ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 719 เขาเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง

ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจฟางหยัน แต่อยู่ดีๆคุกเข่าอยู่ต่หน้าป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพ ทั้งสองมือปิดหน้าตนเองไว้ ร่างกายสั่นระริกไม่หยุด

ฟางหยันอึ้งชะงักจ้องมองไป๋ยี่เฟย ในเวลานี้เธอจึงรู้สึกถึงอย่างแท้จริง เหมือนดั่งไป๋ยี่เฟยที่แสดงให้เห็นว่าเงินไม่สามารถใช้สารพัดประโยชน์จริงๆ

มองสภาพในปัจจุบันนี้ของไป๋ยี่เฟยอีก ทำให้เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงมากอย่างแปลกประหลาด

ตอนที่พบเจอกับไป๋ยี่เฟยในตอนแรก เขากำลังถือมีดเล่มหนึ่งกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งเข่นฆ่ากันกับคนกลุ่มหนึ่ง

พบเจอกับเขาอีกครั้ง คือชกแชมป์เทควันโดคนหนึ่งเกือบตาย

เรื่องของทั้งสองครั้ง ใบหน้าเขาล้วนไร้สีหน้าอย่างนั้น ถ้าเป็นคนดูแล้วล้วนรู้สึกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง! ชายแท้ๆ!

แต่ภาพด้านหลังของเขาในตอนนี้ปรากฏให้เห็นความโศกเศร้ากับหมดหนทางขนาดนั้น

อยู่ดีๆฟางหยันนึกถึงญาติของตนเอง

เธอไม่หวาดกลัวอีกแล้ว ค่อยๆนั่งลงยองๆยื่นมือออกไปตบหลังของไป๋ยี่เฟยตบแล้วตบอีก “ขอโทษ ฉันไม่รู้…..”

อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นฟ้าร้องตะโกนเสียงหนึ่ง

“อ่า!”

เสียงเสียงนี้ทำให้ฟางหยันตื่นตกใจหนึ่งที กลับยิ่งทำให้ฟางหยันเจ็บปวดใจมากขึ้น

โมโหร้องตะโกนเสียงนี้ แฝงไว้ด้วยการดิ้นรนที่หมดหนทางกับความโศกาอาดูรที่สุดขีด

ไป๋ยี่เฟยร้องไห้แล้ว ร้องไห้จนใจฉีกปอดขาด

ฟางหยันอึ้งชะงักก่อนหนึ่งที จากนั้นก็ค่อยๆใช้มือข้างนั้นของเธอลูบหลังของไป๋ยี่เฟยเบาๆ ปลอบโยนเขาอย่างไร้เสียง

ไป๋ยี่เฟยร้องไห้นานมาก

เขาไม่รู้ว่าตนเองทำไมจะต้องร้องไห้ออกมาอยู่ต่อหน้าคนนอกคนหนึ่ง อาจจะไม่อยากทำให้หลี่เสว่เป็นห่วง ไม่อยากทำให้คนที่ห่วงใยเขาเหล่านั้นเป็นห่วง ดังนั้นอยู่ต่อหน้าคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาเท่าไหร่คนนี้เขาระบายออกมาแล้ว

เขาต้องการระบายจริงๆ อีกทั้งก็ต้องการมีคนคนหนึ่งระบายอยู่เป็นเพื่อนกับเขา แต่เขาไม่หวังว่าคนที่อยู่เป็นเพื่อนกับเขาคนนี้เสียใจด้วยกันกับเขา

ในเวลานี้พอดีก็ได้พบเจอกับฟางหยัน เธอเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน ไป๋ยี่เฟยร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว

อยู่ดีๆฟางหยันก็มองเห็นไป๋ยี่เฟยนอนลงไปข้างๆนี้ของตนเอง พิงอยู่บนไหล่ของเธอ

ฟางหยันอึ้งชะงักไปหนึ่งที จากนั้นจึงพบเห็น ไป๋ยี่เฟยถึงขนาดร้องไห้ไปร้องไห้มานอนหลับเลย

ใช่สิ ไป๋ยี่เฟยเหนื่อยเกินไปแล้ว ไม่เพียงแค่ร่างกายเหนื่อย ใจก็เหนื่อยด้วย

ฟางหยันไม่ได้ขยับ ก็ให้เขาพิงตนเองอยู่อย่างนี้

ค่อยๆเข้าสู่กลางดึกแล้ว เริ่มมีลมแล้ว แน่นอนย่อมรู้สึกว่ามีความหนาวเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้เรียกไป๋ยี่เฟยตื่น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน อยู่ดีๆมีเสียงเสียงหนึ่งโผล่ออกมา

“สาวน้อย ขอบคุณ”

“ถ้าหากว่าเขาไม่ร้องไห้ออกมาอีก ผลลัพธ์ยากที่จะจินตนาการ”

“ดังนั้นขอบคุณ”

ที่นี่เป็นสุสานนะ ล้วนเป็นหลุมฝังศพ อีกทั้งตอนนี้ใกล้จะเช้ามืดแล้ว ทุกที่ล้วนมืดตึดตืออยู่ นอกจากฟางหยันกับไป๋ยี่เฟยคนอะไรล้วนไม่มี

อยู่ดีๆเสียงที่โผล่ออกมาทำให้ฟางหยันตกใจจนเกือบร้องตะโกน

ฟางหยันหันไปมองหนึ่งทีอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นสีหน้าก็ซีดขาวแล้ว

หลี่เฉียงตงเดินออกมาจากความมืด ฟางหยันตกใจจนสั่นริกๆ “คุณเป็นคนหรือเป็นผี?”

หลี่เฉียงตงอมยิ้มหนึ่งทีพูดว่า “ผมเป็นคน”

จากนั้นหลี่เฉียงตง นั่งยองๆลงกดจุดอยู่ลำคอของไป๋ยี่เฟยหนึ่งที ทำให้ไป๋ยี่เฟยนอนหลับสนิทกว่านี้อีก

ฟางหยันกลั้นหายใจไว้ ร่างกายแข็งทื่อมาก

หลี่เฉียงตงกลับเอ่ยปากเบาๆว่า “ตั้งแต่เล็กจนโตเขามีชีวิตประคับประคองกันมากับน้องสาว แม้ว่าพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่ว่าความผูกพันของพวกเขายังแรงกว่าพ่อแม่แท้ๆ”

“เขาอยากทำให้น้องสาวของตนเองมีชีวิตที่ดี สิ่งที่น่าเสียดายคือตอนนี้เขามีความสามารถนี้แล้ว น้องสาวกลับจากไปเลย”

“ตั้งแต่น้องสาวเขาจากไปจนถึงเมื่อกี้ตลอดเวลาเขาล้วนไม่เคยร้องไห้”

“สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าโศกเศร้าถึงขีดสุดแล้ว และอาจจะเพราะเขายังไม่เชื่อว่าน้องสาวไปแล้ว”

“แต่ว่าอารมณ์ของคนเก็บค้างไว้นานไม่ได้ ถ้าเก็บค้างไว้นาน ก็จะบดขยี้คนไป”

“ดังนั้นขอบคุณมากจริงๆ ทำให้เขาร้องไห้ออกมา”

จากนั้นหลี่เฉียงตงดึงไป๋ยี่เฟยเข้ามาแบกไว้บนหลังของตนเอง

ฟางหยันได้ยินคำพูดเหล่านี้อารมณ์สลับซับซ้อน กลับไม่มีความหวาดกลัวเหล่านั้นอย่างเมื่อกี้แล้ว

ฟางหยันเป็นดาราคนหนึ่ง มีการแสดง มีความเห็นอกเห็นใจที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นคำพูดเมื่อกี้เหล่านั้นชั่วพริบตาก็ทำให้เขาเข้าใจถึงความโศกเศร้าที่สุดขีดแบบนั้นของไป๋ยี่เฟยเลย อดไม่ไหวที่จะขอบตาแดง

“งั้นคุณเป็นใครหรือ? เกี่ยวข้องอะไรกับเขาหรือ? จะทำร้ายเขาหรือไม่?” ฟางหยันเงยหน้าไปถามหลี่เฉียงตง

หลี่เฉียงตงอมยิ้มหนึ่งทีพูดกับฟางหยันว่า “ผมจะไม่ทำร้ายเขา”

“สำหรับสถานะของผมกับความเกี่ยวข้องกับเขา ผมคิดว่าคุณไม่อยากรู้”

พูดจบคำนี้ก็เดินออกไปเลย

ฟางหยันอึ้งชะงักไปนานมาก จนถึงลมพัดเย็นนิดๆพัดเข้ามา เธอขนลุกขึ้นมาฉับพลันในทันที ตกใจจนลุกขึ้นมาทันที ก็ไม่สนว่าขาของตนเองชาหรือไม่รีบเดินออกจากสุสาน

……

ตอนที่ไป๋ยี่เฟยตื่นขึ้นมาเป็นตอนกลางวันแล้ว หลี่เสว่อยู่ข้างเตียงกำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งให้เขาเช็ดหน้า

ไป๋ยี่เฟยจ้องมองหลี่เสว่จ้องมองแล้วจ้องมองอีก จากนั้นจับมือของเธอไว้ ยิ้มพูดว่า “ลำบากคุณแล้ว”

หลี่เสว่ส่ายหัวเล็กน้อย “ฉันทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”

หลังจากไป๋ยี่เฟยตื่นแล้วไปกินอาหารเช้ากับหลี่เสว่ด้วยกัน

สำหรับเรื่องเมื่อคืน พวกเขาใครล้วนไม่ได้เอ่ยอีกสักคำ

เพียงแค่กินไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆหลี่เสว่ลุกขึ้นมา พุ่งเข้าไปในห้องน้ำ

“อ้วก…..”

ไป๋ยี่เฟยตกใจจนรีบตามเข้าไป ทั้งลูบหลังของเธอเบาๆ ทั้งถามว่า “ตกลงว่าเป็นยังไงแล้วล่ะ? เมื่อวานคุณก็เป็นอย่างนี้ กระเพาะไม่สบายหรือ?”

หลี่เสว่หยุดการอาเจียนเป็นเวลาชั่วคราว ใช้น้ำบ้วนปากบ้วนแล้วบ้วนอีก พูดอย่างอ่อนแอว่า “อาจจะใช่มั้ง”

ไป๋ยี่เฟยกลับไม่วางใจ “ไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลตรวจเช็คสักหน่อย”

หลี่เสว่พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก เพิ่งอยากจะพูดอะไร อ๊อดของบ้านพวกเขาก็ถูกกดดังขึ้นแล้ว

ไป๋ยี่เฟยไปเปิดประตูก่อน พบเห็นเป็นคนส่งพัสดุคนหนึ่ง เขาส่งพัสดุชิ้นหนึ่งให้กับไป๋ยี่เฟย “เป็นนายไป๋หรือเปล่า? นี่คือพัสดุของท่าน เชิญเซนต์รับ”

หลังจากไป๋ยี่เฟยเซนต์รับแล้วพูดขอบคุณกับคนคนนั้นคำหนึ่ง จากนั้นปิดประตูถือพัสดุเข้ามา

หลี่เสว่เดินเข้ามาอยากรู้อยากเห็นถามว่า “คุณซื้อของแล้วหรือ?”

ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงักหนึ่งที “ผมคิดว่าเป็นคุณซื้อ”

หลี่เสว่ส่ายหัว “ฉันไม่ได้ซื้อ!”

ทั้งสองคนสบตากันหนึ่งที มองเห็นความสงสัยงงงวยที่อยู่นัยน์ตากันและกัน จากนั้นแกะพัสดุออกด้วยกัน

และหลังจากรอจนแกะพัสดุออกแล้ว ชั่วพริบตาเดียวไป๋ยี่เฟยเบิกตาโพลงทั้งคู่ กำกำปั้นของตนเองอย่างแน่น และสีหน้าของหลี่เสว่ ซีดขาวทันทีเลย

ความโมโหแบบอยากที่จะอธิบาย วิ่งวนอยู่ในใจไป๋ยี่เฟย

ในพัสดุเป็นตุ๊กตา แต่คอของตุ๊กตาถูกกรีดออกโผล่นุ่นสีขาวที่อยู่ข้างในออกมา และอยู่บนกายตุ๊กตายังติดตัวหนังสือว่ายินดีตัวใหญ่ๆไว้

ความหมายของตุ๊กตาตัวนี้เห็นได้ชัดมาก ก็คือบอกว่าน้องสาวของไป๋ยี่เฟยตายแล้ว ขอแสดงความยินดีกับเขา

คนที่ส่งพัสดุนี้ใช้ใจเหี้ยมโหดจริงๆ

หลี่เสว่จ้องมองไป๋ยี่เฟยที่มีความโมโหล้นฟ้าหนึ่งที เป็นห่วงเหลือเกิน

จากนั้นมือถือของไป๋ยี่เฟยดังขึ้นแล้ว ไป๋ยี่เฟยไม่เอ่ยอะไรรับสายขึ้นมา แต่ว่านัยน์ตากวาดผ่านความอาฆาตที่เย็นชาหนึ่งที

“ไป๋ยี่เฟยอ่า ขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ ขอแสดงความยินดีกับคุณ น้องสาวตายแล้ว ก็ได้หลุดพ้นภาระอย่างหนึ่งแล้ว! ฮ่าฮ่า…..”

เสียงที่อยู่ในโทรศัพท์ผ่านการดัดแปลงแล้ว ใช้เครื่องดัดเสียง ฟังไม่ออกว่าเป็นใคร

แต่ประโยคนี้ทำให้ไป๋ยี่เฟยยิ่งโมโหมาก ดูเหมือนวินาทีถัดมาความโมโหที่ลุ้นฟ้าก็จะระเบิด

ฝั่งตรงข้ามพูดเพียงแค่ประโยคนี้ ก็วางสายอย่างเด็ดขาด

ไป๋ยี่เฟยหยิบมือถือออกจากประตูไปบ้านจางหัวปิน

“สืบหาเบอร์นี้”

ไป๋ยี่เฟยโทรกลับอีกครั้ง แต่ว่าโทรไม่ติดแล้ว

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset