แต่มันไม่เหมือนกับครั้งแรก หลังจากการปะทะกัน ครั้งนี้ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ปลิวออกไปอย่างที่หงฉีจินตนาการไว้
ไป๋ยี่เฟยไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว ในเวลาเดียวกัน หงฉีรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ชกโดนหมัด แต่กลับรู้สึกตัวเองชกโดนฟองน้ำ
หงฉีอึ้งไปชั่วขณะ
“อ้า!”
จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ตะโกนออกมา
หลังจากนั้น มีพลังมหาศาลเกินกว่าหงฉีจะจินตนาการได้พุ่งเข้าหาเขา ราวกับว่ามีภูเขาลูกใหญ่ปรากฏขึ้นแล้วทับลงมาที่เขา
“อ้า!”
หงฉีกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นร่างกายของเขาก็ปลิวออกไป
“ตูม!”
คราวนี้สถานการณ์ตรงกันข้ามกับครั้งที่แล้ว คนที่ปลิวออกไปแล้วล้มลงกับพื้นคือหงฉี
เมื่อศิษย์น้องเต้าจ่างเห็นเหตุการณ์ไม่ดี เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว หันหลังและวิ่งหนีไป
แต่เวลานี้ ความเร็วของเขาเทียบความเร็วของไป๋ยี่เฟยไม่ได้?
เมื่อศิษย์น้องเต้าจ่างเพิ่งหันหลังเพื่อจะหนี ไป๋ยี่เฟยก็เตะแผ่นโดนหลังของเขาทันที
“ตูม!”
ศิษย์น้องเต้าจ่างปลิวออกไป แล้วตกลงไปที่พื้น
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างก็ตกตะลึง
ฉางเชี่ยวตะลึง:เขาคือไป๋ยี่เฟยจริงเหรอ?เมื่อก่อนเขากับฉันสู้กันได้อย่างสูสีไม่ใช่เหรอ?
เขาในตอนนี้แข็งแกร่งมากๆ?
หงฉีลุกขึ้นมาจากพื้น เขาถอยหลังไปและมองไป๋ยี่เฟยด้วยความกลัว:“เขาเป็นตัวอะไรกันแน่?”
ตอนนั้นที่ไป๋ยี่เฟยต่อสู้กับเต้าจ่าง ไป๋ยี่เฟยเข้าสู่ภาวะแปรสภาพ เขาใช้ศีรษะตัวเองกระแทกยอดฝีมือระดับที่สองจนสลบและศิษย์น้องเต้าจ่างก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น
ศิษย์น้องเต้าจ่างในตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะเขาสามารถเอาชนะยอดฝีมือระดับที่สองคนนั้นได้
แต่ว่า ครั้งนี้ที่เห็นไป๋ยี่เฟยเข้าสู่ภาวะแปรสภาพ มันแตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ในเวลาเดียวกัน เขาก็สังเกตเห็นเส้นผมของไป๋ยี่เฟยก็เปลี่ยนเป็นสีขาว
ถึงแม้ไป๋ยี่เฟยจะย้อมสีผมก็ไม่สามารถปิดบังเส้นผมสีขาวได้
ศิษย์น้องเต้าจ่างพูดด้วยความประหลาดใจ:“นี่เขาแปลงร่างใช่ไหม?”
“มันเป็นตัวอะไร?”หงฉีงุนงงมากขึ้น“อะไรคือแปลงร่าง?นึกว่าตัวเองเป็นอุลตร้าแมนเหรอ?”
แต่เมื่อเขาเห็นเส้นผมสีขาวของไป๋ยี่เฟย หงฉีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่ออีกครั้ง“แม่งเอ๊ยเเปลงร่างจริงๆด้วย?มันเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการ?”
“แม่งเอ๊ย ไม่สนใจแล้ว พวกเจ้าทุกคนไปจัดการมันซะ!”
ที่เขาพูดคำนี้ออกมา อันที่จริงเป็นเพราะหงฉีกลัวมากๆ
หงฉีเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง แต่บอดี้การ์ดพวกนี้เป็นแค่บอดี้การ์ดทั่วไป ถ้าต้องเข้าไปต่อสู้ หงฉีคนเดียวก็พอแล้ว แต่เขาไม่กล้าเข้าไป
เพราะเขารู้สึกได้ว่าพลังของไป๋ยี่เฟยเมื่อสักครู่แข็งแกร่งมากๆ
ดังนั้นหงฉีจึงเรียกพวกเขาทั้งหมดเข้าไปต่อสู้ เพื่อให้พวกเขาหยุดไป๋ยี่เฟยไว้
และบอดี้การ์ดพวกนั้น บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในหลันเต่านานเกินไป ถึงแม้พวกเขาจะกลัวมากๆ ถึงแม้พวกเขาจะกลัวเสียชีวิต แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของหงฉี ตะโกนแล้วพุ่งเข้าหาไป๋ยี่เฟย
และไป๋ยี่เฟยในขณะนี้ก็เข้าสู่ภาวะแปรสภาพ
ในสายตาของเขา ทุกคนเป็นสัตว์ประหลาด เป็นสัตว์ประหลาดที่ต้องการจะฆ่าเขา
ดังนั้นความคิดของเขาคือต้องฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ทั้งหมด!
คนแรกที่พุ่งเข้ามา ไป๋ยี่เฟยหันหลังเล็กน้อย ใช้กำปั้นชกไปที่หน้าอกของเขา
“ผลัวะ!”
หน้าอกของคนๆนั้นยุบลงไปเลย และด้านหลังของเขาก็นูนขึ้นมา
เห็นได้อย่างชัดเจน หัวใจของคนๆนั้นโดนไป๋ยี่เฟยต่อยจนผิดรูปและเปลี่ยนตำแหน่ง เกือบจะทะลุออกมาจากด้านหลัง
หลังจากนั้น ไป๋ยี่เฟยหันหลังแล้วจับตัวคนที่พุ่งเข้ามาเป็นคนที่สอง ใช้หมัดต่อยใส่ศีรษะของเขา
จากนั้น ศีรษะของชายคนนี้ก็ระเบิด
เลือดสาดกระจาย
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนตะลึงและตกใจมากๆ
อึ้งไปเลย
ถึงแม้พวกเขาจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่พวกเขาไม่เคยเห็นเทคนิคการฆ่าคนแบบนี้มาก่อน
มันโหดเหี้ยมเกินไป
บวกกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขา ทำให้ทุกคนกลัวมากๆจากก้นบึ้งของหัวใจ
ทุกคนหวาดกลัวสุดๆ
ทำให้พวกเขาไม่กล้าพุ่งเข้าไป ทุกคนเดินถอยหลัง แล้วหนีไป
หงฉีกับศิษย์น้องเต้าจ่างกลัวจนตัวสั่น
หงฉีจ้องมองไป๋ยี่เฟยด้วยความหวาดกลัว“เขาเป็นตัวอะไรกันแน่?”
“แม่งเอ๊ย ฉันก็ไม่รู้?”ศิษย์น้องเต้าจ่างส่ายหัว น้ำเสียงสั่นเครือ
ชายคนที่ใส่ต่างหูอันใหญ่ทั้งตกใจทั้งกลัวและพูด:“เขาแข็งแกร่งมาก!”
ตอนนี้ฉางเชี่ยวและคนอื่นๆลืมเรื่องที่ชายหัวโล้นตายไปแล้ว เพราะพวกเขากำลังตกใจมากกับไป๋ยี่เฟยที่แข็งแกร่งขนาดนี้
ทันใดนั้น มีคนพูดว่า:“เขาเป็นแบบนี้ มันดีหรือเปล่า?”
“พวกเราควรหยุดเขาไหม?”
ฉางเชี่ยวได้สติ เขาก็เข้าใจได้ในทันที ดังนั้นเขาจึงมาถึงข้างๆไป๋ยี่เฟย ใช้มือตบไหล่ของไป๋ยี่เฟยเบาๆและพูด“ไป๋ยี่เฟย ใจเย็นๆ”
ไป๋ยี่เฟยรีบหันหลังทันที ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองไปที่ฉางเชี่ยว
ฉางเชี่ยวเห็นดวงตาคู่นี้ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและความกระหายเลือด เขาตกตะลึงไปเลย
“ลูกพี่ใหญ่ ระวัง!”
ด้านหลังของฉางเชี่ยว มีเสียงเตือนดังขึ้น
……
ไป๋ยี่เฟยที่เข้าสู่ภาวะแปรสภาพจะไม่มีสติสัมปชัญญะ และไม่สามารถแยกแยะใครคือมิตรหรือศัตรู
ตอนนี้ในสายตาของเขา ฉางเชี่ยวเป็นแค่สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างอัปลักษณ์ เป็นสัตว์ประหลาดที่ต้องการเอาชีวิตเขา
แต่เขารู้สึกว่ามือของฉางเชี่ยวได้ส่งความรู้สึกบางอย่างมาให้เขา แต่เนื่องจากเขาไม่เข้าใจ จึงทำให้เขาหงุดหงิดและคิดไม่ออก จึงมีคำเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือตาย!
ทุกสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ออก ต้องตายทั้งหมด
“อ้า!”
ไป๋ยี่เฟยตะโกนออกมา จ้องมองไปที่ฉางเชี่ยว จากนั้นใช้ศีรษะของตัวเองโขกไปที่ศีรษะของฉางเชี่ยว
ไป๋ยี่เฟยเข้ามาเร็วมาก ฉางเชี่ยวรีบตอบสนองทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือระดับที่สาม แต่ภายใต้สถานการณ์นี้ เขาทำได้เพียงยกแขนของตัวเองขึ้นมาเพื่อปกป้องศีรษะของตัวเอง
แต่ถึงกระนั้น เมื่อศีรษะของไป๋ยี่เฟยกระแทกโดนแขนของเขา เขาได้ยินเสียงกระดูกหักดังขึ้น จากนั้นเขาก็ปลิวออกไปจากแรงกระแทกอันมหาศาล
“ลูกพี่ใหญ่!”
ลูกน้องหลายคนของฉางเชี่ยวรีบพุ่งเข้ามาปกป้องฉางเชี่ยวไว้
หงฉีกับศิษย์น้องเต้าจ่างตกตะลึงไปเลย
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เขาทำร้ายคนพวกเดียวกันด้วยเหรอ?”
บอดี้การ์ดของตระกูลหงก็ตกตะลึงเหมือนกัน
แต่เห็นชัดว่า สำหรับหงฉีและคนอื่นๆ นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องส่งคนของตัวเองไปตาย
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ในภาวะแปรสภาพในขณะนี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเขาได้
อีกด้าน ฉางเชี่ยวพยายามลุกขึ้นมา มีรอยเลือดไหลออกมาจากมุมปาก และแขนขวาของเขาน่าจะหักไปแล้ว
เมื่อเห็นฉางเชี่ยวในสภาพนี้ ทำให้ชายใสต่างหูอันใหญ่ตะโกนใส่ไป๋ยี่เฟย:“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?ลูกพี่ใหญ่ของเรามาช่วยคุณนะ!”
คนอื่นๆที่เหลือมองไป๋ยี่เฟยด้วยความแค้นและความโกรธ