หงจุนมองไปที่ลู่เชี่ยนแล้วเขาก็เงียบและมันเป็นการยอมรับโดยปริยาย
จากนั้นพวกเขาไปคลังเก็บสมบัติของตระกูลหงพร้อมกับหงจุน
หลังจากเดินถึงคลังเก็บสมบัติ หงจุนเดินไปที่กล่องไม้ขนาดใหญ่อันหนึ่ง จากนั้นใช้แรงย้ายกล่องไม้ออกไป
ข้างใต้กล่องไม้มีไม้กระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
หงจุนขยับกระดานไม้ออก เผยให้เห็นบันไดหินที่อยู่ด้านใน
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นห้องใต้ดิน และมันก็เป็นห้องลับที่อยู่ใต้ดิน
ไป๋ยี่เฟยและพรรคพวกเข้ายึดบ้านใหญ่ตระกูลหงไว้ พวกเขาเคยค้นหาคลังเก็บสมบัติ แต่ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจะมีห้องหลับใต้ดิน
หงจุนเดินนำทางอยู่ด้านหน้าสุด ไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆก็เดินตามเขาเข้าไป
หลิวเสี่ยวอิงจับชายเสื้อและเดินตามหลังไป๋ยี่เฟย ถึงแม้ไม่ได้จูงมือเขา แต่ได้จับชายเสื้อของเขา หลิวเสี่ยวอิงก็รู้สึกดีใจมากๆแล้ว
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจ เขาเช็ดเลือดกำเดาที่ไหลออกมา เพื่อบรรเทาบรรยากาศที่ตึงเครียดและอึดอัด เขาได้เริ่มถามหลิวเสี่ยวอิงว่า:“ทำไมคุณต้องตามฉันมาด้วย?”
หลิวเสี่ยวอิงไม่ได้ตอบคำถามนี้โดยทันที แต่เธอกลับเงียบไปสักพัก ไป๋ยี่เฟยนึกว่าเธอไม่อยากตอบ
ในขณะนี้ จู่ๆหลิวเสี่ยวอิงก็พูดด้วยรอยยิ้ม:“ตอนมีชีวิตพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน งั้นพวกเราก็ตายไปด้วยกัน อย่างน้อยฉันก็ได้ตายไปพร้อมกับคุณ”
“บางทีชาติหน้า พวกเราอาจจะได้อยู่ด้วยกันก็ได้”
หลิวเสี่ยวอิงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แต่ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยิน เพราะเขาสามารถเข้าใจความโศกเศร้าที่อยู่ในใจของหลิวเสี่ยวอิง
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจและมองไปยังทางเดินที่มืดมิด เขาเอื้อมมือไปยังด้านหลังและจับมือของหลิวเสี่ยวอิงไว้
หลิวเสี่ยวอิงอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มแห่งความสุข
หลังจากนั้น ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าหลิวเสี่ยวอิงจับมือของตัวเองไว้อย่างแน่น
และหงจุนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็จับมือของลู่เชี่ยนไว้เหมือนกัน
ลู่เชี่ยนเดินอยู่ข้างๆเขาและถามด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า:“คุณเกลียดฉันไหม?”
“คุณรักฉันไหม?”หงจุนถาม
ลู่เชี่ยนอึ้งไปชั่วครู่
หงจุนถามอีกครั้ง:“พวกเรายังมีอนาคตด้วยกันไหม?”
ลู่เชี่ยนก้มหัวและเงียบ
หงจุนฝืนยิ้มและพูด:“ทุกอย่างมันไม่มีความหมายแล้ว”
ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือความเกลียดชัง ถ้าพวกเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จะถามไปทำไม มันไม่มีความหมายเลย
ไป๋ยี่เฟยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“คนบางคน ถึงแม้จะห่วงใยซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้วไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เพราะโชคชะตากลั่นแกล้งและไม่มีทางเลือก”
ในทางเดินที่มืดมิดและเงียบสงัด ถึงแม้พวกเขาจะห่างกันหลายเมตร แต่ก็ได้ยินเสียงที่พวกเขาพูดคุย
หงจุนอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไม่ใช่โชคชะตากลั่นแกล้ง แต่เป็นเพราะคนต่างหาก”
ไป๋ยี่เฟยพูดโต้กลับทันที“เรื่องที่เกิดขึ้น สวรรค์ได้กำหนดไว้แล้ว”
ทั้งสองคนโต้เถียงกัน ทำให้บรรยากาศไม่ได้อึดอัดเหมือนเมื่อสักครู่ ตอนนี้บรรยากาศด้านในค่อยๆสบาย
หลิวเสี่ยวอิงกับลู่เชี่ยนรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายบรรยากาศแบบนี้
หลังจากเดินได้สักพัก ทางเดินก็ค่อยๆกว้างขึ้น ด้านหน้าของพวกเขาปรากฏห้องใต้ดินที่มีความกว้างหนึ่งร้อยตารางเมตร ด้านมุมของห้องใต้ดินมีระเบิดแสวงเครื่องที่กะพริบแสงสีแดงวางอยู่
มันคือระเบิดแสวงเครื่อง
หลังจากหงจุนยืนนิ่งก็พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า:“ปุ่มสีแดง”
ไป๋ยี่เฟยเห็นด้านบนของสวิตช์มีปุ่มอยู่หลายอัน แต่เขาไม่ได้รีบเดินไปปิดสวิตช์จุดชนวน แต่หันหลังกลับไปพูดกับหลิวเสี่ยวอิงว่า:“ฉันรบกวนคุณช่วยไปบอกเสว่เอ๋อหน่อย บอกเธอว่า……ชาตินี้ที่ฉันได้เป็นสามีของเธอ มันคุ้มค่ามากๆสำหรับฉัน”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง……ช่วยฉันดูแลเธอด้วย”
หลิวเสี่ยวอิงส่ายหัว แล้วยื่นยาแก้พิษให้เขา“ฉันขอร้อง อย่าทำแบบนี้ได้ไหม ตอนนี้คุณกลืนยาแก้พิษเข้าไปก็ยังทันอยู่”
เธอหวังว่าไป๋ยี่เฟยจะยอมเปลี่ยนความคิด ดังนั้นเธอจึงพูดให้เขากลืนยาแก้พิษ
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้เปลี่ยนความคิด เขาส่ายหัวและปฏิเสธ จากนั้นมองไปที่หงจุนและพูด:“เอาเลย”
หงจุนยืนอยู่ที่นั่นและไม่ขยับตัวสักนิด เขาไม่ได้ไปปิดสวิตช์จุดชนวนระเบิด และไม่ยอมให้ไป๋ยี่เฟยไปปิดด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยพูดจบ หงจุนหันมามองหน้าเขา
หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกงุนงง
เอาเลย แปลว่าอะไร?
ลู่เชี่ยนก็งงเหมือนกัน
มันหมายความว่าอะไร?
พวกเขาจะทำอะไร?ไหนบอกว่ามาเพื่อปิดสวิตช์จุดชนวนระเบิดไง?
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า:“การแก้แค้นต้องลงมือด้วยตัวเองถึงจะสะใจ ดังนั้น ตอนที่คุณพูดว่าให้พวกเราสองคนมาปิดสวิตช์จุดชนวนระเบิด ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าคุณต้องการแก้แค้นด้วยมือตัวเอง ใช่ไหม?”
หงจุนยิ้มอย่างเย็นชา“ไป๋ยี่เฟย ฉันพูดตามตรงเลย ถึงตอนนี้คุณรู้ว่าตัวเองกำลังจะตายแต่คุณก็ยังสงบอยู่ ฉันนับถือคุณมากๆ”
“ถ้าฉันชนะ หลังจากกินยาแก้พิษ ฉันจะปิดสวิตช์จุดชนวนระเบิดเอง ฉันให้สัญญาว่าจะไม่ฆ่าลู่เชี่ยน”ไป๋ยี่เฟยมองหงจุนและพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
หงจุนพยักหน้าและพูด:“ถ้าฉันเป็นฝ่ายชนะ ฉันก็จะปิดสวิตช์จุดชนวนเหมือนกัน และผู้หญิงคนนี้ ฉันให้สัญญาว่าจะไม่ฆ่าเธอ”
ในที่สุด หลิวเสี่ยวอิงกับลู่เชี่ยนก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขากำลังพูด
ในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนต่างก็มองผู้หญิงที่ตัวเองเป็นห่วง
ลู่เชี่ยนมองหงจุนด้วยความกังวลและพูดว่า:“ระวังตัวด้วย”
หงจุนไม่สนใจและพูด:“เขาต้องการที่จะจบชีวิตตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นฉันเป็นถึงยอดฝีมือระดับที่สอง เขาเป็นแค่ยอดฝีมือระดับที่สามขั้นสูง เขาสู้ฉันไม่ได้อยู่แล้ว”
“อีกอย่างคือเขาถูกวางยาพิษด้วย”
ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลย การฆ่าไป๋ยี่เฟย มันเป็นจุดจบที่โชคชะตาได้ลิขิตไว้แล้ว
หลิวเสี่ยวอิงกังวลจนหายใจติดขัด รีบจับแขนของไป๋ยี่เฟยและถาม:“ยังมีวิธีอื่นอีกไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว ขณะที่เขากำลังจะพูด มุมปากของเขาก็มีเลือดไหลออกมา
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับไป๋ยี่เฟย หลิวเสี่ยวอิงทนไม่ไหวและร้องไห้ออกมา“มันต้องมีวิธีอื่นๆสิ มันต้องมีหนทางสิ……”
ไป๋ยี่เฟยทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า
หลิวเสี่ยวอิงร้องไห้ ผ่านไปชั่วครู่เธอก็ถามไป๋ยี่เฟย:“คุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวอีกครั้ง
หลิวเสี่ยวอิงร้องไห้หนักขึ้น
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยมองหลิวเสี่ยวอิงอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาหงจุน
หลิวเสี่ยวอิงเบิกตากว้างและอุทาน
เมื่อหงจุนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาของเขาก็โหดเหี้ยมขึ้นมา เขาเดินขึ้นไปข้างหน้าแล้วต่อยออกไปหนึ่งหมัด
ไป๋ยี่เฟยยังไม่ทันโดนตัวหงจุน ก็โดนหมัดของหงจุนต่อยที่หน้าอกของเขา จากนั้นเขากระเด็นออกไปเลย
เห็นได้ชัดเจน พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
หงจุนหัวเราะอย่างเย็นชา เขาไม่ให้โอกาสไป๋ยี่เฟยได้ตอบโต้กลับแน่นอน เขารีบพุ่งไปหาไป๋ยี่เฟย ยกเท้าและกระทืบลงไปทันที
พละกำลังของหงจุนมากกว่าไป๋ยี่เฟย หมัดที่ต่อยใส่ไป๋ยี่เฟยเมื่อสักครู่ก็ทำให้เขาอาเจียนเลือดออกมาคำใหญ่
ยังดีที่เป็นไป๋ยี่เฟย เพราะร่างกายของเขาแข็งแรงมากพอที่จะทนต่อการโจมตีแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นโดนหมัดเมื่อสักครู่ คงจะตายอย่างแน่นอน
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นหงจุนพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เขารู้ว่าตัวเองรับหมัดนี้ไม่ไหวแน่นอน ดังนั้นเขาจึงยกข้อศอกพยุงตัวเองขึ้นมา จากนั้นกลิ้งไปกลับพื้น กลิ้งไปข้างหน้า และหลบการโจมตีครั้งนี้ไปได้
“ตูม!”
หงจุนกระทืบเท้าโจมตี ทำให้พื้นยุบลงไปเลย
แต่ในเวลาเดียวกัน จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็กลิ้งกลับมา จากนั้นใช้สองมือและสองเท้าจับล็อกตัวหงจุนไว้ กอดเขาไว้แล้วกระแทกไปยังด้านหลัง ทำให้หงจุนกระแทกกับพื้น
หงจุนตกใจเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
จนถึงตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยยังคงมีความรวดเร็วและทักษะที่ดี ทำให้เขาประหลาดใจมากๆ
แต่ถึงเขาจะประหลาดใจยังไง เขาก็ยังเป็นยอดฝีมือที่สูงกว่าไป๋ยี่เฟยถึงสองขั้น ซึ่งเขาสามารถรับมือได้อยู่แล้ว
ดังนั้น ในขณะที่เขากำลังจะกระแทกกับพื้น หงจุนก็ใช้เท้ากระแทกไป๋ยี่เฟย ในขณะเดียวกันก็ใช้ข้อศอกกระแทกไป๋ยี่เฟยด้วย
“เอื้อก!”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกร่างกายหมดแรง โดนกระแทกจนปลิวออกไป ในขณะเดียวกันยาพิษที่อยู่ในร่างกายก็กำเริบ ทำให้เขาอาเจียนเลือดคำใหญ่ออกมาอีกครั้ง
“เอื้อก!”