โจวฉวี่เอ๋อถูกลูกน้องคนนั้นกดอยู่ที่พื้นเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยเผยให้เห็นผิวพรรณที่ขาวผ่อง
เมื่อคนอื่นๆได้เห็นภาพดังกล่าว ต่างพากันอิจฉาแถมยังลอบกลืนน้ำลาย
ถึงแม้โจวฉวี่เอ๋อจะไม่ได้สวยเท่าหลี่เสว่ แต่ก็ถือว่าเป็นคนสวยรูปร่างหน้าตาดี เมื่อมาเห็นของสวยๆงามๆแบบนี้จะไม่ให้อิจฉาได้ยังไง?
และลูกน้องคนนั้นก็มองตาค้าง ก่อนที่จะอดใจไม่ไหวที่จะกดโจวฉวี่เอ๋อลงและโน้มตัวลงไปจูบ
ทันใดนั้น
“ตูม!”
อยู่ๆก็มีหมัดชกเขาไปที่ร่างกายของลูกน้องคนนั้น
“ปัง!”
ศีรษะของลูกน้องคนนั้นได้แตกกระจาย และเลือดได้กระเด็นไปทั่ว
คนอื่นๆที่เห็นฉากนี้ต่างก็พากันตะลึงตาค้าง
เหลียงเหว่ยชาวหรี่ตามองจ้องฉินซานเขม็ง
ฉินซานได้ถอดเสื้อคลุมของตัวเองนำไปคลุมให้โจวฉวี่เอ๋อจากนั้นก็ดึงเธอลุกขึ้นและกระซิบข้างหูของเธอ “ที่รัก ผมขอโทษ”โจวฉวี่เอ๋อตกตะลึง
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่อีกด้านก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
ท่าทางอันธพาลของฉินซานได้แปลเปลี่ยนไป เป็นท่าทางสุขุมเย็นชาทันที
คนอื่นอาจจะไม่คุ้นชิน แต่ไป๋ยี่เฟยและโจวฉวี่เอ๋อนั้นคุ้นชินอย่างมาก
พวกเขามองดูฉินซานยืดหลังขึ้น ท่าทางเข้มงวดและน่าเกรงขาม เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
คนอื่นๆที่เห็นฉากนี้เข้าก็พากับประหลาดใจ
หลินยู่ชังที่ยังตกใจไม่หายเอ่ยถามขึ้น “ฉินซาน นายหมายความยังไง?”
เต้าจ่างก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ยังดูไม่ออกอีกหรอ? คนๆนี้ไม่ใช่ฉินซานด้วยซ้ำ!”
“อะไรนะ?” หลินยู่ชังเบิกตากว้างด้วยความตกใจ สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ฉินซานดึงหลี่เสว่ไปไหวที่ด้านหลังของตัวเอง จากนั้นก็มองคนอื่นๆด้วยสายตาเย็นชา “ถูกต้อง ฉันไม่ใช่ฉินซาน ฉันคือฉินหัว”
“ตัวตนของฉินซานเป็นปลอม พวกคุณอยากสืบ แน่นอนว่าสืบไม่เจออยู่แล้ว “
ตอนที่ฉินซานปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนที่ใกล้ชิดกับเขาต่างก็ไปสืบเรื่องของเขา ไป๋ยี่เฟยก็เคยสืบ หลินยู่ชังเองก็เคยสืบยิ่งเต้าจ่างก็เคยสืบเรื่องของเขา
แต่ต่อให้คุณมีอำนาจมากเท่าไหร่ แต่จะต้านทานความสามารถของภาครัฐได้หรอ?
ฉินหัวกล่าวอย่างเย็นชา “ไป๋ยี่เฟยเป็นน้องชายของฉัน ส่วนโจวฉวี่เอ๋อเป็นภรรยาของฉัน”
“พวกแกกล้าแตะต้องน้องชายและภรรยาของฉัน ฉะนั้นวันนี้ฉันก็จะคิดบัญชีกับพวกแกให้สมน้ำสมเนื้อ!”
พอเอ่ยประโยคนี้จบ ฉินหัวก็หันหน้าไปมองเหลียงเหว่ยชาว “บอสใหญ่ ผมรอคุณปรากฏตัวมานานแล้วครับ”
ทุกคนต่างพากันตะลึง
ที่แท้ฉินหัวก็แกล้งเล่นละครตบตาว่าตัวเองเป็นอัมพาต แต่จริงในความเป็นจริง กลับปลอมตัวเป็นอีกคนหนึ่งแล้วก็แฝงตัวเข้ามาอยู่กับคนพวกนี้ เพื่อรอคอยบอสใหญ่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
ไป๋ยี่เฟยตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นจนลืมความเจ็บปวดของบาดแผลบนร่างกายของตัวเอง
โจวฉวี่เอ๋อตื่นเต้นยิ่งกว่า เพราะฉินหัวคนนี้คือสามีของเธอ
จริงๆแล้ววันนั้นที่เธอโทรเรียกฉินหัวให้มาช่วยหลี่เสว่ พวกเขาสองคนใกล้ชิดกันมากจนเธอได้กลิ่นบนร่างกายของฉินหัว
โจวฉวี่เอ๋อก็จำได้ว่านี่เป็นกลิ่นของฉินหัว
ดังนั้นเธอจึงเดาไว้แล้วว่านี่คือฉินหัว
และโจวฉวี่เอ๋อก็ไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าในเมื่อฉินหัวปลอมตัวเป็นฉินซานแบบนี้ เขาต้องมีเหตุผลแน่ๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
อีกอย่างตอนที่อยู่ในห้องอาหารบนเรือ เธอตั้งใจขว้างจานใส่ฉินหัวเพราะแบบนี้จะทำให้คนอื่นๆรู้สึกว่าเธอรังเกลียดฉินหัว คนที่เกือบจะรังแกข่มเหงเธอจริงๆ
แบบนี้ก็จะไม่มีใครสงสัยเขาแล้ว
เต้าจ่างเห็นดังนั้นทำเสียงหึอย่างเย็นชา “แกมั่นใจในตัวเองเกินไป!”
“อย่างน้อยต่อหน้าแก ฉันก็มั่นใจในตัวเอง” ฉินหัวตอบนิ่งๆ
พอเต้าจ่างได้ยินเช่นนี้ ก็แสดงสีหน้าเจ็บใจเพราะเขาไม่สามารถเอาชนะฉินหัวได้
“แล้วยังไง? พวกฉันมียอดฝีมือระดับสองตั้งสิบกว่าคน ไหนจะรวมถึงฉันด้วย แกคิดว่าพวกแกจะเอาชนะได้มั้ย?” เต้าจ่างเอ่ยเสียงเย็นชา “ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากพวกฉันยังมีบอสใหญ่อีก”
ฉินหัวได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว “ความสามารถของบอสใหญ่นั้นแข็งแกร่งจริง แกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้และฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกด้วย”
“แต่ว่าพวกแกคิดจะรุมคนน้อยกว่าอย่างนั้นเรอะ?”
“แล้วยังไง ก็พวกฉันมีมากกว่าขอแค่ฆ่าพวกแกได้ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้” เต้าจ่างหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นพลางพูด
ฉินหัวได้ยินเช่นนั้นก็เพียงแค่ส่ายหัวเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบเต้าจ่างกลับ แถมยังหันหน้าไปทางไป๋ยี่เฟยก่อนจะยิ้มบางๆแล้วเอ่ย”ตานายแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะขึ้นมาทันที
ส่วนคนอื่นๆต่างไม่เข้าใจ
ในที่สุด หลินยู่ชังก็ได้สติชี้ไปที่ฉินหัวพร้อมกับด่าทออย่างโมโห “ไอ้สารเลวมึงกล้าหักหลังกูงั้นเหรอ กูอุตส่าห์เชื่อใจมึงขนาดนั้น!”
“แถมยังจะมาตานายแล้วอะไรอีก ตอนนี้แม้แต่จะยืนมันยังยืนไม่ไหวเลย อัดนิดอัดหน่อยเดี๋ยวก็ตายแล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่ยิ้มพลางพูด “บอกว่าฉันเด็กบ้างล่ะ โง่บ้างล่ะ จริงอยู่ที่ฉันยังเด็ก เพราะฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่า แต่ว่าคนโง่ไม่ใช่ฉันแต่เป็นพวกแก”
กล่าวจบ ทันใดนั้นก็มีคนปรากฏตัวขึ้นมาทันทีหลายคน
คนอื่นๆเห็นฉากนี้เข้าก็ตะลึงทันที
นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมจู่ๆพริบตาเดียวก็มีคนมากมายปรากฏตัวขึ้น?
ราวกับว่าหายตัวได้
คนเหล่านี้ทำเอาเหลียงเหว่ยชาวและเต้าจ่างต่างขมวดหัวคิ้วขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าแปลกใจเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ดูเคร่งเครียดเล็กน้อย
เพราะคนที่ปรากฏตัวขึ้นมานั้นคือไป๋หยุนเผิงซาเฟยหยางและเฉินอ้าวเจียว
หลินยู่ชังงมองพวกเขาอย่างตกใจ “ทำไมพวกแก…..”
ไป๋หยุนเผิงส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “เหล่าหลิน ฉันไม่คิดเลยนะว่าจะเป็นแก”
ไป๋หยุนเผิงคิดไม่ถึงจริงๆ
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ตอนที่ไป๋ยี่เฟยเห็นหลินยู่ชังเขาเองก็ประหลาดใจ
เพราะยังไงแล้วไป๋ยี่เฟยกับหลินขวางก็สนิทกัน และตระกูลหลินก็ไม่ได้คิดร้ายกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงคิดมาตลอดว่า อย่างน้อยหลินขวางและหลินยู่ชังนั้นถือว่ามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน
แต่ในความเป็นจริง คนที่คิดว่าเป็นมิตรแท้กลับเป็นคนที่เอามีดแทงข้างหลังเราเอง
หลินยู่ชังก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งหนึ่งพลางพูด
“แต่ละคนก็มีความปรารถนาของตัวเองทั้งนั้น”
“ฉันจำเธอได้”จู่ๆซาเฟยหยางก็เอ่ยกับเหลียงเหว่ยชาว
เหลียงเหว่ยชาวเพียงแค่ขมวดคิ้วครู่เดียว แล้วก็กลับมาในท่าทางสงบนิ่งเหมือนเดิมราวกับว่า
ไม่กังวลใจเลยสักนิดเดียว เพียงแต่เธอแค่ไม่เข้าใจอะไรบางอย่างจึงเอ่ยถาม “พวกนายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เฉินอ้าวเจียวก็แย่งพูดขึ้นมาก่อน “พวกแกคิดว่าตัวเองแน่เกินไป คิดว่าแผนของตัวเองมันแยบยลนักหรือไง? จริงๆแล้วพวกแกก็แค่โดนคนที่พวกแก คิดว่าโง่นั่นหลอกก็เท่านั้น”
เฉินอ้าวเจียวพูดแล้วแถมยังหัวเราะออกมาเสียดสีพวกเขาอย่างไม่ปกปิด
เหลียงเหว่ยชาวได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปมองไป๋ยี่เฟยทันที
หลี่เสว่หายตัวไป พวกเขาจึงไปสิบตระกูลอภิมหาเศรษฐีเพื่อช่วยหลี่เสว่ แต่กลับพบว่าเสี่ยวชีตายแล้ว ตอนที่เขาหาสถานที่ในที่สุดเจอพบว่าหูเฟยหงก็ตายแล้ว
ไป๋หยุนเผิงและเย่เจี่ยจึงค่อยๆวิเคราะห์กัน พบว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงหลายคนแน่ๆและเป็นเรื่องใหญ่
ส่วนไป๋ยี่เฟยหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาก็ใจเย็นขึ้น เขาจึงลองคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบใหม่อีกครั้ง
เขาก็นึกถึงคนที่คิดจะเอาหลี่เสว่มาข่มขู่เขาได้ทันที และในมือของเขาก็ไม่มีอะไรที่มีค่าพอที่คนๆนั้นจะมาเอาไปมีเพียงสิ่งเดียวก็คือคลังเก็บทอง
ดังนั้นเขาจึงรีบไล่ทุกคนออกไป ให้คนรู้สึกซึมเศร้าจนปัญญาและรู้สึกหมดหวัง
ตอนนั้นไป๋ยี่เฟยได้รับโทรศัพท์ บอกให้เขาไปหาคนเดียวดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงแอบไป
เพราะเขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามต้องให้คนสะกดรอยตามเขา
แต่ความเป็นจริง ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะออกไปเขาได้ทิ้งกระดาษแผ่นนึงไว้ในกระดาษเขียนแผนที่เขาวางไว้
ไป๋ยี่เฟยมองพวกเขาก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ฉันเดาออกว่าเป้าหมายของพวกแกคืออะไร ก็คงจะไม่พ้นพวกคลังเก็บทอง ถ้าอย่างนั้นก่อนที่จะให้ฉันหาที่ตั้งของคลังเก็บทองเจอ พวกแกไม่มีทางฆ่าฉัน”
เหลียงเหว่ยชาวหรี่ตา “ดังนั้นนายเลยให้พวกซาเฟยหยางมาที่คลังเก็บทองรอพวกฉันงั้นหรอ?”