บทที่ 655
หลี่เสว่พูดว่า ซาเฟยหยางตายแล้ว
ไป๋ยี่เฟยตกใจ ถ้าซาเฟยหยางตายแล้ว แล้วคนที่อยู่ข้างกายเขาตอนนี้คือใคร?
ฉีฉีสังเกตเห็นความผิดปกติของไป๋ยี่เฟย รู้สึกดีใจ “ตอนนี้กรรมตามสนองแล้วซิ?”
เท่าที่เขามอง ไป๋ยี่เฟยกล้าให้เธอนวดให้ ก็คือการเหยียดหยามเธอที่สุด ต้องกรรมตามสนองสักวัน
ไป๋ยี่เฟยรีบโทรหาซาเฟยหยาง จากนั้นก็ใช้นำเสียงปกติพูดกับเขา “ผู้อาวุโสซา ตอนนี้อยู่ไหนครับ?”
ตอนนี้ซาเฟยหยางพูดจาคล่องขึ้นเยอะ “เดินเล่นอยู่”
ไป๋ยี่เฟยพูด “รบกวนส่งตำแหน่งให้ผมหน่อย เดี๋ยวผมไปหา”
ซาเฟยหยางชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบว่า “ได้”
ไป๋ยี่เฟยวางสายแล้ว หยิบเสื้อกันหนาวก็รีบออกไป
ฉีฉีเห็นแล้วก็รีบตามไป แล้วถามว่า “ฉันทำได้ดีไหม? เมื่อไหร่คุณจะบอกฉัน?”
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องพวกนี้ ได้รับตำแหน่งของซาเฟยหยางแล้ว ก็รีบไปหา
เพราะซาเฟยหยางอยู่ไม่ไกล ดังนั้นเขาแค่เดินไปก็ถึง แต่ตอนเดินผ่านซอยเล็กแห่งหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยรู้สึกเสียวสันหลัง จึงรีบหันไปมอง
ฉีฉีอยู่ข้างหลังเขา ไป๋ยี่เฟยรู้สึกโล่งอก แล้วขมวดคิ้วถาม “คุณตามผมมาทำไม?”
ฉีฉีตอบ “งั้นคุณก็บอกฉันซิ พี่ชายฉันคือใคร?”
ไป๋ยี่เฟยทำเสียงเย็นชา “คุณยังตามผมมาอีก ผมจะไม่มีวันบอกคุณเลย”
“คุณ” ฉีฉีโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนอยู่กับที่
ไป๋ยี่เฟยมองเธอสายตาเรียบเฉย จากนั้นก็เดินต่อ
จากนั้นเดินไปแค่ไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกมีลมแรงพัดผ่าน
ไป๋ยี่เฟยรีบถอยหลัง ยกมือทำท่าเตรียมตัว จากนั้นแขนของเขาก็ถูกคนต่อย ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยาย เวลาเดียวกัน ร่างกายรับไม่ไหวจนต้องถอยไปหลายก้าว
ตามมาด้วย ชายเสื้อดำก็ปรากฏตรงหน้าเขา ขวางทางเขาไว้
ไป๋ยี่เฟยเห็นเขาแล้วก็รู้สึกตกใจ
คนคนนี้ไป๋ยี่เฟยรู้จัก เป็นคนมีฝีมือรุ่นเล็ก จัดอยู่อันดับสอง ชื่อจ้าวหลง
ด้านหลังจ้าวหลง ยังมีคนชุดดำพร้อมผ้าปิดปากสีดำกลุ่มหนึ่ง พวกเขาพุ่งเข้ามา ล้อมไป๋ยี่เฟยไว้
จากนั้นผู้หญิงร่างเล็กก็เดินออกมา
ผู้หญิงชี้หน้าไป๋ยี่เฟยพูดเสียงดัง “ไป๋ยี่เฟย วันนี้ ไม่มีใครช่วยนายได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยมองหญิงสาว เข้าใจแล้ว เธอคือน้องสาวของฉุงโยวเวย ฉุงลี่หย่า ดูแล้วครั้งนี้คงมาแก้แค้นแทนพี่ชาย
แต่ว่า ไป๋ยี่เฟยแม้แต่จ้าวหลงยังสู้ไม่ได้เลย แล้วยังมีชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง วันนี้อยากหนี คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่กลัว สิ่งที่เขากลัวคือ เขาออกมาคนเดียว แล้วคนพวกนี้รู้ได้ยังไงว่าเขาจะผ่านตรงนี้?
ซาเฟยหยาง?
มีเพียงซาเฟยหยางรู้ เขาเป็นคนบอก?
ไม่ หากซาเฟยหยางอยากฆ่าไป๋ยี่เฟย มันเป็นเรื่องง่ายมาก ทำไมต้องติดต่อฉุงลี่หย่ามาฆ่าเขา?
ฉุงลี่หย่าหัวเราะเย็นชา “ไป๋ยี่เฟย วันนี้แกตายแน่”
ไป๋ยี่เฟยรีบเรียกสติกลับมา พูดเรียบเฉย “เธอต้องรู้ว่า เมืองเทียนเป่ยเป็นถิ่นของฉัน”
“แล้วยังไง?” ฉุงลี่หย่าไม่ใส่ใจ “แกฆ่าพี่ชายฉัน ไม่ว่าแกอยู่ไหน ฉันก็จะหาแกเพื่อแก้แค้นให้พี่ชายฉัน”
ไป๋ยี่เฟยเอือมระอา จากนั้นก็หันกลับไปพูดกับฉีฉีที่ดูอยู่ “คุณว่าถ้าผมตายแล้ว ยังมีคนรู้ว่าพี่ชายคุณเป็นใครไหม?”
ฉีฉีจ้องไป๋ยี่เฟยสายตาเย็นชา กัดฟันเดินเข้าไป “ไร้ยางอาย”
ฉุงลี่หย่าเห็นฉีฉีเดินมา ก็หัวเราะ “ตอนแรกที่รู้ว่าพี่ชายฉันตาย ฉันยังนับถือความเก่งคุณบ้าง แต่คิดไม่ตาย ต่อหน้าความเป็นความตาย กลับให้สาวน้อยคนหนึ่งมาช่วยขวาง ฉันตาบอดไปแล้วจริงๆ”
ไป๋ยี่เฟยมองฉีฉีไปทีหนึ่ง ถามว่า “เธอว่าเขาอ่อนมากเหรอ?”
ฉีฉีเห็นแล้วก็ทำเสียงเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
ฉุงลี่หย่ากลับถามว่า “หรือไม่ใช่ละ?”
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ฉีฉี ยักไหล่ “ผมไม่ได้เป็นคนพูดนะ”
ฉุงลี่หย่าพูดเสียงเย็นชา “จ้าวหลง รบกวนแล้ว”
ดูพวกเขาแล้วก็รู้ พวกเขาไม่เคยเห็นฉีฉี คิดไปแล้วก็ใช่ เวลาส่วนมากของฉีฉีอยู่บนเขา ไม่ค่อยได้ลงจากเขา
ออกมาก็เพื่อช่วยอาจารย์ทำธุระเท่านั้น คนพวกนี้ไม่เคยเห็นเธอก็เรื่องปกติ
จ้าวหลงเดินไปข้างหน้าสองก้าว พูดกับฉีฉีอย่างเห็นใจ “สาวน้อย ฉันมือหนักนะ ควบคุมแรงไม่ได้ ไม่อยากบาดเจ็บ ก็หลบไป เดี๋ยวถึงเวลาบาดเจ็บแล้ว จะบอกว่าฉันรังแกเด็กผู้หญิง”
ฉีฉียืนอยู่กับที่ จากนั้นก็จ้องหน้าไป๋ยี่เฟยแล้วพูดว่า “ฉันช่วยคุณ คุณต้องบอกฉัน”
ไป๋ยี่เฟยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณใช้เรื่องนี้ขู่ผมเหรอ? งั้นผมบอกคุณ ผมไม่ต้องการคุณช่วยแล้ว คุณดูผมถูกพวกเขาฆ่าตายดีกว่า”
“คุณ” ฉีฉีโกรธมาก จนอยากต่อยหน้าไป๋ยี่เฟยทันที
แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยพูดแล้ว เทียนเป่ยเป็นถิ่นของเขา ถ้าเธอถูกจับไว้ แค่ซาเฟยหยางคนเดียว เธอก็เกินทนแล้ว
ความจริงฉีฉีไม่เข้าใจไป๋ยี่เฟย หรือพูดได้ว่า ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ก็ไม่เคยเข้าใจไป๋ยี่เฟยเลย
ตอนแรก เธอจับไป๋ยี่เฟยไปบนเกาะ ทำตัวไม่ดีกับเขา ตอนแรกเขาเชื่อฟังมาก จากนั้นก็เริ่มควบคุมไม่อยู่ กลายเป็นเขาช่วยเธอ
จากนั้นอีก พวกเขาพบความลับเรื่องทองคำพร้อมกัน เธอนึกว่าเขาจะฆ่าเธอทิ้ง แค่เขาไม่ฆ่า
ครั้งที่สองที่เข้าถ้ำทองคำ เธอถือระเบิดไว้ จนมันระเบิด เธอนึกว่าพวกเขาคงต้องตายและถูกฝังไว้ในถ้ำ แต่ไม่ใช่ และเขาก็ใช้ร่างปกป้องเธอไว้โดยไม่กลัวตาย
ฉีฉีไม่เข้าใจความคิดของไป๋ยี่เฟย เพียงเพราะว่าเธอเป็นน้องสาวของเพื่อน ที่ยังไม่มั่นใจ แล้วทำไมเขาต้องพูดออกมา?
จัดการเธอแบบเงียบๆเสียก็จบเรื่องไม่ใช่เหรอ? แบบนี้ก็ไม่มีคนรู้เรื่องนี้ ไม่ว่าความลับเรื่องทองคำ หรือเรื่องน้องสาวของเพื่อน ก็ไม่มีใครรู้
แต่เขาก็ไม่ยอมพูด จากนั้นก็คิดมากเอง
ฉีฉีรู้สึกไม่เข้าใจเขาเลย
ความจริงบางครั้งไป๋ยี่เฟยเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่เป็นเรื่องจัดการได้ง่ายดาย กลับทำให้ตัวเองต้องอยู่ในที่นั่งลำบาก
ตอนนี้ มุมมืดแห่งหนึ่ง ชายใส่เสื้อคลุม ใส่หน้ากากเหล็ก หวีผมเรียบ พูดพึมพำ “นายมันชอบใช้ความรู้สึกตัดสินปัญหาเกินไป นั่นแหละจุดอ่อน จุดที่นายขาดไป ฉันจะช่วยเติมให้เอง”
……
ไป๋ยี่เฟยกับฉีฉีคุยกันสองคน โดยไม่สนใจฉุงลี่หย่ากับจ้าวหลง ทำให้คนโมโห
โดยเฉพาะจ้าวหลง เขายังเตือนฉีฉีอย่างหวังดี ปรากฏว่าเธอไม่หลบไป ยังไม่สนใจคำพูดเขาอีก
จ้าวหลงสีหน้าเปลี่ยนไป พูดเสียงเรียบ “ยังไม่เคยมีใครกล้าไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาแบบนี้ พวกแกจะได้รู้ผลลัพธ์มันเป็นยังไง”
พูดจบแล้ว จ้าวหลงก็เดินไปข้างหน้า ยกหมัดต่อยไปทางด้านไป๋ยี่เฟย
“ปัง”
คนลอยไปไกล
แต่คนที่ลอยออกไปไม่ใช่ไป๋ยี่เฟย แต่เป็นจ้าวหลง
จ้าวหลงรอยไปไกลสิบเมตร ล้มลงกับพื้น
“พ๊วก”
กระอักเลือดออกมา จับท้องตัวเองไว้ มองไปที่ฉีฉีด้วยสายตาตกใจ
ทุกคนที่ยืนดูอยู่ ต่างมองอย่างตะลึง
ฉีฉีในวินาทีนี้ ยังคงยืนในท่าเดิม จ้องหน้าไป๋ยี่เฟย ขายกอยู่กลางอากาศ ตามภาพก็คิดได้ว่า ถีบนี้เอง ที่ทำให้จ้าวหลงกระเด็นไปไกล
จากนั้น ฉีฉีถึงค่อยๆดึงขากลับมา ถามไป๋ยี่เฟยอย่างเย็นชา “หรือว่าคุณจะใช้พี่ชายฉันเพื่อหลอกใช้ฉันตลอดไป?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว “ไม่ใช่แน่นอน”
หยุดไปครู่หนึ่ง ไป๋ยี่เฟยก็พูดขึ้นอีก “อย่างมากอีกสามวัน รอเรื่องช่วงนี้จัดการให้เสร็จก่อน ผมจะบอกคุณเอง”
ฉีฉีเหมือนไม่อยากเชื่อ “สามวัน?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า ยิ้มแล้วพูด “หรืออาจจะไม่ถึงสามวันก็ได้”
ไป๋ยี่เฟยกับฉีฉียังคงคุยกันต่อโดยไม่สนใจคนอื่น เหมือนคนกลุ่มนี้ไม่เคยปรากฏตัว
คนกลุ่มนั้นเห็นที่ฉีฉีถีบเมื่อครู่ ไม่มีใครกล้าสงสัยความสามารถของฉีฉีอีก เธอไม่ใช่สาวน้อยผู้อ่อนแอแน่นอน แต่เป็นผู้มีฝีมืออันแข็งแกร่ง