บทที่470
“อ้า!”
เสียงร้องครวญครางดังขึ้น ชายไว้เคราเจ็บจนเหงื่อไหลออกมา
ชายกำยำคนนั้นว่องไวกว่า จึงหลบออกไปได้ก่อน ในเวลาเดียวกัน เขาก็สวนกับไป๋ยี่เฟยทันที
ไป๋ยี่เฟยสายตาเยือกเย็นโยนแส้ออกไป กระโดดขึ้นไป เตะลอยอยู่กลางอากาศ เตะเข้าที่หน้าของชายคนนั้นอย่างจัง ชายคนนั้นปากเบี้ยวไปทันที พร้อมกับเสียการทรงตัวไปด้วย “ตุ๊บ” ล้มลงกับพื้น
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยลงถึงพื้น ชายไว้เคราที่อยู่ทางนั้นก็โจมตีเข้ามาเหมือนกัน กำปั้นของเขาพุ่งตรงเข้ามาที่ลำตัวของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยหันตัวออกข้าง จนชายไว้เคราไถลไปด้านหน้า จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมากระชากแขนของชายไว้เคราจากทางด้านหลัง แล้วถีบขาออกไป ชายไว้เคราถูกถีบจนลอยไปกระแทกกับบันไดที่อยู่ไม่ไกลอย่างจัง
ชายไว้เครากับชายกำยำไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไหนบอกว่าไป๋ยี่เฟยต่อสู้ไม่เป็นไง? ทำไมไป๋ยี่เฟยถึงได้เก่งกาจแบบนี้?
ไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้าไปโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้โต้กลับ
หลังจากกระทืบอยู่นาน ไป๋ยี่เฟยก็ทำให้สองคนนั้นลุกขึ้นมาไม่ไหวอีกเลย ได้แต่นอนโอดครวญอยู่บนพื้น
ในที่สุด ไป๋ยี่เฟยก็ได้หยุดลง หายใจหอบเล็กน้อย
พอได้กระทืบสองคนนี้แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกใจเย็นลงบ้าง แต่มันก็ยังไม่หมด
พอนึกถึงหลงหลิงหลิงคอยรายงานเรื่องต่างๆ ให้เขาทุกวันต้องมานอนโชกเลือดแบบนี้ ความโกรธเกรี้ยวของไป๋ยี่เฟยก็ไม่อาจทุเลาลงได้
ว่าแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็เก็บแส้ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เตะสองคนนั้นให้มากองอยู่ที่เดียวกัน จากนั้นก็เหวี่ยงแส้ลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า
“แพร๊ะ!”
“แพร๊ะ!”
“แพร๊ะ!”
เสียงของแส้ที่กระทบกับกายเนื้อดังมาไม่ขาดสาย เสียงโอดครวญที่เจ็บปวดก็ดังตามมาไม่มีหยุด
“อ้าอ้า……”
จนเสียงร้องของทั้งคู่เริ่มแหบแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่ยอมหยุด
“พี่ใหญ่ เราผิดไปแล้ว เราผิดไปแล้ว!”
“เย่ฮวนเป็นคนสั่งให้เราทำ เย่ฮวนเป็นคนสั่งให้เราทำ เมตตาพวกเราเถอะครับ!”
คนเราเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความทรมานที่ตัวเองไม่อาจทนได้ ก็พูดออกมาได้ทุกอย่าง ที่พวกเขาบอกว่าเย่ฮวนเป็นคนสั่งให้ทำ ไป๋ยี่เฟยไม่เชื่อเลยสักนิด
ถึงไป๋ยี่เฟยจะไม่ค่อยรู้ว่าเย่ฮวนเป็นคนยังไง แต่เขารู้ดี ว่าเย่ฮวนไม่มีทางสั่งให้ใครมาทำแบบนี้กับหลงหลิงหลิงเด็ดขาด
เป็นเพราะพวกเขาทำการทรมานหลงหลิงหลิงด้วยตัวเอง แล้วยังมีหน้ามาโยนความผิดให้เย่ฮวนอีก
ด้วยเหตุนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงออกแรงเฆี่ยนมากกว่าเดิม
“อ้า! อ้า!”
“……”
“เมตตาพวกเรา……”
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “เมตตาพวกแกเหรอ? แล้วพวกแกเคยเมตตากับหลิงหลิงบ้างมั้ย? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง พวกแกยังทำกับเธอได้ลง?”
“อ้า……”
ไป๋ยี่เฟยหวดลงไปแรงยิ่งกว่าเดิม ทั้งคู่เจ็บจนพูดอะไรไม่ออก
“พวกแกมันเดรัจฉาน!”
“ตายๆ ไปซะก็ดี!”
ระหว่างที่พูด แส้ในมือของไป๋ยี่เฟยก็ไม่เคยหยุดลงเลย
จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็ทนไม่ไหวโยนแส้ในมือทิ้งไป
ส่วนสองคนที่นอนอยู่บนพื้นได้เงียบไปตั้งนานแล้ว ถ้าตั้งใจสังเกตดูดีๆ ก็จะรู้ว่าพวกเขาไม่หายใจแล้ว
ไป๋ยี่เฟยได้เฆี่ยนทั้งคู่จนตายอย่างโหดเหี้ยม
สองคนนี้โหดเหี้ยมกับหลงหลิงหลิงได้ถึงขนาดนั้น มันเลวซะยิ่งกว่าเดรัจฉาน ถึงตายก็ยังไม่สาสม
ไป๋ยี่เฟยพักหายใจ แล้วจ้องก้อนเนื้อเละๆ สองก้อนนั้นด้วยสายตาที่ดุร้าย ทนไม่ไหวเตะไปอีกสองที เขาถึงยอมตัดใจเดินไปหาหลงหลิงหลิง
เขาอุ้มหลงหลิงหลิงขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินตรงไปทางประตู
ทันทีที่ประตูถูกถีบออก สายตาทุกคู่ก็จ้องมาทางนี้
ชายหน้าบากกับพวกหัวโจกยังยืนอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ได้ล้มลงไปแล้ว หรือไม่ก็ก้มลงกุมร่างกายของตัวเองไว้ แตกต่างจากตอนที่มาอย่างสิ้นเชิง
ส่วนพวกเฉินอ้าวเจียวกับพวก ยังยืนอยู่กันอย่างสมบูรณ์
พวกชายหน้าบากกำลังรู้สึกหวาดกลัวพวกเฉินอ้าเจียว พวกเขาจึงยังไม่สั่งให้คนอื่นลงมือต่อ ที่สำคัญเป้าหมายของพวกเขาคือไป๋ยี่เฟย ขอแค่ฆ่าไป๋ยี่เฟยได้ ภารกิจก็ถือว่าเสร็จสิ้น
เมื่อทุกคนเห็นไป๋ยี่เฟยอุ้มหลงหลิงหลิงออกมา ต่างก็ตะลึงกันหมด ถ้าจำไม่ผิด ในบ้านน่าจะมีคนอยู่ด้วยนี่
การที่ไป๋ยี่เฟยสามารถช่วยคนออกมาได้แบบนี้ งั้นก็แสดงว่า คนที่อยู่ข้างในถ้าไม่ถูกตบจนลุกไม่ขึ้นก็คงถูก……ฆ่าตายไปแล้ว!
กับข้อสันนิษฐานอย่างหลัง ทุกคนคงเชื่อไม่ลง ถ้าไป๋ยี่เฟยสามารถฆ่ามองคนนั้นได้ งั้นก็แสดงว่าฝีมือของเขาไม่มีทางด้อยไปกว่าพวกเขาแน่นอน
ในตอนนั้นเอง หลิวเสี่ยวเองก็ได้อุทานออกมาด้วยความตกใจ และวิ่งมาพร้อมกับเฉินห้าว
พอหลิวเสี่ยวอิงกับเฉินห้าวได้เห็นสภาพของหลงหลิงหลิงเข้าดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที
“หลิงหลิง……ไอ้เดรัจฉานพวกนั้น!”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมองไปยังผู้คนรอบๆ ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ในเมื่อทุกคนอยากฆ่าผมขนาดนี้ งั้นก็เข้ามาเลย!”
ถ้าก่อนหน้านี้ได้ยินแบบนี้ละก็ พวกเขาคงพุ่งเข้ามาอย่างไม่ต้องคิดแล้ว แต่ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่พวกเขาคิดเลย
ที่สำคัญ สิบเอ็ดนั้นก็แกร่งเกินไป!
พอเห็นทุกคนไม่กล้าเข้ามา ไป๋ยี่เฟยก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “เป้าหมายของพวกคุณคือผม คนอื่นไม่เกี่ยว”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็อุ้มหลงหลิงหลิงไปที่รถของตัวเอง
ทุกคนมองดูการกระทำของเขาอย่างไม่มีใครขยับ พวกเขาเข้าใจความหมายของไป๋ยี่เฟยดีเขาจะส่งผู้หญิงของเขาไปก่อน จากนั้นค่อยคุยกันเรื่องฆ่าหัน
พวกชายหน้าบากหันมาจ้องตากัน จริงๆ จะลอบทำร้ายตอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว เพราะไป๋ยี่เฟยกำลังหันหลังให้พวกเขาอยู่ แถมพวกเขายังมีจำนวนมากขนาดนี้ ไม่มีทางที่เขาจะรับมือไหวหรอก
แต่พวกเขาก็ต้องลังเล เหตุผลนะเหรอง่ายมาก ก็มีสิบเอ็ดคนนั้นอยู่ด้วยไง
ณ เวลานั้น สิ่งที่พวกเขากำลังคิดก็คือ พวกนี้ต้องเป็นคนที่ตระกูลไป๋ส่งมาคุ้มกันไป๋ยี่เฟยแน่ ถึงได้มาขัดขวางพวกเขาแบบนี้
เมื่อหลิวเสี่ยวอิงกับเฉินห้าวเห็นแบบนั้น ทั้งคู่ก็รีบตามไปทันที
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยวางหลงหลิงหลิงไว้ในรถแล้ว เขาก็หันมาพูดกับหลิวเสี่ยวอิงว่า “คุณช่วยมาทำแผลให้ที”
“ค่ะ” หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้าอย่างจริงจัง บาดแผลของหลงหลิงหลิงเยอะมาก แถมยังสาหัสมากด้วย จำเป็นต้องรีบทำการรักษา ถ้าไม่อย่างนั้น อาจมีอาการอื่นแทรกซ้อนได้
แล้วไป๋ยี่เฟยก็หันไปพูดกับเฉินห้าวว่า “คุณขับรถ พาพวกเธอออกไป”
“พี่ แล้วพี่ละ……” เฉินห้าวรู้ดีว่าสิ่งที่ควรทำตอนนี้คือพาหลงหลิงหลิงกับหลิวเสี่ยวอิงไปจากที่นี่ แต่สิ่งที่เขากลัวคือถ้าคนกลุ่มนี้เป็นแค่ชุดแรกละ ถ้ายังมีกองหนุนมาอีกล่ะจะทำยังไง?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เฉินห้าวเองก็มีช่วงที่ฉลาดมากเหมือนกัน
ไป๋ยี่เฟยพูดแทรกขึ้นมาว่า “เชื่อผม”
“ครับพี่ พี่ไม่ต้องห่วง” เฉินห้าวพยักหน้า ไป๋ยี่เฟยปิดประตูรถ รถถูกสตาร์ท แล้วขับออกจากวิลล่าไป
ในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยก็โทรหาไป๋หู่ “พอห้าวจื่อออกไปแล้วก็ปิดประตูได้”
แล้วเขาก็โทรหาสวีลั่งเหมือนกัน
เพราะก่อนที่จะเข้ามาในวิลล่า ไป๋หู่กับจงเหลียน สวีลั่งกับจางหัวปิน ได้จับคู่กันเฝ้าทางเข้าของวิลล่าทั้งสองฝั่งเอาไว้เพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดจะได้หนีกันได้ทัน
แต่ตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้คิดแบบนี้แล้ว
ข้อแรกคือเรื่องของหลงหลิงหลิง ส่วนข้อสองก็คือตอนนี้ทุกตระกูลรวมทั้งสหพันธ์ธุรกิจต่างก็ต้องการที่จะมาฆ่าเขา!
ตัวเขาไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนที่ใจบุญอะไร ในเมื่อพวกเขาต้องการมาฆ่าตัวเอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไม่ให้พวกเขาได้กลับไปอีก
ตอนนี้ นอกจากไป๋ยี่เฟยกับพวกเฉินอ้าวเจียวอีกสิบเอ็ดคน ที่เหลือก็คือคนที่ถูกตระกูลต่างๆ ส่งมาฆ่าเขาทั้งสิ้น
ไป๋ยี่เฟยพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “มาสิ อยากฆ่าผมนักไม่ใช่เหรอ?”