บทที่ 349
หลี่ต้าไห่ได้ยินก็คิดว่าไป๋ยี่เฟยพูดถึงท่าทีที่มีต่อหลี่เสว่คนในครอบครัวพวกเขา ก็รีบขอโทษ: “เมื่อก่อนเป็นพวกเราที่ไม่ถูก พวกเราผิดไปแล้ว ลุงใหญ่ขอโทษพวกเราด้วย….”
“คุณลุงเข้าใจผิดแล้ว ที่ผมบอกว่าปฏิบัติต่างกัน ก็คือคุณลุงปฏิบัติต่อหลี่ฝาน กับที่ปฏิบัติต่อคุณปู่”
พูดจบ ทันใดนั้นหลี่ต้าไห่ก็อึดอัดขึ้นมา แต่ก็เข้าใจเหตุผลในนั้น หลี่ฝานทำผิด เขาไปขอร้องทุกทาง แต่นายท่านหลี่เพื่อตระกูลหลี่ทุ่มเทคนไปตั้งมากมาย หลังจากที่ผ่านเรื่องนี้มา พวกเขาก็ไม่มีสักคนที่อยู่ข้างกายท่าน ยิ่งไม่มีคนใส่ใจท่านจริง ๆ
ไป๋ยี่เฟยบอก: “ปีนั้นคุณปู่ทำผิด ตอนนี้ท่านยอมรับแล้ว และก็ได้รับโทษที่ควรจะได้รับ ท่านก็แค่คนแก่ที่อายุเจ็ดสิบกว่าปี ท่านไม่ได้สนใจผลประโยชน์ อะไร ท่านก็แค่สนใจลูก ๆของตัวเอง”
“เมื่อกี้นี้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ข้างใน แม้ว่าท่านจะไม่ได้พูดอะไร แต่ผมก็รู้สึกได้ว่า มีคนอยู่เป็นเพื่อนท่าน ท่านดีใจมาก”
หลี่ต้าไห่ก้มหน้าลง รู้สึกอับอายขายหน้า
“มีเวลา ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่เยอะ ๆ เถอะ! เจ็ดสิบกว่าปีแล้ว ไม่เหลือเวลาสักเท่าไหร่แล้ว”ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจเบา ๆ
หลี่ต้าไห่ละอายใจบอก: “ฉันจะทำ”
กลับถึงบ้าน พอดีกับที่ หลี่เสว่ทำกับข้าวไว้บนโต๊ะ
ทั้งสองทานข้าว หลี่เสว่บอก: “ฉวี่เอ๋อบอกว่าอีกครึ่งเดือนเธอจะแต่งงานแล้ว ฉันถามเธอว่าเจ้าบ่าวเป็นใครเธอก็ไม่ยอมบอก”
“อีกครึ่งเดือนพวกเราก็รู้แล้ว”ไป๋ยี่เฟยทานน้ำซุป
ตอนที่ฉินหัวบอกเขาว่ากำลังจะแต่งงานนั้นเขาก็เดาว่าเป็นโจวฉวี่เอ๋อ และตอนนี้หลี่เสว่บอกว่าโจวฉวี่เอ๋อ จะแต่งงาน นั่นก็ยิ่งยืนยันในการคาดเดาของเขา
แต่ที่เขาแปลกใจก็คือ ในเวลาอันสั้นนี้ ฉินหัวกับโจวฉวี่เอ๋อมาถึงขั้นที่ว่าจะแต่งงาน นี่เป็นการพัฒนาแบบไหนกัน?
……
เช้าวันที่สอง ไป๋ยี่เฟยนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่พ่อตาแม่ยายจะกลับมา ตัวเองจะต้องไปรับพวกเขา
ดังนั้น ก็เลยไม่ได้ปลุกหลี่เสว่ พาสวีลั่ง ขับรถออกไป
เพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน ไป๋ยี่เฟยก็รับสายจากหลงหลิงหลิง
“ท่านประธาน เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์……”
คำพูดนี้ทำให้ไป๋ยี่เฟยตกใจเหยียบเบรกทันที โชคดีที่รถหลังนั้นอยู่ไกล ไม่ได้ชนเข้า แต่ว่าตอนที่ขับผ่านนั้นด่าใหญ่: “บ้าไปแล้วไง? แม่มึง!”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขา แต่ถามว่า: “ใครเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์”
หลงหลิงหลิงอธิบาย ไป๋ยี่เฟยก็ผ่อนลมหายใจ ขับรถต่อ แต่ทว่าความเร็วนั้นเร็วกว่าก่อนหน้านี้
…..
บนทางด่วนห่างจากเมืองเทียนเป่ยสิบกิโลเมตร เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตาย แค่รถเฉียดกัน กันชนรถพัง
ในตอนที่ไป๋ยี่เฟยรีบมาก็เห็นที่ทางจอดรถฉุกเฉิน มีรถอยู่สองคัน ในนั้นมีรถออดี้ที่เขาให้พ่อตา
ยื่นอยู่ที่ข้างรถนั้น มีหลิวจื่อหยุน หลี่เฉียงตง หลงหลิงหลิง ตรงข้ามกับพวกเขามีวัยรุ่นคนหนึ่งที่ดูซื่อ ๆ ยืนอยู่ ที่ด้านข้างเด็กวัยรุ่นเป็นตำรวจจราจรที่อยู่ในเครื่องแบบ
หลิวจื่อหยุนกอดอก หน้ามืด ตำหนิวัยรุ่นที่อยู่ตรงข้าม “ขับรถไม่ขับดี ๆ ไม่มีอะไรก็มาชนรถคนอื่น ไม่มีตา? ไม่รู้ว่าบนทางด่วนรถขับเร็วหรือ? ความเร็วรถเร็วมาก ถ้าหากว่าชนหนักแล้ว คนตาย ยังจะขับรถอะไรอีก?”
“คุณว่าคุณอายุยังน้อย ขับรถช้าหน่อยก็ไม่ได้ สอบใบขับขี่อะไร โรงเรียนสอนขับรถไหน? ไม่มีความรับผิดชอบเช่นนี้? แบบคุณนี่ก็สามารถได้ใบขับขี่ งั้นตลอดทั้งปีมานี้ เกิดอุบัติเหตุไปกี่ครั้ง”
ท่าทางวัยรุ่นดีมาก หลิวจื่อหยุนพูดคำที่ไม่น่าฟังเช่นนี้ ก็ไม่เพียงไม่โกรธ แต่ยังขอโทษ “ขอโทษ……เป็นความผิดฉันเอง ต่อไปฉันจะระมัดระวัง”
สีหน้าของตำรวจจราจรที่อยู่ด้านข้างซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรถึงจะดี
คุณผู้หญิงท่านนี้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ก็ต่อว่าวัยรุ่นคนนั้นไม่หยุด พูดจนจะครบครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย เขาที่เป็นตำรวจจราจรก็สอดปากไม่ได้
หลี่เฉียงตงกลับเงียบสงบอย่างเป็นธรรมชาติ ชัดเจนว่าชินแล้ว
หลังจากไป๋ยี่เฟยลงจากรถ หลิวจื่อหยุนมองเห็น ก็รีบย้ายระเบิดมาทันที “แกขี่เต่ามาหรือไง? ช้าขนาดนี้? ท่าทีเช่นนี้ของแก ยังจะเป็นลูกเขย? รอแกถึงแล้ว คนก็ไปกันหมดแล้ว!”
“แกว่าแกไม่ได้คิดว่าพวกเราเป็นพ่อตาแม่ยาย? เวลานี้แล้ว? นอนตื่นสายก็ไม่ได้เร็วกว่ามา”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มขมขื่น จำใจอย่างมาก
ต่อมา หลิวจื่อหยุนบอกว่า: “เห็นหรือยัง นี่คือลูกเขยของฉัน เขาเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองเทียนเป่ย พวกคุณล่วงเกินไม่ได้ ก็ไม่ได้อยากจะได้ค่าชดใช้ค่าเสียหายของคุณ!”
ไป๋ยี่เฟยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “พวกท่านกลับไปขึ้นรถก่อนเถอะ ผมจัดการเอง”
หลี่เฉียงตงก็บอกว่า: “ไป๋ยี่เฟยมาแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องยุ่งแล้ว!”
หลี่เฉียงตงเหอะหนึ่งที กลับไปขึ้นรถเอง
ไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ จากนั้นก็ไปหารือกับตำรวจจราจรไม่กี่ประโยค รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ว่าเป็นวัยรุ่นไม่คุ้นเคยทางด่วนเส้นนี้ ตอนทางเลี้ยวก็ไม่ได้ระมัดระวัง รถทั้งสองคันไม่ทันระวังก็ชนเข้าด้วยกัน
โชคดีที่ตอนนั้นเป็นทางเลี้ยว ความเร็วของรถค่อนข้างช้า ไม่อย่างนั้น เรื่องราวคงไม่เพียงแค่กันชนรถพังง่าย ๆ เช่นนี้
หลังจากที่เข้าใจแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ถามวัยรุ่นคนนั้น “จัดการกันเองแล้วกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ได้ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้” วัยรุ่นพยักหน้าตอบ
“ชดใช้ค่าเสียหายไม่ต้องหรอก คุณก็ขอโทษแล้ว แบบนี้แหละ”
“อ๋า?”วัยรุ่นงง “ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย? จะได้ยังกัน?”
ไป๋ยี่เฟยบอกอย่างเย็นชา: “ไม่ขัดสนเงิน อีกอย่าง แม่ยายผมก็แค่พูด ๆ ไปงั้น ที่จริงใช้เงินไม่เท่าไหร่”