บทที่ 510
ไป๋ยี่เฟยพออุ่นใจขึ้น อธิบายเรื่องราวเมื่อครู่คร่าวๆ หนึ่งรอบ แล้วจึงพูดว่า: “เธอไม่น่าจะเป็นอะไร อย่างเราผมก็ไม่ผ่านการคัดเลือก”
“คุณก็จะลงเลือกตั้งเหรอ?” หลี่เสว่อดตกใจไม่ได้
ทั้งที่พวกเขาต่างรู้ดี ว่าศักยภาพของตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่จะร่วมลงคัดเลือก
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า: “มีโอกาสแล้ว แน่นอนจะให้บัตรเสียต้องเปล่าไม่ได้”
ในเวลานี้เอง “คนต่อไป หลิ่วจาวเฟง”
จบประโยคจากไมโครโฟน หลี่เสว่
กับไป๋ยี่เฟยทั้งสองคนมองไปยังหลิ่วจาวเฟิงที่กำลังเดินไปยังเวที
ตอนนี้หลิ่วจาวเฟิงเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูท แล้วก็ทำทรงผมใหม่ ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเมื่อก่อนเลย ในเวลานี้เขาก็กำลังแนะนำตัวเองด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยปณิธาน
“สวัสดีทุกท่าน ผมชื่อหลิ่วจาวเฟิง เป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปเมืองเทียนเป่ย……”
พอพูดถึงโหวจวี๋กรุ๊ปเมืองเทียนเป่ย คนที่อยู่ในลานต่างก็สนใจกันขึ้นมา
แม้จะบอกว่าโหวจวี๋กรุ๊ปเป็นระดับหัวมังกรแห่งเมืองเทียนเป่ย อยู่ในลำดับที่สิบสามในเมือง ถือว่าเป็นองค์กรที่ใหญ่ อีกอย่างที่สำคัญคือ เบื้องหลังมีตระกูลไป๋แห่งเมืองหลวงเคยหนุนอยู่!
บวกกับเรื่องของโหวจวี๋กรุ๊ปหมู่นี้ดังเป็นพลุ ทุกคนต่างรู้ทุกอย่าง
“นี่เป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปจริงเหรอ? ไม่ใช่ชื่อไป๋ยี่เฟยเหรอ?”
“น้องชาย นายตกข่าวเหรอ โหวจวี๋กรุ๊ปขายให้กับเย่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เย่ซื่อกรุ๊ปน่าจะส่งคนผู้นี้มาบริหารจัดการโหวจวี๋กรุ๊ป”
“ให้ตาย โหวจวี๋กรุ๊ปเปลี่ยนเจ้าของแล้ว!”
“เรื่องดังระเบิดอย่างนี้ทำไมฉันเพิ่งรู้?”
“หลิ่วจาวเฟิงคนนี้ดูแล้วไม่เห็นจะสักเท่าไหร่เลยนี่!”
“ไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยตอนนี้อยู่ไหน? ว่าแต่คงไม่มีโอกาสมาที่นี่แล้วแน่!”
“……”
สวี่ชางที่นั่งเป็นประธานมองหลิ่วจาวเฟิงแวบหนึ่ง อดขัดจังหวะหลิ่วจาวเฟิงไม่ได้ “คุณหลิ่ว กรุณารอสักครู่ ประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปไม่ใช่ไป๋ยี่เฟยเหรอครับ?”
สวี่ชางอยู่เมืองหลวง รู้แต่ว่าทางเมืองหลวงกดดันไป๋ยี่เฟย แต่ไม่รู้ว่าโหวจวี๋กรุ๊ปได้เปลี่ยนคนแล้ว
หลิ่วจาวเฟิงได้ยินก็หัวเราะได้ใจ “นั่นคือเมื่อก่อน แต่ตอนนี้คือผม”
“อ้อ เชิญต่อครับ” สวี่ชังตอบกลับอย่างเย็นชา แอบคิดในใจ ว่าภายในเกิดอะไรขึ้น?
หลิ่วจาวเฟิงแนะนำตัวเองต่อ ส่วนใหญ่เป็นการโอ้อวดองค์กรของตน จากนั้นก็บอกว่าหลังจากตัวเองเป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจแล้วจะทำอะไรบ้าง
หลังจากพูดเสร็จ หลิ่วจาวเฟิงก็กล่าวขอบคุณ ลงจากเวที
ด้านล่างเสียงปรบมือไปทั่ว ต่างมองดูประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ป
หลี่เสว่เห็นแล้วก็ไม่ยอมแพ้ แล้วก็ห่วงว่าไป๋ยี่เฟยจะเสียใจ จึงกุมมือเขาไว้พูดว่า: “ไม่เป็นไรนะ ไม่มีโหวจวี๋กรุ๊ปพวกเราก็ยังใช้ชีวิตได้ดีเหมือนเดิม”
หลี่เสว่ยังอยากจะพูดอะไร สวี่ชางก็ขานชื่อขึ้นมาว่า: “คนต่อไป หลี่เสว่”
หลี่เสว่มือสั่น จิตใต้สำนึกกุมมือไป๋ยี่เฟยแน่น ไป๋ยี่เฟยหัวเราะปลอบใจว่า: “ไปเถอะ อย่าตื่นเต้น”
“อืม” หลี่เสว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยมือจากไป๋ยี่เฟย
หลี่เสว่ยืนขึ้น เดินไปบนเวที
“ซี๊ด……”
เมื่อทุกคนเห็นได้ใบหน้าของหลี่เสว่ ต่างซี๊ดปากกัน
“นี่ก็สวยซะเหลือเกิน?”
“พระเจ้า นี่นางฟ้ามาจุติไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ดีเลิศเช่นนี้มาก่อน!”
หลี่เสว่ตื่นเต้นมาก แต่ไม่แสดงออกบนใบหน้า ดูแล้วยังสงบนิ่งทีเดียว “สวัสดีทุกท่าน ดิฉันชื่อหลี่เสว่ เป็นผู้จัดการใหญ่บริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่……”
“ทุกท่านอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้ และก็เป็นเช่นนี้จริง บริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่เป็นบริษัทเล็กๆ ที่จริงไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าเลือกตั้งเลย”
“แต่ดินฉันได้รับบัตรเชิญ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในครั้งนี้ จึงมาลองดู ดิฉันรู้ว่าสุดท้ายก็คงไม่ผ่านเข้ารอบ ที่ดิฉันมาก็เพื่ออยากพิสูจน์ให้ทุกท่านได้เห็น”
“แม้จะไม่มีสิ่งเหล่านั้นอย่างเมื่อก่อน ดิฉันก็สามารถค้ำจุนตระกูลของเราได้เหมือนเดิม”
“เมื่อก่อนคุณดูแลฉัน ตอนนี้ให้ฉันได้ดูแลคุณ”
“เราจะก้าวกันไปให้ไกลยิ่งขึ้น”
จบประโยค เสียงปรบมือก็ดังไปทั่ว มีคนคอยคล้อยตามด้วย
“คนสวย เชื่อมั่นในตัวเอง คุณทำได้แน่!”
“ถ้าเป็นคนสวยอย่างนี้เป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจ ผมคิดว่าไม่มีปัญหาแน่。”
“ผมก็ไม่มีปัญหา!”
“……”
หลี่เสว่ได้ยินเสียงของทุกคน รู้สึกเขินเล็กน้อย สุดท้ายก็ยังกล่าวต่อไปว่า: “บริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่ประกอบกิจการด้านจิวเวลรี่เป็นหลัก มีทีมที่สมบูรณ์แบบและนักออกแบบ หนึ่งในนักออกแบบที่ชื่อว่าlisaก็ประจำอยู่ที่บริษัทเรา นอกจากนี้ เรายังมีโรงงานเจียระไนของตัวเองด้วย”
“หากมีความประสงค์จะร่วมงานกับเรา สามารถติดต่อพวกเราได้ ขอบคุณทุกท่านค่ะ”
หลี่เสว่บรรลุเป้าหมายของเธอ คือการประชาสัมพันธ์บริษัทของเธอเอง มองหาคู่ค้า
บางส่วนในวงการพอได้ยินชื่อlisaนักออกแบบจิวเวลรี่ต่างก็ตกใจ
“ให้ตาย ที่แท้lisaนักออกแบบอยู่ที่บริษัทของเธอ!”
“อย่างนั้นไม่เท่ากับว่าบริษัทมีอนาคตที่สดในเหรอ!”
“เดี๋ยวผมต้องไปติดต่อหน่อย ไม่แน่อาจจะคุยความร่วมมือกันได้”
คนที่ไม่รู้จักก็ถามว่า “lisaสุดยอดมากเลยเหรอ?”
“แน่นอนสุดยอดมาก เขาเป็นนักออกแบบจิวเวลรี่ที่ขึ้นชื่อที่สุดในวงการ!”
“ใช่แล้ว จิวเวลรี่ที่เขาออกแบบ ส่วนใหญ่จะนำมาประมูลเท่านั้น ราคาแทบจะอยู่ที่สิบล้านขึ้นไปทั้งสิ้น”
“……”
ผู้คนเกิดความสนใจในฝูรุ่ยจิวเวลรี่ขึ้นมาให้ทันที
หลี่เสว่ที่ลงจากเวทีเสร็จก็โล่งใจ กลับมาข้างกายของไป๋ยี่เฟย