บทที่36
ทั้งสองคนเต้นอยู่บนเวที ราวกับผีเสื้อคู่หนึ่งที่กำลังวิ่งไล่กัน
คนที่อยู่นอกเวทีล้วนจ้องมองพวกเขา สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและอิจฉา
ส่วนหลิ่วจาวเฟิงกำปั้นไว้อย่างแน่น พร้อมจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างดุร้าย เหลืออีกนิดเดียวเขาก็สามารถเต้นด้วยกันกับหลี่เสว่แล้ว แถมยังสามารถบอกรักกับเธอต่อหน้าทุกคนด้วยซํ้า แต่ตอนนี้มันถูกทำลายเพราะไป๋ยี่เฟย!
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ในบริเวณที่ไม่ค่อยโดดเด่น เหอหยวนหยวนได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในฐานะที่เป็นตัวแทนของโหวจวี๋กรุ๊ป เมื่อเธอได้เห็นไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ที่อยู่บนเวที ทันใดนั้นจึงรู้สึกอิจฉาและมีความหึงปรากฏในใจ
โดยเฉพาะไป๋ยี่เฟย เธอนึกอยู่ตลอดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ตํ่าต้อยยากจน ยังฝันที่จะมาจีบเธออีก แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดการใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ป ยังมีภรรยาที่สวยเช่นนี้อีก ความแตกต่างกันเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ยอม
เมื่อดนตรีดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ การเต้นรำละตินแรกก็กำลังจะสิ้นสุดลง
แต่พอดีในเวลานี้ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในกลุ่มคน
“เกิดอะไรขึ้น?”หลี่เสว่มองไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ไป๋ยี่เฟยอาศัยสเต็ปการเต้นเพื่อหมุนตัวและปิดบังไว้”ไม่มีอะไร พวกเราเต้นต่อ”
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ไอ้หน้าแผลมีดพาพี่น้องกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา พอหลังจากเจอหลี่ฝานก็ลากมันไปโดยตรง
หลี่ฝานตะโกนว่า”คุณทำอะไรเนี่ย?พี่เตา?ฉันคือหลี่ฝานไง!”
“คนที่ฉันหาก็คือแกนั่นแหละ!”ไอ้หน้าแผลมีดลากเขาไปที่ข้างนอกต่อ
หลี่ฝานเห็นเช่นนี้ก็หวาดกลัวมาก จึงรีบร้องขอความช่วยเหลือ”พวกคุณอย่ามัวแต่ดูสิ ช่วยฉันด้วย!”
แต่ทุกคนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แค่ดูอย่างเงียบๆ
ยิ่งเป็นคนที่รํ่ารวย มีอำนาจ เขาก็ยิ่งกลัวความตาย และความเจ็บ
ทุกคนล้วนไม่ใช่คนโง่ เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มมาเฟีย ถ้าพวกเขาไปยุ่ง อาจจะต้องถูกตบตีไปด้วย ดังนั้นเจอไม่มีคนกล้าไปช่วย
หลี่ฝานสิ้นหวังแล้ว จึงพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นแรง แต่แค่สองสามทีเองก็ถูกคนหลายคนจับตัวไว้
ไม่นานหลี่ฝานก็ถูกลากออกไป และมีเสียงกรีดร้องอย่างน่าสงสารดังขึ้นมาจากนอกประตู
ทุกคนไม่กล้าไปมอง อย่างมากก็แค่แอบสงสารในใจสักพักหนึ่งก็จบ
ฝั่งนี้การเต้นรำชุดแรกได้จบลง ทุกคนต่างปรบมือ แล้วเริ่มประจบสอพลอไป๋ยี่เฟย
“ผู้จัดการใหญ่เป็นหนุ่มที่มีความสามารถจริงๆ!เต้นได้ดีมากทีเดียว!”
“ใช่ไง อายุยังน้อยอยู่ก็ยอดเยี่ยมขนาดนี้แล้ว ทำให้คนต้องนับถือจริงๆ!”
“……”
ไป๋ยี่เฟยแกล้งทำตัวเป็นไม่ได้ยิน ก่อนหน้านี้เขายากจนมาก คนพวกนี้ก็มาเยอะแยะดูถูก แต่ตอนนี้รู้ว่าเขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ป ก็เริ่มมาประจบเขาแล้ว ล้วนเป็นคนหน้าซื่อใจคด เสแสร้งมาก!
หลี่เสว่แอบดีใจอยู่ เมื่อก่อนล้วนบอกว่าไป๋ยี่เฟยเป็นขยะ แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยมีความสามารถขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นภรรยาของเขา เธอก็ต้องภูมิใจอยู่แล้ว
ไป๋ยี่เฟยจับมือหลี่เสว่มาถึงต่อหน้าของเซียวหรงเทา
เซียวหรงเทาเห็นเช่นนี้ก็ไม่มีความกล้าของเมื่อกี้อีก”คุณทำอะไร?”
ไป๋ยี่เฟยหงายมุมปากขึ้นมา แล้วจับมือหลี่เสว่พร้อมพูดว่า”ขอโทษให้พวกเราทันที ไม่นั้นฉันจะตบคุณ”
เซียวหรงเทา:“……”
คนอื่น:“……”
“ไป๋ยี่เฟย นี่เป็นงานฉลองครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ป แม้ว่าคุณเป็นตัวแทนของประธานโหวจวี๋กรุ๊ป ก็โปรดระมัดระวังคำพูดของคุณด้วย”หลิ่วจาวเฟิงเดินมาแล้วพูดด้วยความโกรธ
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ดี”ฉันแค่ให้เขามาขอโทษแค่นั้นเอง เมื่อกี้เขาพูดแบบไม่ไว้หน้าเลย นึกว่าฉันหูนวดหรือไง?”
คำพูดทุกประโยคของเซียวหรงเทาเขาล้วนได้ยิน ล้วนเป็นคำพูดที่ดูถูกเขา แถมยังคิดจะให้หลี่เสว่และหลิ่วจาวเฟิงอยู่ด้วยกัน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาโมโหที่สุด
สีหน้าของเซียวหรงเทาแย่มาก ยังลังเลอยู่ว่าจะขอโทษหรือเปล่า แต่เมื่อนึกถึงไป๋ยี่เฟยในสมัยก่อน เขาจึงไม่ยอมจะขอโทษเลย
“ไป๋ยี่เฟย เมื่อกี้นี้ฉันพูดอะไรไป?ทำไมถึงต้องกล่าวคำขอโทษล่ะ?”
หลิ่วจาวเฟิงก็ช่วยพูดอยู่ข้างๆ”ไป๋ยี่เฟย อย่านึกว่าคุณเป็นตัวแทนของประธานโหวจวี๋กรุ๊ป ก็จะสามารถรังแกคนง่ายๆ”
“มันไม่ใช่หรือ?”ไป๋ยี่เฟยกระพริบตาถามอย่างบริสุทธิ์”ตอนที่ยังไม่รู้ว่าตำแหน่งของฉันพวกคุณก็มาด่าว่าฉันเป็นขยะ ยังจะมาไล่ฉันออกมาด้วยซ้ำ? นี่ยังไม่ถือว่ารังแกฉันหรือ?”
“แถมฉันแค่ให้เขาขอโทษแค่นั้นเอง ทำเรื่องผิดไปก็ต้องขอโทษ ฉันพูดผิดหรือเปล่า?หรือว่าพวกคุณมีเงินมีทองก็สามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎหหมายใช่ไหม?”
คำพูดของไป๋ยี่เฟยโหดเหี้ยมมาก ขอให้แต่หลิ่วจาวเฟิงหรือเซียวหรงเทาพูดว่าไม่สนใจกฎหมาย นั้นไป๋ยี่เฟยก็สามารถให้สองคนที่ไปถูกสั่งสอนสักรอบที่สถานีตำรวจ
ไม่เพียงเท่านี้ ทีหลังหลิ่วซื่อกรุ๊ปก็จะเพราะคำพูดนี้สูญเสียพันธมิตรทางธุรกิจจำนวนมาก แถมยังต้องถูกแยกจากพวก
แน่นอนว่าทั้งสองไม่คนโง่ ล้วนไม่กล้าไปตอบคำพูดของไป๋ยี่เฟย หลิ่วจาวเฟิงเพียงแค่ตวาดว่า”ไป๋ยี่เฟย เรากำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ แกพูดไร้สาระไปถึงไหนแล้วเนี่ย?”
“ฉันก็พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่”ไป๋ยี่เฟยมองไปทั้งสองคน”ให้เวลาคุณอีกหนึ่งนาทีสุดท้าย มาขอโทษพวกเรา ไม่งั้นฉันจะลงมือทำจริงๆ”
เซียวหรงเทาเห็นเช่นนี้ก็มองไปทางหลิ่วจาวเฟิง หลิ่วจาวเฟิงจ้องกลับไปที่เซียวหรงเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ
เซียวหรงเทาแอบกัดฟันไว้ แล้วก็ก้มลงต่อหน้าต่อตาทุกคนอย่างไม่เต็มใจ”ขอโทษครับ ฉันขอโทษเพื่อคำพูดที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้”
พอพูดเสร็จเซียวหรงเทากัดฟันไว้อย่างแรง โตจนขนาดนี้เขายังไม่เคยได้รับความอธรรมเช่นนี้ จึงอึดอัดใจมาก แล้วยิ่งรังเกียจไป๋ยี่เฟยมากกว่าเดิมอีก
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยเสียงเฮ่อออกมา”ฉันไม่ยอมรับคำขอโทษของคุณ
ทุกคนล้วนตกใจมาก
“คุณหมายความว่าอย่างไร?”เซียวหรงเทากัดฟันไว้
หลี่เสว่ก็ค่อนข้างจะมึนงงเช่นกัน คนเขาขอโทษแล้วไม่ใช่หรือ?ทำไมถึงไม่ยอมรับล่ะ?
หลิ่วจาวเฟิงตวาดว่า”ไป๋ยี่เฟย คุณตั้งใจทำเช่นนี้ใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมา”ใช่ ฉันตั้งใจทำนี่เอง”
“แก!”สีหน้าของทั้งสองคนแย่จนสุดๆ
คนรอบข้างเห็นเช่นนี้ล้วนไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อแล้ว นิสัยของคนนี้น่าแปลกประหลาดจริงๆ
หลี่เสว่มองไปหาไป๋ยี่เฟย”เขาก็ได้ขอโทษแล้ว ไม่งั้นก็พอเถอะ!”
พอพูดเสร็จ มุกคนล้วนมองมา หลี่เสว่จึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับกระซิบว่า”โอเค”
จากนั้นหันมาพูดกับเซียวหรงเทาว่า”ฉันจะฟังตำพูดของภรรยา ภรรยาของฉันมีนํ้าใจ ไม่อย่าไปมีเรื่องกับคนตํ่าด้อย”
คนนี้ถูกภรรยาคุมเข้มหรือเปล่า?
งั้นทีหลังเอาใจหลี่เสว่ก็ถือว่าเป็นการเอาใจไป๋ยี่เฟยแล้วสิ
สีหน้าของหลิ่วจาวเฟิงและเซียวหรงเทามืดมนมาก ถูกคนด่ายังไม่สามารถด่ากลับได้
หลี่เสว่รู้สึกถึงความอ่อนหวานสักนิด ผู้ชายคนนี้ให้ความสำคัญกับเธอเป็นอันดับหนึ่ง จะทำให้เธอไม่ซาบซึมใจได้ยังไง?
ตามจริงแล้วจุดประสงค์ของไป๋ยี่เฟยก็คือสิ่งนี้ เขาจะให้ทุกคนรู้ว่าหลี่เสว่เป็นภรรยาของเขา เป็นคนที่เขาปกป้องไว้ ถือได้ว่าเป็นการสร้างความเกรงขามให้หลี่เสว่ เพื่อไม่ให้คนอื่นมากลั่นแกล้งเธอได้อีก
ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็มองไปทางหลิ่วจาวเฟิง เตือนว่า”ก่อนหน้านี้ฉันก็พูดไปแล้วว่าเสว่เอ๋อเป็นภรรยาของฉัน ฉันไม่ยอมให้คนอื่นมาความโลภต่อเธอ แต่คุณไม่สนใจคำพูดของฉัน งั้นก็อย่าโทษฉันไม่ได้เตือนคุณไว้ก่อนนะ แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเฉลิมครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ป ฉันจะไม่ทำอะไรคุณในวันนี้หรอก”
พอพูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็จับมือหลี่เสว่แล้วพูดว่า”พวกเรากลับบ้านเถอะ!”
หลี่เสว่พยักหน้าอย่างมึนงง เมื่อกี้นี้คำประกาศอันศักดาของไป๋ยี่เฟยหล่อมากๆ ทำให้ใจของเธอตอนนี้ยังเต้นอย่างเร็วอยู่
หลังออกจากโรงแรม ทั้งสองก็ขึ้นบนรถ หลี่เสว่กว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้
“เอ๊ะ รอก่อน ทำไมคุณถึงกลายเป็นผู้จัดการใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ป?ทำไมประธานถึงเชื่อคุณขนาดนี้?แล้วเมื่อกี้นี้คุณทำอย่างนั้น จะทำให้ประธานไม่ชอบหรือเปล่า?”
คำถามอย่างต่อเนื่องทำให้ไป๋ยี่เฟยอดหัวเราะไม่ได้”เสว่เอ๋อไม่ต้องห่วง ประธานจะไม่พูดอะไรหรอก แล้วสาเหตุที่ฉันสามารถเป็นผู้จัดการใหญ่ได้ แน่นอนต้องเป็นเพราะว่าสามีของคุณมีความสามารถไง!”
หลี่เสว่ทำตาขาวใส่ไป๋ยี่เฟย”คุณจริงจังหน่อยได้ไหม ถ้าหากว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง แล้วทำไมสองปีนี้คุณถึงอยู่อย่างลำบากขนาดนี้ล่ะ!”
“อืม……”ไป๋ยี่เฟยจับปลายจมูกไว้ แล้วหัวเราะอย่างเก้อเขินออกมา
“ไป๋ยี่เฟย ตอนนี้ฉันยิ่งมองไม่ออกนิสัยของคุณแล้ว คุณก็ยิ่งไม่เหมือนเดิมแล้ว”
พอได้ยินคำพูดนี้ไป๋ยี่เฟยจึงหัวเราะออกมา”นั้นเป็นเพราะว่าคุณไม่เคยได้รู้จักฉันอย่างแท้จริง”
หลี่เสว่นิ่งอึ้งทันที รู้สึกว่าละอายใจ เพราะเธอยังไม่เคยได้ไปรู้จักไป๋ยี่เฟยอย่างแท้จริงเลย
ไป๋ยี่เฟยพูดต่อว่า”เสว่เอ๋อ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป คุณสามารถลองรู้จักฉัน รู้จักฉันอย่างแท้จริง แล้วคุณเป็นภรรยาของฉัน เมื่อก่อนนี้ฉันไม่มีความสามารถ ถึงจะทำให้คุณได้รับความอธรรม แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ให้คนอื่นมารังแกคุณอีก”
หลี่เสว่มองไปที่ไป๋ยี่เฟย หัวใจเต้นเร็วขึ้น การหายใจก็รวดเร็วเล็กน้อย
“พวกเรากลับบ้านเถอะ!”ไป๋ยี่เฟยพูดพร้อมหัวเราะ