“อายุก็ไม่เยอะ ทำไมปากดีอย่างนี้!”
เมื่อพูดจบ ผู้ชายที่มีหนวดเคราเต็มหน้าและใบหน้าก็ยังมีรอยแผลเป็นคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่เขาและถามด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา:“คุณเป็นใคร?”
“ฉันคือคุณชายน้อยของตระกูลหงชื่อหงฉี”ชายที่ไว้หนวดเคราพูดด้วยความยโส
ไป๋ยี่เฟยหรี่ตาทันที น้ำเสียงของเขาเย็นชามากๆ“คุณคือหงฉี?”
เมื่อรู้ว่าเขาคือหงฉี ถ้าพวกเราสามารถจับตัวเขาไว้ได้ ก็นำตัวเขามาเป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อให้ตระกูลหงปล่อยตัวลู่เหมียวเหมียว
แต่ในเวลานี้ หงฉีทำท่าทางแข็งแกร่งไม่ยอมถอย“ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นคุณชายน้อย เมื่อเห็นหน้าฉันแล้ว ไม่ยอมคุกเข่า คุณใจกล้ามาก?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไป๋ยี่เฟยหัวเราะอย่างเย็นชา
ผ่านไปชั่วครู่ ไป๋ยี่เฟยก็พุ่งออกไป
หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของไป๋ยี่เฟย ฉางเชี่ยวรู้ได้ทันทีและก็รีบวิ่งตามเขาไป
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆหงฉีเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็รีบโอบล้อมหงฉีไว้ และเตรียมตัวต่อสู้ทันที
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆหงฉีไม่ใช่บอดี้การ์ดทั่วไป พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือระดับที่สาม
ยอดฝีมือระดับที่สามทั้งหมดห้าคน พุ่งมาหาไป๋ยี่เฟยอย่างรวดเร็ว
แต่บอดี้การ์ดห้าคนนี้โดนฉางเชี่ยวและคนอื่นๆจำนวนหกคนขวางไว้
ไม่มีใครขวางทาง ทำให้ไป๋ยี่เฟยพุ่งตรงไปยังด้านหน้าของหงฉี
ในขณะที่ไป๋ยี่เฟยอยู่ห่างจากหงฉีประมาณสามเมตร จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ตกใจทันที
โดยทั่วไป ตอนนี้หงฉีควรจะกลัวจนรีบถอยหลัง หรือไม่ก็คงให้บอดี้การ์ดพุ่งมายังข้างหน้า เพื่อหยุดตัวเองไว้
แต่หงฉีไม่ได้ถอยหลังและยังยิ้มให้ไป๋ยี่เฟยอย่างมีนัยยะ
ไป๋ยี่เฟยรู้ได้ทันทีว่าต้องมีอะไรแน่นอน แต่เขาพุ่งมาอยู่ด้านหน้าของหงฉีแล้ว มันสายเกินไปที่จะหยุดการกระทำ
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยก็ยกกำปั้นขึ้นแล้วชกไปที่หงฉี
ในขณะนี้ หงฉีก็ยกกำปั้นของตัวเองขึ้นมาแล้วชกใส่กำปั้นของไป๋ยี่เฟย
“บูม!”
มีเสียงดังขึ้น และไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าใส่ตัวเอง
ทำให้เขาถอยหลังและปลิวออกไป
“บูม!”
ไป๋ยี่เฟยล้มลงกับพื้นแล้วเขาก็รีบลุกขึ้นมาทันที
ฉางเชี่ยวและคนอื่นๆเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาตกใจมาก รีบบีบให้ยอดฝีมือห้าคนนั้นล่าถอย จากนั้นรีบพุ่งเข้ามาล้อมไป๋ยี่เฟยไว้
หงฉีบิดข้อมือของตัวเอง พูดอย่างดูถูกว่า:“คุณกล้าดียังไง มาต่อสู้กับฉัน?”
“เอื้อก!”
ไป๋ยี่เฟยทนไม่ไหวจนต้องอาเจียนเลือดออกมา มองดูหงฉีด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
หลันเต่ามียอดฝีมือระดับที่สองไม่เกินสองคน แต่ใครก็ไม่คาดคิด หนึ่งในนั้นจะเป็นหงฉี
หงฉีเป็นคุณชายน้อย เป็นคนบ้ากามที่มีชื่อเสียง ชอบเที่ยวผู้หญิง แต่เขาที่เป็นคนแบบนี้ กลับเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง
ไป๋ยี่เฟยพูดกับฉางเชี่ยวและคนอื่นๆด้วยสีหน้ากังวล:“เขาเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง พวกเจ้าระวังตัวด้วย”
ฉางเชี่ยวและคนอื่นๆพยักหน้า เพราะพวกเขาก็มองออก
หงฉีเหลือบมองพวกเขาด้วยสายตาเฉยเมย เขายังคงพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า:“วันนี้ ที่จริงพวกเจ้าต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด แต่ว่าฉันเป็นคนชอบคนมีความสามารถ”
“ฉันเห็นพวกคุณมีฝีมือไม่เลว เอาอย่างนี้แล้วกัน เรื่องที่พวกคุณมาก่อเรื่องที่ตระกูลหงฉันจะไปขอร้องคุณพ่อให้เอง ไม่เอาเรื่องพวกคุณ แต่พวกคุณต้องติดตามฉันและเป็นลูกน้องของฉัน”
“พวกคุณวางใจได้ หลังจากเป็นลูกน้องของฉัน พวกคุณสามารถทำอะไรก็ได้ในเขตที่สี่ ไม่มีใครกล้ามายุ่ง”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไป๋ยี่เฟยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ“พวกเรามาก่อเรื่องที่ตระกูลหงและฆ่าบอดี้การ์ดของพวกคุณไปเยอะขนาดนั้น คุณไม่แม้แต่คิดจะกะพริบตาเลยด้วยซ้ำ”
“แค่คิดก็รู้ การเป็นลูกน้องของคุณ จะโดนคุณเอามาเป็นโล่กันบังได้ตลอดเวลา และคุณก็ไม่เคยสนใจลูกน้องจะตายหรือเปล่า ฉันไม่โง่ที่จะไปเป็นลูกน้องคุณแน่ๆ!”
คำพูดของไป๋ยี่เฟย ทำให้บอดี้การ์ดของตระกูลหงก้มหัวลง
เพราะสิ่งที่ไป๋ยี่เฟย มันเป็นเรื่องจริง ในสายตาของหงฉี ชีวิตของลูกน้องไม่มีค่า
อยู่ในหลันเต่ามันก็เป็นแบบนี้แหละ ถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะในเขตที่สี่ ตระกูลหงก็เหมือนกับสวรรค์ คนธรรมดาจะต่อสู้กับสวรรค์ได้ไหม?
หงฉีเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่าเขามองความคิดของเขาออก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ถ้าเป็นแบบนี้ ก็คงมีทางเลือกเดียว นั่นคือความตาย!”
“มาเลย วันนี้ฉันก็อยากรู้ว่าใครจะเสียชีวิตกันแน่!”ไป๋ยี่เฟยยืดอกแล้วตะโกนออกมา
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยพูดจบ จู่ๆก็มีคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขากระโดดออกมาจากฝูงชน มาถึงด้านหน้าไป๋ยี่เฟยอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น เขาพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ดูให้ดีๆ!”
ผ่านไปชั่วครู่ เขาปรากฏตัวด้านข้างของฉางเชี่ยว เขาหยิบมีดสั้นออกมา แล้วแทงไปที่ฉางเชี่ยว
“ระวัง!”
ไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆอุทานออกมาพร้อมกัน
ในเสี่ยววินาที ชายหัวโล้นที่อยู่ข้างๆฉางเชี่ยว ผลักฉางเชี่ยวออกไป จากนั้นมีดสั้นก็แทงเข้าไปในร่างกายของชายหัวโล้น
ในเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยมองเห็นชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นใคร
คนๆนี้เป็นศิษย์น้องเต้าจ่าง
ศิษย์น้องเต้าจ่างยิ้มให้กับไป๋ยี่เฟย จากนั้นเขาก็จับมีดสั้นไว้แน่แล้วลากเป็นแนวนอน
ทำให้ท้องของชายหัวโล้นโดนกรีดเป็นแผลแนวนอนที่ยาวมาก
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ฉางเชี่ยวโกรธจัดขึ้นมาทันที
“แม่งเอ๊ย!”
ฉางเชี่ยวรีบพุ่งเข้าไป
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่ได้คิด ทำไมศิษย์น้องเต้าจ่างถึงอยู่ที่นี่ และเขาก็ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าเต้าจ่างจะอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า?
เขารู้เพียงอย่างเดียว ศิษย์น้องเต้าจ่างก็เป็นยอดฝีมือระดับที่สอง เมื่อเห็นฉางเชี่ยวพุ่งเข้าไป ไป๋ยี่เฟยก็พุ่งเข้าไปพร้อมกับเขา
ในขณะนี้ หงฉีก็มาอยู่ข้างๆศิษย์น้องเต้าจ่าง พวกเขาเผชิญหน้ากับไป๋ยี่เฟยและฉางเชี่ยวแล้วก็พุ่งเข้าหากัน
ศิษย์น้องเต้าจ่างและหงฉีต่างเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง ขณะที่ฉางเชี่ยวและไป๋ยี่เฟยเป็นยอดฝีมือระดับที่สามเหมือนกัน ใครเก่งกว่ากัน ไม่ต้องพูดก็รู้
นี่คือผลลัพธ์ที่ทุกคนก็รู้
ไป๋ยี่เฟยก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง
ในสถานการณ์แบบนี้ ตาของเขาเริ่มแดงขึ้น
การเข้าสู่ภาวะแปรสภาพของไป๋ยี่เฟย ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถควบคุมได้ แต่ช่วงนี้เขาเข้าสู่ภาวะแปรสภาพหลายครั้ง และเงื่อนไขสำหรับการเข้าสู่ภาวะแปรสภาพของเขาต่ำลงเรื่อยๆ
เมื่อก่อน เขาจะเข้าสู่ภาวะแปรสภาพจะต้องโกรธจนสุดขีด แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เขาต้องการเพียงแค่โอกาสหรือตัวกลาง จากนั้นเข้าสู่ภาวะแปรสภาพด้วยสภาพจิตใจของเขาเอง
ตอนนี้ก็เหมือนกัน เป็นเพราะชายหัวโล้นช่วยชีวิตฉางเชี่ยวไว้ โดนศิษย์น้องเต้าจ่างกรีดท้องจนไส้ไหล
ฉางเชี่ยวโกรธจนตาแดง แต่เขาไม่ได้เหมือนกับไป๋ยี่เฟย เขาเพียงแค่โกรธจัดและกังวล ดังนั้นเขาจึงรีบพุ่งออกไปอย่างไม่สนใจใคร ยกกำปั้นขึ้นมาแล้วชกไปที่ศิษย์น้องเต้าจ่าง
ศิษย์น้องเต้าจ่างใช้มีดสั้นแทงออกไป
ถ้าศิษย์น้องเต้าจ่างไม่ยอมหลบ เขาก็จะโดนกำปั้นของฉางเชี่ยว แต่ในเวลาเดียวกัน ฉางเชี่ยวก็จะโดนแทงด้วยมีดสั้นของศิษย์น้องเต้าจ่าง
ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉางเชี่ยวก็จะได้รับบาดเจ็บ
ในขณะนี้ จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็พุ่งออกมาทันที เขาเร็วมากและชนฉางเชี่ยวออกไป จากนั้นเขายกข้อศอกของตัวเองขึ้นมา แล้วทุบไปที่มือของศิษย์น้องเต้าจ่าง
“บูม!”
“เคร้ง!”
ศิษย์น้องเต้าจ่างโดนกระแทกอย่างแรง ทำให้มือของเขาชา และมีดสั้นก็ตกลงที่พื้น
ผ่านไปชั่วครู่ ศิษย์น้องเต้าจ่างมองไป๋ยี่เฟยด้วยสีหน้าจริงจัง และเขาก็ตกใจมากๆ
แต่หงฉีไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของไป๋ยี่เฟย และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คนโง่ที่ไม่รู้จักประมาณพลังของตัวเอง!”
หลังจากพูดจบ หงฉีก็ชกออกไปหนึ่งหมัด
และไป๋ยี่เฟยก็ชกออกไปหนึ่งหมัดเหมือนกัน
หมัดของพวกเขาปะทะกันอีกครั้ง