บทที่ 49
“นายไป๋ นี่คือบัตรของคุณค่ะ กรุณาเก็บรักษาไว้ดีๆ”
ผู้ชายและผู้หญิงชะงักอีกครั้ง
บัตรใบนั้นเป็นบัตรธนาคารจริงหรือ?
ชุดอะความารีนและมรกตอันนั้นรวมกันก็สามสี่แสนแล้ว!
ไป๋ยี่เฟยรับบัตร และหลังจากรับสินค้ามา ก็ไม่สนใจสองคนนั้น จับมือหลี่เสว่เดินออกไป
ผู้หญิงไม่ยอมเห็นเครื่องประดับที่ตนชอบถูกแย่งไป “รอก่อน! ไม่ให้ไป!”
ไป๋ยี่เฟยพูดกับหลี่เสว่: “อย่าไปสนใจพวกเขา”
หลี่เสว่พยักหน้า คนแบบนี้เธอเองก็ไม่อยากสนใจ
“นี่ พวกคุณหูหนวกหรือไง?” ผู้หญิงเปลี่ยนเป็นหวีดแหลมขึ้นมาอีกแล้ว “ไม่อนุญาตให้ไป! อัญมณีอะความารีนนั้นเป็นของฉัน! พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงตะโกนทำเอาคนรอบๆ ตู้โชว์หันมามอง
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ก็ยังคงไม่สนใจเขา เดินไปข้างหน้าต่อ
ตอนนี้ ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ผู้หญิงจู่ๆ ก็ตวาดออกมา “หุบปาก!”
ผู้ชายจ้องมองผู้หญิงเขม็งด้วยความโหดเหี้ยม จากนั้นตัวเองก็เดินนำไป
เมื่อกี้เขารู้สึกคุ้นตาไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ ตอนนั้นยังนึกไม่ออก หลังจากนั้นพอได้ยินพนักงานขายเรียก “นายไป๋” เขาก็นึกออกในทันที แต่ก่อนเคยเจอเขาในงานเลี้ยงครบรอบของหลิ่วซื่อกรุ๊ป เพียงแต่ตอนนั้นเขายืนอยู่ไกล เลยมองไม่ชัดเท่านั้น
แม่งเอ๊ย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้จัดการใหญ่ของโหวจวี๋กรุ๊ปและกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปของหลี่เสว่!
ท่าทีของผู้หญิงของตนเมื่อกี้ เป็นการล่วงเกินไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ไปแล้วอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร?
“ประธานไป๋ ประธานหลี่ ขออนุญาตส่งตรงนี้”
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่หยุดเดินพร้อมกัน หันกลับไปอย่างงงงวย
“ประธานไป๋ ประธานหลี่ ขออภัยจริงๆ ครับ เมื่อกี้ตาไม่มีแวว จึงมองไม่ออก ฉันขอกล่าวขอขมาคำพูดของเจียวเจียวเมื่อกี้ไว้ ณ ตรงนี้ หวังว่าทั้งสองท่านจะไม่ใส่ใจ”
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่สบตามอง ก็เข้าใจขึ้นมา
ด้านหลัง หญิงที่ชื่อเจียวเจียวตะลึงตาค้าง
ประธานไป๋?ประธานหลี่?
นี่เธอล่วงเกินคนใหญ่คนโตไปแล้วหรือ?
คิดถึงตรงนี้ ผู้หญิงก็เริ่มกลัวขึ้นมา ตัวสั่นระริกเล็กน้อย
คนรอบๆ เห็นก็ชะงักกันหมด สถานการณ์นี้มันอะไร?
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองผู้ชาย แล้วเหลือบมองผู้หญิงอีกที พูดเสียงเรียบ “พวกเรามันคนบ้านนอก กล้าที่ไหน?”
ผู้ชายเหงื่อเย็นเยียบไหลไม่หยุด เช็ดหน้าผาก แล้วหันกลับไปตะโกนกับผู้หญิงคนนั้น: “ยังไม่รีบมาขอโทษประธานไป๋กับประธานหลี่อีก!”
ผู้หญิงได้ยินก็ได้สติ เดินเข้ามากลัวตัวสั่นงก
“รีบขอโทษ!”
ผู้หญิงได้ยินคำก็เงยหน้ามองไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ พูดเสียงสั่นเครือ: “ประธานไป๋ ประธานหลี่ ขอโทษค่ะ เมื่อกี้ฉันไม่ได้มีเจตนา…..”
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยกับหลี่เสว่ไม่ได้ให้ความสนใจสองคนนั้นเลยแม้แต่น้อย เดินตรงออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ
……
บนรถ พลันในใจหลี่เสว่ก็รู้สึกผิด หลักๆ คือพบว่าเรื่องที่เกิดเมื่อกี้น่าโกรธเกินไป จนใจร้อนบอกให้ไป๋ยี่เฟยซื้อ ตอนนี้กลับมาคิดแล้ว นี่ไม่จำเป็นเลยสักนิด!
“ไป๋ยี่เฟย เครื่องประดับชุดนี้ เราเอาไปคืนดีไหม?”
ไป๋ยี่เฟยขับรถ หันข้างมามองหลี่เสว่ กล่าว: “ซื้อก็ซื้อแล้ว มีเหตุผลอะไรต้องเอาไปคืนล่ะ? อีกอย่าง เธอสวมอันนี้แล้วสวยมาก”
“แต่ว่า เสียเงินมากมายอย่างไรเหตุผลแบบนี้…..”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะ “เสว่เอ๋อ อย่าคิดเรื่องเงินพวกนั้นเลย ฉันหาเงินได้ สำคัญที่สุดคือ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันซื้อเครื่องประดับให้คุณ คุณปฏิเสธฉัน ฉันคงจะเสียใจมากๆ”
สิ้นเสียง หลี่เสว่ก็ไม่กล้าเถียงกลับ
เมื่อสองปีก่อน ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองมากสุดแค่รู้จักกัน หรือเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆ ไป๋ยี่เฟยเองก็อยู่ในช่วงตกต่ำ แน่นอนว่าต้องไม่เคยซื้อเครื่องประดับให้หลี่เสว่เลย
ยังไงหลี่เสว่ก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนไหนจะไม่ชอบให้สามีตนเองซื้อเครื่องประดับให้ล่ะ?
เมื่อถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว
หลิวจื่อหยุนเมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยก็ทำหน้าครึ้ม “คุณยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ? เมื่อวานเย็นไม่ใช่ว่าอวดดีนักหรือไง? แม้แต่แม่อย่างฉันก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมอง!”
ไป๋ยี่เฟยชะงัก แล้วหัวเราะเฝื่อนๆ ไม่กล้าเถียงด้วย
หลี่เสว่ก็รั้งหลิวจื่อหยุนไว้ กล่าว: “แม่ เราไม่ต้องพูดเรื่องเมื่อวานกันแล้วค่ะ”
หลี่เฉียงตงเองก็กล่าว : “คุณก็พูดน้อยหน่อยเถอะ!”
หลิวจื่อหยุนส่งเสียงเหอะ มองหน้าหลี่เสว่ไม่พูดอะไรมาก แต่ก็ยังคงอดไม่ได้พูดไปหนึ่งประโยค “ก็ไม่รู้ไอ้ของไร้ประโยชน์นี่มีอะไรดี จะต้องเข้าข้างเขาตลอด!”
หลี่เสว่มองไป๋ยี่เฟยอย่างรู้สึกผิด
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว หลังจากนั้นก็ยิ้มและเดินเข้าไปกล่าว: “แม่ครับ เรื่องเมื่อวานเป็นความผิดของผม วันนี้มีของมาขอโทษแสดงความสำนึกผิด”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็หยิบกล่องสร้อยมรกตในมือยื่นให้หลิวจื่อหยุน
หลิวจื่อหยุนรับของขวัญมา เปิดไปด้วย ระแวงไปด้วยกล่าว: “เธอจะส่งของขวัญอะไรให้ฉันได้?”
เมื่อเปิดกล่อง อัญมณีสีเขียวมรกตทรงเหลี่ยมเข้ากันกับเพชรเม็ดละเอียด ส่องแสงสะท้อนแวววาวเป็นประกายใต้แสงไฟ ทำเอามือของหลิวจื่อหยุนค้างเติ่ง
“นี่คือ…….”
หลี่เสว่รีบพูด “นี่คือมรกตค่ะ ถึงจะมีแค่สองกะรัต แต่ว่าราคาสูงมากเลย เส้นนี้ก็จ่ายไปหนึ่งแสนแปดหมื่นนะคะ!”
“หนึ่งแสนแปดหมื่น?” หลิวจื่อหยุนสะดุ้งตกใจ
เธอแต่งงานกับหลี่เฉียงตงมานานขนาดนี้แล้ว เครื่องประดับที่ซื้อให้เธอแพงสุดก็ไม่เกินห้าหมื่น แต่วันนี้ เส้นนี้ราคาหนึ่งแสนแปดหมื่น!
หลี่เฉียงตงก็ตกใจเช่นกัน “แพงขนาดนี้เลยหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มพูด “ก็ไม่ได้แพงมาก”
หลี่เสว่จ้องมองไป๋ยี่เฟย แล้วกล่าวอีก “เขาก็ซื้อให้ฉันชุดหนึ่งค่ะ เป็นอะความารีน ราคาสองแสน”