บทที่ 663
แม้ว่าไป๋ยี่เฟยยังไม่มีเรี่ยวแรง แต่จู่โจมอย่างนี้ เกิดผลขึ้นมาเล็กน้อย เขาล็อคจิงหลัวไว้ ให้เวลาฉีฉีได้บรรเทาลงสักหน่อย
หลังจากจิงหลัวมีปฏิกิริยาขึ้นมา หยิบมีดสั้นในมือขึ้นมาทันที จะแทงไป๋ยี่เฟย
แต่ว่า หลังจากตอนที่จิงหลัวมองเห็นคนที่กอดเขาไว้กลับกลายเป็นไป๋ยี่เฟย มีดสั้นนั้นถึงขนาดหยุดกลางอากาศโดยตรง
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงักหนึ่งที แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดมากว่าทำไมจิงหลัวถึงหยุดมือ แต่คือเพิ่มแรงอีกครั้ง
แต่ว่าแรงบนกายของเธอในตอนนี้เหลือไม่เยอะ สำหรับจิงหลัวมากล่าวแล้วนับไม่ได้อะไร จากนั้นไป๋ยี่เฟยถูกจิงหลัวเตะหนึ่งทีลอยออกไปเลย
ไป๋ยี่เฟยลอยไปที่ใต้เท้าของหลี่จู้ เห็นสภาพ เปลี่ยนเป้าหมายกลายเป็นหลี่จู้ทันที
จากนั้น การเตะหนึ่งทีของไป๋ยี่เฟยนี้ หลี่จู้หลบพ้นอย่างง่ายดาย อีกทั้งหลี่จู้ยกขา คว้าเก้าอี้ตัวหนึ่งขึ้นมา “ปุ้ง” เสียงหนึ่ง ทุบไป๋ยี่เฟยสลบไปโดยตรง
ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะสลบไปคิดอยู่ว่า: ทำไมหลี่จู้ก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเช่นกันหรือ?
หลี่จู้โยนเก้าอี้ทิ้ง จ้องมองไปยังจิงหลัว “นายจิงนี่ยั้งมือไว้ไมตรีแล้วล่ะ!”
จิงหลัวไม่ได้สนใจหลี่จู้ แต่จับมีดสั้นเดินไปยังฉีฉี
เวลาเล็กน้อยนี้ ฉีฉีค่อยยังชั่วแล้ว หลบพ้นมีดสั้นของจิงหลัวอย่างรวดเร็ว
หลี่จู้เห็นสภาพจ้องมองไป๋ยี่เฟยที่สลบอยู่กับพื้น ดูเหมือนรู้สึกยังไม่พอ ก็เลยหยิบเก้าอี้ขึ้นมา คิดที่จะทุบอีกสองที
กำลังอยู่ในเวลานี้ เฉินอ้าวเจียวตื่นขึ้นมาทัน
เฉินอ้าวเจียวพุ่งตัวขึ้นไปหนึ่งที เตะเก้าอี้ที่อยู่ในมือหลี่จู้ลอยไปเลย จากนั้นหมุนตัวกลับเตะออกหนึ่งที เตะอยู่บนท้องที่นูนขึ้นเล็กน้อยนั้นของหลี่จู้โดยตรง
หลี่จู้รองรับไม่ไหว ถอยหลังต่อๆกันหลายก้าว ยังเกือบจะชนกับจิงหลัว
จิงหลัวหันหน้าไป มองเห็นเฉินอ้าวเจียวแล้ว ในใจตื่นตกใจอย่างมาก พูดทันทีว่า “รีบถอยออกไป!”
หลี่จู้กลับไม่เข้าใจ ได้ยินคำพูดนี้โมโหอย่างมาก “ทำไมต้องถอยออกไปหรือ? จุดไฟ! จุดไฟเดี๋ยวนี้! เผาคนเหล่านี้ให้ตาย!”
จิงหลัวได้ยินคำพูดเสียงเย็นชาพูดว่า “พลังความสามารถของเฉินอ้าวเจียวไม่ต่างกันเท่าไหร่กับผมเลย บวกกับผู้หญิงคนนี้อีกพวกเราสู้ไม่ไหว”
การตื่นของเฉินอ้าวเจียวทำให้จิงหลัวไม่กล้าเสี่ยงอีก
ถึงยังไงพลังความสามารถระดับอย่างพวกเขา ทุกเรื่องล้วนจะระมัดระวังรอบคอบ
ในเวลาเดียวกัน อยู่ดีๆ ข้างล่างมีเสียงนกหวีดของตำรวจดังขึ้น
จิงหลัวตื่นตะลึงทันที “นอกจากฆ่าคนทั้งหมดที่อยู่ในนี้ทั้งหมดเลย มิฉะนั้นตระกูลไป๋กับตระกูลเย่จะไม่ปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน”
พูดจบ ก็ไม่สนใจเขาพุ่งไปยังข้างนอกโดยตรง
แท้ที่จริง ตอนนี้สู้ไปสักรอบก็ไม่แน่ ถึงยังไงเฉินอ้าวเจียวก็เพิ่งตื่นขึ้นมา สภาพยังไม่ถึงจุดสุดยอดอย่างปกติเลย
แต่จิงหลัวไม่กล้าเสี่ยง
หลี่จู้เห็นสภาพ กัดฟันต่อๆกันอย่างไม่สมัครใจ จากนั้นเตรียมตัวที่จะพุ่งไปยังข้างนอก
แต่ว่ารูปร่างเฉินอ้าวเจียวขยับหนึ่งที ขวางไว้อยู่หน้าประตู แต่อยู่ข้างหลังเขา อยู่ดีๆโผล่คนเสื้อดำออกมามากมาย
คนเสื้อดำเหล่านี้จิงหลัวกับหลี่จู้เคยได้ยินมาก่อนแล้ว ดังนั้นตอนที่มองเห็นพวกเขา ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้พวกเขาอยากหนีก็หนีไม่พ้นแล้ว
ฉีฉีฉวยโอกาสกระโดดลอยขึ้นเตะทันที เตะไปยังหลี่จู้
แต่ว่าหลี่จู้เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งจริงๆ ดังนั้นเขาหลบพ้นหนึ่งทีนี้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง หมุนตัวอย่างรวดเร็วจับคอของฉีฉีไว้ทันที “ล้วนหลีกทางให้ผม! มิฉะนั้นตอนนี้ผมก็จะฆ่าเธอเลย!”
ฉีฉีเพราะว่าถูกหลี่จู้บีบคอไว้ ไม่กล้าขยับแล้ว
จิงหลัวเห็นแบบนี้ ถอดเข็มขัดของคนคนหนึ่งออกทันที หมัดมือทั้งคู่ของฉีฉีไว้
เฉินอ้าวเจียวเห็นสภาพไม่กล้ากั้นพวกเขาไว้อีกต่อไป ได้เพียงแต่หลีกทางให้
หลี่จู้กับจิงหลัวก็เลยคุมตัวฉีฉีไว้เดินไปยังข้างนอก ข้างหลังตามลูกน้องของหลี่จู้อยู่
แต่ว่าพวกเขาเพิ่งเดินออกจากประตู อยู่ดีๆลูกน้องคนหนึ่งก็ถูกมีดกรีดคอแล้ว
หลี่จู้เห็นสภาพใบหน้าขึงลับลงทันที จ้องเขม็งพวกเขาอย่างโหดร้าย แรงกำลังที่อยู่ในมือก็เพิ่มขึ้นหลายส่วน “แม่มึงเอ่ยอย่าขยับไปทั่ว มิฉะนั้นกูก็จะฆ่าเธอเลย!”
“ถ้าหากว่าคุณฆ่าเธอแล้ว ผมรับรองว่าคุณสู้ตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก” เฉินอ้าวเจียวพูดด้วยเสียงเย็นชา
ได้ยินคำพูดนี้ แรงกำลังของหลี่จู้ปล่อยออกเล็กน้อย แต่ก็ยังมีสีหน้าโกรธแค้นเต็มใบหน้า “ให้พวกเราออกไป ผมก็จะไม่ฆ่าเธอ!”
คนที่อยู่ข้างหลังเฉินอ้าวเจียวล้วนจ้องมองไปยังเฉินอ้าวเจียว
เฉินอ้าวเจียวพูดเบาๆว่า “พวกคุณไปดูสิเถ้าแก่เป็นยังไงแล้วล่ะ? ปล่อยพวกเขาไป”
……
ไป๋ยี่เฟยถูกคนเสื้อดำคนหนึ่งพยุงขึ้นมา ในเวลานี้ก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน เขาถามว่า “พวกเขาล่ะ?”
“หลี่จู้จับตัวฉีฉีไว้ หนีไปแล้ว” คนเสื้อดำตอบกลับ “แต่ว่าหัวหน้าตามไปแล้ว”
……
ในเวลาเดียวกัน รถพยาบาลคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูอาคารใหญ่
หยางเฉียวเข็นสวีลั่งออกมาแล้ว
ต่อจากนี้ พวกเขาก็เลยเห็นรถอเนกประสงค์คันหนึ่งขับผ่านข้างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน เฉินอ้าวเจียวและคนอื่นๆวิ่งตามออกมา ก็จะขึ้นรถตามไป
สวีลั่งเห็นแล้วถามทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เฉินอ้าวเจียวตอบกลับทันทีว่า “พวกเขาจับฉีฉีไปแล้ว”
พูดคำนี้จบก็รีบรถทันที ให้คนขับรถขับรถตามไปอย่างรวดเร็ว
แต่สวีลั่งกลับ “ตุ้ง” เสียงหนึ่ง อึ้งชะงักอยู่กับที่
ฉีฉีถูกจับตัวไปแล้ว
ฉีฉีเป็นน้องสาวของเขา
ฉีฉี….
ฉีฉีถูกจับตัวไปแล้ว!
น้องสาวของเขาถูกคนจับตัวไปแล้ว!
ในทันทีนั้นสวีลั่งเลือดเดือดพลุ่งพล่าน
หยางเฉียวมองเห็นสีหน้าของสวีลั่งผิดปกติ เป็นห่วงถามว่า “พี่ลั่ง ตอนนี้พวกเราขึ้นไปเถอะ”
“ขึ้นไปหรือ?”
อยู่ดีๆสวีลั่งคืนสติ ไม่สนใจหยางเฉียว ใช้มือตัวเองไปเข็นรถเข็น
หยางเฉียวตื่นตกใจหนึ่งที รีบตามไป กลับกลายเป็นตามไม่ทัน
สวีลั่งหาเจอรถคันหนึ่ง อดกลั้นความเจ็บปวดของบาดแผลไว้ กระชากคนขับรถลงมา ตนเองนั่งเข้าไปเลย
คนขับรถตกอยู่กับพื้น หลังจากลุกขึ้นมาแล้วมึนงงเต็มใบหน้าร้องตะโกน “เหว่ย! นี่คือรถของผม!”
สวีลั่งไม่ได้สนใจคนขับรถ เขาปิดประตูให้ดีทันที สตาร์ทรถ ตามออกไปเลย
หยางเฉียวกับคนขับรถล้วนตามไม่ทัน
อยู่บนถนนที่กว้างขวาง รถหลายคันไล่โจมตีหน้าหลัง ดูแล้วเหมือนถ่ายหนังอยู่เป็นพิเศษ
สวีลั่งขับรถอย่างรวดเร็ว แต่บาดแผลที่อยู่บนกายเขา เพราะว่าการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเมื่อกี้ล้วนฉีกเปิดแล้ว บาดแผลเลือดซึมออกมา ทำให้ผ้าพันแผลแดงหมดเลย
สวีลั่งอดกลั้นความเจ็บปวดของบาดแผลไว้ กัดฟันแข็งใจไว้ หลังจากรู้ว่าน้องสาวของตนเองถูกคนจับตัวไปแล้ว ความโกรธแค้นกับร้อนใจเต็มหัวใจ ที่ไหนยังจะไปสังเกตถึงบาดแผลของตนเองล่ะ?
ผ่านไปไม่นาน รถหลายคันหน้าหลังล้วนขับไปยังเขตนอกเมือง ค่อยๆไปถึงบนถนนลูกรัง สุดท้ายขับไปยังภูเขา
เพราะว่าถนนลูกรังสั่นสะเทือนอย่างมาก รถพวกเขาไม่ใช่รถOff Road ความเร็วลดลงมาเลย
แต่สวีลั่งกลับตามขึ้นไป เขาไม่ได้ลดความเร็วมาโดยตลอด รถขับรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วอยู่บนถนนลูกรัง
สุดท้ายรถอเนกประสงค์คนนั้นที่สวีลั่งไล่ตามอยู่
อยู่บนยอดเขา คิดไม่ถึงว่ามีศาลาขนาดเล็กหลังหนึ่ง
รถอเนกประสงค์คันนั้นจอดอยู่ข้างศาลา น่าจะในรถไม่มีน้ำมันแล้ว ดังนั้นพวกเขาทิ้งรถเลย
จิงหลัวกับหลี่จู้คิดว่าจะเดินไปยังในป่า จิงหลัวความเร็วเร็วมาก เดินเข้าไปแล้ว หลี่จู้ความเร็วช้าไปก้าวหนึ่ง รถของสวีลั่งก็เลยขับเข้าไปเกือบจะชนเขาไปเลย
หลี่จู้กลิ้งอยู่กับพื้น วิ่งไปอีกข้างหนึ่งของรถอเนกประสงค์ ยื่นมือออกไปกระชากฉีฉีออกมา
ตอนนี้ฉีฉีสลบไปแล้ว กำลังถูกหลี่จู้บีบคอไว้อย่างไร้เรี่ยวแรง
รถของสวีลั่งเบรกกะทันหันหนึ่งที หยุดอยู่
ต่อจากนี้ สวีลั่ง “ปั้ง” เสียงหนึ่งเปิดประตูรถออก ตกลงไปจากข้างใน
หลี่จู้ที่เดิมทียังป้องกันทั้งตัวทันทีนั้นนิ่งอึ้งไปเลย
สวีลั่งเลือดเต็มตัว เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บไม่น้อย