บทที่587
โย่วขุยกระเด็นออกไป พร้อมกับกระอักเลือดออกมา
“ตุ๊บ!”
โย่วขุยกระแทกเข้ากับต้นไม้ แล้วค่อยตกลงพื้น
พอเขาจะลุกขึ้นมา เฉินอ้าวเจียวก็เดินมาถึงตรงหน้าแล้ว
โย่วขุยมองเฉินอ้าวเจียวด้วยความตกใจ ในแววตาเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ “นี่……มันเป็นไปได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้……”
“แก……เป็นใคร?”
เฉินอ้าวเจียวยื่นมือขึ้นมาดึงผ้าปิดหน้าของตัวเองลง จนสามารถเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน
พอโย่วขุยได้เห็นใบหน้าของเฉินอ้าวเจียวเข้า สีหน้าของเขาก็ชะงักไป ความหวาดกลัวในดวงตาเพิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
“อาจารย์อา……”
เฉินอ้าวเจียวทำเสียงฮึดฮัด แล้วพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันจะให้แกได้สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย”
ตอนนี้ไม่รู้จะอธิบายถึงความหวาดกลัวของโย่วขุยแล้ว ร่างกายของเขาสั่นเทา แค่เห็นก็รู้ว่าเขากลัวจนถึงขีดสุดแล้ว
โย่วขุยร้องขอเบาๆ “อาจารย์……ช่วย……ไว้ชีวิตผมหน่อยได้มั้ยครับ”
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะครับ?” โย่วขุยเงยหน้าขึ้นมามองเฉินอ้าวเจียวด้วยความหวาดกลัว
เฉินอ้าวเจียวตอบไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “เพราะแกไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยยังไงล่ะ”
“ใครเหรอครับ?” ตอนแรกโย่วขุยคิดว่าเฉินอ้าวเจียวเป็นคนของไป๋ยี่เฟย แต่พอได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเฉินอ้าวเจียวแล้วเขาคิดว่าไป๋ยี่เฟยไม่มีทางสั่งเฉินอ้าวเจียวได้หรอก
“ไป๋ยี่เฟยยังไงล่ะ” เฉินอ้าวเจียวตอบไปอย่างไม่ชอบใจ “เขาเป็นศิษย์น้องเล็กของฉัน หรือในอีกทางหนึ่ง เขาก็เป็นอาจารย์อาของแกเหมือนกัน!”
รูม่านตาของโย่วขุยหดเล็กลง เบิ่งตาโตด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
คำสั่งของเต้าจ่างคือเขาให้เขากับจั่วเถิงฆ่าฉีฉีทิ้งซะ
ส่วนตอนที่เขาพบกับไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่อยากจะสนใจด้วยซ้ำ
แต่เขาไม่นึกเลยว่า ไป๋ยี่เฟยจะไปมีความสัมพันธ์กับฝั่งจื่ออีด้วย แถมลำดับขั้นยังอยู่สูงกว่าเขาอีก
เฉินอ้าวเจียวก้มหน้าพร้อมกับทำเสียงฮึดฮัด “อาจารย์บอกว่า ลูกศิษย์ฝั่งอาจารย์ลุง เต้าจ่างนั้นเป็นพวกทรยศ ถ้าเจอเข้าก็ไม่ต้องปรานี”
“ฉันสู้ เต้าจ่างไม่ไหว ฆ่าเขาก็ไม่ได้ แต่จะให้จัดการลูกกระจ๊อกอย่างพวกแกนั้นก็ทำได้”
“อาจารย์อาโปรดไว้ชีวิตด้วย! อาจารย์อา…” โย่วขุยตะโกนออกมาด้วยความแตกตื่น
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เฉินอ้าวเจียวก็ถีบใส่เขาอย่างไม่ปรานี
“ตุ๊บ!”
เสียงดังสนั่นอีกครั้ง
โย่วขุยกระเด็ดออกไป ส่วนหัวลอยไปกระแทกกับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังอย่างจัง กระแทกจนต้นไม้หักโค้นไปเลย ในตอนนี้โย่วขุยได้ตายไปแล้ว
เฉินอ้าวเจียวค่อยๆ ดึงขากลับ จากนั้นก็เดินจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามองเลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าฉันยังอยู่ก็ไม่มีใครสามารถรังแกศิษย์น้องเล็กทั้งสองของฉันได้”
ตอนที่ขึ้นมาถึงบนเรือ เฉินอ้าวเจียวยังตั้งใจดึงผ้าขึ้นมาปกปิดใบหน้าอีกครั้ง พอเดินผ่านฉีฉี เขาก็หยุดลงมามองจากนั้นก็เดินผ่านไปเงียบๆ
ไม่นาน พวกที่ไปตามจับจ้าวเทียนก็กลับมาแล้ว
หลี่เสว่ได้รับบาดเจ็บ หลิวเสี่ยวอิงรีบเข้าไปพยุงเธอ
ภายในห้องโดยสารที่แยกออกไป หลิวเสี่ยวอิงได้ตัดเสื้อตรงหัวไหล่ของหลี่เสว่ออกก่อน พอเห็นบาดแผลเข้ามเธอก็รู้สึกตกใจทันที “เธอไปเอาแผลนี้มาจากไหน? ใครเป็นคนทำ?”
หลี่เสว่ส่ายหน้าเบาๆ กัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด “ฉันเป็นคนทำเอง”
“หือ?” หลิวเสี่ยวอิงไม่เข้าใจ
หลี่เสว่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ พูดออกมาว่า “ช่วยฉันเก็บเป็นความลับที”
พอหลิวเสี่ยวอิงได้ยินก็เงียบไปทันที
เธอรู้สึกว่าหลี่เสว่ในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปจนเธอเริ่มไม่คุ้นเคย เหมือนเพิ่งได้รู้จักกับหลี่เสว่ใหม่อีกครั้ง
ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
จากนั้น คนที่อยู่ด้านนอกห้องโดยสารก็ตะโกนออกมาว่า “พวกมันตามมาแล้ว!”
“ทุกคนเตรียมพร้อม!”
ทุกคนต่างก็ออกมาจากห้องโดยสารแล้ว
ตอนนี้ได้มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินอยู่บนหัวของพวกเขา บนชายหาดก็มีคนมากมายปรากฏขึ้น
จ้าวคั่วได้มาช่วย จ้าวเทียนลูกชายของเขาแล้ว
เสียงดังจากเฮลิคอปเตอร์ดังวนอยู่บนท้องฟ้า มีคนตะโกนออกมาจากข้างบนว่า” คนบนเรือฟังให้ดี รีบวางอาวุธลงแล้วมอบตัวซะ ไม่อย่างนั้น เราจะระเบิดเรือทิ้งทันที!”
ด้วยเสียงที่ดังลั่นขนาดนั้น มันจึงทำให้ไป๋ยี่เฟยที่ผ้าพันแผลเต็มตัวต้องตื่นขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยลืมตาขึ้น แล้วก็พบกับพี่น้องตระกูลหยางที่นั่งหวาดกลัวอยู่ไม่ไกล
พอ หยางเฉียวเห็นไป๋ยี่เฟยได้สติแล้ว จึงรีบเข้ามาถามว่า “พี่ไป๋ พี่จะดื่มน้ำหน่อยมั้ย?”
หยางหลินที่เห็นอย่างนั้นก็รีบขึ้นไปเทน้ำก่อนแล้ว
ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไรมาก เพราะเขาก็กำลังคอแห้งมาก หนีตายมาสองวัน น้ำสักหยดก็ไม่ได้กิน รับแก้วน้ำมาจากหยางหลิน “เอื๊อกๆ เอื๊อกๆ” ดื่มไปหลายอึกกว่าจะวางแก้วลง
จากนั้น เขาก็ฝืนยืนขึ้นมา
“พี่ไป๋ ทำไมพี่ถึงได้บาดเจ็บหนักขนาดนี้ครับ?” หยางหลินถามมาด้วยความร้อนรน
ไป๋ยี่เฟยโบกไม้โบกมือ “ฉันไม่เป็นไร ฉันบอกไปแล้วว่าจะพาพวกนายออกไป ฉันก็ต้องทำให้ได้ แค่ตอนนี้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นนิดหน่อย”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ขำออกมาอย่างขมขื่น
ไป๋ยี่เฟยเดินออกไปข้างนอก หยางเฉียวเดินขึ้นมาพยุงเขาเอาไว้ ไป๋ยี่เฟยหันมามองหน้าหยางเฉียว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เธอสามารถแสดงความสวยของตัวเองออกมาได้อย่างสบายใจได้แล้วนะ”
เดิมทีหยางเฉียวก็หน้าตาดีมากอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะต้องปกป้องตัวเอง เธอก็คงไม่ต้องทำให้ตัวเองน่าเกลียดแบบนี้
พอได้ยินคำพูดของไป๋ยี่เฟย เธอก็ชะงักไป แล้วดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมา
ผู้หญิงต้องอยากให้ตัวเองดูสวยอยู่แล้ว
ไป๋ยี่เฟยเดินออกไปข้างนอก เขาได้เดินผ่านห้องโดยสารที่ ฉีฉีอยู่ เขามองเห็นหลิวเสี่ยวอิง
ส่วนหลิวเสี่ยวอิงก็รีบเข้ามาประคองไป๋ยี่เฟยเหมือนกัน
ไป๋ยี่เฟยมองหลิวเสี่ยวอิงทีหนึ่ง แต่หลิวเสี่ยวอิงกลับก้มหน้าไม่มองเขา เขาอยากถามว่าเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามไปตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับถามคำถามอื่นออกมา “มียาอะไรที่สามารถทำให้คนอ่อนแรงไปทั้งตัวมั้ย? และสามารถใช้แบบระยะยาวได้ด้วย?”
“มี” หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้า
ไป๋ยีเฟยก็พยักหน้าเหมือนกัน “งั้นก็ดี!”
ไป๋ยี่เฟยเดินออกจากห้องโดยสารไปโดยมีทั้งสองคนพยุงอยู่
ผู้หญิงที่ชื่อฉีฉีคนนี้ เป็นปัญหาใหญ่ ต้องจัดการให้ดีถึงจะถูก
ถ้าจะฆ่าทิ้งไปเลย ก็น่าเสียดายไปหน่อย เพราะเธอยังกุมความลับไว้อีกเยอะ
ถ้าไม่ฆ่า ก็จำเป็นต้องรักษาบาดแผลของเธอให้หาย พอเธอหายดีแล้ว คนพวกนี้ก็ไม่มีใครสู้เธอได้เลย แล้วมันจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่
ไป๋ยี่เฟยมาถึงตรงดาดฟ้าเรือแล้ว หันหน้าไปรับลมทะเลที่พัดมาเบาๆ รู้สึกสดชื่นทั้งตัวและหัวใจ แม้แต่แผลก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว
จากนั้นก็มองไปยังจ้าวเทียนที่ถูกมัดอยู่ แล้วเขาก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา
ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์บนฟ้ายังคงบินวนไปมา รอบๆ ก็มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมาก ไป๋ยี่เฟยยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ดูไม่ร้อนรนเลยสักนิด
เขาผลักตัวออกจากหยางเฉียวที่สีหน้าซีดเผือด กับหลิวเสี่ยวอิงที่กำลังเป็นห่วง แล้วค่อยๆ เดินไปหาจ้าวเทียนทีละก้าว
จากนั้นเขาก็จิกผมของจ้าวเทียน ดึงขึ้นมา เอาไปพาดไว้ตรงราวระเบียง แล้วตะโกนใส่คนบนเฮลิคอปเตอร์ไปว่า “แน่จริงก็ยิงเลย!”
พอคนบนเฮลิคอปเตอร์เห็นภาพนี้เข้า สีหน้าของพวกเขาก็เคร่งเครียด และไม่มีใครกล้ายิงทั้งนั้น
เพราะว่าจ้าวเทียนคุณชายของพวกเขาอยู่บนเรือด้วย
คนบนเฮลิคอปเตอร์ได้แต่พูดต่อไปว่า “ปล่อยคุณชายของพวกเรามาซะ แล้วเราจะไว้ชีวิตพวกแก”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มประชด จากนั้นก็หันไปบอกกับไป๋หู่ว่า “ออกเรือ”
“กลับบ้าน!”
พอคนพวกนั้นเห็นเรือเริ่มขยับ พวกเขาก็ร้อนรนแล้ว จึงรีบตะโกนออกมาอีกว่า “นี่คนบนเรือ พวกแกควรคิดให้ดีก่อนนะ รีบปล่อยคุณชายของเรามา แล้วเราจะละเว้นโทษตายให้พวกแก แต่ถ้าไม่ยอมปล่อย งั้นก็เตรียมตัวจมลงทะเลไปได้เลย!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะออกมา จากนั้นก็หยิบมีดสั้นออกมาจากอกเสื้อของสวีลั่ง แล้วแทงลงบนต้นขาของจ้าวเทียนโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ้า!”