แต่ตอนนี้หลินยู่ชังตายแล้ว ต่อให้จับตัวพวกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากมาย
ก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึง หลิวเสี่ยวอิงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่หลินยู่ชัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองนาย
ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึง
หลินขวางรีบออกไปพร้อมรถพยาบาล คนที่ออกไปรวมถึงฉินหัว
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่รถพยาบาลด้วยความรู้สึกสับสนในใจ
หลี่เสว่รีบเดินไปที่ข้างกายเขา ก่อนจะกุมมือของไป๋ยี่เฟยเอ่ยอย่างปลอบใจ “ที่รัก คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆ
หลิวเสี่ยวอิงก็เดินเข้ามาส่ายหน้าเบาๆแล้วเอ่ย “โอกาสรอดน้อยมาก”
ไป๋ยี่เฟยก็พยักหน้าเงียบๆอีกครั้ง
หลิวเสี่ยงอิงเงยหน้าขึ้นมองเห็นเม็ดเหงื่อบนหน้าผากของไป๋ยี่เฟย ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงทันที “คุณเป็นอะไรไป?โดนบาดแผลอีกแล้วใช่มั้ย?”
หลี่เสว่เห็นฉากนี้เข้า ก็หลบสายตาทันที
ไป๋ยี่เฟยใจเต้นขึ้นมาทันทีรีบส่ายหน้าพลางพูด “ไม่เป็นไรๆ”
หลิวเสี่ยวอิงรีบเอ่ยออกคำสั่ง “รีบกลับไปนั่งเถอะค่ะ”
ไป๋ยี่เฟยก็หมดหนทางทำได้เพียงเดินกลับไปนั่งบนรถเข็น
มีอีกอย่างหนึ่ง ตอนที่หลิวเสี่ยวอิงเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วงนั้นถึงแม้ว่าหลี่เสว่จะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาแต่มือของหลี่เสว่ที่กุมมือเขาอยู่ก็กำแน่นขึ้นมาทันที ก่อนจะคลายออก
……
กลับมาถึงโรงพยาบาล ภายในห้องพักผู้ป่วยก็เหลือเพียงหลี่เสว่และไป๋ยี่เฟยสองคน
หลี่เสว่ก็เอ่ยถามไป๋ยี่เฟยขึ้นมาทันที “คุณคิดว่าหลิวเสี่ยวอิงเป็นยังไงคะ?”
ไป๋ยี่เฟยใจเต้นขึ้นมาทันทีจากนั้นก็แสดงสีหน้าสงบนิ่งก่อนจะพูด “เธอคนนี้ไม่เลวเลยนะ
โดนเฉพาะด้านเทคนิคทางการแพทย์”
“จริงค่ะ และก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากด้วย” หลี่เสว่พยักหน้า
ไป่อี้เฟยยังคงเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หลี่เสว่เอ่ยต่อ “และอีกอย่างเธอก็ปฏิบัติต่อคุณ……”
แต่เธอก็พูดเพียงครึ่งเดียวและไม่ยอมพูดต่อพลางจ้องหน้าไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยยิ่งไม่กล้าพูดเข้าไปใหญ่
“เธอปฏิบัติต่อคุณไม่เหมือนคนอื่น” หลี่เสว่พูดต่อจนจบ
ไป๋ยี่เฟยรีบตอบ “ผมเป็นเจ้านายของเธอนะ จะเหมือนกันได้ไง?”
หลี่เสว่จ้องหน้าไป๋ยี่เฟยและไม่ให้โอกาสเขาได้หลีกหนีใดๆทั้งสิ้น และพูดออกมาตรงๆ “หลิวเสี่ยวอิงชอบคุณ”
ไป๋ยี่เฟยมองหน้าหลี่เสว่อย่างตกตะลึง และพูดอะไรไม่ออกมาแม้แต่คำเดียว
หลี่เสว่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะพูด “คุณอย่ามาพูดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ไม่เชื่ออะไรพวกนั้นออกมานะคะ เพราะฉันดูออก”
“อีกอย่าง ฉันคิดมาตลอดว่าควรจะทำอย่างไรดีกับความสัมพันธ์ของเราทั้งสามคนดี?”
“ที่รัก คุณอย่าคิดมากนะคะไม่ใช่ว่าฉันใจแคบ เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันยังไงดี”
ไป๋ยี่เฟยกลับกุมมือของหลี่เสว่และพูด “คุณไม่ด็ใจแคบเลยที่รัก ผมต่างหากที่ใจแคบ”
หลี่เสว่ได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
หลี่เสว่จึงทำได้เพียงเดินไปเปิดประตู พบว่าเป็นไป๋หยุนเผิงกับอู๋กุ้ยเซียง
อู๋กุ้ยเซียงเดินเข้ามาก็ตรงไปที่เตียงของไป๋ยี่เฟยทันที เอ่ยถามเขาอย่างเจ็บปวดหัวใจ
ไป๋หยุนเผิงเดินตามหลังอู๋กุ้ยเซียง เข้ามายืนอยู่ปลายเตียงมองไป๋ยี่เฟย
หลี่เสว่ก็เอ่ยขึ้นมา “พ่อคะ แม่คะเชิญนั่งก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวหนูไปกดน้ำมาให้”
อู๋กุ้ยเซียงที่แต่เดิมกำลังถามไถ่ไป๋ยี่เฟย ก็หันมาเอ่ยกับหลี่เสว่ทันที “ไม่ต้องๆ แม่ไปเอง
เสว่เอ๋อตอนนี้หนูห้ามเหนื่อยเลยนะ”
หลี่เสว่ยิ้มบางๆถือกระติกน้ำเหมือนเดิมและพูด “คุณแม่คะไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูไปเองดีกว่า”
หลี่เสว่เดินถือกระติกน้ำไปที่ห้องกดน้ำจริงๆ แล้วภายในใจของเธอยังคงคิดถึงเรื่องที่คุยกับไป๋ยี่เฟยเมื่อสักครู่
พวกเขาควรทำอย่างไรดี?
อีกอย่างที่หลี่เสว่บอกว่าเธอไม่ได้ใจแคบ มันจะเป็นไปได้ยังไง?
ถ้าเป็นผู้หญิงไม่มีทางไม่ใจแคบกับเรื่องแบบนี้
หลี่เสว่คิดไปคิดมาดวงตาก็แดงก่ำ
ตอนที่หลี่เสว่ต้องการหย่ากับไป๋ยี่เฟย เธอก็อยากจะจับคู่ให้หลิวเสี่ยวอิงและไป่อี้เฟย
เธอทำให้หลิวเสี่ยวมีความหวังอันริบหรี่ แต่ตอนนี้เธอต้องดับความหวังนี้
นี่มันถือว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายสำหรับหลิวเสี่ยวอิง
หลี่เสว่รู้สึกผิดดังนั้นเธอจึงต้องการชดเชยให้หลิวเสี่ยวอิง
เธอคิดหาวิธีชดเชยมากมาย แต่วิธีที่ดีที่สุดในการชดเชยหลิวเสี่ยวอิงกลับเป็นวิธีที่ทำร้ายตัวเองมากที่สุด
……
ตกดึก
ที่วิลล่าตระกูลจู มีรถหรูหลายคันแล่นเข้าไป
หนึ่งในนั้น มีรถเบนท์ลีย์มีจูฉวนจุนน้องชายแท้ๆของจูฉวนอู่นั่งอยู่อีก
ตอนนี้คนของตระกูลจูกำลังลักลอบหนีออกจากเมืองหลวง นี่เป็นคำสั่งของจูฉวนจุน
บนรถจูซู่ลูกชายของจูฉวนจุนเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมพวกเราต้องหนีด้วย ส่งตัวหนิวต้ายคืนไปก็จบแล้วไม่ใช่หรอครับ?”
“มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น” จูฉวนจุนส่ายหน้าเอ่ย “มีข่าวว่ามาว่าลุงของแกถูกคนจากเบื้อง
บนฆ่าตาย ฉะนั้นพวกเราต้องรีบหนีออกจากเมืองหลวง”
“คนเบื้องบน?” จูซู่ตกตะลึงทันที
จูฉวนจุนพยักหน้า “คนจากเบื้องบนก็เป็นตัวแทนของประเทศ และลุงของแกถูกฆ่าแบบนี้ พวกเราทั้งตระกูลจูต้องโดนสอบสวนแน่นอน”
“เข้าใจแล้วครับ” จูซู่พยักหน้า
จากนั้นจูฉวนจุนก็พูดอย่างเย็นชา “ไม่อย่างนั้น แกคิดว่ากับอีแค่นักธุรกิจตัวเล็กๆอย่างไป๋ยี่เฟยเราจะกลัวมันหรอ? ลุงของแกก็ไม่มีทางตายในเนื้อมือมัน!”
“ยิ่งไปกว่านั้น หนิวต้ายยังมีประโยชน์ไม่มีทางปล่อยตัวไปได้ แม้ว่าลุงของแกจะถูกฆ่าโดยคนจากเบื้องบน แต่มันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้ไป๋ยี่เฟยเมื่อเรื่องนี้สงบลงเราจะใช้หนิวต้ายจัดการกับไป๋ยี่เฟย
“แล้วถ้ามันขวางเราล่ะครับจะทำยังไง?”จูซู่พยักหน้า และทันใดนั้นก็นึกถึงคำถามนี้
จูฉวนจุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยา “มันน่ะหรอ? มันยังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลจะมาขวางเราได้เหรอ?”
“อีกอย่างต่อให้มันมาขวางพวกเราเราก็ไม่กลัว!”
หลังจากพูดแบบนี้ทันใดนั้นเขาก็เบรกอย่างแรง
“เอี๊ยดด……”
กลางถนนจู่ๆก็มีคนในชุดดำหลายสิบคนปรากฏตัวขึ้น
ด้านหน้ามีชายสวมหน้ากากสีดำ และทั้งสองข้างของเขามีชายร่างสูงและหญิงรูปร่างอวบยืนอยู่
เห็นได้ชัดว่านี่คือคนของไป๋ยี่เฟย ทั้งเฉินอ้าวเจียว ไป๋หู่และจงเหลียน
ดังนั้นจูฉวนจุนที่นั่งอยู่ในรถจึงตื่นตระหนกทันที
ตอนแรกที่เขาได้ยินว่าไป๋ยี่เฟยและเต้าจ่างต่อสู้กันในพื้นที่วิลล่า เขาจึงใช้คนชุดดำจำนวนมากเพื่อขวางไว้เป็นเวลานาน
จูซู่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ดังนั้นหลังจากที่เห็นคนชุดดำเหล่านี้
เขาก็เดาได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นคนของไป๋ยี่เฟย จากนั้นก็ตกใจทันที “พ่อ ทำยังไงดี?”
หลังจากตื่นตระหนกครู่หนึ่ง จูฉวนจุนก็สงบลงอีกครั้ง “เขาคิดว่าที่ตระกูลจูของเราเป็นหนึ่งในสิบตระกูลอภิมหาเศรษฐี เป็นแค่เรื่องพูดเล่นๆเท่านั้นหรอ?”
“ตระกูลจูของเราก็มียอดฝีมือเช่นกัน และก็มียอดฝีมือระดับที่สามมากกว่าสิบคน”
จูฉวนจุนออกคำสั่ง “ลงจากรถแล้วจัดการมันซะ”
จากนั้นก็มีคนออกมาจากขบวนรถตระกูลจูจำนวนมาก โดยแต่ละคนมีอาวุธประจำตัวอยู่ในมือ
ฉากการต่อสู้อย่างดุเดือดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
……
เมืองหลวงเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด แต่ก็เป็นสถานที่ที่มีความขัดแย้งมากที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋หยุนเผิงเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของไป๋ยี่เฟย
เนื่องจากหลี่เสว่กำลังจะทำการตรวจครรภ์ ดังนั้นภายในห้องจึงเหลือไป๋ยี่เฟยแค่คนเดียว
ไป๋หยุนเผิงหยิบแท็บเล็ตเดินไปหาไป๋ยี่เฟยแล้วยื่นให้เขา “นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน”
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดูเขาก็ตะลึง
“ทุกคนในตระกูลจูถูกสังหารในชั่วข้ามคืน? เหลือเพียงจูซู่ลูกชายของจูฉวนจุน? นี่มัน…”