บทที่ 599
“พวกเต้าจ่างกับฉีฉี อยากมาขวางคนกลุ่มนั้นของนาย”
“ในบรรดาคนกลุ่มนี้ เต้าจ่างเป็นคนที่เก่งกาจและอันตรายที่สุด กำลังของนายในตอนนี้ อย่าว่าแต่เต้าจ่างเลย ต่อให้เป็นน้องชายที่ตามนายทุกคน ก็ยังห่างชั้นอีกไกล”
อันที่จริงเฉินอ้าวเจียวบอกหลายครั้งแล้ว โดยเผยข้อความบางส่วนให้ไป๋ยี่เฟยฟังเป็นนัยๆ
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็กล่าวอย่างแปลกใจ “ไป๋เซี่ยว?”
เฉินอ้าวเจียวพยักหน้า ตอบเสียงต่ำ “ข้างกายเขามีคนชื่อจิงหลัวอยู่ ฉันสู้เขาไม่ได้”
สิ้นคำ ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจ
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็นึกได้ ตอนนั้นหลังฆ่าฉุงโยวเวยแล้ว หลี่เสว่ก็ไปเมืองหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋ ต่อมาประสบกับอันตราย ถูกคนช่วยชีวิตไว้ และคนนั้นก็คือจิงหลัว
เวลานี้ เฉินอ้าวเจียวกล่าวเสริมว่า “คนอย่างไป๋เซี่ยวความคิดลึกซึ้ง ไม่ว่านายจะใช้แผนการหรือเล่นซึ่งหน้ากับเขา ก็ไม่ใช่คู่มือเขาอยู่ดี”
ไป๋ยี่เฟยหลุบตาไม่พูดจา
แต่เพียงไม่นาน ไป๋ยี่เฟยก็ไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก “อย่างนั้นก่อนหน้านี้เพราะอะไรตอนที่จะฆ่าฉัน เขาถึงไม่ส่งจิงหลัวมา? จะต้องวางยาพิษฉันทำไม?”
เฉินอ้าวเจียวตอบ “มาสิ แต่ถูกคนตีกลับไป”
พอได้ยิน ไป๋ยี่เฟยพลันตระหนกวาบ
ฝีมือของเฉินอ้าวเจียวแข็งแกร่งกว่าอาอู่ กลับสู้จิงหลัวไม่ได้ แล้วจิงหลัว ถูกคนตีกลับไป?
นี่……
นี่มันฝีมือต่างกันขนาดไหนกันแน่?
เวลานี้ จู่ๆ เฉินอ้าวเจียวก็กล่าวว่า “เพื่อนนายคนนั้นไงที่ชื่อฉินหัว”
ไป๋ยี่เฟยพลันตกตะลึงตาค้าง “นายหมายความว่า ฉินหัวยังเก่งกว่านายอีก?”
“ใช่” เฉินอ้าวเจียวพยักหน้ายอมรับ “ตอนนั้นฉันเคยแอบสังเกตเขา กลิ่นอายบนตัวเขา น่าจะใกล้เคียงกับเต้าจ่าง”
ไป๋ยี่เฟยคิดถึงฉินหัว ในใจรู้สึกเสียใจขึ้นมา แต่ก็ตกใจด้วยเช่นกัน ฉินหัวถึงกับเป็นยอดฝีมือขนาดนี้!
“ต่อมามีไป๋หยุนเผิงเขามาพัวพัน ไป๋เซี่ยวไม่กล้าลงมืออย่างโจ่งแจ้ง ทุกครั้งจึงเป็นการลงมืออย่างลับๆ แทน และจิงหลัวก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย” เฉินอ้าวเจียวกล่าวเสียงต่ำ “อีกทั้ง อาการบาดเจ็บของฉินหัวน่าจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น”
“หมายความว่ายังไง?” ไป๋ยี่เฟยถามอย่างแปลกใจ
“ด้วยฝีมือของฉินหัว ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบไม่พ้น ต่อให้เป็นการพานายไปด้วย ก็ไม่มีปัญหาเลย เพราะการหลบหลีกอันตรายคือความสามารถของเขา
“แต่เขากลับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น……จึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง”
“ก็อก ก็อก……”
พูดจบ ประตูก็ถูกเคาะเสียงดัง
หลี่เสว่สวมชุดคนไข้เดินเข้ามา
เฉินอ้าวเจียวเห็นเช่นนี้ก็ไม่พูดมากอีก พยักหน้าให้หลี่เสว่ “ฉันออกไปก่อนนะ”
เวลานี้ไป๋ยี่เฟยยังคิดถึงคำพูดที่เฉินอ้าวเจียวพูดเมื่อสักครู่ จึงไม่ได้สนใจเฉินอ้าวเจียว
พอเฉินอ้าวเจียวออกไป ไป๋ยี่เฟยก็มองเห็นหลี่เสว่ จู่ๆ ก็หวาดกลัวขึ้นมา คิดถึงเรื่องที่อยู่บนรถ จึงยิ้มแห้งๆ กล่าวว่า “คุณภรรยา ทำไมกลับมาเร็วจัง?”
โรงพยาบาลของบ้านตัวเอง แน่นอนว่าห้องผู้ป่วยที่พักอยู่ย่อมดีที่สุด และหลี่เสว่กับไป๋ยี่เฟยเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นจึงใช้ห้องเดียวกัน ก่อนหน้านี้ หลี่เสว่ไปพบคนของสหพันธ์ธุรกิจมา
หลี่เสว่เห็นเช่นนี้ใบหน้าก็ขรึมลง กล่าวอย่างฉุนๆ ว่า “ทำไม? เวลาไม่พอพบหน้ากับหญิงแพศยาคนไหนใช่ไหม?”
หลี่เสว่ไม่ใช่ไม่สนใจ เพียงแต่ตอนนี้เพิ่งจะแสดงออก
เพราะอย่างไรก็เป็นผู้หญิง พบเจอเรื่องเช่นนี้ ไม่มีทางใจกว้าง นั่นเป็นเพราะผู้ชายของตัวเอง!
ไป๋ยี่เฟยเห็นท่าทางในตอนนี้ของหลี่เสว่ ก็ใจฝ่อทันที “เมียจ๋า ผมไม่ใช่อธิบายไปแล้วเหรอ ตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังสลบไม่ได้สติ ผมไม่มีวิธีถึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ……”
หลี่เสว่แค่นเสียงเบา “คุณคิดว่าฉันจะเชื่อ?”
ไป๋ยี่เฟยพลันรู้สึกปวดหัว แต่จนปัญญา ได้แต่ทำตัวสงบเสงี่ยมตั้งแต่หัวจรดเท้า อธิบายเรื่องราวให้ชัดเจนสักเที่ยว
แต่ว่า ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่อธิบายให้ฟังเสร็จก็ไม่ติดใจอะไรจริงๆ เหรอ?
แน่นอนว่าไม่ใช่
ไป๋ยี่เฟยอธิบายอยู่ยกใหญ่ ตระหนักว่าพูดชัดเจนแล้ว อีกทั้งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ก็เห็นร่างเปลือยไปแล้วนี่ ดังนั้นเขาจึงคิดจะยื่นมือไปจับมือหลี่เสว่ไว้
แต่หลี่เสว่สลัดออก กล่าวอย่างโกรธเคือง “อย่าแตะตัวฉัน!”
เวลานี้ หลิวเสี่ยวอิงเข้ามาส่งยา หลี่เสว่จึงดึงไป๋ยี่เฟยไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยให้หลิวเสี่ยวอิง “ขอบใจมาก”
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลิวเสี่ยวอิงมองคนทั้งสองอย่างมีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ออกไปอีกครั้ง
หลังจากหลิวเสี่ยวอิงออกไป หลี่เสว่ก็สลัดไป๋ยี่เฟยออก นั่งอยู่อีกด้านด้วยสีหน้าเย็นชา
ไป๋ยี่เฟยงุนงง ต่อมาก็เข้าใจ ตนเองโล่งอกเร็วเกินไป กล่าวอย่างจนปัญญาว่า “แล้วต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อผมล่ะ? เมียจ๋า”
ไม่พบกันตั้งหลายปี ได้พบเมียสุดที่รักของตัวเอง แม้ไม่อาจเข้าไปคลอเคลียได้ แต่อย่างอื่นก็น่าจะทำได้สินะ? อย่างเช่นกอด จากนั้นก็จูบ อะไรแบบนี้
แต่ว่า หลี่เสว่โกรธแล้ว
ไป๋ยี่เฟยจนปัญญาอย่างยิ่ง และไม่ยินยอมเช่นกัน
หลี่เสว่ถลึงตามองไป๋ยี่เฟย นั่งอยู่บนเตียงตัวเอง ไม่สนใจเขา
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ ก็กัดฟัน เลิกผ้าห่มออกลงจากเตียง “งั้นผมจะไปฆ่าเธอแล้วกัน!”
หลี่เสว่ไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังทำเหมือนชมละครสนุกมองไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยทำได้เพียงดึงดันเดินออกประตูไป
หลังเดินออกมา ก็พบว่าหลี่เสว่ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ไม่มาขวางเขาไว้ ไป๋ยี่เฟยจึงรู้สึกเสียใจนิดหน่อย
แต่คำพูดของตนเองออกมาจากปากแล้ว หากไม่ไปล่ะก็ จะไม่เสียหน้าหรอกหรือ?
แต่ไปแล้วจะทำอะไรได้? เขาไม่มีทางฆ่าฉีฉีแน่ หากไม่ฆ่าฉีฉี แล้วไปที่ห้องเธอ นั่นไม่ใช่ยิ่งเพิ่มความไม่ชัดเจนขึ้นอีกหรือ?
ไป๋ยี่เฟยเอามือตบหน้าผากตัวเอง “โง่ชะมัด!”
จากนั้นก็ผลักประตูเสียงดัง “พลั่ก” อย่างไม่ลังเล เดินกลับมาอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยไม่หันไปมองหลี่เสว่ ก้มหน้า เดินกลับมาที่เตียง เลิกผ้าห่มออก ขึ้นเตียง คลุมตัวเองไว้อย่างมิดชิด
แม้เขาไม่มองหลี่เสว่ แต่เขารู้สึกได้ว่า หลี่เสว่มองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและหยอกล้อ
ราวกับกำลังพูดว่า ทำไมไม่ไปล่ะ? กลับมาทำไม?
ไป๋ยี่เฟยหงุดหงิดอย่างยิ่ง แต่คิดดูอีกที นี่ไม่ใช่เมียตัวเองหรือ? ถึงยังไงก็เป็นเมียนะ!
ไม่ว่าตัวเขาจะเป็นยังไง ยังไม่ได้เป็นผู้ชายของเธอ ดังนั้น อ่อนแอแล้วยังไง?
ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยจึงเลิกผ้าห่มออก โผล่ศีรษะตัวเองออกมา มองหลี่เสว่อย่างน้อยเนื้อต่ำใจเป็นพิเศษ
หลี่เสว่ไม่เคยเห็นไป๋ยี่เฟยทำท่าทางแบบนี้มาก่อน จึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะ “พรืด” ออกมา
ไป๋ยี่เฟยในเวลานี้ หลี่เสว่รู้สึกว่าน่ารักอย่างยิ่ง
ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่หัวเราะ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอกได้จริงๆ เสียที วางใจอย่างมาก จากนั้นก็หัวเราะไปพร้อมกับหลี่เสว่
หลี่เสว่เดินเข้ามา เลิกผ้าห่มของไป๋ยี่เฟยออก
ไป๋ยี่เฟยกะพริบตา จากนั้นก็มองดูท่าทีของหลี่เสว่ ในใจรู้สึกยินดี รีบเขยิบให้ด้านข้างมีที่ว่างนิดหน่อย จากนั้นหลี่เสว่ก็เข้ามาในผ้าห่ม คนทั้งสองตระกองกอดกัน
ไป๋ยี่เฟยทอดถอนอยู่ในใจ ผู้หญิงช่างกะล่อนจริงๆ
แต่ว่า เมียตัวเองกะล่อนช่างดีเหลือเกิน
ได้กอดเมียตัวเองแบบนี้ รู้สึกสบายใจ คิดดู ต่อให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิต เขาก็ยินดี
……
ครึ่งเดือนให้หลัง โรงพยาบาลโว่หลง
อาการบาดเจ็บของหลงหลิงหลิงหายสนิทดีแล้ว ตอนนี้กำลังมองดูเขาอยู่ในห้องของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยอย่างไรก็เป็นผู้ชาย สมรรถภาพร่างกายก็ดี ดังนั้นจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะยังไม่หายดีทั้งหมด แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง แต่หลี่เสว่ เธอถูกยิงทะลุไหล่ จึงฟื้นตัวได้ช้ากว่า
หลงหลิงหลิงเดินเข้าไปส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้ไป๋ยี่เฟย “ประธานคะ โหวจวี๋กรุ๊ปถูกพวกเราซื้อกลับมาแล้ว”
ตอนที่หลงหลิงหลิงพูด ได้มองไปทางหลี่เสว่ ส่งยิ้มเล็กน้อยให้เธอ
หลี่เสว่เห็นเช่นนี้ก็พยักหน้า ยิ้มแย้ม
หลงหลิงหลิงพูดต่อ “ชูริเวอร์รีสอร์ทก็ถูกพวกเราซื้อไว้แล้วเช่นกัน แต่ผู้ดูแลชั่วคราวของโหวจวี๋กรุ๊ปกับชูริเวอร์รีสอร์ทยังต้องให้คุณตัดสินใจค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยอ่านเอกสารสัญญา กล่าวเสียงเรียบว่า “โหวจวี๋กรุ๊ปเธอรู้จักดีที่สุด ให้เธอรับผิดชอบแล้วกัน แต่ไม่ได้ทำในฐานะผู้ช่วยของประธาน ทำในฐานะประธานบริษัทแทน”