บทที่638
ไป๋ยี่เฟยคิดว่าวันนี้ตัวได้ใช้กำลังไปรอบหนึ่งแล้ว จึงรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ได้นวดสักหน่อยก็ไม่เลวเหมือนกัน เขาจึงพยักหน้าไป “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเข้ามาข้างในได้เลยครับ”
พอได้ยินอย่างนั้น สาวน้อยก็วิ่งเข้ามาข้างในอย่างดีอกดีใจ
พอไป๋ยี่เฟยปิดประตูแล้วหันมามอง เขาก็ต้องอึ้งไปทันที
เพราะเมื่อเขาปิดประตูเสร็จ สาวน้อยก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกหมดแล้ว เหลือแค่ชุดชั้นในเท่านั้น จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับพูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “ฉันขออาบน้ำก่อนนะคะ คุณผู้ชายช่วยรอแป๊บหนึ่งนะคะ”
ไป๋ยี่เฟยยังไม่ทันได้พูดอะไร ปิดประตูห้องก็ถูกสาวน้อยปิดลงแล้ว ไป๋ยี่เฟยรู้สึกแปลกใจขึ้นมา แค่มานวดมันต้องอาบน้ำด้วยเหรอ?
แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงเป็นเพราะตอนนี้งานคงหายากเลยต้องทำให้ดีที่สุดละมั้ง แถมเขายังถอนหายใจออกมาด้วย “ลำบากกันหมดเลย!”
เสียงน้ำดังมาจากในห้องน้ำ แล้วเสียงที่ไพเราะของสาวน้อยก็ดังขึ้น “คุณผู้หญิงคะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฝีมือของฉันดีมากเลย คุณแค่นอนอยู่เฉยๆ ก็พอแล้วค่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไปเล็กน้อย “นอนเหรอ?”
หรือมันเป็นการนวดหัว? น่าจะเข้าท่าเหมือนกัน
ว่าแล้วไป๋ยี่เฟยก็นอนลงบนที่นอน รอให้สาวน้อยออกมา
ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น สาวน้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ โดยนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไว้เท่านั้น ม้วนผมเป็นปม มีแค่ตรงท้ายทอยเท่านั้นที่เปียก
“คุณคะ ดูแล้วนี่น่าจะเป็นครั้งแรกของคุณแน่เลย” สาวน้อยยิ้มให้ไป๋ยี่เฟยอย่างหวานๆ
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “ใช่ครับ นี่เป็นการนวดครั้งแรกของผม”
สาวน้อยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “แค่เห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของคุณฉันก็รู้แล้วค่ะ คุณผู้ชายทำตัวให้สบาย เดี๋ยวฉันช่วยคุณถอดเองค่ะ”
พูดจบ สาวน้อยก็เดินมาข้างเตียง ยื่นขาที่ขาวเนียนออกมา ขึ้นค่อมไปบนตัวของไป๋ยี่เฟย จากนั้นก็กดหน้าอกของไป๋ยี่เฟยเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปปลดเนกไทของไป๋ยี่เฟยออก
“เชี่ย!”
ไป๋ยี่เฟยพลิกตัวจนสาวน้อยเสียหลัก จากนั้นก็ถีบสาวน้อยลงจากเตียง
ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจสักทีว่าการนวดที่สาวน้อยพูดนั้นหมายความว่าอะไร
“การนวดที่ว่าล่ะ? นี่เธอคิดจะทำอะไร?” ไป๋ยี่เฟยถามไปด้วยความหวาดระแวง
เนื่องจากการกระทำของไป๋ยี่เฟยเมื่อกี้ออกจะรุนแรงไปหน่อย หลังจากที่สาวน้อยถูกถีบตกเตียงไป ผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่ก็หลุดตามไปด้วย ผิวพรรณที่ขาวนวลกับเรือนร่างที่น่าหลงใหลของสาวน้อยก็ได้ประจักษ์อยู่ตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย
สาวน้อยรีบล้มหน้าลงอย่างน่าเอ็นดู แล้วบิดตัวด้วยความเขินอาย “ทำไมคุณผู้ชายถึงรุนแรงแบบนี้คะ? มันก็แค่การนวด นวดทั้งตัวไงคะ”
นวดทั้งตัวเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยสะท้านไปทั้งตัว “เชี่ย! ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น!”
พูดไปเขาก็ดึงผ้าห่มบนที่นอนขึ้นมา แล้วโยนให้สาวน้อยไป
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องก็ถูกใครบางคนกระแทกจนมันเปิดออก
“ปั้ง!
ประตูกระแทกเข้ากับกำแพง คนกลุ่มใหญ่กรูกันเข้ามาในห้อง
คนกลุ่มนั้นแต่งตัวค่อนข้างเชย ทั้งทรงผมทั้งสีผมก็ดูเชยไม่ต่างกัน พวกเขามากันเจ็ดแปดคน พอเห็นภาพในห้องก็รีบหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปของไป๋ยี่เฟยกับสาวน้อยทันที
ผู้หญิงทั่วไป ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ก็คงแตกตื่นจนเสียขวัญไปแล้ว แต่สาวน้อยตรงหน้าไป๋ยี่เฟยนั้นกลับสงบมาก แถมยังตั้งใจยืนขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ ไป๋ยี่เฟย
ตอนแรกไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกงงอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นการกระทำของสาวน้อยแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที และสงบลงทันทีด้วย
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ หัวหน้าที่หน้าตาดูโหดๆ ก็ก้าวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่กำลังโมโห เขาดึงคอเสื้อของไป๋ยี่เฟยขึ้นมา แล้วพูดด้วยเสียงโหดๆ ว่า “ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงมานอนกับผู้หญิงของฉัน!”
ไป๋ยี่เฟยหันไปมองสาวน้อยคนนั้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย สาวน้อยหันมายิ้มให้เขา จากนั้นก็หันไปใส่เสื้อผ้าให้ตัวเองอย่างใจเย็น
“มันคือการกรรโชก,กระโชกทรัพย์สินะ?” ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย
พอได้ยินไป๋ยี่เฟยพูดมาอย่างนั้น ชายหน้าโหดคนนั้นก็ตะคอกออกมาทันที “ไม่ต้องมาเล่นลิ้น! กรรโชก,กระโชกทรัพย์อะไร? เห็นๆ อยู่ว่าแกนอนกับผู้หญิงของฉัน นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกสินะ?”
ระหว่างที่พูด เขาก็ง้างหมัดขึ้นมาจะต่อยไป๋ยี่เฟย
แต่ก่อนที่กำปั้นของเขาจะชกโดยไป๋ยี่เฟย เขาก็ล้มลงพื้นไปเอง
พอเห็นอย่างนั้น บรรยากาศในห้องก็เงียบลงทันที
สาวน้อยคนนั้นมองไป๋ยี่เฟยด้วยความประหลาดใจ
ชายหน้าโหดรีบลุกขึ้นมา แล้วชี้หน้าต่อว่าไป๋ยี่เฟย “เชี่ย!”
“เรื่องในวันนี้แกอย่างให้มันถูกเผยแพร่ออกไปหรืออย่างให้มันจบอย่างเงียบๆ”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้น เขาก็ส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็มองไปทางหน้าต่าง พร้อมกับส่งสัญญาณให้ชายคนนั้นมองตามไปด้วย
แต่ชายหน้าโหดไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ เขารู้สึกโกรธมากจนอยากจะเข้าไปทำร้ายไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง “แม่ง ตาของแกเป็นอะไร? อย่างมาลีลากับฉัน เชื่อรึเปล่าว่าฉันสามารถตบแกให้ตายคามือได้น่ะ?”
ลูกน้องข้างหลังคนหนึ่งที่พอมีไหวพริบอยู่บ้าง เข้าใจในสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยต้องการจะสื่อ ว่าแล้วเขาก็รีบวิ่งไปดูที่หน้าต่างมองลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็อึ้งไปเลย
ไป๋ยี่เฟยทำหน้าเรียบเฉย แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย เหมือนไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย
เมื่อชายหน้าโหดเห็นแบบนั้น สายตาที่มองไป๋ยี่เฟยก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย : อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ยังสามารถสงบอยู่ได้ เห็นท่าจะไม่ใช่คนธรรมดาซะแล้ว!
พอคิดได้แบบนั้น ชายหน้าโหดก็เริ่มหนักใจขึ้นมาแล้ว
ในตอนนั้นเอง ลูกน้องคนนั้นก็ได้ตะโกนออกมา “ละ…ลูกพี่… ระ…รีบมาดูนี่……”
“ดูอะไรของแก?” ชายหน้าโหดถลึงตาใส่ไป๋ยี่เฟยก่อนทีหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความโมโห
ลูกน้องคนนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะตอนนี้เขากำลังแตกตื่นกับเรื่องอื่นอยู่ เขารีบกวักมือเรียก “ลูกพี่ รีบมาดูนี่เร็วรีบ……”
พอเห็นอย่างนั้น ชายหน้าโหดก็ถลึงตาใส่ไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง จากนั้นก็สั่งลูกน้องคนอื่นว่า “ดูมันไว้ให้ดี!”
พูดจบ เขาถึงเดินไปที่หน้าต่าง ด้วยท่าทางที่ดูไม่สบอารมณ์เอามากๆ “มีอะไรให้กลัวขนาดนั้น? จะให้ดูอะไร? จนทำให้แกต้องกลัวขนาดนั้น?”
ลูกน้องพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา “จริง……”
ยังไม่ทันพูดจบ ชายหน้าโหดก็เดินมาถึงที่หน้าต่างแล้ว จากนั้นก็ยื่นหน้าออกไป พอมองลงไป เขาก็เบิ่งตาโตทันที
ชายหน้าโหดคงหัวกลับเข้ามาในห้อง แล้วกลืนน้ำลายเป็นการใหญ่ หนุนตัวกลับมาด้วยร่างกายที่เกร็ง เดินเก้ๆ กังๆ มาปาไป๋ยี่เฟย ยิ้มแห้งๆ “พี่ใหญ่……แฮะๆ ……ผมขอโทษครับ นี่……มันแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น”
การกระทำของชายหน้าโหดแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง จนพวกลูกน้องต่างพากันงง
สาวน้อยรู้สึกแปลกใจมาก “พี่หวง พี่เป็นอะไรไปคะ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจชายหน้าโหด เขาแค่เดินไปที่หน้าต่าง แล้วมองลงไปข้างล่าง จากนั้นก็ทำเสียงหูว~ “ศึกใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย!”
ด้านล่างของโรงแรม มีกลุ่มคนมากมายที่มีอาวุธครบมือยืนออกันอยู่ด้านล่าง เนื่องจากพวกเขาอยู่บนตึกจึงมองเห็นพวกข้างล่างได้ไม่ชัด แต่ไป๋ยี่เฟยก็พอเดาออกว่าพวกนั้นเป็นใคร
เพราะระหว่างที่เขากลับมาก็รู้ตัวแล้วว่ามีรปภคนหนึ่งแอบตามเขามา
พอกลับมา ไป๋ยี่เฟยก็ได้สั่งพวกเฉินอ้าวเจียวให้ไปซ่อนตัวอยู่นอกโรงแรมแล้ว
ตอนเขาดูเอกสารที่หลี่เสว่ส่งมาให้นั้น เขาก็ได้รับสัญญาณที่เฉินอ้าวเจียวส่งมาเหมือนกัน ดังนั้นเขาถึงได้รู้ว่าข้างล่างมีคนมากมายขนาดนั้น
เห็นได้ชัดว่าพวกลูกกระจ๊อกที่กำลังขู่กรรโชก,กระโชกเขาอยู่นี่ไม่ใช่พวกเดียวกับพวกข้างล่างแน่นอน และเมื่อเห็นพวกข้างล่างก็เข้าใจว่าพวกนั้นเป็นลูกน้องของไป๋ยี่เฟย ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงได้ตกใจแบบนี้
และก็เป็นไปตามที่ไป๋ยี่เฟยคาดไว้ พวกข้างนั่นเป็นคนที่น้าสองของหม่าจิ่นหลงหม่าเซียจื่อพามาแน่นอน พวกเขาตามมาถึงที่โรงแรม และรู้จักแค่ชื่อของไป๋ยี่เฟยเท่านั้นแต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน ถ้าจะให้ตามหาทีละห้องก็เสียเวลามาก พวกนั้นจึงเลือกที่จะล้อมโรงแรมเอาไว้
“ลูกพี่ ตอนนี้เอาไงต่อดีครับ?” ลูกน้องคนหนึ่งถามขึ้น
หม่าเซียจื่อทำเสียงฮึดฮัด แล้วสั่งลูกน้องไปว่า “ส่งคนสิบคนขึ้นไปหาดู ถ้าเจอแล้วก็โทรหาฉัน ส่วนพวกที่เหลือก็เฝ้าทางเข้าออกไว้ให้ดี ห้ามให้ใครหนีออกมาได้ทั้งนั้น”
“ครับ”
ว่าแล้ว ลูกน้องสิบคนเอากำไม้ในมือของตัวเองขึ้นมา แล้ววิ่งเข้าโรงแรมไป
เมื่อพนักงานในโรงแรมเห็นเข้า ก็ตกใจจนรีบวิ่งไปหลบ ตอนนี้ในห้องโถงไม่เหลือใครแล้ว
พอลูกน้องพวกนั้นเข้าไปได้ไม่นาน รถพอร์เช่คันหนึ่งก็ได้ขับมาจอดที่หน้าโรงแรม
หม่าอานพ่อของหม่าจิ่นหลงก้าวลงจากรถ เดินมาข้างหน้าหม่าเซียจื่อ แล้วถามด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “หาเจอรึยัง?”
“ให้คนขึ้นไปหาแล้ว มันกล้ามาทำร้ายหลานชายฉัน วันนี้ผมจะเอามันให้ตาย!” หม่าเซียจื่อพูดด้วยความโมโห
หม่าอานชะงักไป แล้วบอกไปว่า “อย่าเพิ่งเอาให้ถึงตาย พอหาเจอแล้วก็ตัดแขนมันข้างหนึ่งจากนั่นให้มันคุกเข่าขอโทษเสี่ยวหลงก็พอแล้ว”
หม่าเซียจื่อไม่เห็นด้วย “จะพอแค่นั้นได้ไง? ตัดแขนข้างเดียวมันไม่พอหรอก”
“แกอย่าใจร้อน ให้ทำตามที่ฉันบอกก็พอ” หม่าอานพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
ทันใดนั้นเอง ก็มีรถหรูอีกหลายสิบคันหลายสิบคันขับมาจอดที่หน้าโรงแรม
คนที่ลงจากรถต่างก็ใส่สูทอย่างดี โดยมีบอดี้การ์ดเดินตามทุกคน แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา เพราะคนพวกนี้ต่างก็เป็นเศรษฐีของเมืองเป่ยไห่ทั้งนั้น