บทที่ 430
“เถ้าแก่ ท่านนานมาแล้วไม่ได้ติดต่อกับผม ท่านวางใจ จะเอาคนเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น!” ไอ้หัวล้านหลิวได้รับสายไป๋ยี่เฟยตื่นตกใจด้วยความดีใจอย่างมาก
ไป๋ยี่เฟย อืม เสียงหนึ่ง “อีกสักครู่พาคนไปยังสถานที่นี้ ผมส่งที่อยู่ให้กับคุณ”
ไอ้หัวล้านหลิวหยุดชะงัก จากนั้นขานรับเต็มปาก
หลังจากวางสาย ไอ้หัวล้านหลิวลูบหัวล้านของตนเองต่อๆกัน “อีเหี้ยยยยย ทันทีที่เถ้าแก่กลับมาก็จะเอาชุดใหญ่เลยหรือ!”
“พี่ใหญ่ อะไรใหญ่หรือ?”
ไอ้หัวล้านหลิวโบกมือ “ไป เรียกพวกพี่น้องมารวมตัวกัน พกไม้ไปด้วย พวกเราทำงานแล้ว”
……
ในโรงงานเครื่องประดับเขตนอกเมืองบางแห่ง เครื่องจักรร้อยกว่าเครื่อง “บึ้งบึ้งบึ้ง” ทำงานอยู่ ระหว่างนั้นยังมีคนมากมายเคลื่อนไปมาอยู่ในนั้น
เฝิงหย่งก้างพาอาวุโสของบริษัทที่จะร่วมงานกันหลายคนเดินชมอยู่ในโรงงานอย่างตามใจชอบ
“ประธานเฝิง โรงงานนี้ของท่านไม่เลวนะ ลักษณะใหญ่โต ปริมาตรการผลิตสูง คุณภาพยังไม่เลว ไม่เสียชื่อว่าเป็นโรงงานของประธานเฝิง” มีอาวุโสบางคนพูดอย่างประจบ
พูดจบ ก็มีคนพูดต่ออีกว่า “ก็ไม่ใช่หรือ ตอนนี้ประธานเฝิงมีต้นทุน โรงงานย่อมไม่เลวอย่างแน่นอนล่ะ!”
“ใช่สิ พูดขึ้นมาแล้วงานแต่งงานของลูกสาวประธานเฝิงเป็นเมื่อไหร่ล่ะ? ถึงเวลานั้นจะต้องเรียนเชิญพวกเราไปด้วยกันนะ!”
“คุณก็ฝันไปเถอะ? คนคือแต่งงานกับประธานกรรมการเย่ซื่อกรุ๊ป พวกเรามีสิทธิที่ไหนไปเข้าร่วมงานแต่งงานล่ะ!”
“ถ้าหากว่าประธานเฝิงพ่อตาคนนี้ช่วยพูดสักหน่อย ไม่แน่พูดว่าอาจจะไปได้จริงๆล่ะ!”
“……”
ทุกคนต่างคนต่างโต้ตอบหนึ่งประโยคไปมา พูดจนเฝิงหย่งก้างดีใจอย่างมาก แต่คือยิ้มไม่ออกเพราะว่าทันทีที่ยิ้ม ทั้งใบหน้าล้วนเจ็บปวดหมด
เช้าวันนี้เขาจึงฟื้นขึ้นมา การบวมที่อยู่บนใบหน้าถูกคนจัดการสักหน่อยแล้ว ลดบวมไปแล้ว แต่ก็ยังทั้งเจ็บทั้งร้อน วันนี้ยังเกือบถูกคนเหล่านี้หัวเราะเยาะด้วย
ก็ไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยคนนั้นที่ตีเขาเมื่อคืนเช่นกัน ลงมืออย่างรุนแรงขนาดนั้น ถ้าหากว่าให้เขารู้แล้ว เขาจะต้องเอาคืนกลับไปอย่างแน่นอน
เหมือนดั่งอาวุโสเหล่านี้ที่พูด เฝิงเซียนเซียนลูกสาวของเขาอีกไม่นานก็จะแต่งงานกับเย่ฮวนประธานกรรมการเย่ซื่อกรุ๊ปแล้ว อยู่ทั้งเป่ยไห่ เย่ซื่อกรุ๊ปจึงจะเป็นหัวมังกร ทุกอย่างที่ล่วงเกินเขา ก็เท่ากับล่วงเกินเย่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เจอบทเรียนที่น่าดูเลย!
เฝิงหย่งก้างฟังพอแล้ว ก็เลยพูดว่า “ไอ้หยะ นี่จะยากตรงไหนล่ะ? ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมงาน งานแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง แน่นอนต้องเรียนเชิญพวกคุณอยู่แล้ว เชื่อว่าลูกเขยของผมเขาก็จะไม่ว่าอะไรด้วย”
“งั้นก็ขอบคุณประธานเฝิงก่อนอย่างมากแล้ว”
ทุกคนต่างคนต่างยิ้มคล้อยตาม
ความหลงใหลเรื่องหน้าตาของเฝิงหย่งก้างได้รับความพึงพอใจอย่างมาก
กำลังอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆมีพนักงานคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “ประธานเฝิง แย่แล้ว แย่แล้ว”
สีหน้าของเฝิงหย่งก้างหน้าบึ้งทันที “อะไรแย่แล้ว แม่มึงเอ่ย มึงจึงจะแย่ล่ะ!”
พนักงานเห็นสภาพฝืนใจพูดว่า “ข้างนอกมีร้อยกว่าคนมา ถือไม้จะบุกเข้ามาแล้ว”
“อะไรนะ?”
คนทั้งหลายตื่นตระหนกตกใจ
“เกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
“ร้อยกว่าคนหรือ?”
“พวกเขาจะทำอะไรกันหรือ?”
ใบหน้าเฝิงหย่งก้างขึงลับพูดว่า “แม่มึงเอ่ย! แม่มึงเอ่ย ใคร่แน่ถึงขนาดนี้กล้าเอะอะก่อกวนอยู่ในโรงงานของผมหรือ?”
พูดอยู่ เฝิงหย่งก้างก็เลยเดินไปยังข้างนอก
ผู้อาวุโสหลายคนที่อยู่ข้างหลังเห็นสภาพก็ต่างคนต่างออกไปด้วย
พนักงานที่ยังทำงานอยู่ล้วนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าเสียงเครื่องยนต์ดังกว่า พวกเขาไม่ได้ยินการสนทนากันของคนเหล่านี้
เฝิงหย่งก้างเพิ่งพาคนเดินถึงหน้าประตูของโรงงาน ก็ได้เห็นคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณคือใครหรือ? รู้ว่าผมเป็นใครไหม?” ใบหน้าเฝิงหย่งก้างเย็นชาถามด้วยเสียงอันดัง
ในเวลานี้ ในร้อยกว่าคนมีหัวล้านคนหนึ่งเดินออกมา ถุย เสียงหนึ่ง “แม่มึงเอ่ย ช่างมึงเป็นใครล่ะ!”
“มึง!” เฝิงหย่งก้างเห็นคนคนนี้แล้วค่อยไปมองร้อยกว่าคนนั้นอีก ในฉับพลันนั้นนึกถึงมาเฟียเล็กๆที่อยู่บนถนน ตื่นตระหนกตกใจในทันที แต่ว่าเขาสงสัยงงงวยอย่างมาก เขาก่อกวนคนเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เฝิงหย่งก้างสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที พยายามรักษาความสงบ ถามว่า “ขอถามหน่อย พวกมึงเป็นใคร? จะทำอะไรหรือ?”
ไอ้หัวล้านหลิวไม่ได้ตอบกลับ แต่หมุนตัวออกไป พยักหน้าโก้งโค้งต่อกับวัยรุ่นคนหนึ่งอย่างประจบตามปกติ “เถ้าแก่ จะทุบตอนนี้เลยไหม?”
“ทุบ ทุบให้เลอะหมดเลย ผมไม่อยากเห็นสักชิ้นที่ดี!” ไป๋ยี่เฟยสั่งอย่างราบเรียบ
ไอ้หัวล้านหลิวปรบมือทันที “พวกพี่น้อง ทุบให้หมดเลย ทุบให้เลอะหมดเลย เก็บไว้ดีสักชิ้นไม่ได้!”
พูดจบ ร้อยกว่าคนหยิบไม้ขึ้นมาพุ่งเข้าไป “เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง” เสียงดังขึ้นมา เสียงการทำงานของเครื่องจักรค่อยๆหยุดลง
พวกพนักงานกำลังทำงานอยู่ อยู่ดีๆมีคนถือไม้เข้ามาทุบมั่วไปหมด ทำให้คนตกใจไม่เบา
คนของเฝิงหย่งก้างฝั่งนี้เห็นสภาพตะลึงตาค้างแล้ว
คนเหล่านี้มาไม่พูดอะไรก็ทุบของไปทั่ว แม่มึงเอ่ยช่างไม่มีเหตุผลเหลือเกิน
ในเวลานี้เฝิงหย่งก้างจำไป๋ยี่เฟยได้แล้ว โมโหขึ้นมาอย่างฉับพลัน “แม่มึงเอ่ยมึงเป็นใครหรือ? ถึงขนาดกล้าทุบโรงงานของกูหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ “กูหรือ? ไป๋ยี่เฟยไง!”
“ไป๋ยี่เฟยหรือ?” เฝิงหย่งก้างหยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีก ชื่อคุ้นหูเล็กน้อย ดูเหมือนเคยได้ยินมาจากไหน แต่ว่า นี่เกี่ยวอะไรกัน “ไป๋ยี่เฟยใช่ไหม? ได้ กูจำมึงไว้แล้ว!”
“เรื่องของเมื่อคืนกูยังไม่ได้คิดบัญชีกับมึง แม่มึงเอ่ยมึงมาด้วยตนเองหรือ ก็ดี กูไม่ยุ่งยากที่จะต้องไปหามึง!”
“กูบอกกับมึง อยู่ในเทียนเป่ย ยังไม่มีคนกล้ายุ่งกับกู! ถึงแม้ว่าเป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปมาแล้ว แม่มึงเอ่ยก็ไม่กล้าที่จะยุ่งกับกูด้วย!”
พูดจบ เฝิงหย่งก้างหยุดชะงัก เบิกตาโพลงทั้งคู่ “ประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปหรือ? ไป๋ยี่เฟยหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าอย่างราบเรียบ “เป็นกู”
คนที่อยู่ข้างหลังเฝิงหย่งก้างตื่นตะลึงแล้ว คนที่ไม่เอ่ยอะไรก็ชกกูคนนี้คือไป๋ยี่เฟยประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปหรือ?
นี่ทำไมไม่เหมือนกับอย่างที่ได้ยินมาล่ะ?
แต่เฝิงหย่งก้างมีเย่ฮวนลูกเขยคนนี้ เขาไม่กลัว
“เหอะ มึงยังไม่ตายหรือ!” เฝิงหย่งก้างจำได้ว่าเมื่อคืนเซียวหรงเทาบอกว่าไป๋ยี่เฟยล่วงเกินตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ จะถูกคนมากมายตามฆ่า หายตัวไปหนึ่งเดือน ถึงขนาดยังไม่ตาย
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าต่อๆกัน “ใช่สิ กูอายุยืน”
“มึงยังไม่ตายยิ่งดี” เฝิงหย่งก้าง ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง “รู้ว่ากูเป็นใครไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว “ไม่รู้”
“กูจะบอกกับมึง ลูกเขยของกู ประธานกรรมการเย่ซื่อกรุ๊ป” เฝิงหย่งก้างพูดอย่างหยิ่งผยองมาก “ถึงแม้ว่ามึงเป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ป แม่มึงเอ่ยก็หนีบหางเป็นคนอยู่เถอะ!”
ไอ้เศษสวะนี้ถึงขนาดเป็นพ่อตาของเย่ฮวนหรือ? บังเอิญขนาดนี้หรือ?
เห็นไป๋ยี่เฟยไม่พูด เฝิงหย่งก้างคิดว่าไป๋ยี่เฟยกลัวแล้ว ยิ่งเพิ่มความภูมิใจ “กลัวแล้วหรือ? กลัวแล้วก็รีบกระจายคนออกไป ค่อยคุกเข่าลงมาขอโทษกับกูดีๆ ค่อยชดใช้การสูญเสียทั้งหมดให้กู ไม่มาก สองร้อยล้านก็พอแล้ว”
สองร้อยล้าน เรียกข้อเสนอเยอะ!
เครื่องจักรที่ทำการผลิตเหล่านี้ กับวัตถุคุณภาพต่ำเหล่านั้น รวมกันขึ้นมาแล้วมีไม่กี่สิบล้านยังถือว่าดีแล้ว ยังจะเอาการชดเชยถึงสองร้ายล้านหรือ?
ไป๋ยี่เฟย ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่งพูดว่า “ดูแล้วมึงยังไม่ค่อยเข้าใจกูเท่าไหร่!”
“เย่ซื่อกรุ๊ปเป็นพี่ใหญ่ของเป่ยไห่จริงๆ แต่งั้นก็จะยังไงล่ะ? หรือว่ามึงไม่รู้ว่าแม้แต่คุณชายของตระกูลฉุงในตระกูลใหญ่ทั้งสี่กูล้วนกล้าฆ่าล่ะ? อีกทั้ง กูฆ่าเขาไปแล้ว ตอนนี้กูยังปลอดภัยไร้โรคา”
“ตระกูลเย่ถือว่าเป็นอะไรอีกล่ะ?”
พูดจบ คนทั้งหลายตื่นตระหนกตกใจ เวลาเดียวกัน เหงื่อเต็มหลัง
ก่อนหน้านั้นเรื่องที่คุณชายตระกูลฉุงตายแล้วคือปิดบังไม่อยู่อยู่ได้ ดังนั้นมีคนมากมายก็ยังรู้อยู่ นึกไม่ถึงว่าถึงขนาดไป๋ยี่เฟยเป็นคนฆ่า อีกทั้งตอนนี้เขายังยืนอยู่ที่นี่ พูดได้ชัดว่า ไม่ได้ถูกตัดสินลงอาญาสักนิด!
ตามที่พูดเช่นนี้แล้ว ไป๋ยี่เฟยยังมีใครกล้าไปล่วงเกินล่ะ?