บทที่ 521
ไป๋ยี่เฟยลูบปลายจมูกอย่างเขินอายแล้วหันไปมองการบรรยายของคนอื่นต่อ
เพราะจำนวนคนลดน้อยลง และเทียบกับการที่เลิกเช้ากว่าเมื่อวาน
หลังจากเลิกแล้ว สวี่ชางก็ยืนขึ้น และกดไมโครโฟนพร้อมกับกล่าวว่า “หลังจากการลงคะแนนเสียงแล้วเราก็จะเข้าสู่การจัดทำสถิติ และผลจะออกในอีกครึ่งชั่วโมง”
พอพูดจบ ทุกคนก็เริ่มลงคะแนนเสียง
ที่จริงแล้วการลงคะแนนเสียงง่ายมาก เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามาก เพียงแค่ต้องใส่หมายเลขตามที่สหพันธ์ธุรกิจกำหนด จากนั้นค่อยใช้เครื่องลงคะแนนเสียงทำการลงคะแนนก็ได้แล้ว ส่วนที่เหลือก็เป็นงานการจัดทำสถิติของพวกเขา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็วและผลก็ออกมาด้วยเช่นกัน
ไม่แปลกใจเลยที่เย่ฮวนได้อันดับหนึ่ง โดยมีคะแนนเสียงมากกว่า 150 คะแนนเสียง
ไป๋ยี่เฟยได้อันดับที่สองโดยมี 105 คะแนนเสียง
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือหลี่เสว่ ที่มีคะแนนเสียง 50 กว่าคะแนน
สำหรับคนอื่นๆ ก็กระจัดกระจายกันไปหมด และไม่เพียงพอ
หลังจากการประกาศผลสิ้นสุดลงสวี่ชางก็กล่าวเพิ่มเติมว่า “รอบที่สองของการเลือกตั้งสิ้นสุดลงแค่นี้ และรอบที่สามจะดำเนินต่อในวันพรุ่งนี้”
“คืนนี้ เพื่อให้ทุกคนผ่อนคลาย ในห้องโถงได้มีการเตรียมกิจกรรมบางอย่างไว้ ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้อย่างกระตือรือร้น”
ทันทีที่เสียงหยุดลงก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยรีบวิ่งเข้ามาตะโกนว่า “แย่แล้ว มีคนตกน้ำแล้ว!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทุกคนต่างก็พากันลุกขึ้นยืนด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตะลึง และหวาดกลัว
แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกคนก็เดินออกจากห้องโถง และขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ
ในทะเลที่กว้างไกลไร้ขอบเขตจำกัด เรือสำราญขนาดใหญ่ลำหนึ่ง กลับดูเหมือนแค่เรือลำเล็กลำหนึ่งเท่านั้น และไม่ไกลจากที่นั่น ยังมีเงาร่างเล็กๆ อยู่ร่างหนึ่ง
นั่นเป็นเงาร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง ภายใต้เรือสำราญขนาดใหญ่จึงได้ปรากฏเป็นเพียงเงาร่างเล็กๆ เท่านั้น แล้วจะนับประสาในทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ล่ะ
“เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง!” แล้วหล่อนจะลงไปได้ยังไงกันล่ะ?”
“ดูเหมือนจะโดนลมพัดลงไป!”
“มีรั้วกั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ” ลมสามารถพัดคนลงไปได้ด้วยเหรอ?”
“โง่เปล่า! อาจเป็นเพราะหล่อนยืนไม่นิ่งหรือเปล่า และบังเอิญตกลงไปโดยไม่ระวัง!”
ทุกคนต่างพากันพูดคุยกัน แต่กลับไม่มีใครพูดว่าจะไปช่วย
เนื่องจากปัญหาระยะห่าง ทุกคนไม่สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่อยู่ในทะเลนั้นคือใคร ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์
ไป๋ยี่เฟยเองก็กำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เช่นกัน และมองไปที่หลี่เสว่ซึ่งอยู่ข้างๆ ใจเขาสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
“ไม่สิ ฉวี่เอ๋อล่ะ?” ไป๋ยี่เฟยพลันนึกถึงโจวฉวี่เอ๋อ วันนี้ทั้งวันไม่เห็นโจวฉวี่เอ๋อเลย
หลี่เสว่นิ่งอึ้ง สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “หล่อนบอกว่าหล่อนไม่สบาย และพักผ่อนอยู่ในห้องตลอด”
“ไปดูหน่อยว่าหล่อนยังอยู่ในห้องอยู่ไหม” ไป๋ยี่เฟยสีหน้าเคร่งขรึม และพูดกับเฉินห้าว
เฉินห้าวรีบหันตัวและวิ่งไปที่ห้องพักผู้โดยสาร
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาก กลัวว่าโจวฉวี่เอ๋อจะตกลงไปโดยไม่ระวัง
ในขณะนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีคนวิ่งพุ่งออกไป
เสียงดัง “ตุ้ม” คนกระโดดลงไปโดยตรง
ฉากนี้ทำให้ทุกคนพากันตกใจ
“อะไรวะเนี่ย! กระโดดลงไปโดยตรงอย่างนี้เลยเหรอ! ”
“แม่งเอ๊ย นี่ไม่ใช่สระว่ายน้ำนะเว้ย!”
“เขาไม่กลัวตายเหรอ?”
นี่มันเป็นทะเลจริงๆ นะ และยังห่างไกลจากท่าเรือมาก ไม่มีที่ไหนเลยที่จะมีโอกาสช่วยค้ำจุนคนที่ช่วยชีวิตคน
ไม่สงสัยเลยชายผู้นี้ช่างเป็นผู้กล้าหาญเสียจริง
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นคนที่กระโดดลงไปในทะเลเขาก็ตะลึงมาก “ฉินซาน! ”
หลี่เสว่ก็ตะลึง ไม่คิดว่าจะเป็นฉินซาน
ในวินาทีต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นฉินซาน แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปช่วยคน ทำให้จิตใต้สำนึกเขาคิดว่าผู้หญิงที่ตกน้ำคือโจวฉวี่เอ๋อ
หลี่เสว่ดูเหมือนจะนึกเรื่องพวกนี้ได้เช่นกัน สีหน้าก็ยิ่งดูแย่ไปอีก
ในขณะนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้น?” ทำไมทุกคนถึงมาล้อมกันที่นี่? ”
“ฉวี่เอ๋อ!”
ไป๋ยี่เฟยและหลี่เสว่ก็หันหน้ากลับมาพร้อมกัน พอเห็นโจวฉวี่เอ๋อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ด้านล่างไม่ใช่โจวฉวี่เอ๋อ แล้วฉินซานกระโดดลงไป…
ไม่สิ ฉินซาน ไม่รู้จักโจวฉวี่เอ๋อ บางทีเขาอาจจะใจดีลงไปช่วยคนก็ได้?
หลี่เสว่ดึงโจวฉวี่เอ๋อไว้ แล้วเว้นที่ให้หล่อนเล็กน้อย แล้วพูดอย่างวังวนว่า “พอดีว่ามีคนตกน้ำ แล้วเห็นว่าเธอไม่อยู่ เลยคิดว่าเป็นเธอ ทำให้ฉันกลัวแทบตายแต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่”
โจวฉวี่เอ๋อได้ยินดังนั้นก็จับราวบันไดไว้ “วางใจเถอะ ฉันไม่ประมาทขนาดนี้หรอก!”
ในเวลานั้นเอง ไป๋ยี่เฟยก็ถามขึ้นว่า “เมื่อครู่เสว่เอ๋อบอกว่าคุณกำลังพักผ่อนอยู่? ไม่เห็นเฉินห้าวเหรอ?”
“ไม่เห็นเลย?” โจวฉวี่เอ๋อส่ายหน้า
ไป๋ยี่เฟยบอกให้เฉินห้าวไปได้ไม่นานโจวฉวี่เอ๋อก็มาแล้ว แสดงว่าทั้งสองไม่ได้เจอกัน และก็แสดงว่าโจวฉวี่เอ๋อไม่ได้พักผ่อนอยู่ในห้องด้วย
โจวฉวี่เอ๋อหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “เฝิงเซียนเซียนเรียกฉันไปที่ห้องหล่อน”
พอพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็กะพริบตา เหลือบมองโจวฉวี่เอ๋อแวบหนึ่ง จากนั้นก็หลุบตาลงแล้วถามว่า “หล่อนคงไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม? “
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้ว”
โจวฉวี่เอ๋อมองไป๋ยี่เฟยอย่างแปลกประหลาด และมองไม่ออกว่าเพราะอะไร จึงได้แต่มองไปในทะเล “แล้วใครไปช่วยล่ะ?”
เอ๊ะ เขา…”
“เป็นฉินซาน” หลี่เสว่ตอบ
โจวฉวี่เอ๋อส่งเสียงอ๋อ เมื่อนึกถึงเมื่อวานที่เกือบถูกฉินซานหยาบคายแล้ว หล่อนก็มีสีหน้าไม่ดี
อีกด้านหนึ่ง เมื่อสวี่ชางเห็นฉินซานกระโดดลงไปช่วยคน เขาก็รีบสั่งทันทีว่า “เร็วเข้า ปล่อยเรือชูชีพลงไป”
ในทะเลไม่มีฝั่งที่จะสามารถขึ้นได้ แม้ฉินซานจะช่วยคนมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะต้องใช้เรือชูชีพเท่านั้นถึงจะสามารถดึงตัวขึ้นมา
……
ฉินซานกระโดดลงก็ว่ายน้ำไปยังร่างที่ดิ้นรนอยู่นั้นอย่างรวดเร็ว
การดิ้นรนของผู้หญิงคนนั้นลดลงเมื่อฉินซานเข้าไปใกล้ และเมื่อฉินซานมาถึงตรงหน้า ผู้หญิงคนนั้นก็หยุดดิ้นไปแล้ว
ฉินซานรีบดึงผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมแขนของเขา ปล่อยให้หล่อนพิงตัวเขา และพูดต่อว่า “อดทนไว้”
ทันทีที่เสียงหยุดลง เดิมทีที่ยังหลับตาอยู่นั้นหญิงสาวที่สลบไปก็กลับรู้สึกตัวขึ้นมาทันที
เห็นเพียงภายใต้น้ำทะเลมีมือที่ขาวสะอาดถือกริชที่สะท้อนแสงไว้เล่มหนึ่ง และแทงเข้าไปยังท้องน้อยของฉินซาน โดยที่เจ้าของมือนั้นก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับจ้องฉินซานอย่างชั่วร้าย
“แม่งเอ๊ย!”
ฉินซานไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่ตกน้ำคนหนึ่งจะกระทำเรื่องอย่างนี้ได้ และเขาก็ไม่ได้ระวังตัวเลย
ทันใดนั้น เลือดก็ย้อมน้ำทะเลให้เป็นสีแดง
ฉินซานผลักหญิงสาวออกจากอ้อมกอดของเขาทันที และมองหล่อน พบว่าเป็นสาวสวยคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้จักหล่อนเลย
หญิงสาวไม่ได้ดิ้นรนเหมือนเมื่อครู่ แต่หล่อนกลับลอยอยู่ในทะเลอย่างสบาย และมองไปที่ฉินซานด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย แต่เมื่อหล่อนเห็นรูปลักษณ์ของฉินซาน หล่อนก็ตะลึง “คุณเป็นใคร?”
ฉินซานกุมท้องตัวเองไว้ และใช้ปลายลิ้นดันแก้มของเขาไว้ พร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “สาวน้อย ทำไมไร้น้ำใจอย่างนี้!”
เมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้นก็รู้ทันทีว่าหล่อนฆ่าผิดเป้าหมาย หล่อนจึงทำหน้าเย็นชา เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้คนคนนี้สามารถอยู่ต่อได้!
ในพริบตาเดียว หญิงสาวก็ว่ายน้ำผ่านไป และพยายามนำกรีซขึ้นมาเสริมอีกเล่ม เพื่อส่งฉินซานไปสวรรค์
เมื่อฉินซานเห็นดังนั้นดวงตาของเขาก็มืดครึ้มลง และโกรธอย่างมาก “บ้าเอ๊ย! ยังจะมาอีก! คิดว่ากูจะให้มึงรังแกง่ายๆ เหรอ?”
พอพูดจบ ฉินซานก็เอนตัวไปข้างหลังและเตะไปที่หญิงสาวที่กำลังว่ายน้ำเข้ามา
“โอ๊ย”
หญิงสาวร้องตะโกน เพราะโดนฉินซานเตะออกไปไกล และเพราะการแสดงก่อนหน้านี้ที่ใช้ความพยายามอย่างมากดังนั้นตอนนี้หล่อนจึงไม่สามารถดิ้นรนอีกต่อไป จึงค่อยๆจมลงสู่ก้นทะเลไป
เมื่อฉินซานเห็นรอยยิ้มที่ดุร้ายนั้นเขาก็ว่ายน้ำไปด้านหลังและเตะซ้ำไปอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวจมลงสู่ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว
เพราะหญิงสาวกินน้ำทะเลไปไม่น้อย หล่อนจึงสำลักน้ำ และดวงตาก็เบิกกว้าง ความกลัวแห่งการตายทำให้หล่อนเริ่มดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดาย ที่หล่อนไม่มีเรี่ยวแรงมากขนาดนั้นแล้ว
ในเวลานั้นเอง เรือชูชีพก็ถึง และบนเรือยังมีคนอีกสี่ห้าคน
ฉินซานเห็นดังนั้นจึงคิดว่าเขารอดแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าของพวกเขาแล้ว เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่า “บ้าเอ๊ย! นี่เป็นพวกเดียวกันนิ!”
ไม่นานเรือชูชีพก็มาถึงตรงหน้าฉินซาน