ทั้งๆที่พวกเขามาช่วยไป๋ยี่เฟย แต่ไป๋ยี่เฟยต้องการฆ่าพวกเขา ไม่ว่าใครก็ตามถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ต้องโกรธสุดๆ
“เขาน่าจะบ้าไปแล้วจริงๆ”จู่ๆฉางเชี่ยวก็พูดออกมา
สีหน้าของฉางเชี่ยวปกติ เห็นเพียงความเคร่งขรึม น้ำเสียงของเขาไม่มีความแค้นและความโกรธเลย
ทำให้คนอื่นๆที่ได้ยินคำพูดนี้ ต่างตกตะลึงเหมือนกัน
หลังจากนั้น ทุกคนสังเกตเห็นความผิดปกติของไป๋ยี่เฟย
“ลูกพี่ใหญ่ เส้นผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว!”
“ยังมีดวงตาของเขาด้วย!”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองพวกเขา ราวกับว่าเขาสังเกตเห็นการจ้องมองที่ผิดปกติของพวกเขา ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้น
ไป๋ยี่เฟยอยากจะฆ่าพวกเขา!
ฆ่าทุกคนที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด!
ดังนั้นเขาจึงพุ่งเข้าไปหาฉางเชี่ยวและคนอื่นๆ
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยแข็งแกร่งมากจนน่ากลัว ทำให้ฉางเชี่ยวและคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัว เมื่อไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้ามา พวกเขาก็รีบถอยโดยไม่รู้ตัว
มีเพียงฉางเชี่ยวคนเดียว ที่ไม่ยอมถอยหลัง
แต่เขาก้าวไปข้างหน้า จ้องมองไปที่ไป๋ยี่เฟย ตะโกนออกมา:“ไป๋ยี่เฟย!ตั้งสติหน่อย!”
“ตูม!”
จู่ๆในสมองของไป๋ยี่เฟยก็มีเสียงดังขึ้น
เขารู้สึกเหมือนฟ้าร้องอยู่ในสมองตัวเอง ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง เขาปิดตาลง จากนั้นลืมตาขึ้น
หลังจากนั้น เขาก็เห็นดวงตาคู่หนึ่งที่แน่วแน่เป็นประกายอยู่ตรงหน้าตัวเอง
ในโลกที่มีแต่สัตว์ประหลาดของเขา มองเห็นแสงสว่างที่ต่างกัน
ไป๋ยี่เฟยอึ้งไปเลย
ทุกคนกลั้นลมหายใจไว้และมองไปที่ไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยว
ทั้งสองคนยืนตรงข้ามกันแล้วสบตากัน
……
ศิษย์น้องเต้าจ่างที่ดูสถานการณ์อยู่ข้างๆดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมา:“ฆ่ามัน รีบฆ่ามันเร็วๆ!ฆ่ามันตายแล้วทุกคนถึงจะปลอดภัย!”
คำพูดของศิษย์น้องเต้าจ่าง จู่ๆก็เข้าไปในสมองของไป๋ยี่เฟย ทำลายความเงียบสงบในเวลานี้
ฆ่า!
ฆ่ามัน!
ฉันกำลังฆ่าสัตว์ประหลาดอยู่ไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงกลายเป็นฆ่าคน?
สมองของไป๋ยี่เฟยยุ่งเหยิงไปหมด และในขณะเดียวกันก็เริ่มเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“อ้า!”
จนกระทั่งเขาทนความเจ็บปวดไม่ไหว จู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วตะโกน
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนตกใจและรีบเดินถอยหลังไป
ฉางเชี่ยวและคนอื่นๆได้สติ ก็รีบลากฉางเชี่ยวแล้วเดินถอยหลังหนีไป
“ลูกพี่ใหญ่ รีบหนีเร็ว!”
หงฉีเห็นพวกเขากำลังจะหนีไป รีบตะโกน:“หยุดพวกมันเดียวนี้!”
เมื่อได้ยินคำสั่ง บอดี้การ์ดของตระกูลหงก็ถือมีดแล้ววิ่งตามฉางเชี่ยวและคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนที่พวกเขาเดินผ่านด้านข้างของไป๋ยี่เฟย จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
“อ้า!”
จากนั้น เขาก็หันศีรษะทันที ดวงตาสีแดงที่ค่อยๆจางไป ตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง
ผ่านไปชั่วครู่ ไป๋ยี่เฟยเอื้อมมือออกไป จับคนที่อยู่ใกล้เขาที่สุด และฉีกแขนของคนๆนั้นขาดด้วยมือเปล่า
หลังจากนั้น เขาต่อยออกไปหนึ่งหมัด คนๆนั้นปลิวออกไปและกระแทกคนที่อยู่ด้านหลังล้มลงเจ็ดแปดคน
ไป๋ยี่เฟยพุ่งไปข้างหน้า ยกหมัดแล้วต่อยศีรษะของอีกคน
จากนั้น พวกเขาก็เห็นคนๆนั้นศีรษะแตกกระจาย
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น บอดี้การ์ดทุกคนของตระกูลหงตกใจมาก ทุกคนหันหลังแล้ววิ่งหนี ไม่กล้าไปไล่ตามฉางเชี่ยวและคนอื่นๆ
ในเวลานี้
มีเสียงลมพัดมา
จากนั้น เต้าจ่างที่ใส่ชุดนักพรตบินลงมาจากท้องฟ้า ลงมาอยู่ด้านหลังของไป๋ยี่เฟย
เต้าจ่างใช้ฝ่ามือฟาดไปที่ด้านหลังของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยหันหลังกลับไปแล้วต่อยไปที่ฝ่ามือนั้นทันที
หมัดกับฝ่ามือปะทะกัน
“บูม!”
ก็มีเสียงดังขึ้น
หลังจากนั้น ดูเหมือนทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความคลื่นลมในอากาศ เหมือนกับการโยนก้อนหินลงไปในน้ำ คลื่นมันกระจายไปรอบๆ ทำให้เสื้อผ้าของไป๋ยี่เฟยกับเต้าจ่างสะบัดไปมา
พลังจริงๆของไป๋ยี่เฟย สู้เต้าจ่างไม่ได้
และเต้าจ่างสามารถฆ่าไป๋ยี่เฟยได้โดยฝ่ามือเดียว
แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยอยู่ในภาวะแปรสภาพ
หลังจากปะทะกับหมัดของไป๋ยี่เฟย เต้าจ่างไม่เพียงแค่ฆ่าไป๋ยี่เฟยด้วยฝ่ามือเดียวไม่ได้ ยังทำให้เต้าจ่างต้องถอยหลังหนึ่งก้าว
แน่นอน ไป๋ยี่เฟยต้องถอยหลังไปหลายๆก้าวจากการปะทะกับฝ่ามือของเต้าจ่าง
หลังจากนั้น ดวงตาของไป๋ยี่เฟยก็แดงก่ำมากขึ้น เส้นผมของเขาก็ขาวขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามพลังของเต้าจ่างแข็งแกร่งมาก หลังจากปะทะกับเต้าจ่างไปสามหมัด ไป๋ยี่เฟยก็ถูกกระแทกจนปลิวออกไป
“ตูม!”
ไป๋ยี่เฟยกระแทกเข้ากับประตู จากนั้นล้มลงพื้น
“เอื้อก!”
ไป๋ยี่เฟยหันตัวแล้วอาเจียนเลือดสดคำใหญ่ออกมา
หลังจากอาเจียนเลือดเสร็จ เส้นผมของไป๋ยี่เฟยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ดวงตาสีแดงก็ค่อยๆหายไป
อาจจะเป็นเพราะเขากำลังออกจากภาวะแปรสภาพ ทำให้เขามีสติขึ้นมานิดหนึ่งและเขารับรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้น เขารีบลุกขึ้นมา หันหลังแล้วหนีไปโดยไม่ลังเล
“รีบตามไปเร็ว!”เต้าจ่างขมวดคิ้วแล้วตะโกน
แต่ไม่มีใครกล้าขยับ
เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยเมื่อสักครู่น่ากลัวเกินไป ใครกล้าตามเขาไป ก็ต้องตายแน่ๆ?
ทำให้บอดี้การ์ดทุกคนของตระกูลหงยืนอยู่กับที่และจ้องหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าตามไป
เมื่อหงฉีเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขากัดฟันและพูด:“มันได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเจ้าไม่ต้องกลัว วันนี้ฉันให้สัญญา ถ้าใครสามารถฆ่ามันได้ ได้รับอภิสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ในเขตที่สี่ ขอแค่อย่ามาล่วงเกินผิดใจกับตระกูลหงก็พอ!”
ผู้คนที่อาศัยในเขตที่สี่ พวกเขาอยู่กันเหมือนทาส เมื่อเจอกับข้อเสนอพิเศษที่ล่อใจขนาดนี้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้
ทำให้ทุกคนรีบหยิบมีดยาวของตัวเองขึ้นมา เพื่อชีวิตที่ดีและสุขสบายของตัวเองในอนาคต พวกเขารีบวิ่งไล่ตามไปทันที
……
ไป๋ยี่เฟยใช้แรงเอื้อกสุดท้ายวิ่งไปที่ตรอกมืดๆเล็กๆที่หนึ่ง จากนั้นเขาก็วิ่งต่อไปไม่ไหว เมื่อเขานั่งลงกับพื้นก็สลบไปเลย
ถึงแม้ว่าเขาอยู่ในภาวะแปรสภาพจะสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับที่สองชั้นกลาง แต่ก็ยังยากที่จะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับที่สองชั้นสูงอย่างเต้าจ่างได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขากลับมาเป็นคนธรรมดาปกติ บวกกับทุกครั้งที่ออกมาจากภาวะแปรสภาพ จะทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอมากๆ ตอนนี้เขาไม่มีทางที่จะต่อสู้กับเต้าจ่างได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น หลังจากที่เขามีสติเล็กน้อย ไป๋ยี่เฟยก็วิ่งหนีโดยไม่ลังเล
……
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในตรอกมืดๆเส้นนี้มีคนๆหนึ่งเดินมา
คนๆนี้ผอมแห้งมาก ในมือมีมีดยาวเล่มหนึ่ง
เขาไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นลู่หยาง คนที่ติดตามไป๋ยี่เฟยมาที่ตระกูลหง