บทที่ 688 นั่งไม่ติด
พอได้ยินเสียงปิดประตู ใจของฟางหยันก็เต้นทันที ตกใจจนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน
ซุนหมิงเจี้ยนเดินมาอยู่ตรงหน้าตู้ไวน์ หยิบไวน์มาหนึ่งขวด จากนั้นก็หยิบแก้วมาสองใบ รินไวน์ลงในแก้วเสร็จแล้วก็ยื่นแก้วไวน์มาให้กับฟางหยัน“คุณหนูฟางอย่ากลัวเลย ที่เชิญคุณมาก็เพื่อที่จะขอโทษแทนลูกชายของผมน่ะ ไม่ได้จะทำร้ายคุณแต่อย่างใด”
ฟางหยันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ส่ายหัวพูดขึ้น“ไม่ๆๆ ไม่ต้องหรอกค่ะ”
ซุนหมิงเจี้ยนดึงดันจะยื่นไวน์ในมือให้กับฟางหยันอยู่ จากนั้นก็ชี้ไปที่โซฟาพร้อมกับพูดขึ้น“คุณหนูฟางนั่งก่อนสิ”
ฟางหยันเห็นแบบนี้ก็นั่งลงที่โซฟาข้างๆ พูดถามเขาอย่างระมัดระวัง“ไม่ทราบว่าท่านซุนให้ฉันมา อยากที่จะ……”
ซุนหมิงเจี้ยนเขย่าไวน์ในมือ พร้อมกับพูดยิ้มๆ“เชิญคุณหนูฟางมาดูอะไรสนุกๆน่ะ”
พูดพลาง ซุนหมิงเจี้ยนก็หยิบรีโมตที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟมา แล้วกดปุ่ม จากนั้นผนังตรงหน้าของพวกเขาก็มีจอขนาดใหญ่ออกมา แล้วหน้าจอก็สว่างขึ้น
ภาพบนหน้าจอเป็นภาพของรถบรรทุกคันนั้นของไป๋ยี่เฟย
ซุนหมิงเจี้ยนพูดยิ้มๆ“ผมได้ยินมาว่าคุณหนูฟางมีความสนใจในตัวของไป๋ยี่เฟยนักธุรกิจหนุ่มคนนี้ แถมยังให้คนไปตรวจสอบมาแล้วด้วย ไหนๆคุณหนูฟางก็สนใจขนาดนี้แล้ว ตอนนี้ก็ลองดูสักหน่อยสิ”
ความสนใจที่ฟางหยันมีต่อไป๋ยี่เฟยนั้นเป็นเพียงแค่การเคารพนับถือเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นเลย แล้วในตอนนี้มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตของเธอ เธอจะเอากะจิตกะใจที่ไหนไปสนใจคนอื่นอีกล่ะ?
ซุนหมิงเจี้ยนบอกให้เธอดู แค่รถบรรทุกคันนี้เองน่ะเหรอ?
แถมตอนนี้ก็เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว ยังขับรถบรรทุกอยู่อีกเหรอ?
เธอก็ไม่ได้โง่ คิดๆก็รู้แล้ว ว่าซุนหมิงเจี้ยนจะต้องไม่ถูกกับไป๋ยี่เฟยแน่ๆ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้ายอมรับ“ไม่ใช่นะคะ ท่านซุน ท่านเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร ฉัน……”
ซุนหมิงเจี้ยนโบกๆมืออย่างไม่สนใจ ก่อนจะพูดยิ้มๆ“คุณหนูฟางไม่ต้องร้อนตัว คุณอย่ารีบปฏิเสธไป ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย!ใช่แล้ว คุณหนูฟางรู้ไหมว่าวันนี้ผมเชิญคุณมาทำไม?”
ฟางหยันส่ายหัวด้วยความกลัว เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว
ซุนหมิงเจี้ยนแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นต่อ“ความสัมพันธ์ของผมกับพ่อของคุณไม่เลวเลย แต่พ่อของคุณน่ะ เขาตายเพื่อสหพันธ์ธุรกิจ ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน แน่นอนว่าผมต้องทำหน้าที่ของเพื่อนให้ถึงที่สุด”
“ก่อนที่พ่อของคุณตายก็บอกกับผมเอาไว้ ว่าคุณอยากเป็นดารา ดังนั้นผมก็เลยใช้ประโยชน์จากเส้นสายของผมในการช่วยเหลือคุณ ให้คุณเป็นดาราตามที่คุณฝันไว้”
“ผมก็ถือว่าได้ทำให้พ่อของคุณหรือเพื่อนคนนี้ของผมไม่ผิดหวังแล้ว คุณว่าจริงไหม?”ซุนหมิงเจี้ยนถามยิ้มๆ
ฟางหยันรีบพยักหน้าทันที“ใช่ค่ะๆๆ ฉันก็รู้สึกขอบคุณท่านซุนมากๆเลยนะคะ”
ซุนหมิงเจี้ยนถอนหายใจออกมาหนึ่งที น้ำเสียงค่อนข้างหมดหนทาง“คุณก็เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ? ว่าลูกชายของผมชอบคุณ”
พอประโยคนี้ออกมา สีหน้าของฟางหยันก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที
เธอก็พอจะได้ยินข่าวของสองพ่อลูกซุนหมิงเจี้ยนมาบ้าง ได้ยินมาว่าเหลวแหลกสุดๆ ถ้าซุนหมิงเจี้ยนให้เธอแต่งงานกับซุนเหาขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแน่ๆ
ตอนนี้เธอกลัวสุดๆ
ซุนหมิงเจี้ยนพูดขึ้นต่อ“แต่ว่า ผมหาคู่แต่งงานให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ต่อให้คุณชอบเขามากขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางคิดอะไรกับคุณหรอก”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ฟางหยันก็ถอนหายใจออกมา รีพยักหน้าพูดตอบรับทันที“ค่ะ ฉันจะไม่ชอบเขาแน่นอนค่ะ”
แต่เพราะว่าน้ำเสียงที่พูดฟังดูดีใจมาก ทำให้ซุนหมิงเจี้ยนสีหน้าเย็นชา ฟางหยันจึงรีบตอบสนองกลับมาทันที ก่อนจะส่ายหัวพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“ท่านซุนคะ ความหมายของฉันก็คือฉันไม่คู่ควรกับคุณชายของท่านซุนน่ะค่ะ”
ซุนหมิงเจี้ยนก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอีกครั้ง ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำสีหน้าเย็นชาเลยแม้แต่น้อย“เห้อ ผมน่ะ จริงๆก็กลัวว่าลูกชายของผมจะไม่เชื่อฟัง ถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับคู่ที่ผมหาให้เพราะว่าคุณ มันก็ได้ไม่คุ้มเสียเลยน่ะสิว่าไหม?”
ฟางหยันรีบพูดตอบกลับอย่างไว“ท่านซุนวางใจได้ค่ะ ฉันจะไม่มีทางมาให้คุณชายซุนเห็นหน้าอีก ฉันจะหลีกให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ”
ซุนหมิงเจี้ยนกลับส่ายหัวเล็กน้อย ถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้น“ลูกชายของผมคนนี้ เป็นคนที่ค่อนข้างหัวรั้น ถ้าเขามีใจให้คุณแล้ว ไม่ว่าคุณจะหลบไปที่ไหนเขาก็จะหาคุณให้เจออยู่ดี”
“แล้ว……แล้วจะทำยังไง?”ฟางหยันรู้สึกอึ้งไม่น้อย
ซุนหมิงเจี้ยนถอนหายใจออกมาหนึ่งที ก่อนจะพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง“มีวิธีเดียวเท่านั้น ต้องดูว่าคุณเต็มใจไหม?”
ฟางหยันได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง“วิธีที่ท่านซุนบอกคือ……”
ซุนหมิงเจี้ยนยื่นมือออกมาวางลงบนขาอ่อนที่ขาวนวลของฟางหยันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม การกระทำนี้ทำให้ฟางหยันลุกขึ้นยืนทันที
“ท่านซุน……”
ซุนหมิงเจี้ยนดึงมือกลับมาอย่างไม่สนใจอะไร ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับพูดขึ้น“คุณหนูฟาง ถ้าคุณมาแต่งงานกับผม มาเป็นผู้หญิงของผม คุณก็จะกลายเป็นแม้เลี้ยงของลูกชายผม คุณว่าเขาจะกล้ามีใจให้กับคุณอีกไหม?”
ฟางหยันยืนอยู่ที่เดิมอย่างอึ้งตะลึงไป ถูกซุนหมิงเจี้ยนทำให้ช็อกตกใจไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าคนที่มีใจให้กับตนเองจะเป็นคนแก่คนนี้ นี่มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นไปอีก
ฟางหยันคิดที่จะปฏิเสธไปทันที ส่ายหัว ไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของซุนหมิงเจี้ยนก็นิ่งขรึมลงทันที
“คุณหนูฟางไม่เต็มใจ?”
สองมือของฟางหยันกำกระโปรงของตัวเองไว้แน่น กัดริมฝีปากไม่พูดอะไร
ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง
ซุนหมิงเจี้ยนสบถหึออกมาหนึ่งที แล้วลุกตามขึ้นมา น้ำเสียงข่มขู่“ตอนที่อยู่ห้องใต้ดินเมื่อตะกี้ คุณหนูฟางก็น่าจะเห็นชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
ภาพในห้องใต้ดินภาพนั้น แน่นอนฟางหยันเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง เป็นเพราะแบบนี้เอง จึงทำให้เธอยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม
ความหมายของเขาก็คือ ถ้าเธอไม่ตกลง จุดจบของสองคนในห้องใต้ดินนั้นก็จะกลายเป็นจุดจบของเธอเช่นกัน
ฟางหยันตัวสั่นไปหมด
ซุนหมิงเจี้ยนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม“คุณรู้ไหมว่าคนที่ถูกซ้อมคนนั้นเป็นใคร?”
“แล้วคุณรู้ไหมว่าคนที่ผมหามาให้แต่งงานกับลูกชายของผมเป็นใคร?”
ฟางหยันส่ายหัวทันที
ซุนหมิงเจี้ยนพูดกับเธออย่างหวังดี“คนที่ถูกซ้อมคนนั้นคือหนิววั่ง เป็นหมอที่ฝีมือไม่เลวเลย แล้วคนที่เขาติดตามด้วยก็คือไป๋ยี่เฟยนั่นเอง!”
“ส่วนคนที่ผมหาให้มาแต่งงานกับลูกชายของผม ก็คือภรรยาของไป๋ยี่เฟย”
ฟางหยันมองซุนหมิงเจี้ยนด้วยความช็อกตกใจ มึนงงไปหมด
ซุนหมิงเจี้ยนยิ้มอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็ชี้ไปที่หน้าจอบอกเป็นนัยว่าให้ฟางหยันหันไปดู“คุณดูสิ รถคันนี้จะต้องมีไป๋ยี่เฟยอยู่แน่นอน”
“คุณเชื่อไหมว่าเขาจะมาตายที่หน้าประตูบ้านของผมในเวลาไม่ช้านี้? รู้ไหมว่าเขามาทำอะไร? เขามาหาที่ตายยังไงล่ะ!รู้ไหมว่าทำไมเขาถึงมาหาที่ตาย?”
“เหอะๆ……เพราะว่ามันต้องมาช่วยหนิววั่ง มันนึกว่ามันจะมาช่วยคนได้ แถมยังนึกว่าตนเองเข้ามาในเขตคฤหาสน์นี้ได้อีก น่าขำ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่อยู่ในแผนการของเต้าจ่างหมดแล้ว”
“ดังนั้น ทุกคนที่คิดจะมาเป็นปฏิปักษ์กับผม ก็จะมีจุดจบแค่จุดจบเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตาย!”
พอฟังแบบนี้ ฟางหยันก็ตกใจจนสั่นไปทั้งตัว
ซุนหมิงเจี้ยนพูดขึ้นต่อ“ผมรู้ว่าคุณตรวจสอบไป๋ยี่เฟยมาแล้ว คุณก็น่าจะรู้ว่า เขาหนีไม่พ้นจากเงื้อมมือของผมไปได้แน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณ?”
ฟางหยันตกใจทันที แต่หลังจากที่ฟังเขาจบแล้ว กลับรู้สึกกลัวความผิดอยู่ในใจ“ฉันยอมรับว่าฉันเคยตรวจสอบเขา ลูกน้องที่มีความสามารถของเขาก็มีอยู่ไม่น้อย”
ซุนหมิงเจี้ยนพูดยิ้มๆอย่างไม่แยแส“พวกลูกน้องที่คุณพูดถึงพวกนั้น คุณคิดว่าผมไม่รู้จักเหรอ?”
“ผมจะบอกคุณให้นะ พวกลูกน้องพวกนั้น แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีคนหนึ่งชื่อสวีลั่ง ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย คนหนึ่งชื่อไป๋หู่ แทบจะไม่ใช่คู่ปรับของหมิงฮุยและหนานหนานเลยด้วยซ้ำ ส่วนไป๋ยี่เฟยก็พละกำลังต่ำกว่าหมิงฮุยกับหนานหนานอีก”
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ดูให้ดีๆ อีกเดี๋ยวตอนที่พวกมันเข้ามาในคอนโดของผม พอลงมาจากรถ ไป๋ยี่เฟยก็จะถูกหมิงฮุยกับหนานหนานฆ่าทันที”
“ผมก็ไม่กลัวที่จะบอกคุณ ว่า หมิงฮุยเป็นลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของผม เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แม้ว่าอันดับและการลอบสังหารของเขาจะอยู่ต่ำกว่าสวีลั่ง แต่พละกำลังของเขามากกว่าสวีลั่ง”
ซุนหมิงเจี้ยนสีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ถึงเขาจะพูดขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถึงเฉินอ้าวเจียวแล้วก็ขวางซาเลย ดูเหมือนไม่รู้ว่าพวกเขามีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ
……
“ปึ้ง!”
รถบรรทุกขนของชนประตูของคอนโดจนเปิดออก
พวกไป๋ยี่เฟยลงมาจากรถ ส่วนในกล่องสินค้าที่อยู่ข้างหลังรถก็มีพวกคนชุดดำออกมามากมาย
ในเวลานี้เอง จู่ๆก็มีเงาดำโผล่ออกมา พุ่งตรงเข้ามายังไป๋ยี่เฟยอย่างรวดเร็ว
“ปึ้ง!”
เงาดำเงานั้นไม่ทันได้แม้แต่จะเข้าใกล้ไป๋ยี่เฟย ถูกเฉินอ้าวเจียวเตะกระเด็นออกไปก่อน
ในตอนนี้เอง ซุนหมิงเจี้ยนที่ดูจอภาพอยู่ในห้องก็อึ้งตะลึงไปสักพัก รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ“ทำอะไรน่ะ?”
พวกไป๋ยี่เฟยสวมใส่ชุดสีดำทั้งหมด รวมถึงไป๋ยี่เฟยด้วย เขาเปลี่ยนเสื้อบนรถเรียบร้อยแล้ว พวกเขายังสวมหมวกแล้วก็หน้ากากอีกด้วย
การพรางตัวแบบนี้ทำให้ช่วยปิดบังใบหน้าไปมากกว่าครึ่ง คนพวกนี้ดูแล้วเหมือนกันหมด ดังนั้นซุนหมิงเจี้ยนมองไปแล้วไม่รู้เลยว่าคนไหนคือไป๋ยี่เฟย
ชายผมขาวที่แอบอยู่ในมุมมืด จู่ๆเขาก็โผล่ออกมา ในมือถือหอกพุ่งตรงไปยังไป๋ยี่เฟย
แต่ถูกเฉินอ้าวเจียวเตะกระเด็นไป
คนคนนี้ก็คือหนึ่งในบอดี้การ์ดข้างกายของซุนหมิงเจี้ยนนั่นเอง หมิงฮุย จริงๆแล้วเขาแอบซ่อนตัวได้อย่างดีมาก พุ่งตัวออกมาก็รวดเร็ว แต่เขาดันมาเจอกับเฉินอ้าวเจียว