บทที่ 491
บาดแผลของหลี่เสว่ไม่หนักหนาสาหัสมาก ผ่านไปสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
วันที่ออกจากโรงพยาบาล สมาชิกสี่คนทานข้าวด้วยกันในบ้านวิลล่า
หลังจากทานอาหารเสร็จ หลิวจื่อหยุนก็ลากหลี่เสว่ไปพูดคุยกัน ส่วนไป๋ยี่เฟยตามหลี่เฉียงตงไปยังห้องหนังสือ
ผ่านไปสองวัน ไป๋ยี่เฟยก็ดูสงบลงไปเยอะ แล้วก็ดูคิดเยอะเช่นเดียวกัน
หนึ่งในนี้ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือหลิ่วจาวเฟิง
ในตอนนั้นเฉินอ้าวเจียวเป็นคนที่พาคนไปฆ่าหลิ่วจาวเฟิง แต่หลังจากที่กลับมา เฉินอ้าวเจียวเพิ่งจะได้มีเวลาคุยกับเขา หลิ่วจาวเฟิงถูกคนช่วยชีวิตไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยในตอนนั้นทั้งตกใจทั้งหมดหนทาง“ใครเป็นคนช่วยชีวิตเขา?”
“ไม่รู้”เฉินอ้าวเจียวส่ายหัว“อีกฝั่งถือปืนอยู่ในมือ แล้วก็เป็นปืนกลมือด้วย”
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงพวกคนที่ถือปืนกลมือขึ้นมาทันที“กลุ่มเดียว?”
“น่าจะใช่”
ในตอนนั้นไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจ แต่หลังจากผ่านการครุ่นคิดมาสองวัน เขาก็คิดออก
ก่อนหน้านี้เขาเคยเดาว่าคนที่ถือปืนกลมือเป็นคนของไป๋หยุนเผิง จุดๆนี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลย ส่วนเจ้าหกนั่น เป็นคนของหลี่เฉียงตงแน่ๆ
แล้วใครเป็นคนช่วยหลิ่วจาวเฟิง เหอะ ถ้าไม่ใช่คนของไป๋หยุนเผิง ก็เป็นคนของหลี่เฉียงตง
ไป๋ยี่เฟยกับหลี่เฉียงตงนั่งลงตรงข้ามกัน หลี่เฉียงตงสีหน้านิ่งสงบ ไม่ต่างอะไรจากปกติทั่วไป ไป๋ยี่เฟยใบหน้าดูสงบนิ่ง แต่ในใจกลับไม่สงบเลยสักนิด
“ตอนนี้ คุณบอกผมได้แล้วยัง?”
“ว่าพวกคนที่ถือปืนพวกนั้นเป็นคนของไป๋หยุนเผิงใช่ไหม?”
“เจ้าหกนั่นเป็นคนของคุณใช่ไหม?”
“คนที่ช่วยหลิวจ่าวเฟิงคือคุณหรือว่าไป๋หยุนเผิง?”
คำถามชุดใหญ่ถูกถามออกมา ไป๋ยี่เฟยมองหลี่เฉียงตงด้วยสองตามีประกาย เขาต้องการคำตอบที่มั่นใจสักคำตอบ
“ใช่”หลี่เฉียงตงตอบกลับมาหนึ่งคำ
ในใจของไป๋ยี่เฟยนิ่งขรึม จู่ๆก็หัวเราะออกมา“แล้ว คุณเป็นคนของไป๋หยุนเผิงใช่ไหม?”
“ใช่”หลี่เฉียงตงตอบกลับมาอีกครั้ง
ในตอนนี้ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างเศร้าๆทันที“คุณเป็นคนของเขา ก็ต้องหลอกใช้ลูกสาวแท้ๆของตัวเอง?”
“หรือว่าคุณไม่แยแสหลี่เสว่เลยแม้แต่น้อยเลยเหรอ? เธอเป็นลูกสาวแท้ๆของคุณไม่ใช่หรือไง?”
หลี่เฉียงตงตอบกลับอย่างนิ่งๆ“มีนายอยู่ด้วย เธอไม่มีทางเป็นอะไรหรอก”
“กับผีน่ะสิ!”ยากมากที่ไป๋ยี่เฟยจะพูดจาหยาบคายใส่หลี่เฉียงตง“คุณรู้ไหม ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นมันอันตรายขนาดไหน ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นจุดอ่อนของผม ขอแค่จับเธอได้ ก็จะจับผมได้!”
“คุณรู้ไหม ว่าเธอถูกคนจับไปใช้มีดจี้คออยู่ตั้งสองครั้ง ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณ คุณจะยอมไหม?”
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนที่คุณส่งมาคนนั้น ตอนที่หลี่เสว่ถูกจับอยู่ เขากลับให้ผมปล่อยเธอไป ไม่ต้องช่วยเธอด้วยซ้ำ!”
“เขาเป็นคนของคุณ!คนที่ให้ผมละทิ้งหลี่เสว่ไป คุณนี่มันพ่อแท้ๆประสาอะไรวะ!”
ไป๋ยี่เฟยตาแดงก่ำ ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน ชี้ไปที่หลี่เฉียงตง
หลี่เฉียงตงยังสีหน้าตามเดิม ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรกับท่าทีโมโหเกรี้ยวกราดของไป๋ยี่เฟย“เสว่เอ๋อก็ไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงัก ก่อนจะทวีความโกรธมากขึ้นไปอีก“แล้วต้องเป็นยังไงถึงจะถือว่าเป็นอะไร? ต้องรอให้เสว่เอ๋อตายก่อน คุณถึงจะรู้สึกว่าเป็นอะไรใช่ไหม?”
หลี่เฉีงตงได้ฟังแบบนั้น ในที่สุดก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ยิ้มอย่างทุกข์โศก“ไม่”
ไป๋ยี่เฟยสบถหึออกมาหนึ่งที สูดลมหายใจลึกๆ ให้ตัวเองสงบลงสักหน่อย“ทำไม?”
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพื่ออะไร?
“เพื่อที่จะล่อคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงักไปเล็กน้อย“คนที่อยู่เบื้องหลังอะไร?”
หลี่เฉียงตงถอนหายใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง“พ่อของนายพบว่ามีคนที่คอยบงการตระกูลไป๋อยู่ แต่คนคนนี้เอาแต่หลบซ่อนอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด พ่อของนายก็ตรวจสอบไม่เจอสักที”
“ดังนั้นจึงคิดจะใช้นายเป็นเหยื่อล่อ”
“เหอะ!”ไป๋ยี่เฟยสบถหึออกมา“แล้วทำไมผมต้องไปเป็นเหยื่อล่อให้เขาด้วย? ตระกูลไป๋เกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ?”
หลี่เฉียงตงมองเขาอย่างไม่เห็นด้วย“นายเป็นลูกชายของไป๋หยุนเผิง”
“ผมไม่สน!”ไป๋ยี่เฟยตะโกนออกมา“ผมไม่มีพ่อแบบนี้!”
พ่อที่ใช้ลูกตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อเพื่อตระกูลไป๋ ใครมันจะไปต้องการล่ะ?
หลี่เฉียงตงขมวดคิ้ว“ไป๋ยี่เฟย ตอนนี้เดินออกมาไม่ได้แล้ว”
ใช่แล้ว สถานการณ์ในตอนนี้เป็นแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ไป๋ยี่เฟยกลายเป็นเหยื่อล่อไปเสียแล้ว ถ้าเขาคิดที่จะถอนตัวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว นอกจากว่า เขาจะตาย!
ไป๋ยี่เฟยสองตานิ่งขรึม กำหมัดแน่นพร้อมกับพูดขึ้น“ผมไม่ใช่ตัวหมากที่ใครจะมาวางแผนบงการได้!ถ้าพวกคุณจะล่อคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา ก็ไปหาคนอื่นได้เลย ไม่ใช่ว่ามีแค่ผมคนเดียวนี่!”
“ไม่ มีแค่นายคนเดียวเท่านั้น!”หลี่เฉียงตงพูดมั่นอกมั่นใจอย่างผิดปกติ“ต้นเหตุของเรื่องนี้ก็เกิดจากการที่พ่อของนายฆ่าเหลียงหมิงเยว่ ตอนนี้ตระกูลชั้นสูงทั้งหลายก็กำลังไล่ตามฆ่าพ่อของนายอยู่ นายเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถล่อให้เขาออกมาได้”
“พวกเขาประเมินผมสูงเกินไปแล้วล่ะ”ไป๋ยี่เฟยสบถหึออกมาอย่างดูถูก“ไป๋หยุนเผิงไม่ได้มีแค่ลูกชายคนเดียวสักหน่อย!ไป๋เซี่ยวล่ะ ไม่ได้หรือไง?”
“เพราะว่า นายคนเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะที่จะมาเป็นทายาทรับช่วงต่อตระกูลไป๋”หลี่เฉียงตงพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
ไป๋ยี่เฟยเข้าใจได้ในทันที ในขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่มั่นใจ ให้เขามาเป็นเหยื่อล่อเพราะเรื่องพวกนี้เนี่ยนะ?
“คุณน่าจะติดต่อกับไป๋หยุนเผิงได้ใช่ไหม?”จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมา“คุณไปบอกเขาว่า ผมไม่มีทางให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน!”
หลี่เฉียงตงเห็นไป๋ยี่เฟยหัวแข็งดื้อรั้นแบบนี้ ก็รู้สึกปวดหัวอยู่ไม่น้อย“หรือว่านายไม่อยากให้หลี่เสว่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและรู้สึกสบายใจหรือไง? นายไม่อยากใช้ชีวิตอย่างเรียบๆง่ายๆกับเธอเหรอ?”
“ผมอยาก!”ไป๋ยี่เฟยไม่ปิดบังความคิดของตัวเองแม้แต่น้อย“ดังนั้น ผมจึงไม่ยอมไปเป็นเหยื่อล่อยังไงล่ะ”
“นายคิดผิดแล้ว!”หลี่เฉียงตงส่ายหัว“ถ้านายไม่ไปเป็นเหยื่อล่อ ก็จะมีแต่ตายเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะว่า นายก็จะถูกตระกูลไป๋ตัดหางปล่อยวัด ไม่มีตระกูลไป๋คอยแอบช่วย นายก็มีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว!”
“ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วนายยังจะให้ชีวิตแบบนั้นกับหลี่เสว่ได้ยังไงอีก?”
ไป๋ยี่เฟยได้ฟังแบบนั้นก็นิ่งเงียบไปสักพัก คงต้องยอมรับ ว่าเขาถูกล้อมไว้แล้ว อยากที่จะคิดถึงแต่ตัวเองคงเป็นไปไม่ได้
พอคิดถึงตรงนี้ ไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะเยาะตัวเอง เขาเพียงแค่อยากจะใช้ชีวิตกับหลี่เสว่อย่างสงบสุขเรียบง่ายเท่านั้น ความฝันที่ง่ายขนาดนี้ยังทำให้เป็นจริงไม่ได้เหรอ?
“คนในตอนนั้นหาเจอแล้วยัง?”
“เป็นพวกตัวประกอบทั้งนั้น”หลี่เฉียงตงส่ายหัว
ไป๋ยี่เฟยชะงักไปเล็กน้อย“ตัวประกอบ? ตัวประกอบแต่ระดับนี้เชียวเหรอ? ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเป็นเหยื่อล่ออะไรได้อีกล่ะ?”