บทที่ 361
“จริงสิ พี่ พี่เตรียมเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง?”
“หา? ไม่ต้องหรอกมั้ง?” ฉินหัวรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็ดีอยู่แล้ว
ไป๋ยี่เฟยกลอกตามองบน “พี่ นี่มันงานแต่งงานนะ ทั้งชีวิตนี้มีแค่ครั้งเดียว ไม่ทำให้ดีหน่อยได้ยังไง? พอแก่ตัวไป มาเสียใจภายหลังก็ตายไปแล้ว!”
“งั้นก็ได้!” ฉินหัวคิดดูแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงขับรถพาฉินหัวมาที่ห้างสรรพสินค้า
เป็นร้านแบรนด์เนมร้านหนึ่ง แต่อันที่จริงแล้ว ไป๋ยี่เฟยกับฉินหัวไม่ได้สนใจพวกของแบรนด์เนมเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงเห็นก็เหมือนกับไม่เห็น
สิ่งที่ไป๋ยี่เฟยคิดคือ จะเป็นยี่ห้ออะไรก็ได้ ขอที่ราคาแพงก็พอ เขาไม่เกี่ยงเงิน
พอทั้งสองคนเดินเข้าไป ก็มีพนักงานพาพวกเขาไปแนะนำสินค้า แต่ด้วยท่าทางเย็นชา ไม่ได้กระตือรือร้นมากนัก
ไป๋ยี่เฟยเลือกสูทสีดำตัวหนึ่งส่งให้ฉินหัว “พี่ ลองตัวนี้สิ”
ฉินหัวหยิบไป เนื้อผ้าพอลูบแล้วรู้สึกสบายมาก ไม่เลวเลยจริงๆ แต่หลังจากเห็นราคาแล้ว ก็กล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “ช่างเถอะ เลือกตัวใหม่ดีกว่า”
พอไป๋ยี่เฟยเห็น ราคาห้าหมื่นกว่า เป็นราคาที่แพงมาก แต่วันนี้เขาต้องการซื้อของราคาแพง ดังนั้นจึงลากฉินหัวไปที่หน้าห้องลองเสื้อ “พี่ ลองดู ยังไงลองก็ไม่เสียเงิน พวกเราดูแล้วชอบก็พอ”
ฉินหัวจนปัญญา ได้แต่หยิบเสื้อเดินเข้าไป
พนักงานที่ตามอยู่ตลอดเห็นเช่นนี้ในสายตาก็มีแววเหยียดหยามวาบผ่าน “ลองดูไม่เสียเงินก็จริง แต่ก็กลัวว่าพวกคุณจะไม่มีปัญญาซื้อน่ะสิ”
ไป๋ยี่เฟยมองพนักงาน ไม่ได้โต้ตอบ
เขาคิดดูก็ไม่เข้าใจนัก ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นับว่าเป็นประธานกรรมการบริษัทมาได้มากกว่าครึ่งปีแล้ว กลิ่นอายบนตัวก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน นอกจากเสื้อผ้าที่สวมที่ดูธรรมดาอย่างมากเท่านั้น ทำไมถึงชอบมีคนรู้สึกว่าเขาไม่มีปัญญาซื้อกันนะ ไม่มีปัญญาซื้องั้นหรือ?”
ตัวไป๋ยี่เฟยไม่รู้สึก แต่คนอื่นดูเหมือนจะรู้สึกเป็นอย่างนี้จริงๆ ปกติใครใช้ให้ไป๋ยี่เฟยอ่อนโยนกันล่ะ?
พนักงานเห็นไป๋ยี่เฟยไม่สนใจตนเอง ก็แค่นเสียง หยิบโทรศัพท์ออกมา เล่นของตัวเองไป
ผ่านไปไม่นาน ฉินหัวก็ออกมา
“ว้าว! พี่ พี่สวมตัวนี้ หล่อเป็นบ้า!”
คนงามเพราะแต่งจริงๆ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ฉินหัวจะไม่หล่อ ตามหลักแล้วปกติเขามักสวมชุดตำรวจหรือไม่ก็ชุดลำลอง ไม่เหมือนอย่างชุดสูทแบบนี้ ดังนั้นพอเห็นเช่นนี้ จึงทำให้คนตรงหน้ารู้สึกเจิดจ้าขึ้น
ฉินหัวถูกชมก็รู้สึกเขินๆ จึงกล่าวยิ้มๆ ว่า “งั้นหรือ? ไหนดูหน่อยสิ”
อันที่จริงตัวฉินหัวเห็นแล้วยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจและไม่ชินตาอยู่บ้าง
ไป๋ยี่เฟยโบกมือ “มองอะไร เอาตัวแหละ”
“รบกวนดูหน่อย พวกเราต้องการจ่ายเงิน” ไป๋ยี่เฟยหันไปพูดกับพนักงานที่เล่นโทรศัพท์อยู่อีกด้าน
พนักงานได้ยินก็เก็บโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ถามด้วยสีหน้าไม่เชื่อถือ “ตัวนี้ราคาห้าหมื่นแปดพัน พวกคุณดูชัดเจนแล้ว? จะซื้อแน่นะ?”
สิ้นคำ ฉินหัวก็ดึงไป๋ยี่เฟยไว้ “ช่างเถอะ พวกเราเปลี่ยนร้านกัน”
มันแพงเกินไปจริงๆ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย
ไป๋ยี่เฟยยืนกราน “พี่ ไม่แพงเลย อีกอย่าง พี่เป็นเจ้าบ่าวนะ ไม่สวมเสื้อผ้าดีๆ หน่อยได้ยังไง?”
พนักงานได้ยินที่ไป๋ยี่เฟยพูดก็หัวเราะ “ไม่แพง? พวกเขามีปัญญาซื้อเหรอ?”
เมื่อก่อนไป๋ยี่เฟยเจอคำดูถูกดูแคลนมามาก จึงไม่ได้รู้สึกอะไร จากนั้นก็หยิบบัตรสีดำของตัวเองออกมา “มีปัญญาซื้อ เธอเอาบัตรไปรูดเถอะ!”
ฉินหัวดึงไป๋ยี่เฟยไว้ “ไม่ต้องหรอก……”
“พี่ ฟังผม” ไป๋ยี่เฟยแกะมือฉินหัวออก ยื่นบัตรให้พนักงาน
พนักงานกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณหลอกใครกัน? นี่คือบัตรธนาคาร?”
“เธอไม่เคยเห็นก็บอกว่าไม่ใช่บัตรธนาคารแล้วหรือ?” ไป๋ยี่เฟยกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “เอาไปรูดเถอะ!”
พนักงานนิ่งไปสักพัก สุดท้ายก็ฉวยบัตรสีดำไป เธอไม่เชื่อหรอกว่านี่จะเป็นบัตรธนาคารจริงๆ?
ทว่า พอพนักงานหยิบมารูดที่เคาท์เตอร์ หลังจากรูดได้สำเร็จแล้ว เจ้าตัวก็นิ่งไป “เป็นบัตรธนาคารจริงๆ ด้วย?”
พนักงานนำใบเสร็จเดินมามอบให้ไป๋ยี่เฟย ท่าทีนอบน้อมมากขึ้น “คุณคะ บัตรคุณค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงอืม ไม่มองเธออีก กล่าวกับฉินหัวว่า “ไป ใส่ตัวนี้แหละ ส่วนชุดตัวเดิมเอาใส่ถุง”
พนักงานได้ยินก็เดินเข้ามาทันที จัดการหาถุงเอาเสื้อผ้าใส่ให้เรียบร้อย
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยเดินไปก็กล่าวอีกว่า “พี่ แค่ชุดไม่พอหรอกนะ ต้องมีรองเท้าด้วย”
ด้วยเหตุนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงลากฉินหัวไปที่ร้านแบรนด์เนมอีกร้านเพื่อซื้อรองเท้าโดยเฉพาะ เมื่อเลือกรองเท้าที่เหมาะสมให้กับฉินหัวแล้ว ก็จ่ายเงิน และจากไป
ฉินหัวกล่าวอย่างเก้อเขินว่า “ขอบใจนะ……”
หากเป็นตัวเขาเอง จะต้องตัดใจใช้เงินมากขนาดนี้ไปซื้อเสื้อผ้าราคาแพงแบบนี้ไม่ได้แน่
ไป๋ยี่เฟยโบกมือ “พี่เป็นพี่ชายของผม ยังจะมาพูดขอบใจอะไรอีก?”
……
หลังจากส่งฉินหัวกลับบ้านแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็คิดว่าต้องเตรียมของขวัญแต่งงานให้เขาสักชิ้นด้วย ดังนั้นจึงขับไปที่ห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้น ต้องโทรหาหลี่เสว่ก่อน
หลังรู้ว่าหลี่เสว่เองก็ยังไม่ได้เตรียมของขวัญให้โจวฉวี่เอ๋อเช่นกัน ไป๋ยี่เฟยจึงไปรับหลี่เสว่ที่วิลล่าก่อน สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปห้างสรรพสินค้าด้วยกัน