นแค่ตัวแทน
ซูต้าหลิวหวาดกลัว ทั้งหมดนี้ล้วนแต่อาศัยไป๋ยี่เฟย ในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยกลับสามารถจัดการทุกอย่างออกมาได้ทั้งหมด แถมยังเป็นวัยรุ่นที่อายุยี่สิบกว่าปี เขาที่คนวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปีนั้นกลับรู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อย
จะว่าอย่างไรดี? อายุยังน้อย ก็มีอุบายเช่นนี้ แถมยังเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเช่นนี้ รอจนถึงช่วงอายุเท่าเขาจริง ๆ นั้นจะต้องขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งอย่างแน่นอน
เขา ล่วงเกินไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา: “รู้ใช่ไหมว่าเรียกคุณมาทำอะไร?”
“ทราบ”ซูต้าหลิวใบหน้าขมขื่น “ไม่ใช่ว่าวันเวลาดี ๆ ของผมสิ้นสุดลงแล้วหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับซูต้าหลิว เวลาตั้งนาน ที่ช่วยเขาขวางเคราะห์ร้าย ก็ถือว่าติดค้างน้ำใจแล้ว
“รออีกเดี๋ยว ตามฉันเข้าไปแล้วกัน!”ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นบอก
ซูต้าหลิวเขลา “ไปไหน?”
“ห้องประชุม”
“อ๋า? ฉันเพิ่งออกมาจากที่นั่น นี่…..นี่ไม่ค่อยเหมาะมั้ง?”
ที่สำคัญที่สุดคือซูต้าหลิวเพิ่งจะทำตัวน่าเกรงขามไป ผลคือประธานคณะกรรมการบริหารโหวจวี๋กรุ๊ปตัวจริงออกหน้า แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ? น่าอายมาก!
“อ้อ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปเถอะ!”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างไม่สนใจ “งั้นฉันจำต้องเรียกตำรวจแล้วล่ะ”
“เอ๊ะ ไม่ใช่ เดี๋ยวก่อน เรียกตำรวจมาทำอะไร? ผมไป ผมไปยังไม่ได้หรือไง?”ซูต้าหลิวใจเต้น นี่ถ้าเรียกตำรวจ งั้นเขาก็ถือว่าเป็นการหลอกลวง? อ้อ แถมยังใช้เงินของโหวจวี๋ไปตั้งมาก!
เหตุนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงนำซูต้าหลิว หลงหลิงหลิงและโหวจวี๋ระดับสูงที่รออยู่ด้านนอกไปที่ห้องประชุมด้วยกัน
……
ในเวลานี้ ภายในห้องประชุมยังคงมีเสียงประณามโหวจวี๋ สวีจื้อกำลังสั่งให้คนไปบันทึกข้อมูลทีละคน รอประชุมเสร็จค่อยไปตรวจสอบเป็นอย่าง ๆ
“ทีละคนทีละคน ไม่ว่าจะมีเท่าไหร่ พวกเราล้วนแต่บันทึกลงไป ไม่มีทางที่จะให้มีการเข้าข้างใด ๆ เกิดขึ้น” สวีจื้อ บอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
พริบตาเดียว ทุกคนก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก มีความอดทนในการรอคนก่อนหน้าบันทึก
ตั้งแต่ต้นจนจบเย่อ้ายก็ไม่ได้ลุกขึ้นมา แต่กลับยืนดูอยู่ข้าง ๆ ดูถึงสถานการณ์ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าไป๋ยี่เฟยจะปรากฏตัวในเวลานี้ คิดที่จะพลิกสถานการณ์ตัวเอง ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้!
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เย่อ้ายมองไปที่หลี่ฝาน ก็เดินจากไปอย่างสบายใจ
แต่ทว่า เย่อ้ายเพิ่งจะเดินออกมาได้ไม่นาน เพิ่งจะถึงที่ลิฟต์ ก็ถูกคนขวางเอาไว้
“แกคิดจะทำอะไร?”เย่อ้ายมองคนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง
“พาคุณไป”
……
“โครมคราม!”
ประตูห้องประชุมเปิดออก
คนที่กำลังเรียงกันไปรายงานรวมถึงคนที่รอดูเรื่องน่าสนุกต่างก็มองมา
เวลานี้แล้ว ยังจะมีใครมาที่ห้องประชุม?
หลังจากที่ทุกคนเห็นไป๋ยี่เฟย……
“นี่คือไป๋ยี่เฟย?”
“เป็นไป๋ยี่เฟยจริง ๆ ? เขามาได้อย่างไร?”
“ไม่ใช่บอกว่าไป๋ยี่เฟยโง่ไปแล้วหรือ?”
“……”
ไป๋ยี่เฟยค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ ที่ด้านหลังตามมาด้วยหลงหลิงหลิง จางหรง และโหวจวี๋ระดับสูงอื่น ๆ รวมไปถึงคนที่เดินอยู่ท้ายสุดอย่างซูต้าหลิว
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนล้วนไปรวมกันอยู่ที่บนตัวไป๋ยี่เฟย ไม่มีใครสังเกตถึงซูต้าหลิว
หลี่ฝานตื่นเต้นเป็นที่สุด ตกใจจนแทบจะลุกขึ้นมาจากรถเข็น น่าเสียดาย ที่ลุกไม่ขึ้น ดังนั้น จึงทำได้เพียงเพิ่มความดังเสียงของตัวเขาเอง “ไป๋ยี่เฟย? แกมาได้อย่างไร? แกไอ้คนโง่!”
“เป็นไอ้โง่จริง ๆ หรือเนี่ย!”
“โง่แล้วยังจะมาที่นี่อีก? สถานการณ์แบบไหนกันเนี่ย?”
“ไม่รู้! คนโง่เขลาฟังเข้าใจที่พวกเราพูดกันไหม?”
สวีจื้อตอนที่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเบา ๆ คนโง่? ไป๋ยี่เฟยเป็นคนโง่? จะเป็นไปได้อย่างไร?
ถ้าหากว่าเขาเป็นคนโง่ล่ะก็ งั้นหวังไห่ถูกฆ่าตายได้อย่างไร?
หรือว่าภายในนี้ยังมีเรื่องราวอะไรที่เขาไม่รู้?
สวีจื้อ ตัดสินใจคอยสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ ดูท่าแล้วเรื่องนี้ไม่ธรรมดา!