ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 791 ประสบการณ์

“มันใหญ่แน่นอนอยู่แล้ว ด้านในมีตั้งสองคน”หลี่เสว่ตอบด้วยรอยยิ้ม

ไป๋ยี่เฟยเห็นแล้วก็ยิ้มและหัวเราะอย่างกวนๆ

ในขณะนี้ จู่ๆหลี่เสว่ก็ถามขึ้นมาทันที:“เสี่ยวอิงอยู่ไหน เธอเป็นยังไงบ้าง?”

ไป๋ยี่เฟยอึ้งไปในทันที ในเวลาเดียวกัน เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆก็รู้สึกผิดขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม:“เธอสบายดี”

อันที่จริงเขาไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดและรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ไม่รู้จะเผชิญหน้ากับหลี่เสว่ยังไง รีบพูดทันที:“ที่รัก นายซามีเรื่องต้องคุยกับฉัน ฉันต้องวางสายแล้วนะ คุณต้องดูแลสุขภาพด้วย”

ซาเฟยหยางยืนอยู่ข้างๆ เมื่อเขาได้ยินก็รีบเดินเข้ามา เผยให้เห็นใบหน้าในวีดีโอคอล แล้วทักทายหลี่เสว่

ไป๋ยี่เฟยรีบวางสายโทรศัพท์ทันที

ไป๋ยี่เฟยไม่รู้ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรหลิวเสี่ยวอิงหรือเปล่า?

ถ้าเขาทำเรื่องที่ผิดต่อหลี่เสว่จริงๆ เขาจะกลับไปจะเผชิญหน้ากับหลี่เสว่ยังไง?

แล้วเขาจะเผชิญหน้ากับหลิวเสี่ยวอิงยังไง?

แล้วเรื่องนี้เขาจะต้องจัดการยังไง?

ไป๋ยี่เฟยถูหน้าตัวเองด้วยความทุกข์ จากนั้นหันไปมองซาเฟยหยาง

ซาเฟยหยางพูดเบาๆ:“เรื่องดูดวงและฮวงจุ้ยฉันถนัด แต่เรื่องความรัก ฉันไม่มีประสบการณ์”

จนถึงตอนนี้ซาเฟยหยางก็ยังไม่เคยแต่งงาน แน่นอนเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย

เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มและพูด:“ไม่พูดเรื่องความรักแล้ว พูดเรื่องกังฟูดีกว่า พวกเราสองคนถนัดเรื่องนี้”

“ตระกูลหงไม่มียอดฝีมือระดับที่สองแล้ว คนที่เหลือก็คือคนที่เต้าจ่างพามาด้วย ตอนนี้พวกเรามีกำลังที่จะต่อสู้กับพวกเขาได้”

“รีบแจ้งทุกคนให้เตรียมตัวต่อสู้”

ถึงแม้ไป๋ยี่เฟยจะหาสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมสงบเล็กน้อย แต่เขาก็ยังอยู่ในร้านบาร์ ดังนั้นทุกการกระทำของเขา บวกกับทุกคำพูดของเขา ลู่เชี่ยนกับลู่เหมียวเหมียวสามารถมองเห็นและรับรู้ได้

ดังนั้นเมื่อลู่เชี่ยนได้ยินคำพูดของไป๋ยี่เฟยแล้ว ใบหน้าที่โศกเศร้าของเธอมีแสดงออกถึงการดูถูกดูแคลน

“เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร เขาต้องการฆ่าล้างตระกูลหง?เขาไม่รู้หรือว่าตระกูลหงมีอำนาจและอิทธิพลแค่ไหน?”ลู่เชี่ยนพูดกระซิบกับลู่เหมียวเหมียว

ลู่เหมียวเหมียวกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเธอเคยเห็นไป๋ยี่เฟยฆ่าหงฉีมาแล้ว ทำให้เธอกระซิบพูดกับลู่เชี่ยนเบาๆ:“พี่สาว เขา……อาจจะทำได้จริงๆ”

ลู่เชี่ยนไม่เพียงไม่เชื่อและยังดูถูกดูแคลนด้วย

……

ในคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลหง

หงฟ่านกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ข้างๆมีโต๊ะเล็กๆวางอยู่ บนโต๊ะมีกาน้ำชาและถ้วยน้ำชาอยู่ น้ำชาในถ้วยร้อนจนมีไอน้ำพุ่งขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเทน้ำชาลงไปในถ้วย

และด้านหลังของเขา มีผู้หญิงสวยๆคนหนึ่งกำลังนวดไหล่ให้เขาอยู่

หงฟ่านจิบน้ำชาอย่างสบายใจ และกำลังเพลิดเพลินกับการนวดของผู้หญิงคนนั้น

ในความคิดของหงฟ่าน ไป๋ยี่เฟยเป็นเพียงแค่สามัญชนธรรมดาทั่วไป เขาไม่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวเหมือนกับเต้าจ่าง หรือแม้แต่ให้คนของเต้าจ่างออกโรง

หงฟ่านถอนหายใจและพูดว่า:“ถ้าใช้เพียงคนของตระกูลหงไปจับตัวไป๋ยี่เฟย คงต้องใช้ทรัพยากรมากกว่า30%แน่นอน”

ผู้หญิงคนสวยที่กำลังนวดไหล่ให้หงฟ่าน เธอก็ถือว่ามีสถานะในระดับหนึ่งในตระกูลหง เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ดังนั้นเธอจึงยิ้มและตอบว่า:“ท่านประธานเป็นคนใจกว้าง ถึงแม้จะจับตัวเขาได้ มันก็จับตัวได้ในเขตควบคุมของพวกเราไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อหงฟ่านได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้ม จากนั้นหยิบถ้วยชาแล้วจิบและพูด:“เธอพูดเก่งจัง รอให้เรื่องนี้จบลง สถานะของตระกูลหงที่อยู่ในเขตที่สี่และหลันเต่า จะไม่เหมือนเดิมอีก ถึงเวลานั้น……”

ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็มีคนบุกเข้ามา“เจ้าบ้าน ไม่ดีแล้ว!”

เสียงของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว ทำให้หงฟ่านที่กำลังจินตนาการถึงอนาคตที่ดีก็หมดอารมณ์ทันที และเขาก็ตะโกนด่าทันที:“แกตะโกนบ้าอะไรอยู่?อะไรไม่ดีแล้ว ฉันยังดีๆอยู่!”

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เป็นคนของเรา……”ชายคนนั้นได้ยินคำด่าของหงฟ่าน ตกใจจนรีบคุกเข่ากับพื้น พูดด้วยความตื่นตระหนก“คนของเราตายหมดแล้ว ตายไปเยอะมาก ตายไปหลายร้อยคน ไม่รู้ใครเป็นคนลงมือ……”

เมื่อหงฟ่านได้ยินจึงตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น“แกพูดบ้าอะไรอยู่?”

“พวกเจ้าเข้ามาหน่อย จับตัวชายคนนี้ไปตัดลิ้นซะ มันชอบพูดจาเพ้อเจ้อ!”

ไม่ต้องพูดถึงเขตที่สี่ แม้แต่อยู่ในหลันเต่า ก็ไม่มีใครสามารถกำจัดคนของตระกูลหงมากมายขนาดนี้โดยไร้ร่องรอย

ดังนั้นหงฟ่านจึงคิดว่าชายคนนี้กำลังพูดส่งเดช

ขณะนี้ เต้าจ่างเดินเข้ามาและพูดเบาๆ:“เขาอาจจะพูดเรื่องจริงก็ได้”

เมื่อเห็นเต้าจ่าง หงฟ่านรีบยิ้มทันทีแล้วโค้งคำนับ“ท่านประธาน ท่านมาที่นี่ทำไม?”

เต้าจ่างตอบด้วยน้ำเสียงเบาๆ:“รีบไปตรวจดู ฉันติดต่อคนของฉันหกคนนั้นไม่ได้”

“อะไรนะ?”

เมื่อหงฟ่านได้ยิน เขาก็ตกใจและตระหนักได้ในทันที ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก

แต่เขาโทรศัพท์หาแต่ละทีมย่อยก็ไม่มีใครรับสาย

“เป็นไปได้ยังไง?”หงฟ่านถือโทรศัพท์อย่างตกตะลึง

สีหน้าของเต้าจ่างเคร่งขรึม“ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง”

หงฟ่านมองเต้าจ่างด้วยความประหลาดใจ“ไป๋ยี่เฟยเป็นคนทำใช่ไหม?”

“เป็นไปได้สูงมาก”เต้าจ่างพยักหน้า

หงฟ่านไม่อยากจะเชื่อ“แต่เขาเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือระดับที่สามเท่านั้น แต่ลูกชายสองคนของฉันเป็นยอดฝีมือระดับสอง ลูกชายของฉันแข็งแกร่งกว่าเขาตั้งเยอะ ยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่ในหลันเต่าเพียงคนเดียว เขามีความสามารถขนาดนี้เลยเหรอ?”

เมื่อเต้าจ่างได้ยินก็หัวเราะอย่างเย็นชาและมองหงฟ่านด้วยความไม่พอใจ:“ฉันเคยพูดกับคุณแล้ว อย่าประมาท ถ้าเขาถูกจับได้อย่างง่ายดาย ก็คงไม่ต้องใช้คุณ?”

หงฟ่านตกตะลึงไปเลย

ขนาดเต้าจ่างยังกำจัดเขาไม่ได้ งั้นตัวเองคงจะ……

ในที่สุดหงฟ่านก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้และรู้สึกหวาดกลัว“ถ้าอย่างนั้น……ตอนนี้พวกเราควรทำยังไง?”

เต้าจ่างครุ่นคิดชั่วครู่แล้วพูด:“จุดประสงค์ของเขาคือต้องการแก้แค้นให้ตระกูลลู่ เขาต้องมาหาคุณแน่นอน ตอนนี้คุณรีบโทรเรียกทุกคนกลับมา พวกเราวางกับดักล่อเขา”

หงฟ่านพยักหน้าทันที จากนั้นหยิบโทรศัพท์ติดต่อคนที่ยังอยู่ข้างนอก

หลังจากที่เขาโทรศัพท์ไปหลายหมายเลข แต่ไม่มีใครรับสายเลย

หงฟ่านโกรธขึ้นมาทันที “แม่งเอ๊ยเมื่อกี้ยังรับสายอยู่ ทำไมตอนนี้ไม่รับสายแล้ว?หูหนวกหรือไง?”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ เต้าจ่างก็ขมวดคิ้วทันที เขาเดาว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

ในขณะนี้ หงจุนจับท้องของตัวเองและเดินเข้ามาด้วยความยากลำบาก สีหน้าของเขาแย่มากๆและพูด:“ไม่ต้องโทรแล้ว ไม่มีใครรับสายอยู่แล้ว”

เมื่อเห็นหงจุนเดินเข้ามา ทุกคนตกตะลึง

หงฟ่านเห็นลักษณะท่าทางของหงจุนที่ผิดแปลกไป รีบเดินขึ้นมาทันที“แกเป็นอะไรหรือเปล่า?บาดเจ็บใช่ไหม?”

หงจุนอดทนกับความเจ็บปวดในท้องของตัวเอง พูดอย่างลำบาก:“คุณพ่อ คราวนี้พวกเราล่วงเกินผิดใจกับคนที่พวกเราไม่ควรไปยุ่งด้วย”

“อะไรนะ?”หงฟ่านยังรู้สึกสับสนอยู่

หงจุนขมิบปาก ลังเลอยู่ชั่วครู่ เขายังไม่กล้าบอกหงฟ่านว่าหงฉีถูกไป๋ยี่เฟยฆ่าตายแล้ว แต่พูดอย่างเคร่งขรึม:“คุณพ่อ รีบรวบรวมคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดมาที่นี่ ไม่งั้นคงไม่รอดแน่ๆ”

“คนที่เหลืออยู่ น่าจะมีหนึ่งร้อยห้าสิบคน”

หงฟ่านมองเต้าจ่างด้วยความงุนงง

สายตาของเต้าจ่างปรากฏร่องรอยของความรังเกียจ“ยังไม่รีบไปอีก!”

หงฟ่านตกใจมาก รีบเตะชายคนนั้นที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นทันที ตะโกนเสียงดัง:“ได้ยินหรือยัง?รีบไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ ยังไม่รีบไปอีก!”

ชายคนนั้นก็ตกใจมากๆ ล้มลุกคลุกคลานแล้ววิ่งออกไป

สักพัก ตระกูลหงก็เกิดความวุ่นวาย

ในเวลานี้ ไม่มีใครสังเกตเห็นมือของเต้าจ่างกำลังซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของตัวเองแล้วนับนิ้วอยู่ ดูเหมือนกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง

ผ่านไปสักพัก ดวงตาของเต้าจ่างส่อแววประกาย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

เต้าจ่างหันหน้ามองไปที่หงฟ่าน หงฟ่านรู้สึกตะขิดตะขวงใจและไม่ได้สนใจเต้าจ่างมากนัก ในขณะนี้เต้าจ่างใช้ประโยชน์จากความโกลาหลของตระกูลหง เขาค่อยๆถอนตัวออกจากคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลหง

ทุกคนไม่ได้สังเกต นอกจากคนๆหนึ่ง

คนคนนี้คือผู้หญิงที่นวดไหล่ให้หงฟ่าน

เมื่อผู้หญิงคนนี้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก็อาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่สนใจเธอ เธอรีบวิ่งหนีออกไป

หลังจากจัดระเบียบ คนที่ยังเหลืออยู่ก็ล้อมคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลหงไว้ เพื่อปกป้องคฤหาสน์อันใหญ่โต

พวกเขายังได้หยิบปืนออกมาหลายสิบกระบอก ที่ตระกูลหงซ่อนเอาไว้อย่างลับๆ เมื่อมีปืนอยู่ในมือ หงฟ่านก็สงบลงและรู้สึกอุ่นใจ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น จากนั้นเขาก็พูดกับหงจุน:“ด้วยจำนวนคนของเราในตอนนี้ ถ้าเขากล้ามาละก็ รับรองโดนยิงเป็นพรุน”

หงจุนเห็นแล้วก็รู้สึกโล่งใจทันที

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset