บทที่ 372
โรงพยาบาลโว่หลง
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่บนโซฟา และถามจางหัวปิน “ยังตรวจพบอะไรอีกบ้าง?”
จางหัวปินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โดยไม่ตอบคำถามของเขาก่อน “คุณจะแก้แค้นในตอนนี้งั้นเหรอ? แต่………ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของคุณยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับตระกูลฉุงและตระกูลเย่ ถ้าคุณไป ก็แค่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเท่านั้น คุณต้องคิดถึงภรรยาบ้าง………..”
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้น และจ้องไปที่จางหัวปิน “ผมถามว่า ยังตรวจพบอะไรอีกบ้าง?”
ด้านหลังของจางหัวปินรู้สึกเย็นชาด้วยสายตาของไป๋ยี่เฟย และจากนั้นเขาก็พูดขึ้นโดยจิตสำนึกว่า “อู๋ปิ้งและหูเทียนจิ่นเป็นคนของเย่ฮวน และคนที่ขว้างระเบิดในตอนท้ายคือคนของฉุงโยวเวย”
“อย่างอื่นล่ะ?”
จางหัวปินหยุดไปชั่วครู่ “ในนี้อาจมีน้องชายของคุณ ไป๋เซี่ยวเข้าร่วมด้วย……..”
“ผมรู้แล้ว”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็พอเดาได้แล้วว่าฉุงโยวเวยและเย่ฮวนออกแบบบทละครนี้อย่างไร เขาจึงลุกขึ้น และเตรียมตัวที่จะจากไป
จางหัวบินก็หยุดไป๋ยี่เฟย “เดี๋ยวก่อน เพิ่งได้รับข่าวมาตอนเมื่อเช้านี้ว่า รถของนายท่านสามตระกูลฉุงเข้าไปในเมืองเป่ยไห่ในเมื่อคืนนี้ และน่าจะปกป้องฉุงโยวเวยไว้แล้ว”
“นอกจากนี้ตระกูลเย่ก็ส่งคนมาด้วย มีผู้เก่งกล้าจากทั้งสองฝ่ายคอยปกป้องพวกเขา ไม่มีช่องว่างเลย ช่วงเวลานี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการแก้แค้น หรือรออีกสักพักค่อย……….”
ไป๋ยี่เฟยหันหลังให้จางหัวปิน และพูดอย่างจางๆ “ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็เดินจากไป
จางหัวปินยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว
หลังจากไป๋ยี่เฟยจากไป เขาก็ส่งข้อความไปหาคนรอบข้างของตัวเอง ขอให้พวกเขาไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาลโว่หลง จากนั้นกลุ่มคนทั้งหมดก็คุยกันอยู่ในห้องประชุมอย่างลับๆเป็นเวลานาน………..
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ออกจากโรงพยาบาลโว่หลง และไปที่โรงพยาบาลเอกชนที่หนิววั่งอยู่ แต่กลับพบเจอกับหลินขวางที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล
หลินขวางเห็นรถของไป๋ยี่เฟย ก็เข้าไปในรถทันที
“พี่ใหญ่ไป๋ คุณ……..”
ไป๋ยี่เฟยขัดจังหวะคำพูดของหลินขวาง “คุณมาทำอะไร?”
หลินขวางตอบว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณถูกโจมตี ผมเป็นห่วง ดังนั้นจึงมาดูสักหน่อย”
ไป๋ยี่เฟยตะคอก “ผมไม่ได้เป็นไร ไม่ต้องมาดูโดยเฉพาะหรอกว่าผมตายหรือยัง”
หลินขวางพูดไม่ออก “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมเป็นห่วงจริงๆ เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เกิดขึ้นมีคนเกี่ยวข้องมากเกินไป คุณควรทำอย่างระมัดระวัง และอย่าหุนหันพลันแล่นเกินไป ใช่แล้ว น้องชายของคุณฝากคำพูดมาถึงคุณ”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเขาอย่างสงสัย “เขาพูดว่าอะไร?”
“เขาบอกว่าให้คุณอดทนอีกหน่อย” หลินขวางตอบ “คุณไม่สามารถเอาชนะทั้งสองตระกูลได้ด้วยตัวคนเดียวหรอก”
“อย่างนั้นหรือ?” ไป๋ยี่เฟยไม่เห็นด้วย
หลินขวางรู้สึกกังวลเล็กน้อย “เขาก็แค่เป็นห่วงคุณแค่นั้น นี่ไม่ใช่เรื่องตลกจริงๆ คุณก็รู้ว่า ตระกูลเย่และตระกูลฉุงเป็นถึงตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูลในเมืองหลวง ไม่ต้องพูดถึงสองตระกูลเลย แม้แต่ตระกูลเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ”
“เขาจะเป็นห่วงผมงั้นเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยหัวเราะ “เขาอยากให้ผมตายไปเลยด้วยซ้ำ! ถ้าเขาเป็นห่วงผมจริงๆ เขาควรแจ้งผมตั้งแต่แรก แต่ไม่ใช่ช่วยฉุงโยวเวยส่งวัตถุระเบิดอย่างลับๆ!”
ก็ไม่รู้ว่าทำไมไป๋เซี่ยวถึงมีความชอบเป็นพิเศษกับเรื่องวัตถุระเบิด? ครั้งที่แล้วที่พวกเขาใช้สวีลั่งเพื่อล่อเขา ที่อยู่บนร่างกายของสวีลั่งก็คือวัตถุระเบิดเหมือนกัน!
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่หลินขวางอย่างเงียบๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าคุณก็รู้ตั้งนานแล้ว”
“ผมไม่รู้” หลินขวางส่ายหัว “แต่เมื่อคุณพูดเช่นนี้ขึ้นมา ผมก็พอเดาได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้มองไปที่หลินขวาง แต่พูดอย่างจางๆว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างไร ทำไมคุณถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไป๋เซี่ยว แต่ผมต้องเตือนคุณสักหน่อยว่า ไป๋เซี่ยวกำลังหลอกใช้คุณอยู่”
“ในระหว่างงานเลี้ยง ฉุงโยวเวยและเย่ฮวนมาที่งานเลี้ยง ผมควรจะรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่เพราะคนของผมตรวจพบข่าวแล้ว แต่ปกปิดต่อผม เพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ดังนั้นตอนที่อยู่ในงานเลี้ยง ผมถึงรู้ว่าพวกเขามาด้วย
“แต่ คุณก็มาแล้วเหมือนกัน”
“ไป๋เซี่ยวเป็นคนให้คุณมาหรือ”
หลินขวางพยักหน้า
ไป๋ยี่เฟยพูดอีกครั้ง “ไป๋เซี่ยวให้คุณมา ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเพิ่มชิปต่อรองในด้านของผม เพื่อให้ฉุงโยวเวยและเย่ฮวนสามารถปราบปรามผมได้ตั้งแต่แรก”
“ในขณะเดียวกัน เขาก็เบี่ยงเบนความสนใจของผม โดยให้ผมมุ่งความสนใจไปที่ฉุงโยวเวยและเย่ฮวน ดังนั้นคนของผมเกือบทั้งหมดจึงจ้องไปที่พวกเขา และไม่ได้ไปตรวจสอบไป๋เซี่ยวเลย”
“และไป๋เซี่ยวได้แอบขนวัตถุระเบิดไปยังฉุงโยวเวย ดังนั้นในนาทีสุดท้าย แม้ว่าผมจะไม่ถูกหูเทียนจิ่นและนักฆ่าพวกนั้นฆ่าตาย ผมก็จะถูกระเบิดตายเช่นกัน!”
“ตอนนี้ ไป๋เซี่ยวก็ให้คุณมาที่นี่อีก ต่อหน้าก็คือมาชักชวนผม เพื่อหวังดีกับผม แต่จริงๆแล้ว เขากำลังใช้คุณมายั่วยุผม และทำให้ผมหาทางแก้แค้นฉุงโยวเวยและเย่ฮวนอย่างแน่วแน่
“ถึงตอนนั้น กำลังผมไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ผมจะถูกฉุงโยวเวยและเย่ฮวนร่วมมือกันจัดการทิ้ง จากนั้นมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับไป๋เซี่ยว และตระกูลไป๋ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวที่เป็นทายาทสืบทอดตระกูล”
“คุณว่า ถูกไหม?”
หลินขวางตกใจมาก เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ “นี่………เป็นเพียงการคาดเดาของคุณใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเยาะ “ไม่ นี่เป็นความจริง คุณสามารถเข้าใจในสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดาย ตราบเท่าที่คุณเพียงแค่สัมผัสมันเท่านั้น ดังนั้นการที่ใช้คุณ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า”
หลังจากที่หลินขวางได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่น่าเชื่อ สิ่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่ซับซ้อนมากเช่นนี้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะคิดถึงความบิดเบี้ยวและความเปลี่ยนแปลงภายในได้เลย
นี่เป็นเพราะหลินขวางเป็นคนเรียบง่ายเกินไป เป็นคนตรงไปตรงมา และเขาไม่เคยคิดอะไรอย่างลึกซึ้งเลย หากพูดง่ายๆ เขาก็คือคนที่ไม่มีเจตนา
“พี่ใหญ่ไป๋ แม้ว่าผมจะเชื่อว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด แต่ข้อเท็จจริงก็ไม่ใช่แง่ดี หากคุณทำผลีผลาม คนที่เสียเปรียบก็อาจเป็นตัวคุณเอง!”
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจ และพูดอย่างเคร่งขรึม “การตัดสินใจของผม จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน”
“พี่ใหญ่ไป๋ นี่……….” หลินขวางเริ่มรู้สึกกังวล “เรื่องนี้ควรพิจารณาให้ดีก่อนจะดีกว่า อีกอย่าง ตำรวจคนนั้นยังไม่ตายไม่ใช่หรือ? คุณสามารถแก้แค้นอย่างช้าๆได้!”
เมื่อพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็มองไปที่หลินขวางอย่างเย็นชา “ยังไม่ตายเหรอ?”
“ใช่ เขาไม่ได้ตายก็จริง แต่เขาก็กลายเป็นคนอัมพาตไปแล้ว คุณรู้ไหมว่าคนอัมพาตคืออะไร? เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าตายเสียอีก!”
“ทั้งๆที่เมื่อวานนี้เป็นวันแต่งงานของเขา แต่เดิมเขาควรหวานชื่นอยู่กับภรรยาของเขา แต่เขาทำเพื่อผม จนกลายเป็นคนอัมพาตที่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล!”
“คุณรู้ไหมว่าสำหรับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานคนหนึ่ง มันจะเป็นการกระทบจิตใจมากแค่ไหน?”
“คุณรู้ไหมว่า ผมรู้สึกยังไง ในฐานะที่เป็นน้องชายคนหนึ่ง?”
“ผม………” หลินขวางพูดไม่ออก เขาไม่สามารถเห็นอกเห็นใจเขาได้ แต่เขาก็พอเข้าใจไป๋ยี่เฟยอยู่เหมือนกัน เพราะรู้ว่าความรู้สึกแบบนั้นมันแย่มาก
ไป๋ยี่เฟยหายใจเข้าลึกๆ “ดังนั้น ไม่มีอะไรจะพูด”
เมื่อเห็นเช่นนี้หลินขวางก็รู้ว่าเขาไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจได้ แค่กล่าวว่า “ตระกูลฉุงได้ส่งคนยอดฝีมือมาแล้ว คุณก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน”
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่หลินขวางและถามอย่างไม่แยแส “คนยอดฝีมือของตระกูลฉุงยังจะปกป้องคนของตระกูลเย่อีกงั้นเหรอ?”
หลินขวางถึงตอบสนองกลับมา “คนที่คุณจะจัดการไม่ใช่ฉุงโยวเวยเหรอ!”
…………
ที่ไป๋ยี่เฟยมาที่โรงพยาบาล เพราะหนิววั่งบอกเขาว่าเหลียงเหว่ยชาวต้องการจะพบเขา
เขาไม่รู้จักตัวตนของเหลียงเหว่ยชาวเลย แต่ดูจากทัศนคติของเย่ฮวนและฉุงโยวเวยแล้ว ก็พอที่จะเห็นว่า ตัวตนของเหลียงเหว่ยชาวนั้นไม่ง่ายนัก ในเวลานี้เหลียงเหว่ยชาวมาพบเขา ทำให้เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย