บทที่ 47
ห้องสำนักงานของกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ป
“ฉวี่เอ๋อ? คุณเป็นอะไรหรือ?” หลี่เสว่คลึงหว่างคิ้วตนเอง
ในสายโทรศัพท์ โจวฉวี่เอ๋อกลัดกลุ้มใจมาก “เสว่เอ๋อ คุณช่วยฉันที! แม่ฉันจะให้ฉันไปดูตัวให้ได้!”
“ดูตัว?” หลี่เสว่ประหลาดใจเล็กน้อย “เร็วขนาดนี้เลยหรือ?”
“มันไม่ถูกใช่ไหม? เค้ายังเป็นสาวน้อยมีชีวิตชีวาที่แสนงดงามอยู่เลย!”
หลี่เสว่หัวเราะ “งั้นเธอคิดว่าจะทำยังไงล่ะ?”
“ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเลยมาถามเธอไง!” โจวฉวี่เอ๋อถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันไม่มีแฟน แม่ฉันก็รีบร้อนจนทำไม่ไหว เหมือนกลัวว่าฉันจะแต่งไม่ออกอย่างงั้นแหละ!”
“นี่ คุณว่าฉันไปหาสักคนมาแกล้งเป็นแฟนดีไหม?”
“เอ๋….นี่คงไม่ดีหรอกมั้ง?” หลี่เสว่พูดสองจิตสองใจ
แต่โจวฉวี่เอ๋อกลับยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้ก็ไม่เลว พูดอย่างตื่นเต้น “หาผู้ชายสักคนที่ท่าทางใช้ได้มาปลอมตัว ปล่อยให้เรื่องนี้ให้พ้นไปก่อน แล้วฉันค่อยหาแฟนเอง ค่อยบอกแม่ว่าพวกเราเลิกกันแล้ว หาคนใหม่ได้แล้ว!”
“เยี่ยมมาก! ไม่เลวเลย! ฮ่าฮ่า…..ไม่พูดแล้ว ฉันไปตั้งแต่ตอนนี้แหละ…..”
“ฉวี่เอ๋อ……”
หลี่เสว่เพิ่งตะโกนเรียกไปครั้งหนึ่ง โจวฉวี่เอ๋อก็ตัดสายไปแล้ว สุดท้ายก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้
หลังโจวฉวี่เอ๋อตัดสายแล้ว ก็กอดโทรศัพท์เริ่มขบคิด จะไปหาแฟนปลอมๆ ที่น่าเชื่อถือสักหน่อย ทั้งยังสามารถตบตาคนอื่นได้ที่ไหน?
……
ตกบ่าย ไป๋ยี่เฟยและหวังโหลวไปดูงานสถานที่จริงที่บริษัทแห่งหนึ่งด้วยกัน
จากนั้นเมื่อเพิ่งถึงชั้นล่างตึกของบริษัทนั้น ก็บังเอิญพบโจวฉวี่เอ๋ออย่างไม่คาดคิด
โจวฉวี่เอ๋อนั่งอยู่ในรถ แวบเดียวก็เห็นไป๋ยี่เฟย ตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นทันที
“ไป๋ยี่เฟย!”
วันนี้โจวฉวี่เอ๋อสวมชุดเดรสค็อกเทลค่อนข้างทางการ แต่งหน้าเบาๆ ดูร่าเริงกว่าปกติ วันนี้มีกลิ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่เฉลียวฉลาดเพิ่มมา
“ไป๋ยี่เฟย ช่วยอะไรหน่อยสิ” โจวฉวี่เอ๋อไม่พูดอ้อมค้อม
ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้ว โจวฉวี่เอ๋อไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย ยังขอให้เขาช่วย?
“ให้ช่วยอะไร? รีบมากไหม?”
โจวฉวี่เอ๋อพยักหน้า แล้วเหลือบมองหวังโหลว ไม่พูดอะไร
หวังโหลวเข้าใจได้ในทันที “พวกคุณคุยกันเถอะ! ฉันไปเองก็ได้”
ไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นก็ลังเลเล็กน้อย กล่าว “งั้นคุณไปเถอะ! เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันดูรายงานของคุณทีเดียว”
หลังจากนั้น โจวฉวี่เอ๋อก็เล่าเรื่องคร่าวๆ ให้ฟัง
“คุณอยากให้ฉันมาเป็นโล่กำบังให้? แต่ฉันแต่งงานแล้วนะ เกรงว่าคงจะไม่ค่อยเหมาะ”
แต่โจวฉวี่เอ๋อเหมือนว่ากำหนดชัดเจนไว้แล้วว่าต้องเป็นไป๋ยี่เฟย
ก็รู้ว่าไป๋ยี่เฟยแต่งงานแล้ว ทั้งยังแต่งงานกับเพื่อนสนิท ดังนั้นเธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรถึงตอนนั้นค่อยบอกกับหลี่เสว่สักคำก็โอเค
ไป๋ยี่เฟยไร้สิ้นหนทาง สุดท้ายเห็นแก่หน้าของหลี่เสว่ ก็จำใจตอบรับโจวฉวี่เอ๋อไป
โจวฉวี่เอ๋อพูดหัวเราะ “พรุ่งนี้สิบโมงเช้า ที่ร้านกาเฟยซีซี”
เมื่อหาทางออกเรื่องปัญหาวุ่นวายในใจได้แล้ว โจวฉวี่เอ๋อก็กลับไป
และไป๋ยี่เฟยก็ยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท
จนถึงเวลาใกล้เลิกงาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์ของหลี่เฉียงตงผู้เป็นพ่อตา
“ยี่เฟย เรื่องเมื่อวานเย็นเป็นความผิดของแม่คุณ เย็นนี้มากินข้าวที่นี่เถอะ! แค่พวกเราครอบครัวเดียวกัน”
ไป๋ยี่เฟยรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “ครับ ผมจะไปกับเสว่เอ๋อเดี๋ยวนี้”
วางสายเสร็จ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกประทับใจเล็กน้อยกับประโยคที่ว่าครอบครัวเดียวกันของหลี่เฉียงตง ถ้าหลิวจื่อหยุนสามารถยอมรับเขา เขาเชื่อว่าครอบครัวพวกเราเราจะต้องสามัคคีมากแน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกว่าควรซื้อของขวัญส่งให้พ่อตาแม่ยายสักหน่อยก็คงดี ดังนั้นเลยรีบออกจากบริษัทไป ไปรับหลี่เสว่ก่อน แล้วทั้งคู่ค่อยไปห้างด้วยกัน
“จริงๆ แล้วไม่ต้องซื้อของขวัญหรอก” หลี่เสว่ไม่อยากให้ไป๋ยี่เฟยใช้จ่ายสิ้นเปลือง
“ไม่เป็นไร เมื่อวานฉันก็ทำตัวไม่ดี ซื้อของขวัญเป็นการแสดงความขอโทษ”
หลี่เสว่พูดไปก็ไม่ฟัง เลยได้แต่ตามเขาไป
พวกเขามาถึงตู้โชว์สินค้าฟุ่มเฟือยเกรดสูงในห้างสรรพสินค้า
ที่นี่ล้วนเป็นกำไลอัญมณีเกรดสูง แต่ละแบรนด์ก็มีตู้โชว์หลายตู้ ก็ต้องดูแล้วว่าลูกค้าชอบแบบไหน
“เสว่เอ๋อ คุณว่าซื้อสร้อยให้แม่เป็นไง?”
“อืม ได้ค่ะ” หลี่เสว่พยักหน้า
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงอืม จูงมือหลี่เสว่ไปที่ตู้โชว์ของทิฟฟานี่ “เสว่เอ๋อ,เธอมาเลือกสิ!”
หลี่เสว่ก็ไม่ปฏิเสธ มองดูจากข้างตู้โชว์
พนักงานขายหน้าตู้โชว์เห็นก็ยกยิ้มรอยยิ้มมาตรฐาน “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง คุณต้องการรุ่นไหนดีคะ เอาออกมาลองสวมได้หมดเลยนะคะ”
หลี่เสว่พยักหน้า และสายตาคู่นั้นเป็นประกาย เมื่อเห็นเซทเครื่องประดับที่ตั้งใจจัดวางโชว์เป็นพิเศษในตู้โชว์
ในชุดเครื่องประดับมีทั้งหมดสามชิ้น สร้อยข้อมือ สร้อยคอและตุ้มหู
ทั้งหมดล้วนใช้เพชรเม็ดละเอียดและอะความารีนฝังเข้าด้วยกัน ตรงกลางของสร้อยคอเป็นอัญมณีสีฟ้าน้ำทะเลทรงเหลี่ยมเม็ดค่อนข้างใหญ่ ซ้ายแล้วขวาอย่างละเม็ดที่ค่อนข้างเล็ก ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เป็นสร้อยเส้นเรียบร้อยติดกันเป็นเส้นกลม ตัวเส้นของสร้อยเป็นเพชรเม็ดเล็กละเอียดฝังไว้
สร้อยข้อมือและตุ้มหูก็ใช้อะความารีนและเพชรเม็ดละเอียดฝังลงไปกับเส้นของสร้อย สองฝั่งสมดุลกัน
“สวยจัง!” หลี่เสว่อดตะลึงไม่ได้
เป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้หญิงจะชอบอัญมณีที่เป็นประกายระยิบระยับ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่เพื่อให้ได้ครอบครองใจลูกค้า เหล่าดีไซเนอร์ก็ดีไซน์ออกมามากมายหลายรูปแบบ
หลี่เสว่ก็ไม่นอกเหนือจากนั้น แน่นอน ในชิ้นที่มากมาย ชิ้นที่เธอชอบมากที่สุดก็คือชิ้นนี้ เพราะเพชรเม็ดละเอียดสีขาวกับสีฟ้าน้ำทะเลใสสะอาดตานั้นมีสีสันที่เสริมกันและกันให้โดดเด่น ให้ความรู้สึกเรียบนิ่งไม่ฉูดฉาดแก่คนใส่ และทำให้คนที่สวมใส่เพิ่มความสง่าและดูแพงขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยสังเกตเห็นสายตาของหลี่เสว่ กล่าวถาม “ชอบหรือ?”
หลี่เสว่เมื่อได้ยินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวในทันที “ก็โอเค”
ใจจริงชอบจะแย่อยู่แล้ว แต่เมื่อกี้เธอเห็นราคา ชุดนี้ราคาตั้งสองแสน!
ไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อนัก สายตาหลี่เสว่เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าชอบมากๆ หรือ?