บทที่ 501
วันที่ 2 ของเช้าตรู่ ไป๋ยี่เฟยก็ได้รับสายจากหลี่เฉียงตง
“พ่อ?”
เสียงของหลี่เฉียงตงต่ำ แต่มีพลัง “รีบมาพบฉันตอนนี้”
จบประโยค หลี่เฉียงตงก็วางสาย
ไป๋ยี่เฟยถือมือถือด้วยความงุนงง “พ่อเป็นอะไรไป?”
ถึงจะคิดไม่ออกว่าหลี่เฉียงตงเป็นอะไร แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่า ต้องมีเรื่องสำคัญอะไรแน่ ไป๋ยี่เฟยจึงไม่ให้เสียเวลา รีบไปหาหลี่เฉียงตงทันที
หลิวจื่อหยุนเหมือนว่าไปจ่ายตลาดแล้ว นายท่านหลี่ก็ออกไปเดินเล่น ในบ้านก็เหลือแต่หลี่เฉียงตงกับไป๋ยี่เฟยแค่2 คน
ปกติหลี่เฉียงตงเป็นคนอ่อนโยนอบอุ่น แต่วันนี้สีหน้าเขาดูเข้มงวด ถึงขั้นโมโหเล็กน้อย
“นายรู้ไหมว่าตอนนี้นายเป็นเหยื่อ?” หลี่เฉียงตงพูดจาอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งทำให้ไป๋ยี่เฟยไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด, “ผมรู้ ฉะนั้น……”
หลี่เฉียงตงพูดอย่างเข้มงวดว่า: “รู้แล้วนายก็ต้องป้องกันตัวเองให้ดีสิ!ไม่ใช่เอาตัวไปเสี่ยงอันตราย!”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินก็สะดุ้งขึ้นมา จากนั้นก็หัวเราะขึ้น “พ่อ ในเมื่อผมจะเป็นเหยื่อล่อ ผมก็ต้องเอาตัวไปเสี่ยง ไม่ใช่เหรอ? ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าเหยื่อได้อย่างไร?”
หลี่เฉียงตงสีหน้าเคร่งขรึม “นั่นใช้ในที่ที่ควรใช้ ไม่ใช่เรื่องเล็กแค่นี้!”
“พ่อ พ่อหมายความว่าอะไร?” จนบัดนี้ไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่เข้าใจว่าหลี่เฉียงตงโมโหอะไร ทำไมต้องเน้นย้ำเรื่องนี้
หลี่เฉียงตงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงพูดเสียงเน้นออกมาว่า: “เรื่องเมื่อวาน ฉันรู้หมดแล้ว เมืองหลวงมีตระกูลใหญ่มากมายแต่ก็ทำอะไรนายไม่ได้ แต่นายเกือบถูกใครก็ไม่รู้ฆ่าทิ้ง นายว่า เรื่องนี้ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังนายรู้เข้า ยังคิดว่านายจะมีประโยชน์อยู่ไหม?”
“ไม่แน่นอน!” หลี่เฉียงตงพูดเน้นอย่างยืนยัน
ไป๋ยี่เฟยทำหน้านิ่ง “ผมเคยบอกว่า ผมไม่อยากเป็นเหยื่อ ใครอยากเป็น ก็เป็นไป!”
“ไป๋ยี่เฟย!” หลี่เฉียงตงมีน้ำโหขึ้นมา “ได้ ในเมื่อนายไม่รู้ พ่อก็จะบอกให้!”
“เรื่องเป็นเหยื่อล่อนายไม่เป็นไม่ได้ ส่วนเหตุผลนั้น พ่อก็เคยบอกนายแล้ว”
“และลายมือในวันนั้น พวกเขาแค่ลองเชิงเท่านั้น ไม่สมควรพูดขึ้นมา!”
“ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง โดยเฉพาะสี่ตระกูลใหญ่ ภูมิหลังของพวกเขาล้วนหนาลึก ไม่ใช่อย่างที่นายคิดไว้”
“ถ้าตระกูลไหนตระกูลหนึ่ง สุ่มทิ้งไพ่ตายคนไหนมาสักคน นายต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินเข้าก็ตระหนกในใจ แต่สีหน้ายังราบเรียบ “อย่างนั้นผมยังต้องเป็นเหยื่อล่อไปทำไม?ฆ่าผมทิ้งไปเลยก็ได้นี่!”
“เป้าหมายในการเป็นเหยื่อของนาย ก็คือให้พวกมันทิ้งไพ่ตาย ให้พวกมันรู้สึกว่า มีเพียงการทิ้งไพ่ตาย ถึงจะกำจัดนายได้!”
“ขอแค่ทิ้งไพ่ตายออกมา พ่อของนายก็จะรู้ว่า ใครเป็นผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลัง!”
ไป๋ยี่เฟยถอนใจ “ฉะนั้นหมายความว่า ผมไม่มีคุณสมบัติที่จะให้พวกเขาทิ้งไพ่ตายใช่ไหม?”
“ใช่” หลี่เฉียงตงพยักหน้า แล้วก็คิ้วขมวดถามว่า: “แต่การกระทำของนายเมื่อวาน ยิ่งทำให้พวกเขารู้ว่า ส่งใครมาก็สามารถฆ่านายได้เหมือนกัน!”
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไพ่ตายเลย!”
“เรื่องเมื่อวาน?” ไป๋ยี่เฟยนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมา “เรื่องที่ถูกหวงเหว่ยลอบฆ่า?นั่นเป็นแค่อุบัติเหตุ”
หลี่เฉียงตงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “อุบัติเหตุ? แค่อุบัติเหตุเล็กๆ ก็ทำนายถึงที่ตายได้ ยังต้องใช้ไพ่ตายอะไรอีก?อีกอย่าง นายบาดเจ็บเพราะปกป้องเสว่เอ๋อ สิ่งนี้เป็นการบอกพวกมันว่า เสว่เอ๋อเป็นจุดอ่อนของนาย!”
“คนที่มีจุดอ่อน จึงยิ่งไม่มีคุณสมบัติอะไรให้พวกมันต้องทิ้งไพ่ตาย!”
พอจบประโยค ไป๋ยี่เฟยก็เดือดเป็นไฟขึ้นมา “หลี่เฉียงตง!พอที!เอาอีกแล้ว!”
“คุณยังมีความเป็นพ่ออยู่เหรอเปล่า?เสว่เอ๋อเป็นลูกสาวของคุณ เป็นเมียผม ผมไม่ปกป้องเธอแล้วใครจะปกป้อง? หรือจะให้ผมมองเธอถูกมีดแทงจนตายเหรอไง?”
“ถ้าเป็นอย่างนี้จริง แม่งเอ๊ยอย่างนั้นไอ้พวกนั้นก็ไม่ต้องมาฆ่าผม ผมจัดการตัวเองก็ได้!”
หลี่เฉียงตงชะงักกับเสียงของไป๋ยี่เฟยที่คำรามออกมา อ้าปากค้าง อยากจะพูดอะไร สุดท้ายได้แต่ถอนใจ ไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น
พอไป๋ยี่เฟยพูดจบ โมโหจนลุกขึ้นจะจากไป หลี่เฉียงตงก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า: “พ่อนายไม่ได้เป็นคนฆ่าเหลียงหมิงเยว่”
“ตอนพ่อนายไปถึง เหลียงหมิงเยว่ยังไม่ตาย แต่ก็จวนเจียนแล้ว เขาพูดอะไรบางอย่างกับพ่อของนาย สุดท้ายถึงสิ้นใจ”
“แล้วสิ่งที่เหลียงหมิงเยว่พูด เป็นสิ่งที่สำคัญมาก คนที่อยู่เบื้องหลังกลัวจะเผยอะไรออกไป ถึงได้ทำเช่นนี้ ส่งคนที่มีอยู่ทั้งหมดไล่ฆ่าพ่อนาย”
“แต่พ่อนายหลบซ่อนตัว ไม่มีใครหาเขาเจอ พวกเขาจึงมุ่งมาที่นาย แค่จับนายได้ ก็จะบีบพ่อนายให้ปรากฏตัวได้”
“และจากสิ่งที่พ่อนายรู้ ถึงได้ใช้นายเป็นเหยื่อล่อ หวังว่าอีกฝ่ายจะทิ้งไพ่ตายออกมา อย่างนี้ เขาก็จะรู้ว่าใครลอบทำร้ายเขาอยู่เบื้องหลัง แล้วต้นตอทั้งหมดก็จะเผยออกมา”
พอไป๋ยี่เฟยฟังเสร็จ นิ่งอยู่นาน รู้สึกแย่แต่ก็จำใจ
พ่อบังเกิดเกล้า หลอกใช้ตัวเอง เป็นเหยื่อล่อ ถูกคนของหลายตระกูลตามฆ่า แม่งเอ้ยอย่างนี้ใครจะไม่รู้สึกแย่?
อีกทั้งไป๋ยี่เฟยก็จำใจ เรื่องราวลุกลามมาถึงขั้นนี้ ไป๋ยี่เฟยได้แต่ถูกบีบให้เป็นเหยื่อล่อ ไม่มีพื้นที่ให้ต้องปรึกษา
หลี่เฉียงตงให้ไป๋ยี่เฟยได้คิดสักครู่ จึงพูดขึ้นว่า: “บัดนี้นายเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องให้อีกฝ่ายทิ้งไพ่ตายก็สามารถจัดการได้ อย่างนั้นทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์อะไร? นายจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไม่ได้ ต้องสงบสติ รู้ไหม?”
“สงบสติ?” เหมือนไป๋ยี่เฟยได้ยินเรื่องตลกอะไรสักอย่าง “สถานการณ์ตอนนั้นคับขันขนาดนั้น พ่อจะให้ผมสงบสติได้อย่างไร?”
หลี่เฉียงตงรู้สึกปวดหัวขึ้นมา คลึงหว่างคิ้วแล้วถอนใจพูดขึ้นว่า: “ฉันขอยืนยันคำเดิม มีเพียงนายแข็งแกร่ง ถึงจะให้ชีวิตที่ดี ที่ปลอดภัยกับเสว่เอ๋อได้”
“การประชุมสหพันธ์ธุรกิจในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่ง พวกเขาต่างไม่อยากให้นายเข้าร่วมสหพันธ์ธุรกิจ จึงได้ขัดขวางนาย ถ้านายไป ก็จะเป็นการให้พวกเขาชิงลงมืออีกครั้ง”