ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 602

บทที่ 602

พนักงานบริการคนหนึ่งวิ่งเข้ามาและมองไปที่จงยู่ถิงที่จะลงมือด้วยตัวเองด้วยความประหลาดใจ “เจ้านายคะ เจ้านาย…”

“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว รีบช่วยเตรียมส่วนประกอบให้ฉันเร็วเข้า”

ในห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเพียงคนเดียวกับเจ้านายที่กำลังยุ่ง และยังเป็นมือใหม่เสียอีก

เมื่อเหล่าเชฟที่อยู่นอกหน้าต่างเห็นดังนั้นต่างก็พากันหัวเราะ

“ไม่ใช่ว่าเข้มแข็งเอาแต่ใจหรอกเหรอ?”

“ล้วนเป็นตัวหล่อนที่หาเรื่องเอง ดูท่าทางที่ยุ่งนั้นของหล่อนสิ ช่างน่าขำจริงๆ เลย!”

“ผมรับประกันได้เลยว่า อีกไม่ถึง 10 นาที เจ้านายจะต้องโทรหาเชฟของเราอย่างแน่นอนจากนั้นก็จะพยายามปลอบให้เชฟกลับไปแน่นอนเลย”

“ใช่แล้ว เชฟคะ เชฟอย่าได้ใจอ่อนเลยนะ!”

“ต้องชักสีหน้าให้หล่อนดูสะหน่อย ต่อไปหล่อนยังจะกล้าไล่พวกเราออกไปอีกหรือเปล่านะ!”

พวกเขามั่นใจว่าจงยู่ถิงจะต้องเชิญให้พวกเขากลับไปอย่างแน่นอน

เชฟอ้วนส่งเสียงหัวเราะเยาะ และพูดว่า “ถ้าหล่อนจะโทรมาขอให้ผมกลับ ก็เว้นแต่ว่าจะให้เงินเราเป็น 2 เท่าของเงินเดือน มิฉะนั้น ต่อให้หล่อนจะอยู่ต่อหน้ากู กูก็จะไม่สนใจอะไรหล่อนทั้งนั้น”

มีคนพูดขึ้นทันทีว่า “หรือบางทีหล่อนอาจจะตกลงนอนกับเชฟนะ?”

เมื่อพูดจบ เชฟอ้วนก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

……

ในห้องครัว หลี่เสว่ที่กำลังมองเจ้านายกับพนักงานที่วุ่นวายอยู่นั้น ก็จ้องไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างอดไม่ได้ ไล่พวกเชฟนั้นออกไปตอนนี้รู้สึกว่าจะค่อนข้างสะเพร่านะ

ไป๋ยี่เฟยลูบปลายจมูก แล้วยิ้มพร้อมกับพูดให้หลี่เสว่ว่า “ที่รัก คุณหาที่นั่ง และรอผมไปก่อนนะ”

หลี่เสว่หยุดนิ่งไปเล็กน้อย “คุณจะทำอะไร?”

ไป๋ยี่เฟยก็พับแขนเสื้อตัวเองขึ้น “ให้ภรรยาดูสไตล์ของผม!”

ในขณะนั้นเอง พนักงานที่ทำหน้าที่ในการรับออเดอร์ก็ถือเมนูอาหารใบหนึ่งเข้ามาในห้องครัว

จงยู่ถิงหยิบเมนูอาหารขึ้นมา หลังจากดูไปแวบเดียว ก็พยักหน้าและพูดว่า “ค่ะ รับทราบแล้ว คุณไปทำอย่างอื่นก่อนแล้วกันนะ”

พนักงานพยักหน้าและเดินออกไป

จงยู่ถิงเตรียมจุดไฟเริ่มทำอาหาร และพูดกับคนข้างๆที่ลงมือว่า “เสี่ยวจาง เนื้อแกะหั่น เนื้อสับ หัวหอม ขิง และกระเทียม”

“ค่ะ”

หลังจากเสี่ยวจางส่งเสียงตอบรับก็เปิดตู้แช่แข็ง แล้วทำท่าทางมึนงง “อันไหนคือเนื้อแกะกันล่ะ?”อันไหนคือเนื้อแกะคะ?”

แม้แต่ไฟจงยู่ถิงยังจุดไม่ติดเลย แล้วจะจัดการเขาได้อย่างไร?

เหล่าเชฟที่อยู่นอกหน้าต่างต่างก็พากันหัวเราะอย่างได้ใจและดูความตื่นเต้นจากที่นั่น

ในตอนนั้นเอง ไป๋ยี่เฟยก็เดินไปตรงหน้าจงยู่ถิง และตบไหล่หล่อนเบาๆ “คุณหลีกไปก่อน เดี๋ยวผมทำเอง”

จงยู่ถิงตะลึง จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ไป๋ยี่เฟยแล้วจุดไฟต่อ “พ่อฉันตายแล้ว พวกคุณไม่ต้องมาเยี่ยมฉันหรอก รีบไปกันเถอะ”

ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจแต่ดูการกระทำของหล่อนและพูดอย่างเงียบๆว่า “คุณต้องเปิดพัดลมก่อน ไม่งั้นจะจุดไม่ติด

จงยู่ถิงหยุดลง จากนั้นจึงไปเปิดสวิตช์พัดลม

แต่เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นวิธีการคลายเกลียวพัดลมของหล่อนแล้ว ก็ตกใจขึ้นมาทันที และเมื่อจงยู่ถิงจุดไฟ เขาก็คว้าแขนของจงยู่ถิงไว้และดึงมันกลับมา

“ฟู่!”

ไฟโหมกระหน่ำในทันทีหากไม่ใช่เพราะไป๋ยี่เฟยดึงมา อาจจะลามมาถึงเสื้อผ้าจงยู่ถิงโดยตรงเลยก็เป็นได้

“โอ๊ย!”

จงยู่ถิงกรีดร้องด้วยความตกใจ และหมอบลงกับพื้นด้วยความกลัว

นอกหน้าต่าง ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา “ฮ่าฮ่า… ”

พนักงานที่กำลังเลือกเนื้ออยู่ด้านข้างก็ตกใจ และสะดุ้งจนเท้าสะเอว พร้อมกับนั่งลงบนพื้น

“โอ๊ย!”

“ฮ่าฮ่า…”

เสียงหัวเราะของเหล่าเชฟก็ยิ่งดังขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใคร

เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นฉากนี้ ก็ส่ายหัวและถอนหายใจ

แม้ว่าจะเคยเห็นคนอื่นทำอาหารมาก่อน แต่เมื่อทำด้วยตัวเองจริงๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในรายละเอียดบางอย่าง และในตอนนี้จงยู่ถิงก็รู้สึกตื่นตระหนกตกใจ ตะลีตะลาน และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี?

เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นว่าจงยู่ถิงไม่เป็นไร ก็รีบพุ่งไปตรงหน้าพัดลมและปรับสวิตช์ลงทันที

จากนั้นไป๋ยี่เฟยจึงหันตัวกลับมา และพูดด้วยท่าทางที่สงบและสง่าผ่าเผยว่า “ติดเมนูไว้บนผนัง”

จงยู่ถิงตะลึงแต่เมื่อได้สติกลับมา ไป๋ยี่เฟยก็เริ่มทำให้น้ำมันร้อนอย่างเชี่ยวชาญแล้ว

ไป๋ยี่เฟยจดจ่ออยู่กับการดูหม้อ และพูดกับสวีลั่งว่า “พี่ลั่ง หั่นเนื้อแกะเป็นชิ้นๆ และเป็น 2 ส่วนใหญ่ พร้อมกับสับต้นหอม ขิงและกระเทียมให้ละเอียดด้วยนะ”

เมื่อพูดจบ สวีลั่งจึงหยิบเนื้อแกะชิ้นหนึ่งจากตู้แช่แข็งแล้วทำตามที่ไป๋ยี่เฟยสั่ง พร้อมกับหยิบมีดของตัวเองออกมา

“หวดๆ!”

แม้กระทั่งเนื้อแกะชิ้นก็ทยอยหล่นลงบนเขียงทีละชิ้น

เมื่อเห็นฉากนี้ทั้งจงยู่ถิงและพนักงานต่างก็ตกตะลึงมันที

เหล่าเชฟที่อยู่นอกหน้าต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน ทุกคนอ้าปากค้าง และยืนนิ่งไม่ขยับตัว

สวีลั่งเล่นมีดมาตั้งหลายปี ดังนั้นสำหรับความสามารถควบคุมความเข้มข้นของเนื้อสัตว์ได้อย่างแม่นยำมากนี้

สำหรับเขาแล้วก็เป็นเรื่องง่ายๆ จิ๊บจ๊อยเท่านั้น

ต่อไป เป็นต้นหอมขิงกระเทียม

และทางฝั่งไป๋ยี่เฟยก็เริ่มใส่เนื้อลงไปแล้ว และค่อยๆผัดอย่างช้าๆ

เมนูจานแรกเป็นเนื้อแกะผัดซอสแดง

เนื้อแกะผัดซอสแดงทั่วไปจะเป็นชิ้นๆ แต่ที่ไป๋ยี่เฟยหั่นนั้นเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งมันไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลา แล้วยังทำให้รสชาติอร่อยขึ้นอีกด้วย

ไป๋ยี่เฟยพูดกับสวีลั่งต่อไปว่า “ส่วนแครอท หั่นเป็นชิ้นๆนะ”

สวีลั่งก็ไปหั่นแครอทอีกครั้ง

จงยู่ถิงดูจนตกตะลึง หล่อนไม่เคยได้ยินพ่อหล่อนพูดมาก่อนเลยว่าเขามีเพื่อนที่ทำอาหารเก่งขนาดนี้

เทคนิคของไป๋ยี่เฟยมีความชำนาญมากขนาดนี้และดูเหมือนจะเก่งกว่าพวกเชฟก่อนหน้านี้เสียอีก

และพนักงานก็ดูฉากนี้อย่างตกตะลึงด้วยเช่นกัน

หลี่เสว่นั่งอยู่ด้านข้าง สายตาของหล่อนเป็นประกายเล็กน้อย หล่อนรู้ว่าไป๋ยี่เฟยทำอาหารเป็น แต่ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ เมื่อเห็นเขาทำอาหารด้วยตาตัวเองแล้ว เขาก็ยังคงจริงจัง สงบนิ่ง และมีระเบียบ ช่างชวนให้คนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นจนสงบนิ่งไม่ได้

หลี่เสว่คิดที่จริงแล้วผู้ชายที่จริงจังนั้นหล่อที่สุดแล้ว!

ถ้าเขาทำงานด้านนี้จริงๆ คงจะมีสาวๆมากมายชอบเขาแน่ๆ

เหล่าเชฟที่อยู่นอกหน้าต่าง ต่างก็พูดไม่ออกได้แต่จ้องไปที่ห้องครัวอย่างตกตะลึงจนตาค้าง

“เชฟคะ เขาเหมือน…”

“หุบปาก!”

หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ยี่เฟยก็ทำเนื้อแกะผัดซอสแดง จานหนึ่งออกมา แล้ววางไว้บนเขียง “เสิร์ฟอาหาร!”

ในที่สุดพนักงานก็ได้สติกลับมาและรีบยกเนื้อแกะผัดซอสแดง จานนั้นขึ้นมาพร้อมกับวิ่งออกไป

จงยู่ถิงก็มีปฏิกิริยาตอบกลับเช่นกัน หล่อนหยิบเมนูที่ติดบนผนัง และพูดว่า “เมนูต่อไปแกงเห็ดเนื้อ”

ไป๋ยี่เฟยเหลือบดูเมนู และพูดว่า “อย่าทำตามคำสั่งของเมนูแกงเห็ด ต้องใช้เวลาเคี่ยว เนื้อสันนอกก็ต้องใช้เวลาในการตุ๋นเช่นกัน คุณควรเตรียมส่วนประกอบไว้ก่อนเลย”

“เมนูต่อไปคือห่านผัดไฟแดงเมนูนี้จะเร็วกว่าเตรียมส่วนประกอบออกมาก่อนเลย”

จงยู่ถิงได้ยินดังนั้นจึงรีบพยักหน้า และไปเตรียมส่วนประกอบ

……

เวลา 20 กว่านาที อาหารทั้งหมดของลูกค้าทั้ง 3 โต๊ะก็เสิร์ฟจนครบ

และเมนูจานสุดท้ายก็ถูกเสิร์ฟด้วยตัวจงยู่ถิงเองเมื่อลูกค้าทั้งหลายเห็นดังนั้นก็อดชื่นชมไม่ได้ “เถ้าแก่เนี้ย ที่พวกคุณนี้ก็ดีมากเลยนะครับ ยังมีคนที่มีพรสวรรค์แบบนี้อยู่อีก และอาหารจานนี้ก็ยังดีกว่าที่ทำในโรงแรม 5 ดาวเสียอีก

เถ้าแก่เนี้ย คุณจะสามารถจะให้คำแนะนำพวกเราหน่อยได้ไหมครับ?

จงยู่ถิงรู้สึกอายเพราะหล่อนไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยจะยินยอมหรือเล่า “นี่…”

เมื่อคนนั้นเห็นดังนั้นก็ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ เถ้าแก่เนี้ยอย่าได้เข้าใจผิดเลยนะครับ ผมไม่ได้เปิดโรงแรม และผมก็จะไม่ขุดมุมกำแพงของคุณด้วย ถ้าคุณไม่ยินยอมก็ช่างเถอะครับ

ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ต่างก็ชื่นชมจงยู่ถิงว่าอาหารจานนี้อร่อยมาก จงยู่ถิงเห็นดังนั้น หล่อนก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

ดังนั้นหลังจากกลับไปที่ห้องครัว จงยู่ถิงก็โค้งคำนับไป๋ยี่เฟย “ขอบพระคุณเชฟที่ช่วยชีวิตนะคะ”

ไป๋ยี่เฟยรีบดึงหล่อนขึ้นมาทันที “พี่ใหญ่ พี่จะเกรงใจไปแล้วนะ”

“ไม่ค่ะ” จงยู่ถิง ส่ายหัว และพูดว่า “เชฟคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องขอร้องเรื่องหนึ่ง”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset